โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  114.68K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

130) ประตูที่ปิดอยู่

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ในเวลาเที่ยงของวันถัดมา   เด็กน้อยทั้งหลายต่างทยอยเข้ามาที่โถงอาหาร   ฟีไลร่าเลือกจองโต๊ะมุมเดิมทั้งที่มีที่ว่างมากมาย   เยื้องๆ กับโต๊ะนั่งของพวกเขา   ที่มุมสลัวมุมหนึ่งดารีลกำลังตั้งอกตั้งใจปอกเปลือกผลไม้ให้กับเจ้าหญิงลูเซียน่า   พระนางนั้นเลือกเสวยเฉพาะสิ่งที่พ่อมดน้อยคนนี้หยิบยื่นให้   คนทั้งคู่อยู่ในอาการที่สงบราวกับวันนี้เป็นวันแสนสบายอีกวันหนึ่ง
 
เจ้าหญิงแสนสวยแห่งอันดอรีสดูวุ่นวายกับการชงชาไม่น้อย   นั่นเป็นเพราะต้องการแสดงให้ชายคนรักได้เห็นว่าพระนางนั้นสามารถเพียงใด   ส่วนดารีลเมื่อจัดการกับผลไม้เรียบร้อยแล้วก็กัดขนมปังปิ้งเพื่อรอดื่มชาในลำดับถัดไป  
 
ยามที่คนทั้งคู่อยู่ด้วยกัน   มันคือช่วงเวลาที่โลกนั้นสงบสุขและแสนหวาน   ไร้ซึ่งความทุกข์และวิตกกังวลใด   พวกเขาต่างใส่ใจซึ่งกันและกัน  
 
เหมือนดังว่าโลกนี้ไม่มีสิ่งอื่นอีกแล้ว
 
 
ฟิโลโซเฟอร์กินข้าวไปสายตาก็ชำเลืองไป   ในใจก็คิดสงสัย   เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างหรือเปล่า   ดารีลที่ถูกอาจารย์โดเฮเกนเรียกตัวไปพบนั้นเป็นอย่างไรบ้างนะ   คงไม่ได้ถูกทำโทษหรืออะไรหรอก   เพราะหนุ่มน้อยคนนี้ไม่ได้มีท่าทีขัดเคืองแต่อย่างใดเลย
 
 
            ในวิชาเรียนที่สองของยามบ่าย   เด็กนักเรียนต่างทยอยกันเข้ามาในห้อง   ดารีลนั้นยังนั่งหลังห้องเช่นเดิม   เหตุการณ์เมื่อวานยังอยู่ในความสนใจ   ทำให้เด็กๆ คอยลอบมองไปด้านหลังบ่อยๆ
 
แต่ดารีลกลับดูไม่เดือดร้อนอะไร   เขาอ่านตำราและจดบันทึกเหมือนทุกครั้งที่อยู่ในเวลาว่าง   เด็กชายชาวซีนาร์ยอยากถามว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า   แต่คิดว่าคงไม่ได้คำตอบดังต้องการ   จึงเลือกที่จะเก็บความสงสัยเอาไว้อย่างนั้น
 
เวลาผ่านไป   เหมือนทุกคนจะรู้สึกถึงความผิดปรกติ   อาจารย์โดเฮเกนยังไม่เข้ามา   ตามปรกติแล้วเขาไม่เคยล่าช้าถึงเพียงนี้   เด็กนักเรียนเริ่มคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น   แม้แต่ดารีลเองยังเงยหน้าขึ้นจากตำราคิ้วสีเข้มขมวดมุ่น   เขาจ้องไปที่ประตูด้วยอารมณ์สงสัยปนไม่พอใจเล็กน้อย
 
หนุ่มน้อยคนนี้เป็นคนชอบทำอะไรตามแบบแผน   การมาผิดเวลาของโดเฮเกนจึงสามารถกวนใจเขาได้พอสมควรเลยทีเดียว
 
ในที่สุดฟิโซเฟอร์ก็หมดความอดทน   เขาลุกไปนั่งข้างๆ พ่อมดน้อย
 
“ เจ้าคิดว่าอาจารย์โดเฮเกนป่วยหรือเปล่า ”
 
“ ถ้าเขาป่วย   คนจากห้องพยาบาลต้องมาแจ้งพวกเรา   อีกทั้งเมื่อวานก็ไม่เห็นเค้าลางว่าจะป่วยไข้อะไร ”
 
ดารีลตอบ
 
“ แล้วเหตุใดป่านนี้ยังไม่มา   หรือติดธุระด่วน ”
 
ดารีลไม่ตอบคำถามนี้เขาหรี่ตามองประตู
สีหน้าขรึมลง
 
ในที่สุดเขาก็วางปากกาขนนกลงบนโต๊ะ
ด้วยความรุนแรงจนเกิดเสียงดังปึง
 
“ สงสัยข้าต้องไปตาม   รออยู่ที่นี่นะ ”
 
ถึงจะบอกไปแบบนั้น
เด็กๆ ก็หาฟังไม่
พวกเขาแอบตามไปทั้งห้อง
 
เหมือนฝูงหนูน้อยย่องตามแมวดุ
ดารีลรู้ตัวว่าถูกติดตาม
 
แต่เขาเบื่อหน่ายเกินกว่าที่จะตะเพิดกลับไป
จึงปล่อยให้เด็กๆ หมอบๆ มุดๆ อยู่อย่างนั้น
 
 
ที่หน้าห้องพักของอาจารย์โดเฮเกน
มีนักเรียนกลุ่มหนึ่งยืนรออยู่แล้วพร้อมกับอาจารย์เลวิช
ครูที่ปรึกษาห้องเรียนของฟิโลโซเฟอร์
 
เมื่อเห็นดารีลเดินเข้าไปหานางก็มีท่าทีประหม่าอย่างเห็นได้ชัด
นางก้าวถอยหลังสองมือก็อยู่ไม่เป็นที่
 
“ มีอะไรกันหรือเปล่า ”
 
หนุ่มน้อยถาม
เขาชี้มือไปที่ห้องของอาจารย์สลับกับกลุ่มเด็กนักเรียนกลุ่มนั้น
 
“ เด็กพวกนี้บอกว่าท่านโดเฮเกนไม่ไปที่ห้องเรียนเมื่อชั่วโมงที่แล้ว   พวกเขาเลยมาตาม   ส่วนข้าน่ะผ่านมาพอดีเลยดูว่าเกิดอะไรขึ้น ”
 
นางตอบเสียงสั่น
สองข้างแก้มเริ่มปรากฏสีแดงเรื่อๆ
 
“ ลองเรียกดูหรือยัง ”
 
“ ข้าทั้งเรียกทั้งเคาะก็ไม่เป็นผล ”
 
นางว่า
 
ดารีลทำสัญญาณให้นางถอยออกไปก่อน
แล้วเดินตรงไปที่ประตู
 
“ ข้าลองเปิดดูแล้ว   มันปิดล็อคจากด้านใน ”
 
อาจารย์เลวิชบอก
 
แต่ดารีลก็ไม่ได้สนใจ
เขาวางมือลงบนหน้าประตู
 
แหวนรูปงูของเขาส่องประกายขึ้น
สีหน้าของพ่อมดน้อยก็เปลี่ยนไปทันที
 
“ ไปบอกผู้คุมกฎคนใดคนหนึ่งว่าข้าต้องการให้ท่านจอมเวทวาลานมาที่นี่ ”
 
“ จอมเวทวาลาน   ข้าจะไปเรียกท่านได้อย่างไร   แม้จะเข้าพบยังเป็นไปไม่ได้ ”
 
นางตกใจ
 
“ แจ้งผู้คุมกฎตามที่ข้าบอกนั่นแหละ   ข้าไม่ได้ให้ไปเองเสียหน่อย   หรือจะให้ข้าไปตามท่านวาลาน   แล้วปล่อยท่านเฝ้าประตูบานนี้เอาไว้ ”
 
เสียงของเขาเครียดขรึม
 
“ ในนี้มีปัญหาใหญ่อย่างนั้นหรือ ”
 
นางถาม
 
“ ข้าไม่รู้   แต่ท่านรีบไปเถอะก่อนที่จะสายเกินไป ”
 
อาจารย์เลวิชจึงได้แหวกนักเรียนออกไป
 
หลังจากนั้นดารีลก็หันไปทางกลุ่มเด็กนักเรียน
ที่ยืนออกันอยู่ตรงนั้น
ด้วยสายตาดุดัน
 
แต่เด็กๆ ก็ตื่นเต้นเกินกว่าจะคิดหนีไปไหน
เพราะได้เห็นผู้ใช้เวทมนตร์ในระยะใกล้
 
อีกทั้งมีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นตรงหน้า
ความอยากรู้อยากเห็นย่อมมีมากเป็นธรรมดา
 
“ กลับไปได้แล้ว   คิดว่านี่เป็นเวลาเดินชมนกชมไม้หรือไง   เข้าห้องเรียนสายมีความผิดนะ ”
 
แม้เสียงของเขาจะเกรียวกราด
แต่ทำได้เพียงแค่ให้เด็กขยับถอยหลังไปเล็กน้อยเท่านั้น
 
“ ข้าเป็นหนึ่งในผู้คุมกฎแห่งปราสาทขาว   กล้าล้อเล่นกับข้ารู้ไหมผลจะเป็นเช่นไร ”
 
เขาร่ายคาถา
โถงทางเดินก็เกิดลมปั่นป่วน
 
เด็กน้อยนักเรียนต่างวิ่งกระเจิงหายไป
เหลือเพียงกลุ่มของฟิโลโซเฟอร์ที่ยังหมอบอยู่
 
เมื่อลมสงบลง
เด็กชายชาวซีนาร์ยก็ลุกขึ้น
เขาเดินเข้าไปหาดารีลที่ยืนทำหน้าตึงอยู่
 
“ เรื่องนี้ข้าปล่อยให้เจ้าวุ่นวายไม่ได้หรอก ”
 
“ ข้างในมีอะไร ”
 
เด็กชายตัวน้อยเอ่ยถาม
 
“ เมื่อรู้แล้วว่าคำตอบอยู่แค่เอื้อมข้าไม่มีทางเดาหรอก   ข้างในนี้มีกลิ่นอายของมนต์ดำ   อย่าห่วงเลยมันไม่รุนแรงพอที่จะเกิดค่ายกลปีศาจได้   แต่เมื่อลงทุนร่ายมนต์ในปราสาทขาวแล้วหากไม่หวังผลใดก็คงชอบกลอยู่   ดังนั้นข้าจะไม่เปิดประตู   ข้างในอาจมีกับดักหรือไม่มีก็ตามแต่   นี่เป็นเหตุผลที่ข้าเชิญท่านวาลานมาเพราะข้าไม่มีทางเปิดประตูบานนี้ด้วยตัวเอง   เรื่องนับจากนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้าแล้วจงกลับไปเสีย ”  
 
ดารีลกล่าว
 
“ เจ้าจะไม่เป็นอะไรจริงๆ นะ ”
 
เด็กชายตัวน้อยยังเป็นห่วง
 
“ เมื่อท่านวาลานมาถึงจะมีสิ่งใดต้องหวาดกลัวอีก   หรือต่อให้มี   ข้าก็หนีได้เร็วพอสมควร   เว้นแต่มีเจ้าขวางทางอยู่นั่นแหละข้าจึงหนีไม่ได้   เพราะฉะนั้นแล้วทั้งเจ้าและเพื่อนฝูงจงไปให้ห่างจากที่นี่ ”
 
ฟิโลโซเฟอร์ได้แต่ยืนอึ้ง
เขามองเห็นเค้าลางดำมืดบางอย่าง
 
“ ไปเถอะ   ด้านในไม่มีอะไรหรอก   คนที่ก่อเรื่องนั้นฉลาดพอคงไม่อยู่รอต้อนรับสมาชิกสภาแห่งโอรีเวียแน่   ถ้าอย่างนั้นข้าเดาก็ได้   หากมันจะทำให้เจ้าสบายใจขึ้น   ข้างในนี้คงมีจดหมายขู่หรือข้อความท้าทายอะไรบางอย่าง   ไม่มีใครถืออาวุธรออยู่หรอก   และกลิ่นมนต์ดำก็บางเบามากจนไม่เป็นอันตราย   แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่คิดจะเปิดประตู   เห็นหรือยังว่าข้ารอบคอบพอเพราะฉะนั้นจงไปเสีย   ประเดี๋ยวท่านวาลานก็มาแล้วเจ้ายืนบื้ออยู่ตรงนี้ไม่ได้มันไม่ถูกต้องเข้าใจไหม   เขาไม่ใช่ผู้ที่คนทั่วไปจะเข้าใกล้ได้ ”  
 
เด็กชายตัวน้อยยังนิ่งงัน
เขานั้นหวาดกลัวอย่างประหลาด
 
บางสิ่งบางอย่างได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
และดารีลคงถูกหมายตาไว้ตั้งแต่แรก  
 
คำปลอบโยนของดารีลไม่ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลย
แต่เขาก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว
 
แม้จะถูกเพื่อนๆ ลากตัวออกไป
เขาก็ยังขัดขืนไม่ได้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา