โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  114.80K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

148) กล่าวลา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ดารีลไปปรากฏตัวที่หอนอนของเจ้าหญิงลูเซียน่าตั้งแต่เช้าตรู่   เขานำของกำนัลมากมายติดมือไปด้วย   เมื่อหญิงรับใช้ต้อนรับเขาเข้าห้อง   หนุ่มน้อยคนนั้นก็มอบของกำนัลแก่พวกนาง   มีเพียงกล่องไม้ขัดเงาสีน้ำตาลทองเท่านั้นที่เขายังเก็บไว้ไม่มอบให้ผู้ใด
 
“ หลังๆ มานี้เจ้าไม่เคยแจ้งล่วงหน้าก่อนมาพบข้าเลย   ดูสิอาหารที่เตรียมไว้ต้อนรับเลยมีได้เท่านี้   พวกนางกำนัลก็หมดปัญญาที่จะหาของชั้นดีได้ในเวลาอันรวดเร็ว ”
 
พระนางตัดพ้อ
 
ทั้งที่ความจริงอาหารที่ตั้งบนโต๊ะก็ถือว่าดีพอสมควรแล้ว
 
“ แค่น้ำชากับขนมปังปิ้งสองสามชิ้นก็เพียงพอแล้ว   อย่าลำบากเพราะข้าเลย ”
 
ดารีลว่า
พลางลุกขึ้นมาเลื่อนเก้าอี้ให้เจ้าหญิงแสนสวยนั่งหันหน้าเข้าหาเขา
 
“ กล่าวเช่นนี้ข้ายิ่งรู้สึกผิดที่บกพร่องหนัก   ความพึงพอใจของเจ้าคือความยินดีของข้า   เพื่อเจ้าแล้วทุกอย่างต้องดีที่สุด ”
 
หญิงรับใช้ได้นำของกำนัลที่ดารีลมอบให้มาแสดงให้เจ้าหญิงดู
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องประดับล้ำค่า
 
“ เจ้าคงไม่ได้ตั้งใจมาหาข้า   เพียงเพราะของเหล่านี้หรอกนะ   ดูไม่เหมือนเจ้าเอาเสียเลย ”
 
พระนางตรัสเช่นนั้น
แม้จะพึงใจในของกำนัลที่เขามอบให้ไม่น้อย
 
“ อันที่จริง   ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องหนึ่งต้องรับผิดต่อท่าน ”
 
ดารีลกบอกเรียบๆ
หลังจากจิบน้ำน้ำชาไปอึกหนึ่ง
 
พระนางจึงจ้องหน้าเขา
ด้วยดวงหทัยที่หวาดหวั่น
 
เค้าลางของความกังวล
ได้ปรากฏชัดตรงหน้าแล้ว
 
“ เจ้าทำอะไรลงไปอย่างนั้นหรือ ”
 
“ หลังจากทบทวนมาหลายครั้ง   ข้าต้องประหลาดใจที่พวกเราสามารถมาได้ไกลขนาดนี้   ทั้งที่ความเป็นจริงไม่ควรเป็นเช่นนี้เลย   แต่สุดท้ายมีสิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ   เราทั้งคู่เดินมาสุดจนทางแล้ว ”
 
ดารีลกล่าวทั้งหมดโดยไม่สะทกสะท้าน
 
“ เจ้ากำลังจะบอกอะไรกันแน่ ”
 
“ ข้าได้ส่งจดหมายไปยังเมืองอันดอรีสเพื่อให้ส่งคนมารับตัวท่านกลับไป   นับจากวันนี้ข้าไม่อาจรับรองความปรอดภัยให้ท่านได้ ”
 
“ ข้าจะไปต่อเมื่อเจ้าไปด้วยเท่านั้น ”
 
เจ้าหญิงลูเซียน่าตรัส
พระสุระเสียงนั้นเด็ดขาดยิ่งนัก
 
“ ไม่มีใครสมควรอยู่เคียงข้างข้า   ท่านเองก็รู้   ข้าไม่ได้เป็นผู้ที่ท่านวาดฝันอีกต่อไปแล้ว   มันจะดีที่สุดหากเราไม่พบกัน   ข้าจึงอยากให้ท่านไปเสีย   หลบให้พ้นจากทุกสายตา   รวมทั้งข้าด้วย ”
 
“ ข้าขอร้องให้เจ้าปล่อยวาง   คิดไม่ถึงสิ่งที่เจ้าปล่อยไปกลับกลายเป็นข้าเอง   ดารีลอย่าทำแบบนี้เลยนะเจ้ายังมีทางเลือก   หรือหากเจ้ายังดึงดันจะเลือกทางนั้นก็ให้ข้าไปด้วยเถิด ”
 
“ ท่านหญิง   ชีวิตข้านั้นมืดมนนักในเมื่อท่านคือแสงสว่างเดียวของข้า   ก็อยากรักษาไว้ให้นาน   ได้โปรดเชื่อฟังข้าอีกสักครั้ง   ข้าให้คำมั่นว่าหากเรื่องร้ายๆ จบลงและเราทั้งคู่ยังมีชีวิตอยู่   ข้าจะตามหาท่านต่อให้พลิกแผ่นดินแผ่นฟ้าข้าก็จะตามหาท่านจนพบ   เมื่อถึงเวลานั้นแล้วเราจะไม่พรากจากจากกันอีกเลย ”
 
พ่อมดน้อยได้กล่าวคำสัญญา
 
“ เจ้าไม่ใช่ผู้อยู่รอด   หากเจ้าเลือกทางนั้นมีเพียงความตายที่รออยู่   ข้าสามารถมองเห็นทุกอย่างได้จากตรงนี้ ”
 
พระนางกล่าว
 
“ สิ่งที่ท่านเห็นคือความคิดของข้า   หาใช่ความจริงในอนาคตไม่   เมื่อเวลาเปลี่ยนข้าอาจเปลี่ยนก็ได้ ”
 
“ เจ้าไม่เปลี่ยนหรอก ”
 
“ ในเมื่อท่านรู้แน่เช่นนี้แล้วเหตุใดจึงพยายามอยู่ ”
 
“ เจ้าบอกให้ข้าไป   แต่กับเด็กน้อยคนนั้นเจ้ากลับให้อยู่   เพราะอะไรกัน ”
 
เจ้าหญิงลูเซียน่าถามถึงฟิโลโซเฟอร์
 
“ เด็กคนนั้นมีชะตากรรมเป็นของตนเอง   แต่ถึงอย่างไรข้าก็ได้บอกลาเขาล่วงหน้าไปแล้ว   ที่ให้เขาอยู่เพราะว่าข้าจะเป็นคนจากไปเอง   ในวันหนึ่งข้างหน้า ”  
 
“ แต่ข้ารักเจ้าอย่าให้ข้าไปเลยนะ   ข้าไม่อยากรอฟังข่าวร้ายของเจ้า   ไม่ว่าเรื่องใดๆ ก็ตาม ”
 
“ ท่านเห็นชะตากรรมของท่านหรือไม่ ”
 
ดารีลย้อนถาม
 
“ ข้าไม่สน   ข้าจะอยู่กับเจ้า   หรืออย่างน้อยได้ตายในอ้อมแขนของเจ้าก็ยังดี   อย่าให้ข้าจากไปเลยนะข้าต้องขาดใจตายแน่ถ้าไม่มีเจ้า ”
 
“ ท่านหญิง   เมื่อแรกข้าได้พบท่านข้าก็หวังให้ท่านเป็นสุข   นี่คือสิ่งที่ข้าทุ่มเททั้งความสามารถและเวลาเพื่อท่าน    ”
 
เขาว่าพลางเปิดกล่องไม้นั้น  
เม็ดยาสีอำพันเม็ดหนึ่งวางอยู่บนผ้ากำมะหยี่สีเข้ม
 
“ ท่านจะกลับมาแข็งแรงดังคนทั่วไป   โดยไม่ต้องพึ่งสิ่งวิเศษใดๆ อีก ”
 
ว่าแล้วก็เลื่อนไปให้เจ้าหญิง
 
พระนางลูเซียน่าคุกเข่าลง
ด้วยสีหน้าเจ็บปวด
 
หนุ่มน้อยคนนั้นได้คว้าคว้ามือบอบบางนั้น
ไว้แต่ไม่ดึงให้ลุกขึ้น
 
“ อย่าลดเกียรติตนเองเพื่อข้าเลย ”
 
“ ไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็จะปล่อยมือข้าไปอย่างนั้นหรือ ”
 
ดารีลได้แต่ก้มหน้ารับผิด
เขาไม่อาจทำชีวิตให้ดีกว่านี้อีกแล้ว
 
            ไม่นานหลังจากนั้น
เจ้าหญิงลูเซียน่าก็จากไปพร้อมกับขบวนเสด็จที่แข็งแกร่ง
 
ในวันนั้น
ไร้วี่แววของพ่อมดน้อยดารีล
ที่มายืนส่งเสด็จเหมือนเช่นเคย
 
เจ้าหญิงได้แต่เฝ้ามองกลับหลัง
ดูปราสาทขาวที่ห่างไกลออกไป
 
เรื่องราวแสนหวานดังเทพนิยายได้พังทลายลง
พร้อมกับน้ำพระเนตรที่ร่วงหล่น
 
วันข้างหน้าช่างมืดมิดและสิ้นหวังเหลือเกิน
 
            มีเสียงเล่าลือมากมายเกี่ยวกับการจากไปของเจ้าหญิง
เป็นเรื่องให้ซุบซิบได้ไม่เว้นแต่ละวัน
 
“ ได้ยินมาว่าพวกเขาเลิกคบกัน ”
 
โลธอร์โอดครวญ
 
“ อุตส่าห์คิดว่าจะได้ไปร่วมงานอภิเษกสมรส   หมดกันขนมหวานแห่งอันดอรีส ” 
 
“ นี่คือทั้งหมดที่เจ้าคิดหรือ ”
 
ฟีไลร่าท้วง
 
“ แล้วมันไม่ดีหรือไง   งานมงคลน่ะ ”
 
“ เจ้ารู้หรือเปล่าว่าเกิดอะไรขึ้น   ข้าได้ยินมาว่าเป็นเพราะเจ้าหญิงลูเซียน่าทนนิสัยประหลาดของดารีลไม่ไหว   เดี๋ยวคุ้มดีคุ้มร้าย   อาละวาดผู้คนไปทั่ว   จนพระนางเบื่อที่ต้องคอยตามล้างตามเช็ดให้ ”
 
เลโอน่าหันไปถามเด็กชายชาวซีนาร์ย
 
“ ข้าจะไม่ถามเขา   เว้นแต่เขาจะพูดออกมาเอง   ข้าบอกได้อย่างหนึ่งดารีลนั้นเศร้าใจเป็นอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น   และสำหรับข้าแล้วข่าวลือที่ว่ามาล้วนแต่ไร้สาระทั้งสิ้น ”
 
“ แต่ข้าไม่คิดเช่นนั้นเรื่องนี้ไม่ชอบมาพากล ”
 
อีเลียสว่าบ้าง
 
“ ทั้งที่ไม่มีเค้าลางมาก่อน   พวกเขากลับเลือกที่จะแยกจากกันเรื่องนี้ต้องมีเหตุผล   ข้าเชื่อฟิโลโซเฟอร์ข่าวลือพวกนี้ไม่เป็นจริง   คนปล่อยข่าวอาจเป็นดารีลเองด้วยซ้ำ   เจ้าหญิงนั้นหลงใหลในตัวหมอนั่นมากไม่มีทางตัดใจได้แน่ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ”
 
เด็กน้อยร่างผอมว่าพลางเคาะนิ้วเป็นจังหวะกับหนังสือปกหนา
 
“ ด้วยนิสัยของดารีลที่ชอบวางแผนและทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน   คงจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแน่   เขาจึงผลักดันเจ้าหญิงลูเซียน่าออกไปก่อนที่จะเกิดเหตุร้าย ”
 
“ แล้วเหตุใดเขาจึงไม่บอกพวกเราบ้างล่ะ ”
 
ฟีไลร่าท้วง
 
“ ก็เราไม่สำคัญอย่างไรล่ะ   คิดว่าเราเป็นใครคิดว่าหมอนั่นเป็นคนแบบไหน   ถ้าไม่มีผลประโยชน์บางอย่างเขาไม่แลใครหรอกนะ   และเราก็ไร้ค่าเกินไปสำหรับเขา ”  
 
“ เจ้ากล่าวเกินไปแล้วอีเลียส   ถ้าว่ากันตามตรงจอมเวทวาลานนั้นสามารถก่อประโยชน์ให้เขาไม่น้อยเลย   แม้ต่อหน้าเขาจะกล่าวเข้าข้างจอมเวทวาลานแต่ในความเป็นจริงที่เรารู้ๆ กันว่าดารีลนั้นทำตัวห่างเหินพ่อมดเฒ่านั่นอยู่ตลอด ”
 
ฟิโลโซเฟอร์แย้ง
 
“ อาจเป็นเพราะจอมเวทวาลานนั้นรู้เท่าทัน   ว่าแต่เจ้าล่ะคนพลัดถิ่นตัวน้อย   เขาได้บอกอะไรเจ้าบ้างเกี่ยวกับตัวตนของเขาหรือเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นในโอรีเวียแห่งนี้ ”
 
เด็กชายตัวน้อยนิ่งอึ้งไป
เรื่องราวในค่ำคืนนอกกำแพงเมืองโอรีเวียวนเวียนอยู่ในหัว
 
เขารู้ว่าหนุ่มน้อยรูปงามคนนั้นพยายามบอกเขาถึงบางสิ่งบางอย่าง
แต่ก็ช่างเถิด
 
เมื่อลมหายใจของพวกเขาเป่ารดกันและกัน
เรื่องราวของวันข้างหน้าก็สุดแล้วแต่จะเป็นไป
 
ส่วนเรื่องราวในคืนนั้น
ก็จดจำกันสองคนก็พอ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา