โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  114.18K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) ห้องพัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
หลังจากที่วอลค่อนออกไปความเงียบก็เข้าครอบงำภายในห้องนั้น   
ความอ้างว้างและรู้ลึกแปลกแยกแปลกถิ่นเริ่มก่อตัวขึ้น  
อาเธอร์ล้มตัวนอนบนเตียงที่มีฟูกเก่าๆ สีซีด
คาโลไรน์หันมายิ้มให้เขาอย่างอ่อนโยน
 
“ จบลงซะทีนะคะในที่สุดเราก็มาถึงจนได้   ข้านึกว่าเราจะไม่มีวันนี้เสียแล้ว ”
 
“ คาโลไรน์ยังไงเราก็ต้องมาถึงแน่อยู่แล้ว ”
 
เขาพูดมือข้างหนึ่งคว้าคาโลไรน์ให้นั่งลงใกล้ๆ
 
“ ข้าดีใจที่เราไม่ต้องพักกับพวกทหารยามในคืนนี้ ”
 
นางว่า
 
“ ท่านเนเมนเป็นคนดีนะ   ข้าเชื่อว่าเราสามารถพักอยู่ที่นั่นได้อย่างปรอดภัย   แต่อยู่ที่นี่เราสบายใจกว่าจริงไหม ”
           
คาโอเรียยืนนิ่งหูแนบกำแพง  
ภายในห้องนี้มีเพียงครอบครัวของนาง
แต่เบื้องหลังกำแพงที่กั้นขวางห้องอยู่นั้นเต็มไปด้วยคนแปลกหน้ามากมาย   
ถัดออกไปเพียงห้องข้างๆ เท่านี้เอง
นางรับรู้ได้ว่ามีคนอื่นไกลที่นางไม่รู้จักอาศัยอยู่
 
“ ท่านพ่อเราต้องอยู่ที่นี่กันจริงๆ หรือคะ ”
 
คาโอเรียถามขึ้นด้วยความกังวลใจ
 
“ แค่คืนนี้คืนเดียวลูก   พรุ่งนี้เราก็จะไปอยู่บ้านของเราแล้ว ”
 
ฟิโลโซเฟอร์วางดาบไว้บนโต๊ะ
แล้วหันไปทางบิดา
 
“ ท่านพ่อคิดว่าคำพูดของดารีลเชื่อถือได้หรือไม่ ”
 
“ เรื่องอะไร ”
 
“ เกี่ยวกับดาบเล่มนี้   เราต้องทำตามคำแนะนำของเขา   หรือพาไปหาท่านวาลาน ”
 
“ เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ ”
 
“ ไม่รู้สิ   แต่ข้าว่าเขาดูจริงใจดี   ไม่รู้ก็บอกไม่รู้   ดังนั้นสิ่งที่เขาแนะนำน่าจะดีที่สุดแล้ว   ท่านพ่อคิดว่าอย่างไรบ้าง ”
 
“ ข้ามีสิ่งหนึ่งอยากเตือนเจ้า   ผู้ใช้เวทย์มนต์นั้นชอบทำตัวแปลกแยกและเข้าถึงยาก   พวกเขาไม่พูดกับคนนอกหากไม่จำเป็น   ข้ารู้สึกว่าดารีลมีส่วนคล้ายท่านดีมีนเขาตั้งใจฟังทุกคำที่เราพูด   ตอบคำถามเราอย่างตรงไปตรงมา   บอกตามตรงข้าเชื่อใจเขา   แต่อย่าลืมว่าเขาอายุยังน้อย   สิ่งที่เขาคิดอาจไม่ถูกทั้งหมด   สำหรับเรื่องดาบเล่มนี้คำแนะนำของเขาก็น่าสนใจ   ตกลงเราซ่อนมันก่อนรวมทั้งเรื่องที่พวกเราข้ามเทือกนั่นมาก็ต้องปกปิดด้วย ”
 
“ ทำไมเราพูดเรื่องในหุบเขาไม่ได้ล่ะคะ ”
 
คาโอเรียสงสัย
 
“ เพราะมีผู้คนมากมายสนใจหุบเขานั่นแต่หาทางเข้าไปไม่ได้   หากรู้ว่าพวกเราไปมาแล้วอาจมีคนบีบบังคับให้เรานำทาง   เจ้าคงไม่อยากเข้าไปอีกครั้งหรอกนะ ”
 
“ ไม่อย่างแน่นอน   ครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว ”
 
 
วอลค่อนเคาะประตูเรียก
เขานำขนมปังปิ้งกับนมอุ่นมาให้
 
“ ไม่เห็นต้องลำบากเลยพวกเราสบายดีแล้ว ”
 
อาเธอร์ท้วง
 
“ ก็ไม่ได้ลำบากอะไรนี่นา   ขอให้หลับอย่างสุขสบายนะข้าต้องรีบแล้ว   ข้างล่างมีปัญหานิดหน่อย ”
 
“ เกิดอะไรขึ้น ”
 
อาเธอร์ตื่นตัวทันที
 
“ แค่คนเมาน่ะ   ไม่มีอะไรหรอกข้าเจอมานักต่อนัก ”
 
คาโลไรน์มองตามวอลค่อนที่ก้าวพ้นประตูไป  
นางตามไปสำรวจดูว่าลงกลอนเรียบร้อยดีแล้ว
 
“ ข้ารู้สึกไม่ดีเลยที่นี่เต็มไปด้วยคนป่าเถื่อนหยาบคาย ”
 
นางเปรยขึ้น
 
“ เอาเถอะคาโลไรน์เขาก็อยู่ส่วนเขา   เราก็อยู่ของเราอย่างนี้   พวกคนเดินทางน่ะเดี๋ยวมาเดี๋ยวไปอยู่ที่ไหนไม่นานหรอก ”
 
เขาโน้มคอนางเข้ามาใกล้ๆ
 
“ เราปลอดภัยแล้วรู้ไหมลูกๆ ของเราก็อยู่ภายใต้อำนาจคุ้มครองของกำแพงมนตราแห่งโอรีเวีย   จะไม่มีปีศาจตนใดเข้ามาทำร้ายลูกๆ ของเราได้   เจ้ายังกังวลอะไรอีก ”
 
“ เปล่าข้าคงยังไม่ชิน ”
 
ฟิโลโซเฟอร์หยิบขนมปังปิ้งขึ้นมากัดแล้วสำลักแทบคายออกมา
 
“ ทำไมฉุนปร่าแบบนี้ ”
 
อาเธอร์หันไปมองแล้วยิ้ม
 
“ อาหารเมืองโอรีเวียเน้นเครื่องเทศนะเจ้าไม่ชอบหรือ ”
 
เด็กชายไม่ตอบ
หันไปมองเหยือกนมอุ่นแล้วทำท่าขนลุก
 
“ อย่าบอกนะว่าในนี้ก็ใส่ไว้ด้วย ”
 
 
คืนนั้นพวกเขาหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน  
แม้ว่าจะไม่ฝันอะไรเลย
แต่ในการหลับใหลนั้นพวกเขากลับรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ
มันกำลังร่ำร้องด้วยใจที่อำมหิตด้วยความจิตที่เคียดแค้น
 
อาเธอร์พยายามข่มตานอนให้หลับ  
ความว้าเหว่ยังฝังแน่นสิ่งบางสิ่งที่เขาเฝ้ารอคอยได้สูญหายไปตลอดกาล
พรุ่งนี้เขาจะกลับบ้าน   
บ้านที่ไม่มีอะไรหลงเหลืออยู่นอกจากความทรงจำ   
  
 
พวกเขาล่ำลาวอลค่อนในตอนเช้าตรู่  
อาเธอร์พาครอบครัวออกไปทางตลาดเก่าที่เต็มไปด้วยผู้คน
ต่างเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ อย่างไม่รีบร้อน
เขาปล่อยให้คนอื่นๆ ได้ชื่นชมเมืองบ้าง
ส่วนตัวเขาคิดว่าเมืองนี้เปลี่ยนไปไม่มากนัก
 
“ ที่นี่แหละบ้านของเรา   อย่างน้อยก็ชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่จะนานเท่าใดข้ายังบอกไม่ได้ ”
 
อาเธอร์พูดเมื่อมาหยุดอยู่ตรงบ้านหลังหนึ่ง  
มันเป็นบ้านตึกเก่าแก่กระจกหน้าต่างหม่นมัวบ่งบอกว่าไม่มีไครอยู่ที่นี่มานานแล้ว   
เขาไต่ขึ้นไปตามบันใดหินที่ทอดไปสู่ประตูหน้า
บานประตูไม้โอ๊คขนาดใหญ่สีซีดจางลงตามกาลเวลา   
เขาเอื้อมมือไปจับห่วงทองเหลืองแล้วออกแรงผลักมันแต่มันไม่ขยับเขยื้อน
 
อาเธอร์ควานหาลูกกุญแจทองเหลืองที่บิดาของเขาฝากไว้ไห้   มั
นอยู่ในห่อผ้าที่ติดมาจากซีนาร์ย
 
“ ท่านพ่อเคยอยู่บ้านหลังนี้มาก่อนหรือคะ ”
 
เสียงของคาโอเรียดังจากด้านหลัง
 
“ เปล่าหรอกลูกเมื่อก่อนเคยเปิดให้คนเช่าแต่นั่นน่ะนานมาแล้ว ”
 
เขาตอบพลางไขกุญแจ
เมื่อประตูเปิดออกขอบล่างที่ครูดไปกับพื้นส่งเสียงร้องโหยหวน  
อาเธอร์ชะงักไปชั่วครู่สงสัยว่าเขาต้องลงมือขัดประตูใหม่เสียแล้ว
 
“ แล้วที่ท่านพ่อบอกว่าบ้านคือที่ไหนล่ะ ”
 
“ บ้านหลังนั้นใหญ่มาก   และมีผู้คนมากมาย   แต่เราจะยังไม่ไปที่นั่นไม่ใช่ตอนนี้ ”
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา