โอรีเวีย ( เมืองต้องสาป )

7.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2563 เวลา 18.27 น.

  188 บทที่
  11 วิจารณ์
  112.41K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 20.35 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

55) วิวาท

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ห้องโถงอาหารในเวลานี้เงียบกริบ   นักเรียนที่รับประทานอาหารเสร็จแล้วก็ยังไม่ลุกจากที่   สายตาแทบทุกคู่จับจ้องมายังกลุ่มของฟิโลโซเฟอร์   น้อยคนนักที่กล้ามีเรื่องกับเจ้าชายเอลานอส   ในระหว่างที่เด็กๆ มองหน้ากันอย่างเอาเป็นเอาตายเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น

 

“ ในเมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว   ก็ขอเชิญเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ไปพักผ่อนเสียเถิด   ปล่อยให้คนอื่นได้อยู่ในที่ทางของเขาบ้าง ”

 

ดารีลนั่นเอง

เขาเดินมาหยุดข้างเจ้าชายตัวน้อยพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร

เบื้องหลังของเขาคือเจ้าหญิงลูเซียน่าพร้อมด้วยบริวารอีกห้าคน

 

“ อย่ามายุ่งเรื่องของข้า ”

 

เอลานอสตอบด้วยน้ำเสียงกักขฬะ

 

“ ข้าคงต้องเตือนความทรงจำของท่าน   เจ้าชายเอลานอสบุตรแห่งกษัตริย์แฮโรด   ความสงบเรียบร้อยในปราสาทขาวคือหน้าที่ของข้า ”

 

“ ถ้าอย่างนั้นดีเลย ”  

 

เจ้าชายน้อยชี้ตรงปากที่ยังคงมีเลือดไหล

 

“ ข้าถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสเจ้าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ”

 

ดารีลยิ้มแล้วกล่าวว่า

 

“ มันคงเป็นปัญหาใหญ่ของโอรีเวีย   ผู้กล้าฝึกหัดถูกเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ทำร้ายจนบาดเจ็บ   ทั้งที่มีทหารคุ้มกันอยู่ข้างกาย   จอมเวทวาลานจำเป็นต้องรู้เรื่องนี้   บางทีท่านอาจมีหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษไปยังเมืองโอลีออน   สำหรับความน่าอับอายที่เกิดขึ้น ”

 

คำพูดนั้นสร้างความโกรธเคืองให้กับเจ้าชายเอลานอสเป็นอย่างมาก

แต่เขารู้ตัวว่าทำอะไรคนตรงหน้าไม่ได้

และสมุนทั้งสองก็ขี้ขลาดเกินไป   

 

“ ดารีล   อย่าได้บังอาจกับข้า   เจ้าคิดว่าการเป็นคนโปรดของครูใหญ่นั้น   จะสามารถคุ้มหัวเจ้าได้อย่างนั้นหรือ ”

 

เจ้าชายน้อยยังไม่วายขู่

 

 “ แน่นอนว่าไม่ได้   และตำแหน่งเจ้าชายก็ปกป้องชีวิตของท่านไม่ได้เช่นกัน   ถ้าหากท่านยังหาเรื่องคนไม่เลือกหน้าเช่นนี้ ”

 

น้ำเสียงของหลอดดารีลยังคงสุภาพ

ทหารคุ้มกันที่มากับเจ้าชายต่างจ้องมองดูพ่อมดรูปงามด้วยสีหน้าหวาดหวั่น  

มีเพียงเจ้าชายอายุน้อยที่ยังยืนหยัดสู้

 

“ อ้อใช่สิ   จากตระกูลนักรบกระจอกๆ ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ใช้เวทมนตร์   เจ้าขู่ได้ทุกคนอยู่แล้วใครเขาจะกล้า   ข้าอยากรู้นักทุกคนในนักตระกูลของหลอดเดเวอร์ลอสล้วนหน้าตาอัปลักษณ์   แต่เจ้ากลับห่างไกลสิ่งเหล่านี้   เรื่องที่ว่าเจ้าเป็นบุตรชายของนักรบดาเรนอาจเป็นคำลวงก็ได้   บางทีแม่ของเจ้าอาจเป็นแค่หญิงโสเภณีที่สมสู่กับพ่อมดลามกแก่ๆ หลอดเดเวอร์ลอสเล็งเห็นผลประโยชน์ในอนาคตจึงแกล้งรับเจ้าเป็นหลาน ”

 

ดารีลคว้าหมับเข้าที่ลำคอของเอลานอส

 

“ เจ้าอย่ากล่าวล่วงเกินมารดาข้าผู้ที่เจ้าไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้า   การกล่าวหาคนอื่นด้วยความเท็จนั่นหยาบคายยิ่งนัก ”

 

เจ้าชายชำเลืองมองสมุนที่ต่างถอยออกห่างด้วยความหวาดกลัว

จึงได้พยายามแกะมือนั้นออกแต่ไร้ผล

 

“ เจ้าชายข้ามีสิ่งหนึ่งจะถามท่าน ”

 

เจ้าหญิงลูเซียน่ากล่าว

 

“ ท่านมีราคาเท่าใดในโอรีเวียนี้   ท่านพยายามยกตนขึ้นทั้งที่ท่านก็รู้ว่าแม้แต่กษัตริย์ก็ยังต่ำต้อยกว่าพ่อมด   ดังนั้นแล้วหากวันนี้ท่านต้องตายด้วยน้ำมือของดารีลผู้ใดกันเล่าจะจดจำท่าน   ผู้ใดจะร่ำให้ถึงท่านด้วยเหตุที่ท่านได้กระทำสิ่งต่างๆ ทั้งในเมืองนี้และเมืองเกิด   ยังมีผู้ใดเคารพรักท่านอยู่อีกหรือ ”

 

เจ้าชายเริ่มส่งเสียงไอออกมา

 

“ ลูเซียน่าเจ้ายังไม่รู้อะไรสูงอะไรต่ำ   พ่อมดจอมปลอมผู้นี้ไม่ได้คู่ควรกับเจ้าเลย   ในตอนนี้เจ้ากำลังลุ่มหลงจึงมองไม่เห็นความชั่วร้ายของเขา ”

 

“ ข้าเลือกจากจิตใจที่ใสสะอาดและเจ้าคงไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้   ดารีลปล่อยเขาเสียเถิด   อย่าให้มือของเจ้าต้องเป็นมลทินเพราะคนผู้นี้เลย   เขาไม่อาจหลุดพ้นจากโคลนตมเพราะมันคือเนื้อแท้ของเขานั่นเอง ”

 

ดารีลก็ปล่อยอย่างว่าง่าย

เจ้าหญิงมองเด็กหนุ่มตรงหน้าด้วยรอยยิ้มเต็มตื้น

พ่อมดน้อยคนนี้เชื่อฟังนาง

มันช่างรู้สึกปราบปลื้มจนหัวใจพองโต

 

“ เราไปจากที่นี่กันเถอะ   ข้ามีเรื่องมากมายต้องพูดกับท่าน ”

 

นางว่าแล้วค่อยๆ ผลักให้ดารีลเดินตรงไป

ฟีไลร่าได้แต่มองภาพนั้นด้วยหัวใจที่เจ็บปวด

เพราะนางไม่สามารถเข้าถึงคนผู้นั้นได้เลย

 

เจ้าชายเอลานอสที่ยังรู้สึกเจ็บแค้นแอบชักมีดพกออกมา

ฟิโลโซเฟอร์พุ่งเข้าไปขวางด้วยความตกใจ

แต่ก็ยังช้ากว่าเจ้าหญิงลูเซียน่าที่อยู่ใกล้กว่า

ทั้งที่มีท่าทางเหมือนคนอมโรคอยู่ตลอดเวลา

แต่กลับสามารถคว้าเจ้าชายเอลานอสทุ่มลงพื้นเสียงดังสนั่นด้วยความรวดเร็วจนน่าประหลาดใจ

ทับทิมที่ประดับบนจี้คล้องคอของเจ้าหญิงส่องประกายสีแดงอำมหิตเพียงวาบเดียวแล้วจางหายไป

 

เด็กทั้งห้องต่างตกตะลึง

ดารีลที่ดูเหมือนยังไม่รู้เรื่องอะไรก็หันกลับมามอง

เจ้าชายเอลานอสยังนอนกลิ้งอยู่บนพื้นมีดพกของเขากระเด็นไปไกล

ส่วนเจ้าหญิงลูเซียน่าทำเป็นนั่งผูกเชือกรองเท้า

เหล่าบริวารทั้งห้าต่างพร้อมใจกันนิ่งสงบราวกับไม่เห็นอะไรผิดปรกติ

 

“ ข้าสะดุดเชือกรองเท้าน่ะ   ส่วนเจ้าชายเอลานอสคงสะดุดน้ำลายตนเอง   เจ้าอย่าใส่ใจเลย ”

 

นางกล่าวแก้เก้อ

เมื่อเห็นดารีลยังจ้องอยู่

ดังนั้นพ่อมดน้อยจึงทรุดกายลงผูกเชือกรองเท้าให้นาง

 

เจ้าชายลุกขึ้นมายืนโซเซแต่ก็ยังไม่วายจัดมงกุฎทองให้เข้าที่

ทหารอารักขาต่างรีบเข้ามาพยุง

แต่เจ้าชายสะบัดมือหนี

แล้วเขาก็เดินกระแทกเท้าออกไปอย่างรวดเร็ว

 

เจ้าหญิงลูเซียน่าหันมาทางฟิโลโซเฟอร์

ริมฝีปากอวบอิ่มนั้นแย้มยิ้ม

 

“ ไม่รู้ทำไม   ข้าเห็นความกล้าหาญในหัวใจของเจ้า ”

 

นางกล่าว

แล้วหยิบถุงผ้าบรรจุลูกกวาดหลากสีส่งให้

เด็กชายมีท่าทีลังเลแต่ก็รับถุงขนมแล้วส่งต่อให้คาโอเรีย

เด็กหญิงกล่าวขอบคุณแล้วถือไว้อย่างนั้นไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี

 

ดารีลมองฟิโลโซเฟอร์สลับกับกระป๋องอาหาร

เขาหยิบเครื่องเทศบดผงอัดแท่งชิ้นเล็กๆ ให้เด็กชายตัวน้อย

ฟิโลโซเฟอร์ตาค้าง

 

“ เอาจริงดิ ”

 

“ เจ้าเคยเห็นข้าล้อเล่นหรือไง ”

 

เจ้าของเครื่องเทศถามกลับ

เขาจึงกลั้นใจกลืนลงไป

แม้จะงุนงงแต่เด็กชายตัวน้อยแน่ใจว่าดารีลไม่มีวันทำร้ายเขา

เมื่อเครื่องเทศผ่านลำคอเขารู้สึกแสบร้อนแต่ไม่ถึงกับทุรนทุรายเหมือนอย่างเคย

 

ดารีลจ้องมองอาการของฟิโลโซเฟอร์ตาไม่กระพริบ

จากนั้นจึงหยิบแอปริคอตอบแห้งชิ้นหนึ่งออกมา

ยัดเยียดใส่ปากเด็กชายตัวน้อยอีกครั้ง

มันมีรสเปรียวอมขมเล็กน้อย

 

“ อยู่โอรีเวียแล้วกินเครื่องเทศไม่ได้นี่มีโอกาสอดตายได้เลยนะ ”

 

ดารีลว่า

 

“ ข้ารู้แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา   ข้าเป็นแบบนี้มานานแล้ว   จะให้ทำอย่างไรได้ล่ะ ”

 

“ เอาเป็นว่าเย็นนี้ให้มารดาของเจ้าปรุงเครื่องเทศลงในอาหารด้วย   แล้วถ้าหากอาการยังแย่อยู่ค่อยหาเวลาไปพบข้าอีกครั้ง ”

 

เขาว่าเท่านั้นแล้วพาเจ้าหญิงออกไป

 

“ ทำไมล่ะ   ถ้าข้าสบายดีแล้วจะไปหาเจ้าไม่ได้หรืออย่างไร ”

 

ฟิโลโซเฟอร์ตะโกนตามหลัง

เด็กชายเพิ่งรู้ตัวว่าดารีลทำอะไรกับเขา

 

“ คิดว่าหาข้าเจอก็ลองดู   แต่บ้านของข้านั้นไม่ใช่ที่ของเด็กๆ เลิกล้มความคิดไปได้เลย ”

 

พ่อมดหน้อยกล่าวเหมือนรู้ทัน

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา