โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  113.41K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

134) ความหวาดระแวง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

จอมเวทวาลานได้ใช้พลังลบคราบเลือดรูปดาวหกแฉกนั้น   เมื่อค้นทั้งห้องอย่างละเอียดแล้วไม่พบอะไรเพิ่มเติม   ทั้งหมดจึงมารุมล้อมร่างอันไร้วิญญาณของโดเฮเกนอีกครั้ง

 

“ ดูบาดแผลสิ   ลักษณะแบบนี้เขาต้องตัดคอเหยื่อด้วยมือซ้ายแน่ ”

 

พ่อมดเคียดันกล่าว

 

“ หมายความว่าคนร้ายถนัดมือซ้ายหรือ ”

 

ผู้พิทักษ์หน้ากากทองถาม

 

“ ผู้ที่ใช้มือซ้ายข้าเห็นมีเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น ”

 

เฮอร์เมสหันมาทางดารีล

 

“ เขาผู้นี้เกือบสังหารเด็กนักเรียนของข้านามว่าดัลลัจ   โชคดีที่ข้าช่วยไว้ทัน   และแน่นอนเขาถือดาบด้วยมือซ้าย ”

 

พริบตานั้นดารีลก็เคลื่อนไหว

เขาหมุนตัวอย่างรวดเร็วเกินกว่าใครจะคาดคิด

 

คว้าเอาดาบบาเรียนไปจากมือของเฮอร์เมส

จ่อคมดาบตรงลำคอของเขา

 

ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นต่างตะลึงงัน

หนุ่มน้อยใช้ดาบบังคับอาจารย์เฮอร์เมสให้ถอยไปใกล้ๆ ร่างผู้ตาย

 

“ นั่งลง ”

 

เสียงสั่งนั้นเฉียบขาด

เฮอร์เมสถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงหน้าตาซีดเผือด

 

“ ตกใจอะไรกัน   ข้าก็แค่จะแสดงให้เห็นว่าหากถูกตัดคอด้วยมือซ้าย   บาดแผลจะเหมือนกับของผู้ตายจริงหรือเปล่า ”

 

ได้ยินดังนั้นคนที่คุกเข่าอยู่

ถึงกับอ้าปากค้างเนื้อตัวสั่นเทา

 

หนุ่มน้อยนั้นยกยิ้มเบาๆ ที่มุมปาก

เขาย้ายดาบไปถือด้วยมือขวา

 

“ ไม่ดีกว่า ”

 

เขาว่าพลางเอียงคอน้อยๆ

พร้อมกับสายตาแห่งความอยากรู้อยากเห็น

 

“ เอาเป็นว่า   ด้วยมือขวาข้าจะสามารถสร้างบาดแผลแบบเดียวกันได้หรือไม่   มีใครสนใจจะพนันกันบ้าง ”

 

เฮอร์เมสรู้สึกหน้ามืด

อยากร่ำร้องขอชีวิต

 

แต่ด้วยดวงตาที่พร่าลาย

ทำให้เห็นทุกใบหน้านั้นดูบิดเบี้ยวน่ากลัวไปจนหมด

 

จอมเวทวาลานจับดาบเล่มนั้น

ค่อยๆ ดึงออกมาจากมือของดารีล

 

จับยัดเข้าในฝัก

แล้วโยนคืนให้แก่เจ้าของ

 

“ ดารีลฝึกใช้อาวุธทั้งสองมือ   สิ่งที่น่ากลัวที่สุดเวลาเผชิญหน้ากับเขาคือดาบคู่   บาดแผลดังกล่าวก็ไม่จำเป็นต้องเกิดจากมือซ้าย   ด้วยมือขวาของข้าก็สร้างสิ่งนี้ได้เช่นกัน ”

 

วาลานว่า

 

“ เฮอร์เมสเจ้าออกไปจากห้องนี้เสียก่อนที่ข้าจะหมดความอดทน ”

 

เมื่อโดนผู้เป็นนายสูงสุดไล่

ครูฝึกนักดาบก็รีบลนลานออกไป

 

“ ความหวาดระแวง ”

 

เบรนทรัสว่า

เพียงเท่านั้นแล้วไม่ได้กล่าวสิ่งใดต่อ

 

เขายกมือขึ้นลูบหนวดเครายาวสีขาว

สายตาจ้องดารีลแทบไม่กระพริบ

 

“ มีใครเห็นวีแกนบ้าง ”

 

เคียดันเอ่ยถาม

พลางมองหาไปทั่ว

 

“ นี่มันเรื่องภายในปราสาทขาว   เหตุเกิดกับครูในโรงเรียนเสียด้วย   หน้าที่ของเขาโดยตรงเลย   เรื่องใหญ่เช่นนี้ยังกล้าหายหัว   แบบนี้มันใช่หรือ ”

 

ดารีลลากเก้าอี้ตัวหนึ่งออกมานั่ง

ชำเลืองมองพ่อมดเฒ่าเคียดัน

แล้วถอนหายใจเฮือก

 

ส่วนคนอื่นๆ เริ่มวิจารณ์

ถึงความหละหลวม

ของครูใหญ่วีแกน

 

ต่างโทษว่าเรื่องร้ายที่เกิดขึ้น

เป็นเพราะมีคนดูแลที่ไร้ความสามารถเช่นวีแกน

 

หนุ่มน้อยรูปงามได้แต่นั่งกุมขมับ

นึกหาข้อแก้ต่าง

 

แต่มาว่าจะอ้างอย่างไร

ก็ดูไม่ดีทั้งนั้น

 

ชื่อของวีแกนในช่วงเวลานี้

ชวนให้ปวดหัวไม่น้อย

 

“ ครูใหญ่วีแกนกำลังยุ่งกับการปรุงยา   ตัวยามีความซับซ้อนมาก   เขาจึงไม่อาจละจากเตามาได้เลย   แต่เชื่อเถอะ   ถ้าปรุงยานี้ได้สำเร็จ   จะเป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มากแน่นอน ”

 

เขาเอ่ยขึ้นในที่สุด

เมื่อเห็นว่าเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์

ยังไม่หยุดกล่าวหาวีแกน

 

“ วีแกนหาใช่พ่อมดไม่   เจ้ากล้าบอกว่าเขากำลังปรุงยาที่ซับซ้อนได้อย่างไร   แค่ยาแบบพื้นฐานเขายังทำไม่ได้   พวกเราทุกคนรู้ความจริงข้อนี้ดี ”

 

โธรินว่า

 

“ เจ้ามันก็แค่เด็กไม่มีอาจารย์สั่งสอน   คงโดนตาแก่นั่นหลอกเข้าให้แล้ว   เช่นนั้นจงบอกมาว่าเขาปรุงยาอะไร   ข้าจะช่วยสงเคราะห์ให้คำแนะนำแก่เจ้า    ว่ายาที่ว่ามา   มันซับซ้อนจริงแท้แค่ไหนกัน ”

 

ได้ยินดังนั้นดารีลถึงกับนั่งอึ้ง

ด้วยอำนาจมนต์ดำที่ประกอบอยู่ในพิธี

 

ถ้าเอ่ยถึงมันออกมา

ย่อมส่งผลเสียอย่างแน่นอน

 

“ ขออภัยด้วย   ท่านวีแกนยังไม่ตั้งชื่อยานั้น   ถ้าข้าจะถือวิสาสะเรียกมันเสียเอง   ก็ดูจะเสียมารยาทไม่น้อย   เอาไว้เขาปรุงสำเร็จแล้ว   คงมีชื่อเรียกที่ไพเราะทีเดียว ”

 

หนุ่มน้อยเอ่ยขึ้นในที่สุด

 

ทำเอาโธรินหัวเราะเสียงดัง

 

“ นั่นไงข้าเตือนเจ้าแล้ว   เด็กโง่   นึกว่าวีแกนโง่ที่สุด   เจ้ายังกล้าโดนเขาหลอกอีกหรือ   ช่างน่าขันนัก   ยังไงดีล่ะหรือข้าต้องตามไปดูว่าพวกเจ้ากำลังเล่นพิเรนทร์อะไรกัน ”

 

“ ตอนนี้คงต้องเปิดประชุมแล้ว   เรียกคนของเรามาให้มากที่สุด   ข้าจะไปรอด้านบนส่วนร่างของอาจารย์โดเฮเกนใครก็ได้ช่วยต่อหัวให้ที   ทิ้งไว้แบบนี้ออกจะดูไม่งามสักเท่าไหร่   ข้าจะไปรอข้างบน   ที่เหลือจัดการกันเองได้ใช่หรือไม่ ”  

 

จอมเวทวาลานตัดบท

ก่อนที่การพูดคุยจะบานปลายไปมากกว่านี้

 

“ ส่วนเจ้าดารีล   มากับข้ามา   เรามีเรื่องต้องคุยกัน ”

 

เขาว่าพลางดึงเอาตัวหนุ่มน้อยคนนั้นไป

ให้ก้าวไปพร้อมกับเขา

 

โดยไม่สนใจ

สายตาหลายคู่

ที่มองมาด้วยความริษยา

 

เพราะเห็นจอมเวทวาลาน

ให้ความสำคัญกับคนอื่นมากกว่าตนเอง

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา