ยอดสตรีฉางอิ๋ง

-

เขียนโดย Xiaobei

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.20 น.

  35 ตอน
  0 วิจารณ์
  23.53K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 17.21 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

8) รุ่ยอวี่ถัง (1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ลูกหลานตระกูลสูงศักดิ์ของต้าเว่ย เหยียดหยามบัณฑิตตระกูลยากไร้ มีการเลือกขุนนางจากเสียงส่วนล่าง และต้องตรวจสอบหนังสือวงศ์ตระกูล ตระกูลยากไร้ไม่มีทางได้อยู่ในหนังสือลำดับวงศ์ตระกูล นานเข้า จึงกลายเป็นฐานะสูงศักดิ์ไม่มีตระกูลชั้นล่าง ฐานะต่ำศักดิ์ไม่มีทางมาจากตระกูลชั้นสูง
ตระกูลมีชื่อในแผ่นดินเองก็ไม่ใช่ว่าจะมีฐานะเท่าเทียมกัน ตามแบบแผนในรัชสมัยก่อนที่ว่า ‘ในสามชั่วคน ตระกูลใดรั้งตำแหน่งหนึ่งในเสนาบดีทั้งสามเรียกขานว่า ‘เกาเหลียง’ ที่มีตำแหน่งในกรมอาลักษณ์เรียกขานว่า ‘หวาอวี้’ ที่รั้งตำแหน่งทางทหารทั้งสาม อันได้แก่ ฝ่ายเสนาธิการ นำทัพ และป้องกัน ถือเป็นแซ่เจี่ย ที่รั้งตำแหน่งขุนนางราชสำนักที่เป็นเจ้าปกครองแคว้นถือเป็นแซ่อี่ ที่รั้งตำแหน่งขุนนางผู้ติดตามพระองค์ และตำแหน่งที่ปรึกษาถือเป็นแซ่ปิ่ง ขุนนางกรมขุนนางให้เป็นแซ่ติง’ ฐานันดรของตระกูลสูงศักดิ์ จึงจัดเรียงลำดับเป็น เกาเหลียง หวาอวี้ และเจี่ย อี่ ปิ่ง ติง อีกสี่แซ่
แต่ราชวงศ์นี้กลับมีตระกูลที่เหนือกว่าเกาเหลียง มีหกแซ่ที่ไม่น้อยหน้ากันเป็นตระกูลสูงศักดิ์ที่ร่ำรวยรุ่งเรืองมาตลอดนับตั้งแต่โบราณ มีคุณความดีกับต้าเว่ยมาก ไม่ใช่อะไรที่เกาเหลียงธรรมดาทั่วไปที่เสนาบดีทั้งสามในสามรุ่นจะสามารถมาเทียบด้วยได้
ยกตัวอย่างเช่นตระกูลเว่ยแห่งเฟิ่งโจวที่มีการสืบทอดและมีประวัติศาสตร์ยาวนานเช่นเดียวกับตระกูลชั้นสูงอีกห้าตระกูลใหญ่ของต้าเว่ย ต้นกำเนิดที่ทำให้แซ่เว่ยมีศักดิ์ฐานะที่สูงส่งคือแซ่จีของเซวียนหยวนซื่อ[1]มาจากคังซูบุตรชายคนที่เก้าของโจวเหวินหวัง คังซูถูกแต่งตั้งที่แผ่นดินเว่ย หนึ่งในเจ้าครองแคว้นในสมัยชุนชิวจั้นกั๋ว[2]ลูกหลานต่างก็ใช้รัฐเป็นแซ่ เมื่อรัฐเว่ยสิ้นสุดลง จิ๋นซีฮ่องเต้รวมแซ่ทั้งหมด ลูกหลานราชวงศ์รัฐเว่ยรวมถึงคนในรัฐต่างก็ใช้ชื่อรัฐเป็นแซ่ ตระกูลเว่ยแห่งเฟิ่งโจวก็เป็นเครื่องหมายการเรียกบุตรหลานสายตรงของคังซู
หลายร้อยปีที่ผ่านมาตระกูลเว่ยแห่งเฟิ่งโจวต่างก็มีผู้มีความสามารถเกิดขึ้นมาไม่ขาดสาย เพียงแค่ตำแหน่งขุนนางระดับสูงของราชวงศ์ก่อนที่มีระยะเวลาแค่ร้อยกว่าปี รวมๆ กันแล้วยังมีจำนวนมากถึงห้าคน ขุนนางระดับเหนือกว่าขั้นสามขึ้นไปมีมากหลายสิบคน ขุนนางขั้นที่เหนือว่าขั้นห้ามีมากกว่าร้อยคน จนถึงราชวงศ์นี้เพราะคุณความดีกับจักรพรรดิทำให้เจริญรุ่งเรืองมาก ผู้นำรับช่วงต่อในตระกูลกลับมีสองคน
ส่วนคนในตระกูลที่รับราชการอยู่ในวังหลวงนั้นยิ่งมีจำนวนนับไม่ถ้วน เห็นได้ชัดว่าเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีอำนาจรองลงมาจากราชสำนัก ส่วนตระกูลอื่นๆ นั้นก็เป็นตระกูลที่สามารถทัดเทียมกับตระกูลเว่ยได้ หรือต่างกันไม่มากนัก ด้วยเหตุนี้เพื่อเป็นการสรรเสริญคุณงามความดีของสกุลทั้งหก จึงได้บัญญัติให้เพียงหกตระกูลนี้เป็นตระกูลสูงศักดิ์ ซึ่งมีคุณงามความดี มีชื่อเสียงโดดเด่น เป็นที่ยกย่องของผู้คน ส่วนตระกูลที่ต่ำกว่าเกาเหลียงลงมา เรียกขานว่าตระกูลใหญ่ ซึ่งมีฐานะต่ำว่าตระกูลทั้งหกอยู่ขั้นหนึ่ง
รุ่ยอวี่ถัง เป็นที่พำนักของตระกูลเว่ยในเฟิ่งโจวมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ ทุกวันนี้ผู้ดูแลควบคุมรุ่ยอวี่ถังอยู่ ก็คือเว่ยฮ่วน ประมุขตระกูลเว่ยซึ่งเป็นปู่ของเว่ยฉางอิ๋ง
เว่ยฮ่วนรับตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายปกครองและยังควบตำแหน่งที่ปรึกษารัชทายาทและแม่ทัพใหญ่อีกด้วย เป็นหนึ่งในหกเสาหลักของต้าเว่ย เป็นขุนนางที่มีอำนาจและสำคัญมากของราชวงศ์นี้ แต่เพราะอาการป่วยเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เกือบจะต้องเสียชีวิต ตอนนั้นมีนักพยากรณ์กล่าวว่าอย่าได้ออกไปจากถิ่นกำเนิด เว่ยฮ่วนคิดอยากลองในใจ สั่งการให้คนนำตนกลับมาที่เฟิ่งโจว ภายหลังอาการถึงได้หายดี เมื่อหายดีแล้วก็ได้รับราชโองการมากมาย ใครจะรู้ว่าเพิ่งจะออกจากเฟิ่งโจวไปอาการก็กำเริบขึ้นมาอีก จึงได้แต่ต้องเกษียณก่อนเวลา และกลับมาที่บ้านตน
เพราะสมัยที่เว่ยฮ่วนยังอยู่ในตำแหน่งเป็นที่โปรดปรานของจักรพรรดิมาก รู้ว่าเขาไม่สามารถรับราชการต่อได้ จึงทำให้ผิดหวังมาก และยังได้แต่งตั้งให้เป็นฉางซานกง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความโปรดปราน คิดถึงบ้านเกิดของเว่ยฮ่วนที่เฟิ่งโจว ก็ให้บุตรชายคนที่สามจากอนุภรรยาของเว่ยฮ่วนอย่างเว่ยเซิ่งเหนียนรับตำแหน่งเป็นผู้ตรวจการของเฟิ่งโจวคอยดูแลเว่ยฮ่วน แต่จริงๆ แล้วนับตั้งแต่ก่อนที่ต้าเว่ยจะสถาปนาขึ้นมา ก็ถือว่าอยู่ภายใต้การควบคุมของตระกูลเว่ยอยู่แล้ว เว่ยเซิ่งเหนียนจะรับหรือไม่รับตำแหน่งนี้ เฟิ่งโจวก็ยังเป็นตระกูลเว่ยที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ
ในเฟิ่งโจวและพื้นที่ใกล้เคียงที่อยู่ภายใต้อำนาจตระกูลเว่ย นับตั้งแต่ขุนนางไปจนถึงประชาชน พวกเขาสามารถไม่สนใจราชโองการจากราชสำนักได้ แต่กลับปฏิบัติกับตระกูลเว่ยเสมือนกับราชวงศ์
ตระกูลสูงกว่าราชสำนัก สถานการณ์อย่างนี้ไม่ใช่แต่เพียงเฟิ่งโจวเท่านั้น ในพื้นที่ของตระกูลสูงทั้งหกของต้าเว่ยทุกวันนี้เองก็มีสิทธิและอำนาจทั้งนั้น ดังเช่นเฟิ่งโจวของตระกูลเว่ย ชิงโจวของตระกูลซู จิ่นซิ่วของตระกูลตวนมู่ เจียงหนานของตระกูลซ่ง ตงหูของตระกูลหลิว และซีเหลียงของตระกูลเสิ่น อำนาจของหกตระกูลใหญ่ในพื้นที่นั้นต่างถูกราชสำนักยอมรับอย่างเงียบๆ นี่ก็คือหนึ่งในการตอบแทนของบรรพบุรุษต้าเว่ยต่อตระกูลทั้งหกในตอนเริ่มสถาปนาประเทศ และสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น
ทุกวันนี้อำนาจของตระกูลเว่ยในเฟิ่งโจวมีสองสาย หนึ่งคือรุ่ยอวี่ถังสายเดิม กับสาขาที่แยกออกมาเมื่อร้อยปีก่อนอย่างจือเปิ่นถัง เดิมเพื่อให้รับช่วงต่อสองตำแหน่งตระกูลเว่ยในราชวงศ์นี้ จิ้งผิงกงและจิ่งเฉิงโหว แต่ว่าเว่ยหวน จิ้งผิงกงในรุ่นนี้กลับมีความสามารถธรรมดา ตั้งแต่ยังอายุน้อยก็ชอบความบันเทิงและผู้หญิงนัก เกลียดงานธุระที่วุ่นวาย ไม่ชอบเป็นขุนนาง ส่วนเว่ยฮ่วนแม้ว่าจะเกิดจากอนุภรรยา แต่ว่ากลับมีความสามารถฉลาดเฉลียว เชี่ยวชาญการวางแผน ดังนั้นก่อนจิ้งผิงกงรุ่นก่อนจะตายไป แม้ว่าเขาจะให้บุตรจากภรรยาเอกอย่างเว่ยหวนเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งบรรดาศักดิ์ แต่ว่ากลับมอบรุ่ยอวี่ถังให้กับบุตรจากอนุภรรยาอย่างเว่ยฮ่วน
ส่วนอีกสายหนึ่งอย่างจิ่งเฉิงโหวของจือเปิ่นถัง ที่ตั้งอยู่ห่างจากรุ่ยอวี่ถังไปไม่ไกล แม้ว่าจิ่งเฉิงโหวสาขาที่แยกออกมาจะมีรากฐานอยู่ที่เมืองหลวงนับตั้งแต่เริ่มราชวงศ์นี้ แต่ว่านับกันแล้ว ก็ยังมีต้นกำเนิดมาจากแหล่งที่เดียวกัน จึงไปมาหาสู่กันบ่อยครั้ง
และนับตั้งแต่ที่เว่ยฮ่วนเกษียณออกมาแล้ว เพราะรุ่ยอวี่ถังไม่มีใครสามารถขึ้นรับตำแหน่งเสนาบดีฝ่ายปกครองได้ จึงได้เสนอให้จิ่งฉางโหวเว่ยฉีแทน และรับตำแหน่งในตอนนี้ ดังนั้นในวันเทศกาลและวันหยุดต่างๆ จิ่งเฉิงโหวจึงมักจะกลับมา เพื่อมาเคารพจิ้งผิงกงและเว่ยฮ่วน เป็นการแสดงออกว่าไม่ลืมน้ำใจครั้งเก่า
เว่ยฮ่วนเกษียณราชการกลับมาแต่ยังไม่ถึงวัยที่จะต้องพักอยู่เฉยๆ เขาทำงานที่เมืองหลวงมากมายจนชิน กลับมาที่เฟิ่งโจวร่างกายยังแข็งแรงมากอีก อยู่เงียบๆ ในเรือนไม่ได้ทำอะไรจึงเบื่ออย่างห้ามไม่ได้ ส่วนบุตรชายคนที่สามจากอนุภรรยาอย่างเว่ยเซิ่งเหนียน ได้รับตำแหน่งเป็นผู้ตรวจการสืบทอดจากบิดา แต่ว่าจริงๆ แล้วความสามารถธรรมดา เขาจัดการเฟิ่งโจวอย่างเลอะๆ เลือนๆ เว่ยฮ่วนจึงจัดการเรื่องราวในเฟิ่งโจวแทนที่บุตรชายเสีย ทุกวันจึงไปจัดการเอกสารและตัดสินใจอนุญาตเรื่องและคดีทั้งหลายในที่ราชการแทนเว่ยเซิ่งเหนียน นี่เป็นเรื่องเมื่อหลายปีก่อน
หลายปีนี้ การจัดการของราชสำนักยิ่งแย่ลง ทุกที่เต็มไปด้วยโจรขโมย เผ่าหรงของทางตอนเหนือต้าเว่ยทางฝั่งตะวันตกเองก็กำลังคิดจะเคลื่อนไหว ส่วนเฟิ่งโจวนั้นแม้ว่าจะตั้งอยู่ทางใต้ลงมา แต่ว่าด้วยพื้นที่ยาวและคับแคบ ทางตอนเหนือสุดอยู่ตรงข้ามกับตงหูและแม่น้ำนู่ ส่วนตงหูนั้นกลับมีอาณาเขตติดกับเผ่าเป่ยหรง สุดท้ายเองก็เริ่มเกิดความไม่สงบบ้างแล้ว
เดิมเฟิ่งโจวคือเมืองระดับสูง ภายในหากเทียบกับเมืองอื่นๆ ของต้าเว่ยแล้วถือว่าร่ำรวยและอุดมสมบูรณ์มาก ทั้งยังมีเว่ยฮ่วนคอยกดไว้อีก จึงมีโจรขโมยไม่มากนัก แต่ว่าเมื่อสามเดือนก่อนภายในเขาเฟิ่งฉีซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงเฟิ่งโจวไปไม่ไกลกลับมีร่องรอยของซ่องโจรขึ้นมาคอยดักปล้นชิงประชาชนและคนค้าขายที่ผ่านไปมา เดือนที่แล้ว เว่ยเซิ่งบุตรชายคนรองของอนุภรรยาเว่ยฮ่วน ซึ่งรับราชการในตำแหน่งผู้ช่วยฝ่ายขวาของราชเลขาอยู่ที่เมืองหลวงได้ส่งผ้าแพรหนึ่งคันรถกลับมาที่เฟิ่งโจวเป็นการแสดงความกตัญญู แต่กลับถูกพวกโจรชิงเอาไป ทั้งยังทุบตีทำร้ายคนในตระกูลจนตายไปหลายคนด้วย
เว่ยฮ่วนบันดาลโทสะ จึงส่งหนังสือไปที่ราชสำนักด้วยตนเอง พร้อมกับเรียกรวมผู้กล้าในเมือง ทั้งยังเขียนจดหมายเชิญให้จ่างสื่อของเฟิ่งโจวอย่างซ่งหานส่งทหารมาให้กองหนึ่ง เพื่อไปกวาดล้างโจรในเขาเฟิ่งฉี
ซ่งหานคือลูกหลานตระกูลสาขาของตระกูลซ่งแห่งเจียงหนาน เพราะตระกูลเว่ยและตระกูลซ่งมีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กันมาหลายรุ่น ทั้งสองตระกูลจึงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก ซ่งหานคนนี้เองก็สู่ขอบุตรสาวตระกูลสาขาของรุ่ยอวี่ถังคนหนึ่งไป ดังนั้นตำแหน่งจ่างสื่อของเฟิ่งโจวจึงตกมาที่เขาได้
ซ่งหานเป็นขุนนางของเฟิ่งโจว แน่นอนว่าไม่กล้าชักช้าต่อคำสั่งของเว่ยฮ่วน เมื่อได้รับจดหมายแล้วไม่เพียงแต่จะส่งทหารชั้นยอดมาเท่านั้น เขายังมาที่เขาเฟิ่งฉีนี้ด้วยตนเอง เขาไปด้วยตนเองแล้ว เว่ยฮ่วนอยู่ที่เมืองมานาน จึงอยากจะเดินทางไปดูที่ต่อสู้ด้วย ทำให้ตอนนี้ไม่อยู่ที่บ้าน
เว่ยฮ่วนไม่อยู่ รุ่ยอวี่ถังก็มีฮูหยินผู้เฒ่าซ่งเป็นผู้ดูแล
.........................................................
[1]เซวียนหยวนซื่อ : ชื่อของจักรพรรดิโบราณ หนึ่งในห้าจักรพรรดิผู้ร่วมก่อตั้งประเทศจีนโบราณ
[2]สมัยชุนชิวจั้นกั๋ว: อยู่ในช่วงราชวงศ์โจวตะวันออก เป็นยุคที่มีสงครามชิงดินแดนและประชาชนมากมาย มีแคว้นจำนวนมาก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา