ภูผาคอยตะวัน : My Sweet Sunshine [แต่จบแล้ว]

-

เขียนโดย พร่างพระพาย

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 20.00 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  9,758 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 05.20 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) มีหรือที่จะไม่อาลัย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
นิยายแต่งจบออกเป็น eBook แล้วค่ะ
ความจริง ... บ้านหลังนี้ดูแล้วทั้งจากภายในและภายนอก เป็นบ้านที่หลังเล็กกระทัดรัด น่าอยู่ ดูอบอุ่นและเป็นกันเอง จะเสียก็แต่เพียงการตกแต่งที่มีเฟอร์นิเจอร์เพียงแค่เท่าที่จะจำเป็นเท่านั้น แถมยังดูไม่ค่อยจะเข้าชุดกันสักเท่าไรนัก เสมือนว่าคนซื้อจะซื้อแบบส่ง ๆ ไปอย่างนั้น คงเพียงเพื่อให้เพียงพอต่อความจำเป็นจริงๆ 
"บ้านออกจะดูไม่เรียบร้อยหน่อยนะจ๊ะหนู ก็อย่างนี้ละ ป้าเองก็แก่แล้ว ส่วนตาภูเองก็ไม่ค่อยจะมีเวลา วัน ๆ ทำแต่งาน กว่าจะกลับมาบ้านก็ค่ำมืดแล้ว เลยไม่ค่อยมีเวลาดูแลเรื่องภายในบ้าน แล้วอีกอย่าง บ้านนี้ก็เพิ่งจะสร้างเสร็จยังไม่ทันถึงปี ก็เลยดูอะไร ๆ ไม่ค่อยจะเรียบร้อยสักเท่าไหร่" 
คุณเนียมเปรย ๆ หลังจากสังเกตเห็นสายตาของหญิงสาวที่มองดูบริเวณโดยรอบอย่างสนใจ
"หนูขอโทษค่ะที่ทำให้คุณป้ารู้สึกไม่สบายใจ" รีบยกมือไหว้อย่างผู้ที่ได้รับการอบรมมาเสมอ หลังจากที่รู้สึกตัวว่าเธออาจเผลอแสดงอะไรให้หญิงเจ้าของบ้านอึดอัดใจ
"หนูเห็นว่าบ้านนี้หลังเล็กกระทัดรัดน่าอยู่ดีค่ะ ข้างนอกแม้ดูค่อนข้างเล็กก็จริง แต่พอเข้ามาดูข้างในแล้ว การจัดวางแปลนห้องดูสะดวกสบายแล้วก็ลงตัวดีมาก" หญิงสาวชมจากใจ ถึงแม้จะรู้ดีว่าใครเป็นผู้ออกแบบและลงมือสร้างเอง
"เขาออกแบบเอง...สร้างเองน่ะจ้ะ" 
คุณเนียมยิ้ม ดูภาคภูมิใจในฝีมือลูกชายคนเดียวยิ่งนัก 
"เมื่อก่อนนี้เรามีบ้านไม้สองชั้นที่ซื้อติดมากับไร่นี้ แต่ภูผาเป็นห่วงว่าต่อไปป้าอายุเยอะกว่านี้แล้วจะขึ้นลงบ้านไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่ ก็เลยปลูกบ้านหลังนี้ขึ้นมาชั้นเดียว คนแก่จะได้ไม่ต้องลำบากขึ้นลง ... เสียดายก็แต่แม่แก้มนุ่ม .. เมียของตาภูน่ะ" 
ในตอนท้ายคุณเนียมหันมาบอกหญิงสาวให้เข้าใจก่อนจะพูดต่อ
"แม่แก้มเค้าไม่มีบุญได้อยู่บ้านใหม่ เพราะถ้ายังอยู่ ก็คงจะดูแลบ้านช่องได้ดีกว่านี้"
คนพูดถอนหายใจ ไม่ทันได้สังเกตเห็นสายตาที่หม่นลงของคนฟัง
"หนูเองก็เพิ่งได้ทราบข่าวเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ เพราะเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ขอแสดงความเสียใจด้วยจริง ๆ นะคะ"
น้ำเสียงเธอแสดงออกถึงความจริงใจ
"ป้ากับตาภู .. จริง ๆ เราก็ทำใจเตรียมกันมานานแล้วล่ะจ้ะ เพราะมันเป็นโรคประจำตัวของแม่แก้มเค้า เจ็บออด ๆ แอด ๆ มาตั้งแต่เล็กแล้วล่ะ สุดท้ายตาภูเลยถึงต้องตัดสินใจย้ายกันมาอยู่ที่นี่ หอบหนีอากาศชื้นฝนกันมา เพราะเมืองใต้ฝนตกบ่อย ตกมากตามสมญา ‘ฝนแปด แดดสี่’ นั่นล่ะ"
คำว่า 'ต้องตัดสินใจ' ของหญิงสูงวัยนั้นไขข้อข้องใจว่าทำไมเธอจึงได้บังเอิญมาพบคนที่เข้าใจอยู่ตลอดเวลาว่าเขากลับถิ่นใต้ไปนานแล้วที่นี่ได้อย่างไร 
แต่ยังมีอีกเรื่องที่เธอไม่กล้าจะเอ่ยถาม เพราะเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า 'ภูผาน้ำแข็ง' คนนั้นจะไม่มีวันตั้งชื่อไร่แห่งนี้ด้วยชื่อนี้แน่นอน
อีกอย่าง ถึงแม้จะอยากรู้มากเพียงไร แต่ก็คิดหาคำถามเหมาะ ๆ ไม่ได้เลยเสียด้วยซิ
"ดูเหมือนคุณป้ากำลังกังวลเรื่องแต่งบ้าน เป็นความบังเอิญด้วยที่หนูมีเพื่อนที่เค้ารับออกแบบตกแต่งบ้านอยู่พอดี ถ้าคุณป้าสนใจ หนูจะให้เพื่อนมาดูบ้าน ขอแปลนแล้วก็ออกแบบมาให้ดูก่อน ถ้าพอใจก็ให้ช่างลงมือได้เลย ส่วนเรื่องค่าช่างกับค่าเฟอร์นิเจอร์หนูจะให้เค้าคิดในราคาต้นทุน เพราะหนูเองก็มีหุ้นอยู่ในนั้น … คุณป้าไม่ต้องห่วงนะคะ"
ร้อยตะวันเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เพราะกำลังรู้สึกว่าหัวใจตัวเองมันสั่นไหวประหลาด 
ไม่อยากจะคิดหรอกว่า … ฟังจากน้ำเสียงคนพูดที่แม้ปากจะบอกว่าทำใจได้ แต่ก็ยังแฝงกังวานเอื้อเอ็นดูอยู่มากมาย…
...ขนาดคนเป็นแม่ยังเอ็นดู... 
...คนเป็นสามี..มีหรือที่จะไม่อาลัย…
ไม่งั้นเขาคงไม่อพยพถิ่นฐานมาไกลถึงเพียงนี้ เพียงเพราะเธอคนนั้นหรอก
"ถ้าอย่างนั้นก็ดีน่ะสิ แต่เดี๋ยวป้าคงต้องปรึกษาตาภูดูก่อนนะจ๊ะ เพราะรายนั้นก็เคยบ่น ๆ เรื่องนี้อยู่นานแล้ว เพียงแต่ไม่มีเวลาจะมาติดตามเรื่องนี้ด้วยตัวเองสักที เค้าต้องดูแลทั้งไร่แล้วก็บริษัทฯไปพร้อมกันน่ะจ้ะ ก็เลยยุ่งคูณสองเลยเชียว แต่เรื่องราคาค่าช่างค่าเฟอร์นิเจอร์อะไรนั่น ขอให้คิดกันตามปกติเถอะจ้ะ เพราะรายนั้นรู้ .. เขาคงไม่ยอมหรอก"
คุณเนียมพูด เพราะรู้จักนิสัยลูกชายตัวเองดีว่าเป็นคนตรงไปตรงมาและไม่เคยเอาเปรียบใครอยู่แล้ว แม้ว่าเรื่องนั้นจะเล็กน้อยหรืออีกฝ่ายจะเต็มใจหรือไม่ เขาก็เลือกที่จะพึ่งพิงตัวเองมากกว่า และถือเป็นโอกาสที่จะได้ไม่ต้องติดค้างบุญคุณอะไรกันกับใครด้วย
หญิงสาวยิ้มรับทั้งที่ภายในใจกำลังคิดและเชื่อมั่นเมกาล้านเปอร์เซ็นต์เลยว่า .. ไม่มีทางหรอกที่ผู้ชายคนนั้นจะยอมรับให้บริษัทฯ ของเธอทำงานนี้
"นี่นะคะนามบัตรเพื่อนของหนูที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ ถ้าคุณภูผาจะตกลง คุณป้าติดต่อไปที่เบอร์นี้นะคะ" และถึงแม้จะมั่นใจเช่นนั้น แต่หญิงสาวก็ยังต้องยื่นนามบัตรของกวินให้แก่หญิงสูงวัย....
ก็หลุดปากเสนองานไปแล้วนี่นา หากเขาไม่รับ เธอก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไรหรอก…
"หนูคงมารบกวนเวลาพักผ่อนคุณป้านานแล้วค่ะ เห็นทีคงต้องขอตัวกลับแล้ว" 
อาคันตุกะสาวเอ่ยปากขอตัวลาเมื่อเห็นว่าเธอมาคุยอยู่นานพอสมควรแล้ว แม้จะนึกเสียดายอยู่บ้าง เพราะถึงแม้จะคุยกันเพียงครู่ แต่การต้อนรับอย่างมีน้ำใจและอบอุ่นทำให้ร้อยตะวันอดนึกไปถึงมารดาตัวเองไม่ได้ เพราะท่านทั้งสองนี่ดูจะมีอะไรบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน คงเพราะความอบอุ่น ช่างคุยแบบเป็นกันเอง และมีน้ำใจเหมือนกันนั่นเองกระมัง
"ไม่เป็นการรบกวนหรอกจ้ะ หนูมาป้าก็ดีใจเสียอีกสิ นาน ๆ จะมีเพื่อนคุย เพราะถ้าหนูไม่มา ป้าเองวัน ๆ ก็อยู่แต่กับเด็กแววนั่นละ รายนั้นก็ช่วยได้บ้างก็ในเรื่องงานบ้าน แต่ให้มาคุยก็คุยไม่ค่อยจะรู้เรื่องกันนักหรอก … ภาษาของวัยรุ่นสมัยนี้ ป้าฟังแล้วเวียนหัวกับปวดหัวไปหมด" 
คุณเนียมแอบบ่นเล็กน้อย ทำให้ร้อยตะวันยิ้มอย่างพอใจที่ไม่ได้มาสร้างความลำบากใจให้กับหญิงสูงวัยอย่างที่เธอแอบกังวล
"แล้วว่าแต่ ... หนูชื่ออะไรล่ะจ๊ะ .. คุยกันมาตั้งนานป้าเองก็ลืมถามชื่อซะสิ หากตาภูกลับมา ป้าจะได้บอกเค้าว่าหนูแวะมาที่นี่" 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา