ยอดคนแดนนรก

-

เขียนโดย Echang

วันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 05.26 น.

  8 ตอน
  1 วิจารณ์
  5,690 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2563 05.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) 7 ถึงเวลาตะลุุยยุุุุทธจักร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

7 ถึงเวลาตะลุยยุทธจักร

บนทางขึ้นเขา เวิ้งว้างไร้ผู้คน เต็มไปด้วยโขดหินใหญ่น้อย มากมายยากแก่การเดินเหิน ปรากฏเงาร่างสองสาย พุ่งปราดๆราววิหค เป็นเส้นตรง ขึ้นไปยังยอดเขา

เป็นชายชราหนึ่ง กับบุรุษหนุ่มเสื้อฟ้าผู้หนึ่ง

"เล่าฮู ยินดียิ่งที่สหายน้อยมาเป็นเพื่อน ครั้งนี้" ท่ามกลางลมรุนแรงที่ปะทะหน้า กระแสเสียงของชายชรายัง ผนึกแน่นไม่แตกกระจาย แข็งแกร่งเปี่ยมพลังยิ่ง

"มีเรื่องสนุกเช่นนี้ ถึงผู้อาวุโสไม่เชิญชวน ข้าก็ยังต้องอยากตามมาด้วยอยู่ดี" บุรุษหนุ่มกล่าวตอบ ไม่เห็นมันสาวเท้าก้าวเดิน แต่ร่างกลับพุ่งปราดๆ ติดตามชายชราอย่างกระชั้นชิด

สองบุรุษนี้คือ เล่งฮู้พก และอีชางนั่นเอง จากการคุยกันทั้งคืน ชายชราเล่าให้ฟัง ถึงการนัดพบกันกับ ยอดฝีมืออันดับสอง ของธรรมะ ที่มีชื่อเสียงเคียงคู่กับมัน นามว่า ก๊กตงลั้ง

ทั้งสองนัดประลองฝีมือกัน ทุก 5 ปี ต่างพยายามคิดค้นวิชาฝีมือใหม่ๆมา เพื่อต่อสู้กัน แต่ยังไม่อาจจะเอาชนะ ฝ่ายตรงข้ามได้

ในครั้งสุดท้าย จึงต่างคิดที่จะให้ลูกศิษย์ มาประลองฝีมือกันแทน หนึ่งเพราะพวกมันกลัวว่า ถ้าต่อสู้กันเองแล้วมีแพ้ชนะเกิดขึ้น  ฝ่ายแพ้คงจะต้องรู้สึกลำบากใจอย่างมาก เพราะนัดกันแต่ละครั้ง ห่างกันถึง 5 ปี คิดจะแก้มือ ต้องรอเวลาอีกตั้งนาน นั่นเป็นความทุกข์ทรมานใจอันยิ่งใหญ่ได้ แต่ถ้าลูกศิษย์ลูกหา พ่ายแพ้กัน พวกมันก็คงเพียงแต่จะหัวเราะและเลิกรา กัน กลับไปฝึกฝนบรรดาลูกศิษย์กันใหม่ เท่านั้น อีกประการหนึ่งคือมันสอง ต่างก็ ชราภาพลงเรื่อยๆไม่รู้จะตายวันตายพรุ่ง เมื่อไหร่ เพื่อไม่ให้ยอดวิชาของพวกมัน ต้องสูญหายไป จึงต้องถ่ายทอดให้ ลูกศิษย์ของพวกมัน

ในเรื่องนี้ ก๊กตงลั้ง ก่อตั้งพรรคสุริยันจันทรา อันยิ่งใหญ่ มีลูกศิษย์ลูกหามากมาย จึงเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างมาก มันจึงเป็นฝ่ายเสนอความคิดนี้ออกมา

เล่งฮู้พก เพื่อที่จะไม่ให้เสียเชิง จำใจต้องยอมรับข้อเสนอนี้ พอดีกลับมาประสบพบเหตุภัยพิบัติ ที่ถิ่นกำเนิด ยุ่งวุ่นวายอยู่ตลอดทั้งวัน เวลาจะไปหาลูกศิษย์สักคนก็ไม่มี แถมยังต้องคอยดูแลลูกสาว ของเพื่อนที่บาดเจ็บสาหัสอีก จนถึงวันนี้ ดรุณีน้อยชุยเอ๋อ ถึงหายป่วยโดยสมบูรณ์ สามารถดูแลตัวเองได้ แต่ก็ถึงเวลา ที่นัดประลองกับอีกฝ่ายแล้ว

เดิมที มันคิดจะกลับคำ หาเรื่องประลองฝีมือกันเอง ระหว่างผู้เฒ่าด้วยกันทีเดียว เพราะมัไม่รู้จะไปหาลูกศิษย์ดีๆจาก ที่ไหนไปประลองด้วย

รอจนมันพบกับ อีชาง บุรุษหนุ่มที่แม้แต่ตัวมัน ยังต้องเพลี่ยงพล้ำเสียที จึงได้เกิดความ คิดชั่วร้าย ต้องการยืมมือของอีชาง สยบความอหังการ์ ของประมุขพรรคสุริยันจันทรา อันยิ่งใหญ่

มันพยายามชักแม่น้ำทั้งห้า พูดจาเกลี้ยกล่อมหว่านล้อมให้อีชาง อาศัยศักดิ์ศรีลูกศิษย์ของมัน เพื่อท่องทะยานไปในยุทธจักร เนื่องจากชื่อเสียงอันโด่งดังของมัน ย่อมได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น แถมยังมีสมบัติพัสถานของมัน ที่สะสมไว้ ซึ่งที่จริงมันนับเป็นมหาเศรษฐีได้คนหนึ่งได้เลย แต่ด้วย นิสัยตระหนี่ถี่เหนียวของมัน บุคคลภายนอก จึงมองเห็นมันใน สภาพของเฒ่าชราซอมซ่อ ดุจดั่งขอทานเท่านั้น

อีชางเนื่องจากไม่คุ้นเคยกับโลกใหม่ ในยุคปัจจุบันนี้ จึงย่อมยินดี ที่จะมีความสะดวกสบาย เล็กๆน้อยๆพวกนี้ จึงตอบตกลงไปอย่างว่าง่าย และเพื่อไม่ให้ผู้อื่นสงสัย ในสถานะของมัน มันจึงร้องขอให้ ถ่ายทอดฝีมือวิชาฝีมือในยุคปัจจุบันให้กับมันบ้าง เพื่อไม่ให้ตัวมันดูผิดแผกแตกต่าง มากนัก เมื่อต้องประกระบวนท่ากับคู่ต่อสู้

ชายชราแซ่เล่ง จึงถ่ายทอด วิชาทั่วๆไป ที่พบเห็นได้ในยุทธจักร บางอย่างให้แก่อีชาง แม้กระทั่ง 10 กระบวนท่าสยบจักรวาล อันเป็นไม้ตายของมันก็ยังถ่ายทอด ให้อีชางถึง 5 กระบวนท่า โดยไม่ตระหนี่ถี่เหนียว เพราะครั้งนี้ นับว่ามันได้เปรียบอย่างยิ่ง ที่สามารถรับศิษย์สำเร็จรูป ที่มีพลังฝีมืออันลึกล้ำสุดยอดอยู่แล้ว

ความจริงมันพยายาม เลียบเคียง ถามไถ่ความเป็นมาของอีชาง อยู่ตลอดเวลา แต่ด้วยชั้นเชิงของผู้ผ่านโลกมานับพันปี อย่างอีชาง ไหนเลยมันยังจะสามารถ ได้รับทราบความเร้นลับใดๆ

อย่างไรก็ตาม ด้วยประสบการณ์ของมัน ดูออกว่า อีชางต้องไม่ใช่ บุคคลอุบาทว์ชั่วร้ายแน่นอน มิฉะนั้นตัวมันเองกับหลานสาว คงพบจุดจบไปแล้ว

ชั่วธูปไหม้หนึ่งดอก ทั้งคู่ก็มาถึงยอดเขา จริงๆ ด้วยพลังความคิดอันไพศาล อีชาง มันรู้อยู่ตั้งนานแล้วว่าบนยอดเขา มีผู้คนจำนวนหนึ่งอยู่ข้างบน กำลังผนึกลมปราณพักผ่อนกันอยู่ ดังนั้นเมื่อพบเจอผู้คนด้วยตาของตนเอง จึงปราศจากความตื่นตระหนกตกใจใดๆ

ชายชราเล่งฮู้พก ก็ไม่รู้สึกประหลาดใจ เพราะ แทบทุกครั้งที่นัดหมายกัน มันก็มาสายเป็นประจำ ปล่อยให้ฝ่าย ตรงข้ามรอคอยอยู่เรื่อย

"ฮ่าๆๆ...ฮ่าๆๆๆ....ฮ่าๆๆๆๆ...." เสียงหัวเราะดังกระหึ่มกึกก้อง ดุจระฆังใหญ่ตังกังวาน ไปทั่วยอดเขา ต่อเนื่องยาวนาน สะท้อนกลับไปกลับมา ในเทือกเขา พลันดังขึ้น

เบื้องหน้ายืนอยู่ด้วยบุรุษกลางคน สวมใส่ชุดนักศึกษา กำลังยืนเงยหน้าหัวเราะอยู่ รอบข้างมีผู้ ติดตามประมาณ 20 กว่าคน แต่ละคนคิ้วหนาตาโต ถลึงตา จ้องมองมายังชายชรา และบุรุษหนุ่มอย่างดุร้าย

เสียงกู่แหลมเล็กเสียดประสาท พลันดังขึ้นจากเล่งฮู้พก ประดุจกระบี่อันคมกริบ พุ่งทะลวงขึ้นไป ในหมู่เมฆฉีกกระชากเสียงหัวเราะกึกก้อง ออกเป็นช่องใหญ่

เดิมทีเหล่าผู้คนที่ยืนกอดอกอย่างจองหองอยู่ข้างกายบุรุษหนุ่มกลางคน ยังมีสีหน้า หนักแน่นเยือกเย็น แต่พอถูกทะลวงด้วยเสียงกู่ที่ดังเกี้ยวกราดยาวนาน ใบหน้าแต่ละคนก็ เริ่มซีดขาวลงอย่างรวดเร็ว ดูท่าจะทน ไม่ได้ในอีกไม่นาน

อีชางลอบส่ายหัว ตัวตลก ขี้อวดเหล่านี้ มีอยู่ทุกยุคทุกสมัย แม้จะผ่านโลก มานาน มันก็ยังคงไม่เข้าใจว่า พวกมันเหล่านี้ มีความสุขอันใดกับการโอ้อวดเยี่ยงนี้

ตอนนั้นเองมีเสียงกลองแว่ว มาจากยอดเขาที่อยู่ข้างเคียง

'ตึงตึงตึง!...ตึงตึงตึง....' เสียงกลองเคาะเป็นจังหวะ อันประหลาดพิกล มาขัดจังหวะโน้ตเสียงของเสียงหัวเราะ และเสียงกู่ อย่างพอเหมาะพอดี เปรียบเหมือนกับ ถ้าเรากำลังร้องเพลงใดอยู่ แล้วมี อีกคนมาร้องเพลงอีกเพลงอยู่ข้างๆ เราก็ยาก ที่จะร้องเพลง ของเราให้เป็นจังหวะ และโน้ตเสียงที่ถูกต้อง

เสียงทั้งสามต่างไม่ยอมแพ้กัน พยายามรักษา จังหวะจะโคน ระดับเสียง ให้คงที่ไว้ ชายหนุ่มทั้งหลาย ที่ยืนกอดอกอยู่เบื้องหลังบุรุษกลางคน เริ่มทนทานไม่ได้

ฟังแค่เสียงหัวเราะกับเสียงกู่ พวกมันก็รู้สึกแย่อยู่แล้ว ยังมามีเสียงกลอง ที่พิลึกกึกกือนี้อีก บางคนเริ่มมีเลือดไหล ออกจากจมูกปากแล้ว

"รบกวนให้ทุกท่านรอนาน ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง พอดีท่านอาจารย์และข้า ติดธุระต้องสะสางที่บ้าน จึงได้มาสาย นึกไม่ถึงว่า พวกท่านยังอุตส่าห์ มีน้ำใจมาจัดเตรียมเสียงเพลง และเสียงกลองอันไพเราะ รอให้พวกเรามาช่วยกัน ขับร้องประสานเสียง ผู้น้อยช่างตื้นตันใจยิ่งนัก" ประโยค อันยาวเหยียดถูกพูดแทรกเข้ามา ท่ามกลางเสียงอึกทึกโสดประสาททั้ง 3 อย่างเนือยๆ ไร้ความรู้สึกใดๆ

เสียงอันธรรมดาสามัญนี้ เหมือนเสียง ขับขาน อันไพเราะ ของมวลหมู่นกไพร ในตอนเช้าที่พากันร่ำร้องตอบรับวันใหม่ กลบเสียงทำลายโสตประสาททั้ง 3 ชนิดในตอนแรกไปเสียหมดสิ้น

สุดสิ้นประโยคคำพูดสุดท้ายหายไป คลื่นเสียงทั้งสามก็พลอยหายไปด้วย เช่นกัน

เหล่าบุรุษที่ยืนกอดอกบางคน ถึงกับ ต้องทรุดตัวลง นั่งหอบหายใจกับพื้น คนที่ยืนอยู่ได้บางคน ดวงตาทอประกาย แตกตื่นตกใจจ้องมองมายังอีช้างเป็น ตาเดียว แม้แต่บุรุษกลางคนชุดขาวก็ ยังมองมาด้วยประกายตาอันพิสดาร

เล่งฮู้พกกำลังรู้สึกกระอักกระอ่วน ที่ไม่รู้ว่าจะจบเรื่องอย่างไร มิหนำซ้ำยังมีเสียงกลอง ไม่ได้รับเชิญสอดแทรกเข้ามา ทำให้เหตุการณ์ซับซ้อนกว่าเดิม เห็นว่า จะต้องมีการบาดเจ็บล้มตายเกิดขึ้น โชคดี ที่อีชาง อาศัยเสียงธรรมชาติ อันไพเราะเพราะพริ้ง ฉุดกระชากพวกมัน ออกจากเหตุการณ์ระทึกนี้ได้

บุรุษกลางคนประสานมือคานวะ ให้แก่เล่งฮู้พก "น่ายินดี น่าอวยพร ที่เล่งเฮีย ได้มีศิษย์อันยอดเยี่ยม สูงส่งเช่นนี้"

ตาเฒ่าแซ่เล่งรีบรับสมอ้างในทันที "ยังด้อย ยังด้อยนัก เซี่ยวอี(อีน้อย) มารู้จักกับท่านอาของเจ้า" อีชางเดินไปข้างหน้าสามก้าว ประสานมือคารวะจรดพื้น "คารวะ ท่านอา"  

บุรุษกลางคนจ้องมองอีชางด้วย ความชื่นชม "คลื่นลูกหลังทยอยไล่ลูกแรก อย่างแท้จริง นับเป็นมังกร ในหมวดหมู่มนุษย์ เล่งเฮียช่างโชคดีอะไรเช่นนี้"

จนบัดนี้ยังไม่มีผู้ใดจะพูดถึง เสียงกลองอุบาทว์ ที่ดังมาจากยอดเขา ข้างเคียงเลย นี่นับเป็นการรับมือกับ ผู้ที่ไม่ได้รับเชิญอย่างดีที่สุด คือไม่ต้องไปสนใจมัน

ในที่สุดพวกที่อยู่บนยอดเขาข้างเคียง ก็อดรนทนไม่ได้ "ได้ยินมาว่า สอง ผู้กล้าฝ่ายธรรมะ ก๊กตงลั้ง มือประกาศิต จากสวรรค์และเล่งฮู้พกผู้พเนจรใน แดนดิน นัดหมายวิพากวิจารณ์ฝีมือกัน ทุกๆ 5 ปี เล่าฮู เล็กนั่งเกียก แห่งภูเขา มังกรโลหิตรู้สึกเลื่อมใสศรัทธาในท่านทั้งสอง จึงมาขอร่วมสนุกด้วย ไม่ทราบว่า จะยอมให้เกียรติแก่เล่าหูหรือไม่"

เล่งฮู้พกและก๊กตงลั้ง สบตากัน พลางพยักหน้าอย่างรู้กัน ตอนนี้บู๊ลิ้มทั่วแผ่นดินต่างรู้เรื่อง ตำหนักโลกันต์กันอย่างถ้วนทั่ว แน่นอนที่มังกรโลหิต ซึ่งร่ำลือกันว่ามีสายสัมพันธ์กับ ตำหนักโลหิตย่อมไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ เป็นแม่นมั่น

ปัจจุบันแม้จะบอกว่าธรรมะค่อนข้าง ได้เปรียบฝ่ายอธรรม  แต่ที่จริงแล้วนั่น เพราะนับราชันย์ฟ้าเข้าไปด้วย บัดนี้ราชันย์ผู้นี้หายสาบสูญไปตั้ง 50 ปี การประเมินขุมกำลังของทั้งสองฝ่ายจึง ต้องประเมินกันใหม่ ในภาวะเช่นนี้ ภูเขามังกรโลหิตจึงกล้าออกหน้ามา เป็นตัวแทนของฝ่ายอธรรม ฟื้นฟูอิทธิพลอำนาจของฝ่ายอธรรม อีกครั้ง ในคราวนี้

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา