โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  114.19K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

22) สู่ประตูเมือง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ม้าทั้งห้าทะยานไปบนทุ่งหญ้าอย่างรวดเร็วรางกับลูกธนู   แต่ม้าสีขาวตัวนั้นกลับพานายน้อยผู้งามสง่ารั้งท้ายมาอย่างจงใจ   เป็นเหตุให้เหล่าทหารองครักษ์   ต่างต้องเหลียวหลังไปมองด้วยความกังวล   
 
ฟิโลโซเฟอร์หมอบอยู่ด้านหน้าทหารม้าคนหนึ่ง   มือแข็งแรงโอบรัดร่างเขาไว้   ลมปะทะใบหน้าจนผมสีน้ำตาลแดงปลิวกระจาย   เด็กชายรู้สึกเป็นอิสระและเบิกบานใจ   เขานึกอยากให้เป็นว่าเขากำลังขี่ม้าโดยลำพัง   โดยไม่มีใครคอยประคองอยู่ด้านหลัง   เด็กน้อยลูกชาวไร่ชาวนาคนนี้ยังไม่เคยฝึกขี่ม้า   มารดาของเขามักอ้างเรื่องอายุอยู่เสมอ   แต่เจ้าตัวมั่นใจว่าสักวันหนึ่งถ้าได้ลองเขาต้องทำได้ดี
 
 
ถัดออกไปไกลลิบ   กำแพงเมืองเห็นเป็นเงาดำทอดยาวอยู่เหนือทุ่งหญ้า   พระอาทิตย์คล้อยต่ำลงมากท้องฟ้าทาทับด้วยสีแดงที่คล้ำลงเรื่อยๆ   เสียงนกประหลาดส่งเสียงแกรกกรากอยู่เหนือหัว   ราวกับจะเตือนถึงลางร้าย
  
ม้าศึกสีขาวที่เคยอยู่รั้งท้ายแยกตัวออกมาด้านข้าง   มันเร่งฝีเท้าขึ้นพุ่งทะยานราวกับลมพายุผ่านหน้าม้าทั้งห้าไป   ด้วยความเร็วจนน่าประหลาดทั้งคนทั้งม้าก็ผ่านประตูเมืองลับจากสายตาของผู้ตามหลัง   
 
กำแพงเมืองเริ่มปรากฏให้เห็นเด่นชัดตรงเบื้องหน้า   ตัวกำแพงทำมาจากก้อนหินขนาดใหญ่   สกัดเป็นแท่งแล้วนำมาวางเรียงซ้อนกัน   ประตูทางเข้าเป็นช่องขนาดใหญ่บานประตูหล่อขึ้นจากเหล็กกล้าสีดำชั้นดี
 
 
ที่หน้าประตูเมือง   ทหารยามกำลังก่อกองไฟ   อีกไม่นานประตูบานนี้ก็จะถูกปิดลง   ทหารยามสองสามนายเดินเตร็ดเตร่อย่างเกียจคร้านแถวหน้าประตูที่เปิดกว้าง   ภารกิจวันนี้ใกล้เสร็จสิ้นสมบูรณ์   เมื่อทหารยามกะกลางคืนมาเปลี่ยนเวน   ก็จะได้เวลากลับบ้านเพื่อพักผ่อน
   
เมื่อพวกเขาเห็นม้าสีขาวบริสุทธิ์ทรวดทรงสง่างามวิ่งตรงเข้ามา   ทหารยามคนหนึ่งจึงทำสัญญาณให้หยุด   แต่ม้าตัวนั้นหาได้หยุดไม่   มันพุ่งทะยานผ่านไปดื้อๆ จนกลุ่มทหารเฝ้าประตูต้องกระโดดหลบกันกระเจิดกระเจิง
 
“ นั่นดารีลนี่นา ”
 
ทหารยามคนหนึ่งพูด
 
“ ต้องใช่เจ้านั่นแน่ๆ คนอะไร   บทจะดีก็ดี   บทจะบ้าก็บ้าเหลือเชื่อ ”
 
 
กลุ่มม้าที่อาเธอร์อาศัยมานั้นหยุดลงแค่ตรงหน้าประตู 
ฟรานซิส โบกมือทักทายทหารเฝ้ายามหน้าประตู
พวกเขาบอกกล่าวกันแต่เพียงว่าพาคนจรจัดมาส่งเท่านั้น
แล้วก็รีบรุดจากไป
 
“ พวกเจ้าเป็นใครกัน ”
 
ทหารยามคนหนึ่งถามขึ้น
สายตากวาดดูสารรูปของพวกเขาทีละคนแล้วย่นจมูก
 
“ เมืองนี้ชักจะมีคนจรมาขอเศษทานมากเกินไปแล้ว   บอกไว้ก่อนว่าเมืองนี้ไม่อนุญาตให้ขอทานจรจัดนอนตามข้างถนนหรือสวนหย่อมหรอกนะ   ถ้ารู้ตัวว่าไม่มีที่ซุกหัวนอนก็รีบไสหัวไปซะ ”
 
“ พวกเราแค่ต้องการเข้าไปข้างใน   ไม่ได้มีเจตนาจะขออะไรจากพวกท่าน ”
 
อาเธอร์ตอบ
 
“ ไม่ได้   ไม่เห็นหรือไงว่าตะวันใกล้จะตกดินแล้ว ”
 
“ แต่ยังไม่ใช่เวลาที่จะปิดกำแพงเมืองมิใช่หรือ ”
 
อาเธอแย้ง
เขาพยายามทำใจให้เย็นเพราะไม่อยากตอบโต้คนพวกนี้ให้มากความ
 
“ ถูก   แต่คนเช่นพวกเจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้พักแรมในเมือง   ฟังแค่นี้ไม่เข้าใจหรือย่างไร   ถ้าอยากจะพักโน่นหมู่บ้านนอกกำแพงโน่น ”
 
ทหารยามคนนั้นเริ่มเสียงดัง
 
“ เฮ้! อาเธอร์นั่นเจ้ารึเปล่า ”
 
ทหารยามแก่ๆ คนหนึ่งถามขึ้น
เขาได้ยินเสียงโวยวายจึงเดินมาดู
เมื่อเห็นดังนั้นคนเฝ้าประตูที่อ่อนวัยกว่าจึงก้มหัวแล้วถอยออกไป
 
“ ใช่เจ้าจริงๆ ด้วย   จากไปนานเหลือเกิน   งานศพก็เสร็จสิ้นไปนานแล้วเช่นกัน   ข้านึกว่าเจ้าจะไม่กลับมาอีกแล้ว ”
 
ชายชราคนนั้นจ้องอาเธอร์อย่างสำรวจตรวจตรา
 
“ อย่ากล่าวเช่นนั้นท่านเนเมน   ข้ายังคิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างของเมืองนี้   ท่านคงสบายดีนะ ”
 
อาเธอร์พูด
เขาเข้าไปสวมกอดหัวหน้ายามที่อดีตคุ้นเคยกันดี
 
“ ในที่สุดท่านก็ได้เป็นหัวหน้ายามซะที ”
 
อาเธอร์ชี้ที่เครื่องหมายตรงหัวเข็มขัด
 
“ ข้าก็เป็นได้แค่นี้แหละ   แค่ยามแก่ๆ คนหนึ่ง   นั่นคงจะเป็นครอบครัวของเจ้าสินะ   ข้าได้ยินข่าวมาบ้างเหมือนกันไม่นึกว่าจะได้เจอ   ดูเจ้าสิเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน ”
 
เนเมนหันไปทางคาโลไรน์แล้วก้มมองเด็กๆ
 
“ ถูกแล้ว   นั่นคาโลไรน์ส่วนเด็กๆคือฟอโลโซเฟอร์กับคาโอเรีย   และนี่คือทั้งหมดที่ข้ามี ”
 
“ ข้าเคยเห็นเจ้าตั้งแต่ตัวเจ้ายังเป็นเด็ก   จนเจ้ากลายเป็นพ่อคนแล้ว    ตอนนี้ข้าคงแก่มากสินะ ”
 
 
หลังจากทักทายกันจนครบถ้วนดีแล้ว
หัวหน้ายามเฝ้าประตูก็เชิญพวกเขาเข้าไปในเต็นท์ขนาดใหญ่
 
“ ที่นี่เป็นที่พักของพวกเรา   บางครั้งก็ใช้เป็นที่รับรองแขกแบบชั่วคราว   ข้าวของเครื่องใช้ก็ออกจะครบถ้วนอยู่   พวกเจ้าก็พักเสียก่อน   พรุ่งนี้อยากไปไหนก็ค่อยไปแล้วกัน ”
 
เนเมนว่า
 
“ แบบนี้จะดีหรือ   ข้าเกรงว่าจะรบกวนท่านเปล่าๆ ”
 
“ โธ่! จะเป็นไรไปล่ะจากไปเสียนานต้องมีเรื่องคุยกันอยู่แล้ว   เจ้ามีธุระเร่งรีบหรืออย่างไร   อีกอย่างในเมืองตอนนี้ผู้คนมากมาย   ค่ำมืดแบบนี้หาที่พักลำบากแน่   เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าตอนนี้ไม่ใช่ตัวคนเดียว   แต่มีเชือกพ่วงอีกสาม ”
 
อาเธอร์จึงนั่งลงอย่างสงบเสงี่ยม
ส่วนครอบครัวของเขาต่างก้มหน้านิ่ง
การต้อนรับที่หน้าประตูเมืองไม่สู้ดีเอาเสียเลย
 
“ ข้าได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเมืองซีนาร์ย   คงจริงสินะเรื่องร้ายแรงทีเดียว ”
 
เนเมนถามขึ้นในตอนหนึ่ง
 
“ อาจจะเลวร้ายกว่าที่ท่านได้ยินมา   แล้วทางสภาว่าอย่างไรบ้าง ”
 
“ ข้าไม่รู้หรอก   ตอนนี้หลายๆ เมืองต่างเกิดเรื่อง   ทุกๆ ที่ก็หวังจะแก้ปัญหาให้เร็วที่สุดแต่คนมีฝีมือมีจำกัด   ปัญหาเดิมยังแก้ไม่ตก   ข้าบอกได้แค่อย่าหวังให้มาก ”
 
เนเมนว่า
เขายังจ้องเด็กๆด้วยความเอ็นดู
 
ยามคนหนึ่งแกะห่อกาแฟเทลงหม้อ
ไก่ย่างส่งกลิ่นหอมฉุยอยู่บนกองไฟ
คนนั่งเฝ้าเขี่ยถ่านเร่งให้ไฟแรงขึ้น
 
“ ข้าได้ยินพวกนั้นพูดถึงหมู่บ้านนอกกำแพง   มันหมายถึงอะไรหรือ ”
 
อาเธอร์ถาม
ชายชราผู้เป็นหัวหน้ายามถอนหายใจ
 
“ ทุกวันนี้มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นมากมาย   ผู้คนต่างหวาดกลัวและหลายๆ คนก็ทำเช่นเดียวกับพวกเจ้า   คือหวังมาหลบภัยที่โอรีเวีย   แต่ดูเอาเถิดเมืองเล็กๆ เมืองเดียวจะรองรับผู้คนมากมายได้อย่างไร    เจ้าผู้ครองนครจึงสั่งให้คนไร้ที่อยู่อาศัยในโอรีเวีย   ออกไปสร้างบ้านริมกำแพงทางทิศตะวันตก ”
 
“ แล้วพวกเขาจะปลอดภัยหรือ ”
 
คาโลไรน์เสียงตระหนก
 
“ ให้อยู่นอกกำแพงแบบนั้น ”
 
“ ไม่เคยมีอันตรายใด   กรายเข้ามาใกล้เขตดินแดนของโอรีเวีย ”
 
เนเมนว่า
 
“ แต่เมื่อครู่   พวกเราถูกมังกรดำสองตัวโจมตีใกล้ๆ โอรีเวียนี่เอง ”
 
อาเธอร์ลดเสียงลงเป็นเสียงกระซิบ
 
“ เรื่องแบบนั้นไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก   อย่ากังวลไปว่าแต่พวกเจ้ารอดพ้นจากมังกรได้อย่างไร   หรือเจ้าคนเดียวล้มมังกรพร้อมกันสองตัว ”
 
ชายชราว่าเรื่อยๆ ราวกับนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับเขา
 
“ พอดีว่ามีพ่อมดคนหนึ่งช่วยพวกเราไว้   ข้ายังไม่รู้ชื่อของเขาเลย   แต่เหมือนมีใครบางคนเรียกเขาว่าดารีล ”
 
“ คงใช่เขานั่นแหละ   พ่อมดอายุน้อยแห่งโอรีเวีย   มิน่าพวกเจ้าจึงมาพร้อมกับองครักษ์ของเขา ”
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา