ภูผาวายุ

-

เขียนโดย มุมน้ำเงิน

วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.55 น.

  19 ตอน
  1 วิจารณ์
  10.06K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 15.34 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) บทลงโทษ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

วายุ ที่เอาแต่จ้องมองดาบโดยไม่สนใจคำพูดของทังสองคนนั้น จู่ๆเขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงดาบเล่มนั้นขึ้นมาจากพื้น


“เหัยย นั่นเอ็งจะทำอะไรน่ะ”

“มะไม่ได้นะขอรับ เดียวนายใหญ่รู้เรื่อง เอาเราตายแน่เลยขอรับ”


ทั้งคู่โวยวายขึ้นมาด้วยความตกใจจากการกระทำของวายุ


วายุ ยังคงมีท่าทีที่ไม่สนใจคำพูดของทั้งคู่ เขายกดาบเล่มนั้นขึ้นมามองด้วยอาการที่หนักอึ้งอยู่ไม่ใช้น้อย เนืองจากด้ามที่ทำจากเหล็ก ประกอบกับผู้ถือมีรูปร่างที่ผอมบางจึงทำให้มีอาการมือสั่นเล็กน้อย


เขาลูปไล้ดาบไปมาด้วยความหลงใหลราวกับถูกมนต์สะกด ทันใดนั้นก็ถูกคมดาบบาดเข้าไปที่ปลายนิ้วเลือดไหลเปรอะคมดาบ วายุ สะดุ้งเฮือกได้สติขึ้นมาพร้อมกับเอยออกไปด้วยความงงงัน


“นี่ข้าทำอะไร”

“เอ็งไปดึงดาบนั้นขึ้นมาทำไม ประเดี๋ยวก็มีผีออกมาหรอก” ภูผาเอยออกไปพร้อมสีหน้าที่ยังตกใจ

“ปักกลับไว้ที่เดิม แล้วรีบออกจากที่นี่กันเถอะขอรับ” บ่าวขี้กังวลเอยตาม


วายุ กำลังจ้องมองเลือดที่เปรอะบนคมดาบสังเกตว่าเลือดของตนค่อยๆซึมเข้าไปในดาบ


ด้วยความหนักของดาบเขาจึงใช้มือข้างที่โดนบาดช่วยจับพยุงดาบไว้ทั้งสองมือ นิ้วที่โดนบาดไปจับใส่พลอยทับทิมพอดี


ทันใดนั้นดาบก็หลุดมือหล่นเช่นเดียวกับผู้ถือ วายุ ล้มทั้งยืนทิ้งตัวลงไปนอนหมดสติกองอยู่กับพื้น


“วายุ เอ็งเป็นอะไร”

ภูผา ปรี่เข้าไปหาพร้อมเขย่าตัวพูดออกไปด้วยความตกใจ ขณะที่บุญเกิดคุกเข่านั่งดูอาการด้วยความวิตกกังวล


ทันใดนั้น. “ตั้กก!” เสียงไม้กระทบกันดังลั่นสนั่นไปทั้งเรือน ภูผากับบุญเกิด สะดุ้งเฮือกรีบหันไปตามเสียง


ต้นเสียงเกิดจากไม้ตะพด ที่อยู่ในมือของชายที่มีรูปร่างท่าทางองอาจสง่าผ่าเผย นั่นคือนายสิงห์พ่อของฝาแฝดหนุ่มทั้งสอง กระทุ้งลงพื้นไม้โดยแรง สายตาจับจ้องมองมาที่พวกเขาทั้งสอง ด้วยสีหน้าที่เกรี้ยวกราดพร้อมพูดตวาดออกไปเสียงดัง


“พวกเอ็งมาทำอะไรกันที่นี่”
พร้อมทั้งปรี่ตัวเข้าไปดูอาการของลูกชายอีกคนแล้วหันหน้าไปหา ภูผากับบุญเกิด พูดด้วยท่าทีที่ฉุนเฉียว

“พวกเอ็งกลับไปรอข้าที่เรือนใหญ่”

“ข..ขอรับ”ทั้งสองรีบตอบกลับด้วยความยำเกรงแล้วพากันเดินออกไป

“ไอ้มั่น! พาตัวเจ้าวายุไปเรือนหมอยาประเดี๋ยวนี้” นายสิงห์ สั่งทองมั่นลูกน้องคนสนิทที่ติดตามมา

“ขอรับนาย” นายทองมั่นรับคำแล้วเร่งเดินเข้าไปอุ้มร่างของชายหนุ่มเดินลงจากเรือนไป


นายสิงห์ ยืนมองดาบเก่าที่อยู่ในลักษณะต่างไปจากเดิมอยู่ครู่หนึ่ง ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วหันหลังเดินลงจากเรือนไปโดยไม่เตะต้องอะไร



ครั้นนายสิงห์เดินขึ้นเรือนใหญ่มาก็เห็นหนุ่มน้อยทั้งสองคน ภูผากับบุญเกิด นั่งคุกเข่าก้มหน้ารอด้วยความสำนึกผิดอยู่ที่หอนั่งบนเรือนใหญ่


นายสิงห์เดินเข้ามานั่ง ตั่งไม้ ที่อยุ่ด้านหน้าของทั้งคู่ด้วยความสุขุม นายหาญบ่าวรับเดินใช้ย่อเข่าเข้ามานั่งข้าง ตั่ง ที่นายสิงห์นั่งอยู่ พร้อมกับรินน้ำชาให้


“พวกเอ็งใยถึงฝ่าฝืนคำสั่งข้า แอบขึ้นเรือนนั่นไปทำอะไร”
นายสิงห์เอยถามออกไปด้วยน้ำเสียงห้าวๆพรางยกชาขึ้นดื่ม สองหนุ่มนิ่งเงียบกระอึกกระอักอยู่ในลักษณะก้มหน้า อดีตขุนศึกเก่านั่งจ้องหน้าลูกชายด้วยความไม่พอใจ กระแทกถ้วยชาในมือลงโต๊ะเล็กข้างตั่งอย่างแรง พรางเหลือบสายตาไปจ้องบุญเกิด


“ไอ้เกิด พูดมา”


บุญเกิดได้ยินเช่นนั้นก็ตาลีตาเหลือกรีบเล่าถึงเหตุการณ์ที่ตนและนายน้อยทั้งสองแอบขึ้นไปยังเรือนต้องห้ามเพราะความอยากรู้อยากเห็น


นายสิงห์ได้ฟังคำบอกเล่าของบุญเกิดจึงพุดออกไปด้วยความไม่พอใจ


“แล้วใยเอ็งจึงไม่ห้าม, ข้าจักให้ไอ้หารลงหวายเอ็ง โทษฐานที่ไม่ห้ามปราม”


“ไอ้เกิดห้ามข้าแล้ว แต่ข้าไม่ฟังเองขอรับ”
บุญเกิด แม้จะมีศักดิ์เป็นเพียงบ่าวรับใช้ แต่ทั้งสองคน ภูผา วายุ ต่างก็รักใคร่บุญเกิดดุจพี่น้องเพราะเติบโตมาด้วยกันเมือครั้งที่ศึกษาอยู่กับพระครูแสงธรรม ภูผา จึงเอยแทรกขึ้นรับหน้าแทนบ่าว
“ลงหวายข้าแทนเถอะขอรับ” ภูผาเอย


“ต..แต่ว่าาา” บุญเกิดเอยขึ้นมายังไม่ทันขึ้นประโยค นายสิงห์ก็หันหน้าไปหานายหาญที่นั่งอยู่ใกล้ๆแล้วเอยสั่งออกไปด้วยน้ำเสียงห้าวๆ


“ไอ้หาญ ไปเอาหวายมาบัดเดียวนี้”

“เอะอะเสียงดังอะไรกัน ลูกทำอะไรผิด ถึงขั้นต้องลงหวายกันเชียวรึคุณพี่”


น้ำเสียงที่อ่อนโยนออกมาจากปากของหญิงวัยกลางคนที่มีท่วงท่าสง่างามนั่นก็คือ แม่ชบา แม่ของฝาแฝดหนุ่ม เดินเข้ามานั่ง ตั่ง ข้างๆตั่งของนายสิงห์ พร้อมด้วยนางบัวบ่าวรับใช่นั่งข้างตั่ง


“แม่ชบา เร่งไปดูอาการของเจ้าวายุเถอะ นอนสลบอยู่ที่เรือนหมอยานู้นน ข้าขอจัดการเจ้าภูผาก่อน ประเดี๋ยวข้าจะเล่าให้ฟังทีหลัง”


นายสิงห์หันหน้าไปพูดกับเมียรักแลเปลียนท่าทีไปเป็นลักษณะที่อ่อนโยนลง

“ตายจริง! เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ”


แม่ชบา อุทานด้วยตวามตกใจพร้อมกับลุกขึ้นเร่งเดินออกไปจากหอนั่งเพือไปดูอาการลูกที่เรือนหมอยาด้วยความเป็นห่วง พร้อมกับนางบัว


เมือเห็นแม่ชบาเดินลงเรือนลิปตา นายสิงห์หันหน้ามาทาง ภูผาและบุญเกิดทันที


“ไอ้หาญลงหวายเจ้าผาสิบที ส่วนไอ้เกิดโทษฐานที่รู้ว่าผิดแต่ก็ไม่มาบอกข้า ลงหวายมันยี่สิบที”
“ขอรับ....”



——————————————————-

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา