โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  113.59K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

135) กล่าวหา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ที่ห้องประชุมสภาบนหอสูงสุดแห่งโอรีเวีย   วาลานได้พาหนุ่มน้อยคนโปรดไปนั่งบนโต๊ะข้างๆ เขาจัดหาอาหารขนมหวานและเครื่องดื่มเลิศรสให้   แล้วปล่อยดารีลมีเวลาผ่อนคลายสบายใจ   ในขณะที่คนอื่นยังวุ่นวายอยู่เบื้องล่าง   และก่นด่าวาลานอยู่ในใจ

 

ที่ปรึกษาเบรนทรัสตามขึ้นมาเป็นลำดับต่อไป   เขาจ้องดารีลไม่วางตาในขณะเดินไปยืนพิงกรอบหน้าต่าง   แต่หนุ่มน้อยคนนั้นก็ยังทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาว   ทั้งที่เข้าใจอาการของเบรนทรัสดี

 

ครู่ใหญ่ๆ สมาชิกสภาก็ตามขึ้นมา   ด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบอารมณ์   พร้อมกับรายงานว่าไม่สามารถต่อหัวให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย   เพราะบาดแผลนั้นต้องคำสาปทำให้ไม่สามารถแก้ไขสิ่งใดได้

 

“ เอาเถิดต่อไม่ได้ก็แล้วไป ”

 

จอมเวทวาลานว่า

 

“ จะมีหัวหรือหัวขาดถึงอย่างไรอาจารย์โดเฮเกนก็ตายอยู่ดี   วุ่นวายไปก็เท่านั้น   ทำเท่าที่ทำได้ก็แล้วกัน ”

 

“ แต่เขาก็เป็นคนสำคัญคนหนึ่งในโอรีเวีย   ในเมื่อพวกเราช่วยไม่ได้   เหตุใดท่านไม่ลงมือ ”

 

เคียดันแย้ง

 

“ ท่านเคียดัน   เรื่องบางเรื่องใส่ใจไปก็เท่านั้น   ตอนนี้เรามีปัญหามากมาย   จะวุ่นวายกับคนที่หัวขาดแล้วไปใย   สู้ระวังหัวท่านเองให้ตั้งมั่นอยู่บนบ่าไม่ดีกว่าหรือ ”

 

เมื่อโดนติติงดังนั้น

พ่อมดชราหลังงองุ้มจึงนั่งลง

 

“ น่าแปลกอาจารย์โดเฮเกนถูกขังไว้ในห้องที่ปิดประตูหน้าต่างมิดชิดจากด้านใน   แล้วคนร้ายหนีออกไปได้อย่างไร   หรือเขาจะเป็นผู้ใช้มนต์ดำจริงๆ ”

 

หัวหน้าผู้พิทักษ์หน้ากากทองกล่าว

 

“ อาจจะจริงหรือเป็นเพียงกลลวงก็ได้   มีใครรู้บ้างว่าโดเฮเกนเคยมีเรื่องขัดแย้งกับผู้ใดหรือไม่   ท่านเคียดันเรื่องในโอรีเวียท่านรู้ดีมิใช่หรือ ”

 

วาลานบอก

แล้วหันไปตั้งคำถามกับเคียดัน

 

ซึ่งพ่อมดชรานั้นก็เหยียดยิ้มอย่างสมใจ

 

“ อาจารย์โดเฮเกนนั้นขึ้นชื่อในเรื่องรักสงบ   สันโดษและสมถะ   เขาจึงแทบไม่เคยบาดหมางกับผู้ใด   แต่เชื่อหรือไม่เมื่อวานนี้เขามีปากเสียงกับคนผู้หนึ่ง   ในชั่วโมงเรียนของเขา   เรื่องนี้ล่ำลือในหมู่นักเรียนและดังกระฉ่อนออกไปถึงภายนอก   มีพยานมากมายสามารถยืนยันเรื่องนี้   นอกจากนั้นข้ายังรู้มาอีกว่าพวกเขานัดจบปัญหากันเมื่อคืนหลังสามทุ่มก่อนที่โดเฮเกนจะถูกพบเป็นศพในวันต่อมา   และผู้ที่ไปพบกับเขาเมื่อคืนก็นั่งอยู่ในหมู่ของพวกเราตอนนี้   ท่านสามารถถามเอาความจริงจากเขาได้ ”  

 

“ เคียดันเอ๋ย   ใยจึงเล่นลิ้นกับข้า   ท่านจะกล่าวหาใครก็บอกตรงๆ ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม   ข้าน่ะยินดีรับฟังเสมอ   ไม่ว่าเรื่องนั้นจะจริงหรือเป็นแค่คำลวง ”   

 

เจ้าแห่งนักเวทกล่าว

 

“ โอ้   ข้าไม่กล้าเอ่ยถึงเขาหรอก   ได้แต่รอว่าคนแบบนั้นจะกล้าแสดงตัวหรือไม่ ”

 

จบคำพูดของเคียดัน

พ่อมดน้อยดารีลก็รีบยกมือ

ราวกับเด็กน้อยกลัวโดนแย่งของเล่น

 

“ ข้าเอง   จริงอยู่ว่าข้ามีนัดกับเขาสามทุ่มแต่เอาเข้าจริงข้าไปถึงที่นั่นประมาณห้าทุ่ม   พอดีว่าติดธุระสำคัญจนลืมเวลา   ครูใหญ่วีแกนเป็นพยานเรื่องนี้ได้ ”

 

เขากล่าวเรื่อยๆ

ไม่ได้มีน้ำเสียงแห่งความวิตกกังวลแม้แต่น้อย

 

“ ท่านออกมาจากห้องนั้นเมื่อไหร่   โดเฮเกนมีท่าทีอย่างไร   หลังจากนั้นมีใครไปพบเขาอีกไหมและพวกท่านคุยอะไรกันบ้าง ”

 

หัวหน้าผู้พิทักษ์หน้ากากทองเอ่ยถามบ้าง

 

คำถามเหล่านั้นทำเอาเบรนทรัส

ที่ยืนพิงกรอบหน้าต่างถึงกับหนวดกระตุก

 

เขาเดินมาอยู่เบื้องหลังวาลาน

ยกมือขึ้นกอดอก

 

จ้องมองดารีลสลับกับเคียดัน

แต่ก็ไม่ได้ว่ากล่าวสิ่งใดออกมา

 

“ ประมาณสักเที่ยงคืนครึ่งเห็นจะได้   ข้าก็ไม่แน่ใจนักส่วนท่านโดเฮเกนก็คงจะอารมณ์ดีได้อยู่หรอก   ในเมื่อข้าไปสายขนาดนั้น   เรื่องที่ว่าเรามีปากเสียงกันข้ายอมรับ   มันเกี่ยวกับวิธีการสอนของท่านโดเฮเกน   แต่เราก็คุยกันได้   เขายอมที่จะระวังในวิธีการสอนของเขาและข้าก็ได้กล่าวขอโทษเรื่องของเมื่อวานไปแล้ว   ไม่ได้มีอะไรติดค้างต่อกัน ”

 

“ แล้วในคืนนั้นมีใครไปพบเขาอีกหรือไม่ ”

 

นางแม่มดวิเวียนถามย้ำ

 

“ เขาไม่ได้บอก   และมิใช่ธุระของข้าที่ต้องรู้ด้วย ”

 

“ นั่นอย่างไรล่ะ ”

 

โธรินร้องออกมา

 

“ เขาไปพบกับโดเฮเกนเป็นคนสุดท้าย   โธ่เอ๋ยโดเฮเกนที่น่าสงสาร   เรื่องนี้จะสรุปว่าอย่างไร ”

 

มีหลายเสียงที่แสดงความเห็นคล้อยตามด้วย

 

“ ไม่มีอะไรต้องสรุปทั้งนั้น ”

 

เสียงเฉียบขาดของเบรนทรัสแทรกออกมา

ทำให้เหล่าผู้ใช้เวทย์มนต์ต้องหยุดนิ่ง

 

“ ในจดหมายบอกชัดอยู่แล้วว่าต้องการให้พวกเราสงสัยกันเอง   นี่อะไรกัน   เป็นถึงสมาชิกสภากลับโดนปั่นหัวด้วยเรื่องแค่นี้   ดูเอาเถิดท่านวาลาน   คนเก่งๆ ท่านก็ส่งไปข้างนอกแทบไม่มีเวลากลับมา   ส่วนคนที่เหลือในปราสาทขาวก็เป็นเสียแบบนี้   ข้าคงต้องหวั่นใจในเรื่องของวันข้างหน้าแล้ว ”

 

“ แล้วเหตุใดเราจะสงสัยเขาไม่ได้ล่ะในเมื่อพยานหลักฐานทุกอย่างมุ่งมาที่เขา   อย่าคิดว่าพวกเราไม่รู้นะว่าดารีลกำลังศึกษาตำรามนต์ดำอยู่   ทายาทเมืองคาเลอะไรนั่นอาจไม่มีอยู่จริง   แต่เป็นดารีลคนสนิทเพียงผู้เดียวของจอมเวทวาลาน   ที่กำลังวางแผนชั่วร้ายอยู่แล้วโยนความผิดไปให้คนที่ไม่มีตัวตน ”

 

เคียดันว่า

 

“ เรื่องมนต์ดำข้าเป็นผู้มอบตำราให้เขา ”

 

วาลานว่า

 

“ ทั้งหมดอยู่ในความรับผิดชอบและไม่ได้พ้นไปจากสายตาของข้า   ดารีลนั้นอาจใช้มนต์ดำแบบพลิกแพลงได้   แต่ที่เราเห็นในวันนี้มันคือแก่นแท้ของมนต์โบราณ   พวกเจ้าก็รู้เงื่อนไขของมันดีมิใช่หรือ   แล้วยังกล้ากล่าวหาคนกันเองอีก   น่าผิดหวังนัก ”  

 

“ เมื่อท่านกล่าวเช่นนั้นแล้วพวกเราคงหมดเรื่องที่จะพูด ”

 

เคียดันว่าพลางนั่งลง

สีหน้าขุ่นเคือง

 

“ ดารีลเจ้ามีอะไรจะเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ”

 

เจ้าแห่งโอรีเวียเอ่ยถาม

 

หนุ่มน้อยยกจอกทองคำขึ้นจิบพลางส่ายหน้า

 

“ ท่านเบรนทรัส ”

 

เขาหันไปยังที่ปรึกษา

 

“ เลิกประชุม ”

 

เขากล่าวเรียบๆ

 

“ แล้วกัน   ข้าจะถามความเห็น   ท่านกลับสั่งปิดประชุมเสียอย่างนั้น ”

 

วาลานติง

 

“ เรื่องใหญ่ขนาดนี้แต่ที่ประชุมกลับสามารถทำให้เป็นเรื่องไร้สาระได้   ขืนประชุมต่อก็รังแต่จะเสียเวลาเปล่าเท่านั้นเอง   แยกย้ายกันไปไม่ดีกว่าหรือ   ข้าไม่ได้ว่างมานั่งฟังอะไรพวกนี้ ”

 

เบรนทรัสเสียงเย็น

 

เคียดันเป็นคนแรกที่ลุกขึ้น

เขาโค้งให้วาลานแบบแข็งขืนแล้วเดินออกไป

ผู้ใช้เวทมนต์คนอื่นๆ ก็ลุกตามไปด้วย

 

ส่วนดารีลนั้น

เขาดื่มน้ำอย่างใจเย็นจนหมดจอก

แล้วลุกเดินออกไปบ้าง

 

วาลานได้คว้าไหล่ของเขาไว้

แล้วเอ่ยถาม

 

“ เจ้าไม่เป็นไรนะ ”

 

“ ข้าสบายดี ”

 

หนุ่มน้อยคนนั้นตอบ

 

“ เด็กดื้อ   เจ้ารู้ข้าหมายถึงเรื่องใด   เจ้ามีปัญหาอะไรหรือคับข้องใจยังไงสามารถบอกข้าได้ตลอดเข้าใจไหม ”

 

“ ช่างเถอะ   ข้าชินแล้ว   ไม่จำเป็นต้องใส่ใจหรอก ”

 

ว่าแล้วเขาก็เดินจากไปเงียบๆ

 

เมื่ออยู่ตามลำพังกับที่ปรึกษาเขาก็ดูเคร่งขรึมลงไป

 

“ ข้าเคยเตือนท่านหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับเด็กคนนี้   ตอนนี้อายุน้อยยังหาคนรับมือลำบาก   ถ้าขืนปล่อยให้โตไปกว่านี้เกรงว่าท่านเองที่จะไม่ใช่คู่มือของเขา ”

 

“ เขายังเชื่อฟังข้าด้วยดีนี่นา   ถึงอย่างไรเสียเด็กก็ฝึกง่าย   ข้ายังไม่เห็นว่าเขาจะเป็นปัญหา ”

 

วาลานแย้ง

 

“ ดารีลแสดงละครเก่ง   ไม่ว่าบนเวทีหรือในชีวิตจริง   เนื้อแท้ของเขาคือนักฆ่ามือหนึ่งต่อหน้าคนทั่วไปเขาคือผู้ใช้เวทมนตร์ที่สุขุมเยือกเย็น   ต่อหน้าสภากลับกลายเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาที่ห่วงแต่เรื่องกิน   ท่านคิดดูให้ดีตัวตนของเขาที่ท่านรู้จักมันใช่สิ่งที่เขาเป็นหรือเปล่า ”

 

“ เขาเป็นเด็กที่พยายามทำตัวให้โตเกินอายุ   สิ่งที่แสดงออกมาจึงประหลาดเกินไปในบางครั้ง   หรือท่านคิดว่าดารีลอยู่เบื้องหลังการสังหารในครั้งนี้   จึงตั้งข้อกังขาต่อเขา ”

 

“ เด็กคนนี้นั้นเป็นคนที่ชอบทำอะไรมีแบบแผน   เมื่อเขาลงมือต่อหน้าเราจึงจะรู้ว่าเป็นเขา   แต่เมื่อเขาลอบฆ่าร่องรอยทุกอย่างไม่เคยหลงเหลือให้เห็น   ในครั้งนี้แตกต่างออกไปพยานหลักฐานทุกอย่างพุ่งตรงไปที่ดารีลเลยทีเดียว   ถ้าจะกล่าวหาว่าเป็นเขา   ก็จะเป็นการดูถูกฝีมือกันเกินไปหน่อย   อีกอย่างข้าไม่เห็นเหตุผลที่เขาต้องลงมือแค่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งมันเล็กน้อยเกินไป ”

 

เบรนทรัสว่า

 

“ เป็นครั้งแรกที่ท่านปกป้องดารีลน่าประทับใจนัก ”  

 

“ ข้าก็ยังยืนยันว่านั้นดารีลเป็นภัยอันใหญ่หลวง   เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้   ช่วยยืนยันในสิ่งที่ข้ากำลังวิตกกังวลได้เป็นอย่างดี ”

 

“ ใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้แค่ต้องการกำจัดดารีลไปให้พ้นทางมิใช่หรือ   ยังไงเสียเด็กหนุ่มคนนั้นก็ดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว   พวกเราก็ช่วยดูแลอีกแรงแล้วยังมีเรื่องใดให้ต้องกังวล ”

 

“ นี่ไม่ใช่แผนกำจัด   ท่านดูไม่ออกหรอกหรือแต่มันคือการบีบให้ย้ายข้าง   ดารีลนั้นหลักแหลมเขามองเจตนาของผู้อื่นออก   ใครบางคนกำลังชี้ให้ดารีลเห็นว่าคนในสภาและในโอรีเวียนั้นเป็นเช่นไร   เมื่อเกิดเหตุแบบนี้เจ้าเด็กนั่นมีแต่จะเบื่อหน่าย   สุดท้ายก็เอาใจออกห่างท่านแล้วทีนี้คงถูกดึงตัวไปที่อื่น   ที่ๆ จะเป็นผลร้ายต่อพวกเรา   ข้าจึงเตือนท่านอยู่เสมอว่าเด็กคนนี้น่ะ   ถ้าไม่แน่ใจว่าจะสามารถยึดเอาไว้ได้   ท่านก็ต้องกำจัดเสียโดยไว ”

 

“ เรื่องนั้นข้ารู้อยู่หรอกน่า ”

 

วาลานว่า

 

“ แต่อย่างน้อยเขาก็ช่วยเรื่องปรุงยาและหาสมุนไพร   ยากนักจะหาคนมาเทียบเขาได้   ส่วนเรื่องจะถูกดึงตัวไปอย่างไรนั้นในเมื่อเขาถูกจับตามองอยู่แล้ว   คงยากที่ผู้อื่นจะเข้าถึง ”

 

“ ข้านั้นยังประหลาดใจไม่หายกับผู้ที่ท่านเลือกมาเป็นสมาชิกสภา ”

 

เบรนทรัสกล่าว

 

“ คนเก่งๆ ข้าก็ส่งไปทำงานที่เหมาะสมแล้วอย่างไรล่ะ ”

 

คนเป็นนายว่า

 

“ แล้วคนที่เหลือล่ะ   มีตัวเลือกอื่นมากมายแต่ท่านกลับเลือกคนที่ดีแต่ปาก ”

 

“ คนมีความสามารถนั้นข้าเลือกมาจนเพียงพอแล้ว   นอกจากนั้นข้าเลือกที่ความร่ำรวยและไม่ค่อยมีสมองมากนัก   การดูแลรักษาบ้านเมืองนอกจากความฉลาดเงินตราก็สำคัญไม่น้อย   คนที่ท่านกล่าวว่าดีแต่ปากนั้นเพียงข้ากระดิกนิ้วก็รีบขนเหรียญทองมากองตรงหน้านี้แล้ว ”

 

ที่ปรึกษาของเขาหัวเราะ

 

“ ก็ถึงว่าเหตุใดท่านจึงมีเงินใช้มากมายนัก   จนสามารถสร้างกองกำลังลับได้ ”

 

วาลานไม่ได้กล่าวตอบโต้อะไร

เขาเดินไปพิงกรอบหน้าต่าง

 

จ้องมองออกไปไกลแสนไกล

เส้นผมนั้นหงอกจนขาวซีด

 

แต่เขาก็ยังแข็งแกร่งอยู่

 

“ ปลายทางของผู้ใช้เวทมนตร์เช่นพวกเรานั้นคือแดนสวรรค์ ”

 

เบรนทรัสว่า

เขาเดินมายืนเบื้อหลังนายของตน

แล้วมองท้องฟ้าอันเวิ้งว้าง

 

“ ที่นั่นคือที่หมายสุดท้ายและเราจะมีชีวิตเป็นอมตะนิรันดร์ในดินแดนอันสงบสุข ”

 

“ แล้วมันน่ายินดีที่ไหนกัน   แดนสวรรค์เช่นนั้นหรือ   ที่นั่นข้าก็เป็นแค่เศษธุลีแต่ที่นี่บนโลกนี้ข้าคือนายสูงสุดที่ผู้คนล้วนยำเกรง ”  

 

วาลานว่า

สายตาที่เลื่อนลอยกลับแข็งกร้าวขึ้น

 

“ แดนสวรรค์ข้านั้นจักไปเยือนแน่   แต่ต้องเป็นเวลาที่ข้าพร้อมจะโค่นมันลงและขึ้นเป็นใหญ่แทน   เช่นนั้นแล้วยาที่ใช้ต่อชีวิตให้ข้าจึงสำคัญนักในเวลานี้ ”

 

“ จะว่าไปดารีลกับครูใหญ่ปัญญานิ่มกำลังรวมหัวกันทำอะไรอยู่นะ ”

 

เบรนทรัสทำทีเป็นข้องใจ

 

“ ข้าให้ท่านเป็นคนไปสืบมิใช่หรือ   คำตอบนั้นท่านย่อมรู้อยู่แก่ใจ   ไม่เห็นต้องแสร้งทำเป็นสงสัย ”

 

“ ท่านวาลาน   พวกเขาทั้งคู่กำลังพยายามปรุงยาแห่งความเป็นอมตะ ”

 

“ ก็ดีแล้ว   ทุกอย่างราบรื่นใช่ไหม ”

 

วาลานถามเรื่อยๆ พลางเดินกลับมานั่งที่

 

“ นี่ท่านล้อข้าเล่นใช่หรือไม่   ตัวยาพวกนั้นมีต้นตอมาจากศาสตร์มืด   เด็กหนุ่มคนนั้นจะปรุงเองได้อย่างไร   ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใช้มนต์ดำ   ดารีลนั้นมีนิสัยอยากรู้อยากเห็นและชอบทดลอง   มันไม่แปลกหรอกหากเขาจะแอบคบหากับผู้ใช้มนต์ดำ   ท่านจอมวาลานโปรดไตร่ตรองดูว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร   ก่อนที่ทุกอย่างจะยุ่งเหยิงมากไปกว่านี้ ”

 

“ ข้าไม่สนใจวิธีการ   เป้าหมายต่างหากล่ะที่สำคัญที่สุด   ขอเพียงได้มาครองต้องสนใจด้วยหรือว่าใครคือผู้นำมาให้ ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา