ลำนำบุปผาพิษ

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17.37 น.

  30 ตอน
  0 วิจารณ์
  23.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2562 14.04 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) บทที่ 19-20

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 19 คำพูดของบุตรสาวน่าเชื่อถือน้อยกว่าคำพูดคนนอกหรือ?

ทั้งชีวิตนี้จะแต่งภรรยาเพียงคนเดียว นั้นเป็นเพียงถ้อยคำหวานซึ้งที่ที่พลั้งปากพูดออกมาด้วยความคึกคะนองในวัยหนุ่มหลังจากร่วมอภิรมย์กันอย่างเร่าร้อนเท่านั้น ชนชั้นสูงในอาณาจักรเฟยซิงมีใครบ้างที่ไม่มีอนุภรรยาเป็นโขยง?

ต่อให้เป็นชาวบ้านธรรมดาแต่หากมีฐานะสักหน่อยก็สามารถแต่งภรรยาเอกได้หนึ่งคนและอนุภรรยาอีกหนึ่งคน!แล้วเขาที่เป็นถึงแม่ทัพใหญ่ผู้น่าเกรงขามล่ะ?

กู้เซี่ยเทียนจึงไม่เคยรู้สึกว่าการที่ตนมีอนุภรรยาหลายคนจะผิดตรงไหน!

แต่ในวันนี้กลับถูกบุตรสาวถามซึ่งๆ หน้า ทำให้ใบหน้าของเขาแทบจะข่มอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่ กล่าวออกมาอย่างเย็นชา

“เด็กอย่างเจ้าจะไปรู้อะไร! เรื่องของผู้ใหญ่มีที่ให้เจ้าสอดปากพูดได้หรือ...”

กู้ซีจิ่วไม่ได้กล่าวอะไรต่อ เพียงยิ้มมุมปากเล็กน้อย เธอไม่อยากจะเปลืองน้ำลายกับผู้ชายเหลือเดนคนนี้อีกต่อไปแล้ว

รอยยิ้มนี้ของนางทำให้เพลิงโทสะในใจของกู้เซี่ยเทียนโหมกระหน่ำยิ่งขึ้น เขาโกรธจนหน้าเปลี่ยนสี

“ซีจิ่ว หลายปีมานี้พ่อละเลยเจ้าเกินไปจริงๆ ต่อไปจะไม่เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว แต่ก่อนอื่น เจ้าต้องตอบคำถามของพ่อข้อหนึ่งด้วยความสัตย์จริง มีผู้พบเห็นว่ามีชายแปลกหน้าเข้านอกออกในเรือนของเจ้าอยู่บ่อยๆ และยังเห็นอีกว่าเมื่อคืนเจ้าลักลอบออกไปข้างนอก เจ้าได้กระทำเรื่องเสื่อมเสียลงไปแล้วใช่หรือไม่?” เมื่อกล่าวถึงประโยคสุดท้าย น้ำเสียงก็เย็นชากว่าเดิม

เมื่อเขาถามประโยคนี้ขึ้นมา ฝูงชนที่อยู่ภายในเรือนก็พากันคึกคักขึ้นมาทันที ในที่สุดก็ถามเข้าประเด็นสักที!

สายตาของคนทั้งหมดล้วนจับจ้องไปยังกู้ซีจิ่ว คล้ายอยากเห็นว่านางจะตอบว่าอย่างไร...

กู้ซีจิ่วใช้มือจัดผมหน้าม้าตรงหน้าผากของเธอให้เข้าทรง แล้วกะพริบตาเล็กน้อย “ท่านแม่ทัพกู้ คำถามนี้ไร้คุณธรรมยิ่งนัก! แค่มีคนพูดท่านก็เชื่อเลยหรือ? เช่นนั้นหากข้าบอกว่าเคยมีชายแปลกหน้าเข้านอกออกในเรือนของแม่รองอยู่เสมอเช่นกัน! ท่านแม่ทัพก็จะรู้สึกว่าถูกสวมเขาเลยใช่ไหม?”

ประโยคนี้ของนางถามได้หลักแหลมนัก

“หึ...” มีคนหัวเราะขึ้นมา

กู้เซี่ยเทียนหันไปมองด้วยความเดือดดาล แต่กลับพบว่าผู้ที่หัวเราะออกมาคือองค์ชายแปดหรงเช่อที่มาร่วมชมเรื่องครึกครื้นด้วย

หรงเช่อปีนี้อายุสิบแปดแล้ว รูปลักษณ์งดงามมาตั้งแต่กำเนิด เป็นชายหนุ่มหล่อเหลาขี้เล่น ยามที่เขาหัวเราะราวกับมีดอกท้อผลิบานอยู่ในดวงตาคู่นั้น เขาโบกพัดจีบในมือไปมาเบาๆ ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ดูสูงส่งผ่าเผยยิ่งนัก

กล่าวได้ว่าลูกหลานราชวงศ์หรงล้วนสืบทอดกรรมพันธุ์ความหน้าตาดีมาทั้งสิ้น ทั้งเขาและองค์ชายสิบสองหรงเหยียนที่ยืนอยู่ตรงนั้น ผู้หนึ่งสง่างามเรียบง่ายดุจลำไผ่ อีกผู้หนึ่งมีชีวิตชีวาดั่งสายลม มองแล้วเจริญหูเจริญตายิ่งนัก

พระมารดาขององค์ชายหรงเช่อคือกุ้ยเฟย[1] อีกทั้งพลังวิญญาณของเขาก็ยอดเยี่ยม เขาได้รับความรักใคร่เอ็นดูจากพระบิดาเป็นอย่างมาก จึงได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็นลั่วอ๋อง

สีหน้าของกู้เซี่ยเทียนเต็มไปด้วยความอึดอัด เขาย่อมไม่กล้าติเตียนองค์ชายผู้นี้ ทำได้แค่เพียงย้ายสายตากลับมามองกู้ซีจิ่วอีกครั้ง

“ไร้สาระ! เจ้านี่เอาแต่พูดจาซี้ซั้วจริงๆ นังเด็กอกตัญญู!”

สีหน้าของกู้ซีจิ่วเย็นชา “ท่านแม่ทัพกู้ สิ่งที่ข้าพูดกลับเป็นแค่คำพูดซี้ซั้วไร้สาระ ท่านไม่เชื่อถือเลยแม้แต่น้อย แต่พอคนอื่นพูดจาซี้ซั้วใส่ร้ายข้าผู้เป็นบุตรสาว เหตุใดท่านจึงเชื่อเล่า? คำพูดของข้าน่าเชื่อถือน้อยกว่าคำพูดของคนนอกหรือ?”

“นี่...” กู้เซี่ยเทียนถูกตอกกลับจนหน้าหงายได้แต่อ้ำๆ อึ้งๆ

วันนี้เจ้ากรมกรมวังรวมถึงองค์ชายอีกสองพระองค์รวมพลกันบุกมาเล่นงานจวนแม่ทัพ กล่าวว่ามีผู้พบเห็นชายแปลกหน้าเข้านอกออกในเรือนของกู้ซีจิ่วอยู่เป็นประจำ ทำให้จวนแม่ทัพต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง ทั้งยังนำตัวพยานอีกสองคนมาด้วย

เรื่องเช่นนี้ย่อมนำมาล้อเล่นไม่ได้ เพราะเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของจวนแม่ทัพ และเกี่ยวข้องกับเกียรติยศของราชวงศ์อีกด้วย เพราะอย่างไรเสียบุตรสาวไม่เอาไหนของเขาก็ยังคงเป็นคู่หมั้นขององค์ชายสิบสองหรงเหยียน ดังนั้นเขาจึงนำผู้คนบุกมาด้วยความเดือดดาล...

เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าบุตรสาวที่ไม่หือไม่อือได้แต่พยักหน้ารับคำลูกเดียวมาตลอด จะเปลี่ยนเป็นคนเฉียบแหลมได้ถึงเพียงนี้ เมื่อถูกนางท้วงถาม สายตาของเขาก็เหลือบมองเจ้ากรมกรมวังผู้นั้นอย่างอดไม่ได้

-------------------------------------------------------------------------------------



บทที่ 20 ยามนี้จะมาเสแสร้งเป็นคนดีเพื่ออะไร?!

กรมวังรับผิดชอบจัดการเรื่องราวต่างๆ ของราชวงศ์ เจ้ากรมกรมวังผู้นี้มีหน้าตาเคร่งขรึมจริงจัง สีหน้าเขาคร่ำเคร่ง สายตาคมกริบดุจใบมีดจับจ้องไปยังกู้ซีจิ่ว

“คุณหนูกู้ เมื่อคืนนี้มีคนมาร้องเรียนกับข้า กล่าวว่ามักมีบุรุษแปลกหน้ามาค้างคืนในเรือนของท่าน และยังมีคนพบเห็นอีกว่าเมื่อวานยามหัวค่ำท่านลักลอบออกจากจวน เพื่อไปพบบุรุษผู้นั้นสองต่อสอง และไม่กลับมาทั้งคืน...”

กู้ซีจิ่วยิ้มออกมาอีกครา “ใต้เท้ากล่าวเช่นนี้ก็ไม่ถูก ไม่แน่ว่าคนที่มาร้องเรียนอาจเป็นผู้ที่ริษยาซีจิ่วที่มีชาติตระกูลดี หรือไม่ก็ริษยาจวนแม่ทัพ ดังนั้นจึงใส่ร้ายป้ายสีซีจิ่ว แค่คำพูดไม่เพียงพอจะใช้เป็นหลักฐานได้ อีกอย่าง เรือนเล็กๆ ของซีจิ่วตั้งอยู่ในส่วนลึกของจวนแม่ทัพ เช่นนั้นแล้วผู้ที่ไปร้องเรียนยังจะเป็นคนนอกไปได้อีกหรือ? ต่อให้มีชายแปลกหน้าแอบเข้ามาในจวนแม่ทัพโดยพลการจริง แล้วทราบได้อย่างไรว่าเขามาค้างแรมในเรือนของซีจิ่ว? ไม่แน่อาจจะเป็นเรือนของผู้อื่นก็ได้...”

เมื่อกล่าวประโยคนี้ออกมาสีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป แม้แต่องค์ชายหรงเหยียนก็ยังตกตะลึง มีเพียงองค์ชายแปดหรงเช่อเท่านั้นที่มีความหรรษาวาบผ่านในดวงตาดอกท้อคู่นั้น เขายิ้มจนตาหยีแล้วเอ่ยออกมา

“คำพูดของคุณหนูกู้มีเหตุผล ใต้เท้าฮู่ ท่านคิดว่าอย่างไร?”

เจ้ากรมกรมวังกล่าวตอบ “ผู้ที่มาแจ้งเรื่องเป็นคนในจวนแม่ทัพจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วขึ้น “นี่นับว่าแปลกยิ่ง ในเมื่อเป็นคนในจวนแม่ทัพพบเห็น เหตุใดจึงไม่รายงานต่อท่านแม่ทัพหรือฮูหยินล่ะ แต่กลับไปแจ้งเรื่องกับกรมวังโดยตรง”

ใต้เท้าฮู่ร้องเหอะออกมาคราหนึ่ง “เรื่องนี้พัวพันไปถึงภาพลักษณ์ของราชวงศ์ คนผู้นั้นจึงกลัวท่านแม่ทัพและฮูหยินจะปกปิดเรื่องนี้ไว้เพื่อรักษาชื่อเสียงของวงศ์ตระกูล”

กู้ซีจิ่วพยักหน้าเล็กน้อย “อืม คำพูดนี้ฟังดูแล้วก็มีเหตุผลอยู่บ้าง แต่ก็เป็นไปได้ว่ามีคนจงใจจะทำให้จวนแม่ทัพของข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง อาจใส่ร้ายด้วยความเคียดแค้นชิงชัง อย่างไรเสียก็เป็นแค่คำพูดลอยๆ...”

หรงเช่อโบกพัดในมือพลางยิ้มออกมา “ข้ารู้สึกว่าที่คุณหนูกู้กล่าวนับว่ามีเหตุผล มีแค่พยานบุคคลไม่น่าเชื่อถือพอ”

องค์ชายหรงเหยียนที่อยู่ด้านข้างหันไปมองเขาอย่างอดไม่ได้ องค์ชายหรงเช่อจึงใช้พัดจีบตบไหล่เขาเบาๆ “น้องสิบสอง เรื่องนี้แท้จริงแล้วมีประเด็นน่าสงสัยอยู่มากจริงๆ เจ้าคงไม่ได้คาดหวังให้คู่หมั้นของเจ้ากระทำเรื่องผิดหลักคุณธรรมสตรีลงไปจริงๆ ใช่หรือไม่?”

องค์ชายหรงเหยียนฝืนยิ้มออกมา “จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ข้าย่อมปรารถนา...ปรารถนาให้ซีจิ่วเป็นผู้บริสุทธิ์”

กู้ซีเหลือบมองหรงเยียนแวบหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเป็นแผนร้ายที่เขาคิดขึ้นมาเพื่อจะถอนหมั้น! ยามนี้จะมาเสแสร้งเป็นคนดีเพื่ออะไร?!

ไอ้คนสารเลวหน้าเนื้อใจเสือผู้นี้ใช้จดหมายลับหลอกให้นางออกจากจวน แล้วเช้าวันนี้ก็จงใจมาที่จวนแม่ทัพเพื่อตรวจสอบเรือนเล็กของนาง คงนึกว่านางตายอยู่ในคฤหาสน์ของเล่อฮวาโหวแล้วสินะ เมื่อไม่มีคนอยู่ในเรือน ภายหลังคนของเขาจะสืบค้นเจอหลักฐานอะไรสักอย่าง ว่ากู้ซีจิ่วคบหากับคนนอกแล้วถูกคนรักสังหาร เท่านี้ก็สามารถสาดโคลนใส่นางได้อย่างราบรื่นแล้ว ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วก็จะไม่มีใครสืบสาวหาสาเหตุการตายของกู้ซีจิ่วอีก กู้ซีจิ่วจะตายไปเปล่าๆ โดยไม่ได้รับความยุติธรรม!

แต่ก็ยังโชคดี โชคดีที่ตัวเธอ ‘นักฆ่ากู้ซีจิ่ว’ มารับช่วงใช้ร่างนี้ต่อ เธอจะทวงคืนความยุติธรรมให้เจ้าของร่างเดิมเอง! ทุกๆ คนที่ติดค้างเจ้าของร่างเดิมอยู่ต้องชดใช้คืนเป็นร้อยเท่า!

เธอมองไปที่ใต้เท้าฮู่อีกครั้ง “ใต้เท้ายังมีหลักฐานอื่นอีกหรือไม่?”

ใต้เท้าฮู่กล่าวอย่างเย็นชา “ตามกฎหมายของอาณาจักรเฟยซิงแล้ว เมื่อมีพยาน ข้าก็สามารถตรวจค้นที่พักของผู้ต้องสงสัยได้”

“ก็คือใต้เท้าต้องการตรวจค้นเรือนของซีจิ่ว?”

“ใช่แล้ว! คุณหนูกู้ โปรดอนุญาตให้ข้าตรวจค้นสักหน่อยเพื่อพิสูจน์ว่าท่านเป็นผู้บริสุทธิ์จริงหรือไม่”

กู้ซีจิ่วถอนหายใจออกมาเบาๆ “เห็นทีว่าคงต้องเป็นเช่นนั้น แต่ซีจิ่วเองก็มีข้อเรียกร้องอยู่ประการหนึ่ง”

“เชิญกล่าวมา!”

-------------------------------------------------------------------------------------

[1] กุ้ยเฟย คือตำแหน่งสนมของฮ่องเต้ ลำดับศักดิ์สูงสุดในพระสนมชั้นเฟย เป็นรองเพียงฮองเฮาเท่านั้น

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา