โอรีเวีย 2 ( ล่มสลาย )

6.3

เขียนโดย shilen

วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2564 เวลา 20.40 น.

  43 บทที่
  2 วิจารณ์
  23.02K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) เด็กกำพร้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ไม่มีใครรู้เลยว่า   ทุกการกระทำของชาวบ้านและเด็กชายผู้ยากไร้ตัวน้อยๆ ล้วนอยู่ในสายตาของคนผู้หนึ่ง   เขาผู้สวมชุดคลุมดำ   ปกปิดใบหน้าภายใต้เงามืดที่น่ากลัว   ยืนหลบมุมจ้องมองการกระทำต่างๆ ด้วยอาการที่เยือกเย็น   ไม่ยินดียินร้ายต่อการกระทำอันป่าเถื่อนที่เกิดขึ้น
 
และในป่านั้นเอง   เมื่อเด็กชายตัวน้อยจากหมู่บ้านได้ส่งหญิงชราให้เดินทางต่อไป   พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นหนุ่มน้อยคนนั้น   สองมือที่ไร้อาวุธมีเพียงกระถางหินเผากำยานอันเล็ก   ห้อยอยู่ในมือข้างหนึ่งมันส่งกลิ่นหอมประหลาดชวนให้ลุ่มหลง
 
เด็กชายรู้สึกประหลาดใจที่เห็นคนผู้นี้โผล่มาปุ๊บปั๊บไร้ซุ่มเสียง   อีกทั้งยังดูพิกลแม้จะยืนนิ่งเฉยกลับให้ความรู้สึกถึงภัยคุกคามใหญ่หลวง   แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นเด็กชายร่างผอมก็ยังวิ่งตามเขาไป   เพราะเขาเห็นว่าหนุ่มน้อยคนนั้นกำลังมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้าน
 
เมื่อวิ่งไปถึงตัวเด็กน้อยก็ยื่นอาหารให้เขา
มันเป็นเพียงขนมปังเก่าๆ กับผลไม้ที่ใกล้เน่าเต็มที
ทั้งหมดเป็นของที่เหลือจากการแบ่งครึ่งกับหญิงชราคนนั้น
 
“ นี่คืออะไร ”
 
หนุ่มน้อยคนนั้นเอ่ยถาม
ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
 
“ ข้าคิดว่าท่านคงจะหิวรีบกินนี่เสียแล้วเดินทางต่อไป   หมู่บ้านข้างหน้าอาจมีที่พักดีๆ ให้ท่าน ”
 
หนุ่มน้อยในชุดคลุมดำไม่กล่าวสิ่งใดต่อ
เขาจ้องมองของในมือเด็กน้อย
แล้วออกเดินต่อไป
 
เด็กชายร่างสกปรกก็ไม่ละความพยายาม
เขาวิ่งไปขวางทางไว้อีกครั้ง
 
“ พี่ชาย   เชื่อข้าเถอะอย่าเข้าไปในหมู่บ้านนั้นเลย   อาหารนี่ท่านอาจมองว่าเป็นขยะแต่มันคือทั้งหมดที่ข้ามี   ท่านรับไว้เถอะนะแล้วรีบไปเสีย   หมู่บ้านของข้ายากจนข้นแค้นไม่มีสิ่งใดจะหยิบยื่นให้ท่านได้ ”
 
หนุ่มน้อยคนนั้นได้เดินเลยเขาไป
อย่างไม่สนใจใยดี
 
เด็กชายจากหมู่บ้านยากจนแห่งนั้น
รู้สึกร้อนใจจนต้องคว้าชายผ้าสีดำนั้นไว้
 
“ เอามือโสโครกของเจ้าออกไปเจ้าเด็กไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอน ”
 
หนุ่มน้อยกล่าวเสียงเย็น
แล้วกระชากชายผ้ากลับ
เขาหน้าเดินต่อไป
อย่างไม่สนใจใยดี
 
แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงสะอื้น
ร่างสูงโปร่งในชุดคลุมดำจึงหันกลับมา
 
และได้เห็นว่า
เด็กชายร่างผอมเนื้อตัวสกปรกมอมแมมคนนั้น
กำลังยืนปิดหน้าร้องให้
 
“ ข้าพูดสิ่งใดผิดหรือ ”
 
หนุ่มน้อยคนนั้นเอ่ยถาม
 
“ ท่านพูดไม่ผิดหรอก   ข้ามันเด็กกำพร้าไม่มีคนสั่งสอน   เป็นแค่หมูสกปรกตัวหนึ่ง ”
 
เด็กชายตอบเสียงสั่นปนสะอื้น
 
หนุ่มน้อยยืนนิ่งเป็นครู่
สุดท้ายก็เดินกลับมาหาดึงมือเด็กชายออก
แล้วเช็ดน้ำตาให้
 
“ อย่าทำให้เสื้อผ้าราคาแพงของท่านต้องแปดเปื้อนเลย ”
 
เด็กน้อยว่า
 
“ ปากเก่งเช่นนี้ยังขี้แยได้อีกหรือ ”
 
เจ้าของร่างในชุดคลุมดำกล่าวพลางนั่งลงบนโขดหิน
เขายื่นช็อกโกแลตและขนมหวานให้เด็กชาย
 
มันสดใหม่หอมหวานน่ารับประทาน
จนเด็กน้อยหยุดร้องให้
นั่งลงกินขนมอย่างอดใจไม่ไหว
 
“ ข้าเองก็เป็นเด็กกำพร้าไม่เห็นต้องทำตัวเช่นเจ้าเลย ”
 
เด็กชายเงยหน้าขึ้นมอง
คนอายุมากกว่าที่เอนกายเท้าคางกับแผ่นหิน
ใบหน้านั้นแฝงอยู่ในเงามืด
จนไม่อาจอ่านอารมณ์ได้
 
“ ไม่เชื่อหรอกท่านน่ะแต่งกายดูดีจะเป็นลูกกำพร้าได้อย่างไร   ถ้าให้เดาท่านคงเป็นบุตรผู้มีอันจะกินจากในเมืองหลวงอย่างแน่นอน   แต่ว่าการมาท่องเที่ยวตามลำพังในถิ่นทุรกันดารเช่นนี้มิใช่เรื่องดีเลย   อันตรายเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อยิ่งในยุคที่ผู้คนหิวโหยเช่นนี้ ”
 
หนุ่มน้อยแกว่งโซ่แขวนกระถางเผากำยานในมือข้างหนึ่ง
จ้องมองไอสีเขียวหม่นที่แผ่ออกมาอย่างเลื่อนลอย
 
“ ข้าเป็นเด็กกำพร้า   ถูกพรากมารดาไปตั้งแต่ยังเป็นทารกและบิดายังถูกสังหารต่อหน้าต่อตา   โดยที่ข้าไม่สามารถช่วยเหลือสิ่งใดได้   ข้ามีชีวิตอยู่แต่ไร้ตัวตน ” 
 
น้ำเสียงนั้นเศร้าหมองเกินกว่าจะเชื่อว่าเป็นเรื่องโกหก
เด็กชายร่างผอมชะงักงัน
เขาเองก็เข้าใจความโศกเศร้านั้นเป็นอย่างดี
 
“ ข้าชื่อออสมอนด์   พี่ชายท่านนี้มีชื่อว่าอย่างไร ”
 
เด็กชายเอ่ยถาม
 
“ หรือชื่อของท่านจะเป็นความลับ ”
 
เป็นความสงสัยเมื่อเห็นว่าหนุ่มน้อยคนนั้นเงียบไปนาน
 
“ กาเอล   ชื่อของข้าคือกาเอล ”
 
“ ท่านพูดจริงหรือที่ว่าพ่อของท่านถูกสังหาร   ข้าเสียใจด้วยนะสำหรับความโชคร้ายของท่าน   ข้าเข้าใจดีครอบครัวของข้ายากจนท่านพ่อออกไปล่าสัตว์แล้วเกิดอุบัติเหตุและไม่กลับมาอีกเลย   ใช่เรื่องนี้เลวร้ายมากข้าที่ยังเด็กช่วยอะไรมากไม่ได้   ท่านแม่ต้องทำงานหนักเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวสุดท้ายก็ล้มป่วยและจากไปอีกคน   ข้าที่ถูกญาติๆ ขับไล่ออกจากบ้านต้องนอนในกองฟาง   รับจ้างแบกหามหาเลี้ยงชีพขนมปังขึ้นราพวกนี้เป็นเพราะข้าเก็บสะสมมานาน   แต่ก็ยังดีกว่าสิ่งที่คนในหมู่บ้านกำลังกินอยู่ในตอนนี้ ”
 
เด็กชายพูดไปพลางกินขนมหวานไปพลาง
นานเหลือเกินที่ไม่ได้ลิ้มรสของอร่อยเช่นนี้
 
“ กาเอล   ถึงท่านจะเป็นกำพร้าจริง   แต่ท่านก็คงสุขสบายสินะคนรอบข้างของท่านคงต้องดูแลท่านเป็นอย่างดี ”
 
กาเอลหัวเราะ
แต่เป็นการหัวเราะที่ขมขื่น
 
“ แท้จริงแล้วข้าลำบากกว่าเจ้านัก ”
 
ออสมอนด์รู้สึกสงสัย
หนุ่มน้อยคนนั้นแต่งกายด้วยผ้าเนื้อดีราคาแพง
 
อีกทั้งผิวพรรณยังสะอาดสะอ้าน
ช่างแตกต่างจากเขานัก
 
แต่กลับบอกว่าตนเองนั้นลำบาก
นั่นหมายความว่าอย่างไรกัน
 
“ ผู้คนมากมายล้วนอยากให้ข้าตาย   ข้าต้องหลบซ่อนในเงาของผู้อื่น   ไม่อาจกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนได้   ต้องเร่ร่อนไร้จุดหมาย   โดดเดี่ยวบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง   ไม่อาจเชื่อใจผู้ใด   ไร้ซึ่งมิตรแท้   ไม่อาจระบายความทุกข์ที่กัดกินในใจมาตลอดสิบปีให้ผู้ใดได้รู้ ”
 
กาเอลบอก
 
“ ในเมื่อท่านตัวคนเดียวข้าเองก็ตัวคนเดียว   พวกเราเดินทางไปด้วยกันเถอะนะ   ไม่ต้องสนสิ่งอื่นใดท่องไปเรื่อยๆ จนกว่าจะสุดขอบโลกหรือไม่ก็จนกว่าจะหมดลมหายใจ ”
 
เด็กชายออสมอนด์เสนอ
 
“ โชคดีที่เจ้าไร้พันธะอย่างแท้จริง   แต่ข้าไม่   ข้าไม่อาจไปไหนได้ไกลเลย ”
 
กาเอลว่า
 
“ ท่านคงไม่คิดจะกลับไปแก้แค้นหรอกนะ ”
 
เด็กชายตกใจ
และกาเอลไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนั้น
 
“ โธ่เอ๋ย   ท่านตัวคนเดียวจะทำเรื่องเช่นนั้นได้อย่างไรกัน   ข้าเห็นท่านรู้สึกได้ว่าท่านเป็นคนดีอย่าทำเรื่องเสียงอย่างนั้นเลยนะ   เพราะท่านอาจไม่มีชีวิตรอดข้ายังอยากเป็นเพื่อนกับท่านไปนานๆ ”
 
“ เจ้ายังไม่รู้จักข้าแล้วรู้ได้อย่างไรว่าข้าเป็นคนดี   เด็กเอ๋ยอย่าโง่นักเลย   ความไว้ใจพาความตายมาให้นักต่อนักแล้ว ”
 
กาเอลว่า
 
“ แล้วท่านจะเข้าไปในหมู่บ้านนั้นเพื่ออะไรหรือคนที่เคยทำร้ายท่านอยู่ในนั้น ”
 
เด็กชายเอ่ยถาม
 
“ ข้าผ่านมาแล้วก็ผ่านไปไม่มีสิ่งใดเป็นพิเศษ ”
 
กาเอลตอบ
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา