My'cat ฉันเป็นแมวโคบี้ ตัวสีขาว หน้าตาน่ารัก

4.5

เขียนโดย BrightBrightoh

วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 16.10 น.

  2 ตอน
  1 วิจารณ์
  2,795 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) My'cat : EP 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
 
จุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง
 
 
“กรี๊ดดดด สอบติดด้วยๆๆ><”ตะโกนร้องลั่นบ้านหลังจากการดูรายชื่อผู้ที่สอบติดมหาลัยชั้นนำ...อย่าถามว่าฉันคือใคร ฉันก็คือหนูหก สาวน้อยที่ชิวิตกำลังไปได้สวย เพราะได้สอบติดมหาลัยชั้นนำที่เข้ายากสุดๆและชื่อหนูหกนี้ไม่ได้แต่ใดมาก เหตุนั้นเกิดขึ้นง่ายๆ จากการที่คุณแม่กับคุณพ่อที่สมัยเลิฟๆกันหนักมากจนอยากจะมีลูกด้วยกันถึง 6 คนแต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่พอคุณแม่คลอดฉันออกมาแล้วดันมีลูกอีกไม่ได้ ท่านเลยตั้งชื่อฉันว่าหกแทน โดยเติมหนูเข้าไปข้างหน้าให้คิคุเพิ่ม
 
               ตึก! ตึก! ตึก!
 
“คูนนนแม่คะคะค้า”ฉันรีบถือโน้ตบุ๊ค ตะโกนแหกปากอย่างร่าเริงพร้อมๆไปกับเล่นเสียงมีความสุขและก้าวลงบันได ไม่สิเรียกวิ่งเลยดีกว่า
 
“อะไรของเราเนี่ย ยัยหนูหก”คุณแม่ละมือจาการทำอาหารตรงหน้ามามองหน้าฉัน
 
“ก็เป็นคนที่รักเธอยังไงละคะ คูนนนแม่ ฮิ้ววว~”ฉันวางโน้ตบุ๊คลงบนโต๊ะทำอาหารแล้วหันไปปล่อยมุขเสี่ยวใส่คุณแม่
 
“ปะๆ กลับห้องไปปะ”คุณแม่ส่ายหน้าแบบเอือมระอาฉันสุดๆ แต่นั้นยังไม่ใช่ที่สุดสำหรับฉัน
 
“หกล้อเล่นน ฮิๆ”ฉันหัวเราะคิกคักชอบอกชอบใจแล้วเดินเข้าไปกอดคุณแม่ทางด้านหลัง
 
“ตกลงมีอะไรกันแน่หนูหก แม่จะทำอาหาร”
 
“เอางี้ดีกว่าคะ ถ้าแม่อยากรู้ แม่ต้องตอบคำถามหกให้ได้!”
 
“โอเค งั้นไม่อยากรู้”
 
“แม่อ่า ถามหกหน่อย นะๆๆ”ฉันอ้อนเสียงหวาน หอมแก้มคุณแม่ดังฟอดฟอด
 
“เรานี้มันจริงๆเลยนะ”คุณแม่หยิกแขนฉันแรงๆ 1 ทีด้วยความหมั่นไส้จนฉันต้องร้องโอดโอย”ถามมาสิ”
 
“แม่รู้ป่าวว่าวันไหนไม่ควรสระผม”ฉันยิ้มกริ่ม
 
“วันไหน”คุณแม่เลิกคิ้วห้าม
 
“วันพฤหัส...สระ บ่ ดี ฮ่าๆ”ปล่อบมุขเสร็จก็ขำก๊ากเองโดยอัตโนมัติ เมื่อคุณแม่ทำหน้าเหม็นเบื่อใส่”แล้วแม่รู้ป่าวว่าวันไหนควรสระผม”
 
“วันไหนอีกละ -_-”
 
“วันพฤหัส...สระ พอ ดี ไงคะ ฮ่าๆ :D”
 
“เล่นจบแล้วใช่ไหม จบแล้วจะไปไหนก็ไปปะ”คุณแม่โบกมือไล่ออกจากครัวด้วยความเอือมระอาสุดๆจนฉันคำก๊ากออกมาอีกรอบ ความสุขของคนเล่นมุข(แป๊ก)ก็คือการที่คนโดนเล่นมุขทำหน้าเอือมแบบนี้นี่ละ
 
“หกล้อเล่น ฮิๆของจริงน่ะอยู่นี้”ฉันหยิบโน้ตบุ๊คมาโชว์คุณแม่แล้วชี้ไปที่รายชื่อฉัน...คุณแม่ใช้หรี่ตามองตามประสาคนมีสายตาแล้วไม่ได้ใส่แว่น
 
“นี่...นี่มัน โอ๊ยยย”คุณแม่ตาโตเป็นนกฮูกอ้าปากวอแล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างพร้อมกับกรี๊ดลั่นเหมือนกับฉันเดะๆ”ยัยหนูหกสอบติดมหาลัย T แล้ว!! โอ๊ย ลูกฉัน ลูกฉันสอบติด!”คุณแม่วิ่งตะโกนรอบบ้าน แถมเท่านั้นไม่พอยังวิ่งไปบอกระแวกเพื่อนบ้านซะ รู้ตั้งแต่หลังซอยยันหน้าซอย
 
“คุณแม่ขา ระวังล้มนะคะ ^^”ฉันฉีกยิ้มกว้างร้องบอกคุณแม่ที่ดีใจกว่าคนที่สอบติดซะเอง
 
“วันนี้ปิดซอยฉลอง”คุณแม่ยิ้มแล้วยิ้มอีกจนกรามแทบค้าง
 
    เมื่อฉันรายงานข่าวดีของฉันให้คุณแม่รู้แล้วรายต่อไปก็คือเพื่อนสนิทกัน คนแรกก็คือแพคโจ เธอเป็นรุ่นพี่ของฉัน อายุห่างกันประมาณ 3 ปีได้ เพราะแพคโจมีความเป็นผู้นำและก็ไม่ค่อยพูดมาก(เท่าที่ควร)แถมยังมีคนพูดตรง ทำให้เราสนิทกันไปโดยปริยาย ส่วนคนที่ 2 คือชอนซา คนนี้เป็นรุ่นน้องได้สัก 1 ปีแต่เพื่อนคนนี้ไม่ธรรมดานะจ๊ะ เธอเป็นถึงดาราที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเลยละ ติดนิสัยหลงตัวเองและหยิ่งๆนิดหน่อยแต่ก็เข้ากับฉันได้ดี เราก็เลยเหมือนสามทหารเสือเลย ฮ่าๆ...และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาฉันก็ทำการประชุมสายทันที
 
“(ฮัลโหล)”แพคโจ
 
(“ฮัลโหล คนสวยรับสายคะ”)ชอนซา
 
“เซ~ ฮัลโหลก็ไม่มีไรมากแค่จะบอกว่ารักทุกคนค้าาา”
 
“(เอิ่ม = =*”)แพคโจ
 
(“คนสวยเพลียคะ”)ชอนซา
 
“(โทรมาจะบอกแค่นี้ ลาละนะ”)
 
“หากพี่สาวคิดมากแล้วไม่สบายใจ ลองมาคิดถึงหกมั้ย อบอุ่นใจดี แฮร่! :D”คว้างมุขออกไปแล้วตบตักดังแฮร่(?)
 
“(อยากมีรูปคู่หวานๆ แนะนำให้ไปถ่ายกับน้ำตาลมิตรผล...)”แพคโจ
 
“แฮร่!”ฉันตบตักร้องแฮร่พร้อมกับแพคโจ เพราะรู้มุขกัน จากนั้นก็หัวเราะไปด้วยกันทั้ง 3 คน
 
(“แล้วตกลงพี่หกมีไรอะ คนสวยๆยังมีมาตามจีบก็เพียบนะ อยู่นานมิได้ๆ”)ชอนซา
 
     เอิ่มคะ ยอมใจความหลงตัวเองของนาง(พอๆกับยอมใจกับความมุขแป๊กของฉัน)
 
“ฮะแฮ่ม! เรื่องมีอยู่ว่า...”
 
(“ว่า”)ทั้งชอนซาและแพคโจพูดพร้อมกัน
 
“หกสอบติดมหาลัย T แล้ว ฮิ้ววว...ถึงเราจะติดมหาลัยแต่เราก็จะไม่ลืมเธอ~”
 
(“เรื่องจริงเหรอ พี่หก แบบนี้ต้องฉลองๆ เดี่ยวคนสวยเครียงานเพื่อพี่เลย พี่ควรปลื้มใจรู้ป่าว ดาราดังอย่างชอนซายอมเครียงานเพื่อไปหาเลยนะ ไม่สำคัญทำไมได้~”)
 
“อุ้ย ดีใจม๊ากคะน้อง รักนะ ม๊วฟ -3-“
 
“(คิดว่าสมองจะมีแต่ขี้เลื้อยดีนะยังมีเนื้อสมองอยู่บ้าง ดีใจด้วย พรุ่งนี้ 2 ทุ่มตรง เจอกันที่ร้านอาหารชวนชินละกัน ฉลอง!)”แพคโจ
 
(“พี่เลี้ยงนะ”)ชอนซา
 
“พี่สาวเลี้ยง”
 
   ฉันกับชอนซาพูดพร้อมกัน...ฉันแอบเห็นหน้าแพคโจในหัวกันเลยที่เดียว เธอต้องทำหน้าแบะปากมองบนใส่อยู่แน่ๆ
 
“(เออ!) ตี๊ดดด”แพคโจตกลงรับปากแล้ววางสายหนี
 
“ฮ่าๆ^_^”ฉันกับชอนซาหัวเราะร่วน ก่อนที่ชอนซาจะขอตัวไปทำงานก่อน เห็นว่าต้องไปถ่ายละครไรเนี่ยละ
 
      ชิวีตหนูหกดีดี๊ วันนี้คุณแม่ฉลอง พรุ่งนี้เพื่อนฉลอง ฮูเร่!
 
วันต่อมา เวลา 1 ทุ่ม 30 นาที
 
   เมื่ออาบน้ำ ฉันเลือกหยิบเสื้อแขนกุดสีขาวและกางเกงยีนส์ขาดสั้นขาดๆตัวหนึ่งมาใส่ตามเทรนสมัยที่เขาชอบใส่กัน ผมก็ปล่อยตามธรรมชาติ ที่ไม่ธรรมชาตินี้ก็คงจะเป็นมัดจุกผมหน้าม้า(เกี่ยว?) ส่วนหน้าก็แต่งแบบอ่อนๆให้พอดูสวยงามและที่ขาดไม่ได้คือการเลือกสีลิปสติก เพราะมันจะบ่งบอกความรู้สึกและเป็นเราได้อย่างชัดเจน รอบนี้ฉันเลือกลิปสีส้มอมแดง ทาเมื่อไรรับรองโลกสดใส ปัปปา ดาดีด๊า เหมาะกับสาวขี้เล่นอย่างฉันที่สุด...แต่งตัวเสร็จฉันก็คว้ากระเป๋าใบเก่งแล้วเดินลงไปใส่รองเท้าผ้าใบสีดำที่หน้าบ้าน
 
“หนูหกให้ลุงจรไปส่งนะลูก ดึกแล้วแม่เป็นห่วง”ระหว่างที่ฉันกำลังใส่รองเท้าอยู่ก็พบว่าคุณพ่อกับคุณแม่ได้เดินมาส่งฉันที่หน้าบ้านด้วยสภาพชุดพร้อมนอน
 
“ได้คะคุณแม่”ฉันฉีกยิ้มแฉ่งรับคำคุณแม่ เพื่อไม่ให้ท่านเป็นห่วง
 
“แล้วก็อย่ากลับดึกมากเข้าใจไหม”คราวนี้เป็นคุณพ่อที่พูดบ้าง มาซะเสียงเข้มเชียว
 
“ห้ามกลับดึกแต่ว่ากลับเช้าได้เลยใช่ไหมคะ คุณพ่อ ^0^”
 
“...”คุณพ่อทำหน้าโหดใส่ฉันไปทีจนต้องรีบแก้ตัว
 
“หกล้อเล่นนน~ เอาเป็นว่าจะพยายามนะคะ ฮ่าๆ :D”
 
“เฮ้อ...เจ้าลูกคนนี้”คุณพ่อถึงกับถอนหายใจปลงตก
 
“หกไปก่อนนะคะ สวัสดีคะ ^^”ฉันกล่าวสวัสดีท่านทั้ง 2 แล้วเตรียมก้าวจะออกจากบ้านแต่พอก้าวข้ามประตูบ้านมาก็ไม่ดีขึ้นมา รู้สึกอยากกอดท่านทั้ง 2 คน...ฉันรู้สึกว่าถ้าไม่ไปกอดท่านตอนนี้อาจจะไปมีโอกาสได้กอดอีก มันทำให้ฉันตัดสิ้นใจหันหลังกลับไปกอดท่านทั้ง 2 และหอมแก้มคนละที ก่อนจะออกมารอรถลุงจรที่หน้าบ้าน(นอกรั้ว)
 
      บรื้น~
 
    ยืนรอไม่นานลุงจรก็ถอยรถออกมาจากที่จอดรถของบ้านแล้วมารับฉัน...เขารีบลงเดินลงมาเปิดประตูให้ฉันทั้งๆทีเขาไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ เพราะบ้านฉันไม่ได้บังคับอะไรขนาดนั้นแต่แกบอกว่ามันคือหน้าที่ของแก ฉันขัดจนไม่รู้จะขัดยังไงแล้ว ก็เลยปล่อยเลยตามเลย แม้ว่าจะแอบเกรงใจแกอยู่บ้างก็ตาม
 
“ขอบคุณคะลุงจร”ฉันกล่าวขอบคุณลงจรแล้วก้าวขึ้นรถไป แต่ในระหว่างที่กำลังจะขึ้นไปบนรถก็มีนกแสกตัวหนึ่งบินมาเกาะที่หน้าบ้านฉันแล้วร้องเสียงดังจนต้องหันขวับไปมอง ลุงจรเองก็ถึงกับหน้าซีดใจคอไม่ดีรีบขึ้นมานั่งในรถ
 
“หนูหกรู้ไหม เขาว่ากันว่าถ้านกแสกบินไปเกาะที่ไหนบริเวณนั้นจะมีคนตาย มันเป็นรางไม่ดีน่ะครับ”ลุงจรพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดีเท่าไร”
 
“ไม่มีอะไนหรอกคะลุง เรื่องเล่าก็คือเรื่องเล่า”ฉันยิ้มตอบลุงจร ทำให้แกมีสีหน้าดีขึ้นแล้วออกรถ...ฉันเป็นคนที่ไม่คิดอะไรอยู่แล้วก็เลยไม่ได้เก็บเรื่องนี้มาคิด หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งไลน์ไปบอก 2 คนนั้น
 




หนูหก คณะตลก: รวมตัวยางงง~




ชอนซาสวยไม่มีใครเกิน:เขามากันเป็นชาติแล้วพี่ กินเหล้ารอจนจะเมาอยู่แล้วเนี่ย  (ส่งสติกเกอร์ลิงหน้าบูด)




แพคโจสายเฮ้ว:ใครมาสายจ่ายตังเว้ย (ส่งสติกเกอร์หัวเราะเยาะ)




หนูหก คณะตลก:เลทติดหน่อยเอง ร้านอยู่ใกล้บ้านแค่เนี่ย




แพคโจสายเฮ้ว:ตลอด!




หนูหก คณะตลก:นิดนุง ฮิๆ (ส่งสติกเกอร์คนเกาตูด)




ชอนซาสวยไม่มีใครเกิน:เร็วเลยพี่ เหล้าหมดอดกิน บอกเลยคะ คนสวยแดก เอ้ย กินเรียบคะ




หนูหก คณะตลก:(ส่งสติกเกอร์หมีหัวเราะลั่น)




 
    ฉันคุยเล่นไปสักพักลุงจรก็บอกฉันว่าถึงแล้ว ฉันเลยบอกลุงแกว่าไม่ต้องรอ มันดึกแล้ว เกรงใจแกและที่สำคัญแพคโจเอารถมาเองด้วยเลยไม่มีปัญหาอะไร...ร้านชวนชิมเป็นร้านสไตร์ชิวๆนั่งดิ๊งไรงี้ เป็นร้านที่บรรยากาศดีไม่แพ้ที่ไหนเลยละ เห็นแพคโจบอกว่าจองโต๊ะไว้ริมแม่น้ำ จะได้นั่งชมวิว ลมเย็นๆ ดื่มเหล้า หุ้ย ฟิน~
 
“มากี่ท่านคะ”พนักงานคนหนึ่งเดินออกมาต้อนรับฉันด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
 
“เพื่อนจองไว้แล้วคะ”ฉันยิ้มขอบคุณ เธอจึงถอยออกไปแล้วรับลูกค้าคนต่อไปแทน ฉันจึงเดินตรงไปที่โต๊ะเองด้วยความเชี่ยวชาญ
 
      มาบ่อยก็งี้ ฮ่าๆ :D
 
    เดินไปไม่นานก็ถึงโต๊ะ พอถึงโต๊ะฉันก็รอบสังเกตเพื่อนที่ละคน...วันนี้แพคโจใส่เสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงสีดำมันเงา แมทกัน ผมนี้ก็มัดรวบหางม้าเป็นลวกๆแต่ดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ พีคคือใบหน้า แพคโจนี่มาหน้าสดเลยไม่แต่งอะไรทั้งนั้นทาแค่ลิปสติกประจำกายเธอเท่านั้น นั้นคือสีแดงสุดจี๊ด ส่วนซอนชาวันนี้เธอมาแบบสวยแบบเริ่ดๆด้วยชุดเดรชสีเหลืองอ่อนเหลือบประกายเพรช ผมดันลอนสวย ใบหน้าสวยครบเครื่องและตามด้วยลิปสีชมพูนู้ด
 
“มาช้าต้องดื่มตามเขาให้ทันเลย”หลังจากที่ฉันนั่งลงแล้วชอนซาก็หันมาส่งเหล้าเพียวๆให้ฉันด้วยใบหน้าที่เริ่มจะแดงนิดๆ
 
      แสดงว่าที่พูดในไลน์คงจะเป็นเรื่องจริง J
 
“พวกแกกินกันเต็มที่เลย เดี่วยพากลับบ้านเอง...บอกเลยถ้าพวกแกไม่เมาฉันไม่ส่งบ้าน!”แพคโจเสียงสะใจและพยายามบ้ายเบี่ยงชอนซาที่ชงเหล้าให้ไม่หยุด ด้วยข้ออ้างว่าต้องขับรถไปส่งพวกเราแต่ฉันว่าไม่รอดหรอก ชอนซาซะอย่าง มอมแหลก ฮ่าๆ
 
   เวลาผ่านไปเนินนาน 1 ชั่วโมงเป็น 2 ชั่วโมง 2 ชั่วโมงเป็น 3 ชั่วโมง ฉันดื่มไปมากจนแทบจะพูดจาไม่รู้เรื่อง ชอนซาก็คงยังมอมเหล้าพวกเราไม่หยุดแม้ว่าเธอเองจะเมาแล้วเช่นกัน คนที่มีสติมากที่สุดก็คงเป็นคนที่ต้องขับรถไปส่งพวกเราที่บ้านอย่างแพคโจนั้นละ ขานั้นแค่กรึ่มๆ...ระหว่างที่เรากำลังคุยกันอย่างสนุกสนานฉันก็ดันเหลือบไปเห็นตรงข้างๆ ไปสิเขาเรียกจ้องโต๊ะข้างๆเลยมากว่า เพราะผู้ชายโต๊ะข้างๆน่ะ หล่อจนต้องมนต์เสน่ห์จนถอนสายตาออกมาไม่ได้เลย เขาเป็นผู้ชายที่ดูอ่อนโยน ใบหน้าที่ดูแสนดีและรอยยิ้มที่อ่อนโยนนั้นทำฉันหัวใจเต้นแรงมากจนเจ็บอกไป ท่าทางที่เขาปฏิบัติกับผู้หญิงข้างๆเขาอย่างให้เกียรติ อ่อนโยนและแลดูอบอุ่นนั้น ทำฉันหน้าแดงจนไม่รู้ว่าเขินเขาหรือเมาเหล้ากันแน่
 
“โทะระคะ พรุ่งนี้พาแคทไปซื้อแมวหน่อยนะคะ แคทอยากเลี้ยงมาตั้งนานแล้ว”เธอเขาไปกอดเอวสบอกผู้ชายคนนั้นอย่างออดอ้อน แถมยังเอานมล้นๆของเธอไปถูเขาด้วย ไม่เพียงเขาจะทำตัวลามกกลับ เขาเพียงแค่ตอบรับแล้วจับปอบผมทัดหูให้เธออย่างแผ่วเบา เห็นแบบนั้นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้
 
      ถ้าฉันได้รู้จักผู้ชายแบบนั้นนะ จะไม่ปล่อยให้หลุดมือเลยค่อยดู -^-
 
    ระหว่างที่ฉันกำลังมองพวกเขาอยู่ ผู้ชายคนนั้นเหมือนจะรู้สึกมามีคนมองอยู่ถึงได้มองไปรอบๆส่งไปสบตากับฉันโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาทำฉันใจสั่นอย่างกับแผ่นดินจะถล่มแต่แค่นั้นมันยังไม่จบ เขาส่งยิ้มที่แสนอ่อนโยนนั้นมาให้ฉันอีก คราวนี้เหมือนโดนลูกศรปักเข้ากลางใจอย่างจัง
 
      โอ๊ย คุณแม่ค้า หนูอยากได้เขา
 
“กลับเหอะ 5 ทุ่มแล้ว”แพคโจพูดขึ้นลอยๆหลังจากดูนาฬิกา เธอเป็นคนเรียกสติฉันกลับคืนมา ฉันรีบเอออ่อแล้วลุกขึ้นเดินหนีทันที
 
      ให้ตายเถอะ รอยยิ้มนั้นเป็นอันตรายสุดๆ
 
    ระหว่างที่เรากำลังออกมากันอยู่ๆจิ้งจกก็ร้องประสานเสียงกันจนหน้าตกใจพร้อมกับจิ้งจกตัวหนึ่งตกลงมาตายต่อหน้าต่อตาฉัน ฉันตกใจร้องเสียงหลงจนชอนซาต้องเข้ามาดู
 
“เป็นไรป่าวพี่”แพคโจถามเสียงเป็นห่วง
 
“ป่าวๆ”ฉันตอบไม่เต็มเสียงนัก...ทั้งจิ้งจกร้องทักทั้งนกแสก ฉันรู้สึกถึงลางร้ายยังไงชอบกล”รีบกลับเหอะ รู้สึกไม่ดีไงไม่รู้อะ”
 
“อือๆ”แพคโจพยักหน้ารับแล้วก้าวเข้าไปสตาร์รถ ตามด้วยชอนซาแล้วฉัน.
 
    เมื่อคิดไปนั่งเป็นที่เรียบร้อย เราก็คาดเบลกันเพื่อนความปลอยภัย จากนั้นแพคโจจึงออกรถ
 
“มีอะไรรึป่าว”ซอนซาขมวดคิ้วหน้าเครียด เอียงหน้ามามองฉันที่นั่งอยู่เบาะหลัง(เธอนั่งเบาะหน้ากับแพคโจ)
 
“แค่รู้สึกไม่ดีน่ะ วันนี้เจออะไรแปลกๆ...”ฉันก้มหน้าลงขบคิดอย่างอดไม่ได้
 
      ทั้งนกแสกแล้วก็จิ้งจก บางทีมันอาจบอกลางอะไรสักอย่าง
 
“รู้สึกเหมือนกันเหรอ...ไอ้ความรู้สึกไม่ดีเนี่ยน่ะ”แพคโจมองไปข้างหน้านิ่งๆราวกับกำลังคิดอะไรบ้างอย่างอยู่
 
“จริงๆก็ตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านแล้วละ”ฉันตอบแพคโจ...ทั้งแพคโจและชอนซานิ่งไปหลังจากได้ยินฉันพูด ฉันว่าเราอาจรู้สึกเหมือนกันตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านแล้ว
“บางทีอยากที่เรารู้สึกเหมือนกันตั้งแต่ตอนนั้น มันอาจจะเป็นลางบอกว่าเราไม่ควรออกมาจากที่บ้าน...”ชอนซาพูดแล้วนิ่งไป เราทั้ง 3 สบตากันด้วยความหวั่นใจ ก่อนที่จะมีรถคันหนึ่งบีบแตรใส่พวกเราพร้อมกับขับปาดหน้า
 
          บรี้นนน!!
 
    แพคโจหันกลับไปมองด้วยความตกใจ เธอเบิกตากว้างแล้วหักพวงมาลัยรถเลี้ยวจนสุด ทำให้รถพลิกลงไปข้างทาง ก่อนที่จะหยุดนิ่งไปพร้อมๆกับร่างทั้ง 3...
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา