ทวงรักนางซิน

-

เขียนโดย Phaky

วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 เวลา 15.02 น.

  47 ตอน
  1 วิจารณ์
  30.71K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 11.27 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) คนคุ้นเคย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

สวัสดี ผม...คุณาธิป หล่อร้าย (อดีต) เพื่อนรักไอ้ธัญญ์ครับ

เม้าท์ๆ : เห็นหุ่นคุณธิปแล้ว ไม่แปลกใจเลยเนอะ ว่าทำไมยายเวนิสไฝ้เฝ

.................................................................................

‘ลืมไปเลยว่าเคยกว้าง’

แกรนด์บอลรูม ห้องจัดเลี้ยงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด สามารถจุคนได้เฉียดแปดร้อยชีวิตของนาราแกรนด์โฮเทล ดูแคบไปถนัดตาเมื่อมีสื่อจากสำนักข่าวทั่วไทยมารวมตัวกันในงานแถลงข่าวจัดงานประกวดมิสยูนิเวิร์สที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ในฐานะสปอนเซอร์รายใหญ่ ธรธัญญ์จึงมีพาวเวอร์มากพอจะดึงงานมาจัดที่นาราแกรนด์โฮเทล แทนที่เดิมที่กรุงเทพฯ เพื่อโปรโมตโรงแรมไปในตัว

“พิมพ์ เช็คของว่างบนโต๊ะแถลงข่าวด้วยว่าครบไหม รายการอยู่ในชาร์ตบนโต๊ะ”

นอกจากคนเยอะจนเดินเหินไม่ค่อยสะดวก แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปที่บรรดานักข่าวรัวเก็บภาพบรรยากาศในงานก็พาให้ทำงานยาก ก่อนถึงเวลาที่งานจะเริ่มจึงเป็นเวลาที่เหล่าพนักงานที่ถูกแบ่งไว้แต่ละฝ่ายกำลังวิ่งวุ่นตระเตรียมจนเหงื่อตก โดยเฉพาะพลธวัชผู้จัดการฝ่ายที่มาแสตนด์บายหน้างานตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเช็คความเรียบร้อยทุกจุดด้วยตัวเอง ชายหนุ่มเรียกเทพิมพ์ที่กำลังประคองถาดน้ำแร่ยี่ห้อเดียวกับหนึ่งในสปอนเซอร์หลักของงานมาวางสมทบกับของว่างของสปอนเซอร์อื่นๆบนโต๊ะแถลงข่าว ซึ่งมีจำนวนไม่น้อย จึงต้องมีการเช็คลิสต์ให้ครบถ้วน

“ครบแล้วค่ะ พี่พล”

“ดีมาก เหนื่อยไหม ตั้งแต่เข้างานมาพี่เห็นพิมพ์เดินไม่ได้หยุด”

“เหนื่อยไม่กลัว กลัวเดินสะดุดมากกว่าค่ะ แขกมากันเต็มห้องเลย ไหนจะกองทัพนักข่าวอีก พิมพ์ยิ่งโก๊ะๆอยู่”

เทพิมพ์เอามือป้องปาก กระซิบกระซาบให้พอได้ยินกันแค่สองคน พลางกวาดดวงตามองไปรอบๆห้องจัดเลี้ยงที่เดินเหินไม่ง่ายเหมือนงานเลี้ยงอื่นๆ ตรงกลางคือเวทีรูปตัวยูขนาดใหญ่สำหรับนางงามรุ่นพี่ที่จะมาถ่ายทอดประสบการณ์ตามด้วยผู้ประกวดตัวเต็งที่ถูกคัดเลือกให้มาร่วมแถลงข่าว พื้นที่ด้านหน้าเวทีเป็นพื้นที่ของแขกกิตติมศักดิ์ทั้งหลาย ถัดไปถูกจับจองด้วยขาตั้งกล้องถ่ายภาพ กล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหว และนักข่าวอีกหลายสิบชีวิตที่จะมาตามเก็บบรรยากาศไปโปรโมต ซึ่งตรงนี้แหละที่ทำให้รู้สึกว่าทำงานยากเพราะเหล่านักข่าวเดินเข้าเดินออก ไม่อยู่นิ่งกันเลย

“จะกลัวทำไม ฮึ! พิมพ์ของพี่เก่งอยู่แล้ว”

เพราะงานนี้เป็นงานใหญ่ ทุกการบริการที่ดีเยี่ยมคือชื่อเสียงของโรงแรม จึงมีคำสั่งส่งตรงจากเบื้องบนว่าห้ามมีความผิดพลาดใดๆเกิดขึ้น และนั่นก็สร้างความกดดันให้กองทัพพนักงานไม่น้อยเลย เทพิมพ์ก็เช่นกัน เห็นคนเก่งหน้าซีดๆ พลธวัชจึงให้กำลังใจพร้อมมือหนาที่วางบนศีรษะเล็กแล้วจับโยกไปมาให้เทพิมพ์คลายความกังวล

แค่นั้นก็ขัดหูขัดตาเจ้าของโรงแรม ที่ต้องมาร่วมงานในฐานะสปอนเซอร์หลักมากพออยู่แล้ว แต่พอเห็นเทพิมพ์เงยหน้าขึ้นย่นจมูกใส่พลธวัชพร้อมยิ้มหัวเราะกันดูสนิทสนมเกินงาม ไรฟันของธรธัญญ์ก็เหมือนจะพร้อมใจกันบดบี้ จนเกิดเสียงดังกรอดๆในอุ้งปากที่เม้มแน่น ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมยายขี้งอนของเขาต้องทำท่าทางน่ารักแบบนั้นกับผู้ชายคนอื่นด้วย หนำซ้ำยังปล่อยให้มือสกปรกของพลธวัชวางไว้บนศีรษะอีก เทพิมพ์ไม่รู้ไงว่านอกจากแฟน ก็ไม่ควรให้ผู้ชายคนไหนทำแบบนั้นกับตัวเอง

‘ทำไมพิมพ์มาอยู่งานนี้’

ยืนกัดฟันมองดูเจ้านายลูกน้องตรงหน้าเวทีหยอกล้อกันเกินงามอยู่ครู่ใหญ่ ธรธัญญ์จึงนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อเช้าเทพิมพ์บอกเขาว่าทำหน้าที่เป็นพนักงานประจำเครื่องชงกาแฟสดที่หน้างานสัมมนาวิชาการเกษตรที่จัดบริเวณชั้นสองของโรงแรมมิใช่หรือ แล้วทำไมถึงมาโผล่ในงานแถลงข่าว

“ธัญญ์ขา คนนั้นใช่คุณชนินทร์เจ้าของเวทีประกวดไหมคะ เวนิสเห็นเขามองธัญญ์นานแล้ว”

“อืม”

“เราเข้าไปสวัสดีท่านกันนะคะ”

“อืม”

ธรธัญญ์จำต้องเลิกสนใจเทพิมพ์ชั่วคราวแล้วก้าวขาตามแรงดึงของเวนิสาที่ควงแขนพาเดินไปหาคุณชนินทร์ เศรษฐีเครื่องเพชรคนดังที่เป็นเจ้าของเวทีประกวดนางงามในวันนี้ ไม่ปลื้มแสงแฟลชที่สะท้อนเข้าตานี้เท่าไรนัก แต่ด้วยมารยาทสังคมเขาจึงรู้ดีว่ามันเลี่ยงไม่ได้เลยเมื่อเขามีสาวสวยควงแขนมาร่วมงาน ซึ่งเป็นเรื่องที่เขาก็เลี่ยงไม่ได้อีกเช่นกันเพราะเวนิสาแต่งหน้าแต่งตัวมารอพร้อมเสียขนาดนั้น หากจะไม่ให้มาร่วมงานด้วยดูจะใจร้ายเกินไป มันจึงหลีกหนีคำถามผ่านสายตาของแขกที่มาร่วมงานกับบรรดานักข่าวไม่ได้ว่าสตรีสวยบาดตาที่เดินควงคู่มากับเขาคือใคร

“สวัสดีครับคุณธรธัญญ์ งานวันนี้จัดได้สวยมากเลยนะครับ ตัดสินใจไม่ผิดเลยจริงๆที่ผมเลือกที่นี่จัดงานแถลงข่าว เห็นทีงานประกวดปีหน้า ผมคงต้องใส่ชื่อนาราแกรนด์โฮเทลเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก”

ธรธัญญ์ปลดแขนของเวนิสาออกห่างก่อนยกมือขึ้นไหว้ชนินทร์ที่ยืนที่ยิ้มรอท่า สองหนุ่มต่างวัยจับมือจับไม้ประสาคนพึ่งต้องพาอาศัยกันอีกนาน ก่อนเป็นเจ้าพ่อวงการเพชรพลอยที่เอ่ยชมด้วยความพึงพอใจเมื่อเดินดูสถานที่จัดงานรอบๆ ห้องจัดเลี้ยงกว้างขวางกลายเป็นท้องฟ้าขนาดย่อมยามค่ำคืนด้วยฉากสีรัตติกาล สว่างไสวด้วยดวงไฟรูปดาวจำลองเล็กใหญ่นับหมื่นดวงที่ส่องประกายระยิบระยับ และหากมองให้ดี ก็จะเห็นว่าใต้ดวงจันทร์สีนวลกลางท้องฟ้า มีดวงดาวเรียงต่อกันเป็นชื่อเวทีประกวดดูงดงามเหลือเกิน รอยยิ้มปลื้มปริ่มจึงกระจ่างชัดบนใบหน้าของชนินทร์เพราะมันชัดเจนว่าธรธัญญ์ให้ความสำคัญกับทุกรายละเอียดแม้เป็นแค่งานแถลงข่าว

“ขอบคุณครับ ถ้าหากขาดเหลืออะไร คุณชนินทร์สามารถแจ้งผมได้ตลอด”

“เจ้าของโรงแรมออกตัวมาขนาดนี้ งั้นผมขออนุญาตไม่เกรงใจนะครับ”

“มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่าครับ”

“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ เดินสำรวจรอบงานมาสามสี่รอบ ผมยังไม่เจอข้อผิดพลาดสักจุด แต่ที่ต้องขอความช่วยเหลือ คงเป็นสตรีแสนสวยข้างๆคุณธรธัญญ์มากกว่า”

ชนินทร์เอ่ยบอกพร้อมกับส่งยิ้มเยือนให้เวนิสาที่ยืนรอจังหวะแนะนำตัวอยู่เช่นกัน

“เวนิสาครับ เวนิส คุณชนินทร์ เจ้าของเวทีประกวด”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณชนินนทร์”

“เป็นโชคดีของผมเหลือเกินครับที่ได้รู้จักนางฟ้า เสียดายนะครับที่เราเจอกันช้าไปหน่อย ไม่อย่างนั้นวันนี้คงได้เห็นคุณเวนิสเดินอยู่บนเวที น่าเสียดายจริงๆ”

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะคุณชนินทร์”

“น้อยไปสิครับ คุณเวนิสสวยซะจนนางงามตัวเต็งของผมยังหมดราศี นั่น! คุณคุณาธิป ทางนี้ครับ”

ขณะกำลังหว่านล้อมให้เวนิสาไปเป็นเด็กในสังกัด หางตาของชนินทร์ก็สะดุดกับราศีเจิดจ้าที่แผ่มาจากเรือนกายสูงใหญ่ของคุณาธิป เจ้าของบริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายซุปเปอร์คาร์รายใหญ่ระดับประเทศและเป็นหนึ่งในสปอนเซอร์ของเวทีประกวดกำลังเดินเข้ามาในงาน ชนินทร์จึงเอ่ยทักพร้อมเรียกชายหนุ่มเข้ามาร่วมวงสนทนาเพราะเห็นเป็นคนในระดับเดียวกัน โดยไม่ทันสังเกตเห็นใบหน้าขวยเขินเอียงอายของเวนิสาที่ถูกเยินยอเมื่อครู่ค่อยๆเปลี่ยนสีและยิ่งจืดเจื่อนเมื่อคุณาธิปเดินยิ้มเย็นมายืนอยู่ใกล้ๆ

“สวัสดีครับคุณชนินทร์ สบายดีนะธัญญ์ สวยไม่เปลี่ยนเลยนะครับเวนิส”

“นี่คุณคุณาธิปรู้จักคุณธรธัญญ์กับคุณเวนิสด้วยเหรอครับ”

“กับธัญญ์ เรายิ่งกว่ารู้จักกันอีกครับ ส่วนคุณเวนิส...สวยขนาดนี้ผมย่อมไม่พลาดที่จะทำความรู้จักอยู่แล้ว”

เพราะเป็นคนนอก ชนินทร์จึงไม่ทันสังเกตความผิดปกติของน้ำเสียงและความนัยน์แอบแฝงในดวงตาของคุณาธิปยามเอ่ยทักทายธรธัญญ์อย่างสนิทสนมกันดี แต่หากสนิทใจ เหตุใดใบหน้าของธรธัญญ์จึงแข็งกร้าว หางตาคู่คมถึงมองเหยียดยามมือใหญ่ของคนพูดตบลงบนบ่าทักทาย เวนิสาก็เช่นกัน หญิงสาวเม้มริมฝีปากสีแดงแชมเปญแน่นยามถูกดวงตาเจ้าชู้ของคุณาธิปกวาดมองเนื้อตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าเหมือนกำลังปลดเสื้อผ้าบนเนื้อตัวอย่างน่าเกลียด แต่เพราะเกรงจะเป็นการฟื้นฝอยหาตะเข็บ แถมยังเป็นตะเข็บที่หนีบเข้าเนื้อตัวเอง หญิงสาวจึงฝืนยิ้มแห้งเก็บความไม่พอใจเอาไว้

“นั่นปะไร นี่ผมก็กำลังจีบให้มาเป็นเด็กในสังกัด สวยๆแบบนี้ รับรองว่าไปไกลแน่ ติดที่ผมยังกล่อมไม่สำเร็จนี่สิ”

“เหรอครับ ถ้าเวนิสใจอ่อนเมื่อไร คุณชนินทร์บอกผมด้วยนะครับ ผมจะเป็นสปอนเซอร์ให้เอง เรามันคนคุ้นเคยกัน จริงไหมเวนิส”

คนถูกถามลอบมองมือวางระเบิดระดับพระกาฬด้วยดวงตากินเลือดกินเนื้อ เพราะคุณาธิปกำลังจะทำให้เธอตกที่นั่งลำบาก สันกรามที่ขยับขึ้นลงบนใบหน้าของธรธัญญ์บ่งบอกว่าชายหนุ่มเองก็รู้ดีว่ากำลังถูกคุณาธิปเยาะเย้ยเรื่องที่เคยฉกเธอไปจากอกเขาได้ นั่นคือการตัดใจผิดพลาดครั้งใหญ่หลวง แต่โชคดีที่ธรธัญญ์รักเธอมากจึงให้โอกาสเธออีกครั้ง ทว่าคุณาธิปกลับกำลังตามมาทำลายมัน

“ว่าไงครับคุณเวนิส เจ้าพ่อซุปเปอร์คาร์ออกตัวเชียร์แรงขนาดนี้ สนใจมาประกวดกับผมไหม”

“เอ่อ... เวนิสคิดว่า...”

“ตัดสินใจก่อนก็ได้นะครับเวนิส ไว้เราเจอกัน...ครั้งหน้า ค่อยให้คำตอบผม”

เวนิสาจิกดวงตามองคนเสแสร้ง เขี่ยเธอทิ้งแล้วไม่รู้จะตามกลับมารังควานทำไม ไอ้คนเลว!

“นั่นคือคุณคุณาธิป เพื่อนสนิทคุณธัญญ์”

พลธวัชชี้ชวนให้เทพิมพ์มองตามปลายคางที่พยักพเยิดไปหน้างาน คนที่ไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของสองหนุ่มเพื่อนซี้ก็คงคิดว่าสามหนุ่มกับอีกหนึ่งสาวสวยที่กำลังพูดคุยกันออกรสนั้นมีความสนิทชิดเชื้อเป็นอย่างดี แต่สำหรับคนวงใน กลับต้องหันหน้ามองกันพลางขยี้ตาแล้วหันกลับไปมองอีกรอบให้ชัดว่าภาพที่คุณาธิปยืนสนทนากับธรธัญญ์ด้วยใบหน้ารื่นเริงไม่ใช่ภาพหลอน ซ้ำยังมีตัวต้นเหตุของการแตกคออย่างเวนิสายืนคั่นกลาง เพราะทราบกันดีว่าตั้งแต่ที่เจ้าพ่อซุปเปอร์คาร์แย่งเวนิสาไปจากอกเจ้าของนาราแกรนด์โฮเทล จากที่เคยกอดคอเป็นเพื่อนรัก ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็ดำดิ่งยิ่งกว่าติดลบ คุณาธิปไม่เคยย่างกรายมาที่นาราแกรนด์โฮเทลอีกเลย ธรธัญญ์เองก็ไม่ปริปากถึงเพื่อนทรยศเช่นกัน

ทว่าวันนี้เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกลับมาประจันหน้า จึงอดไม่ได้ที่จะกลายเป็นข่าวใหญ่กระตุ้นต่อมเผือกของพนักงานในโรงแรมให้สั่นระริก แล้วคอยลอบชำเลืองมองอย่างใคร่รู้ว่าสองหนุ่มจูบปากคืนดีกันแล้วหรือ พลธวัชกับเทพิมพ์ที่ยืนอยู่หลังเวทีเก็บตัวนางงามก็สงสัยเช่นกัน

“คนเดียวกับที่แย่งคุณเวนิสาไป ก่อนที่คุณธัญญ์จะมาคบกับพิมพ์”

ไรฟันขาวขบเม้มกลีบปากล่างแน่นเมื่อได้ยินประโยคถัดมาที่พลธวัชกระซิบข้างหู คล้ายๆเจ้านายหนุ่มกำลังตอกย้ำว่าเธอเป็นแค่ตัวหลอกที่ธรธัญญ์คบหาเพื่อประชดเวนิสาที่แอบไปคบกับเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างไรไม่รู้ แต่พอเหลือบดวงตาขึ้นค้นหาจุดประสงค์ของคนพูด ก็ไม่พบหลักฐานว่าพลธวัชกำลังเยาะเย้ยแต่อย่างใด คงเป็นคนรับความจริงไม่ได้อย่างเธอนี่แหละที่หูพาลไปเอง ถึงได้มีความรู้สึกอยากตะโกนใส่หน้าคนหวังดีดังๆว่า...ไม่ได้ถาม!

...................................................................................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา