11

-

เขียนโดย Ghetto

วันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เวลา 17.12 น.

  9 chapter
  13 วิจารณ์
  5,390 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2564 17.22 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) 11-04

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

14 ตุลาคม 2 ปีก่อนหน้า

 

อันที่จริง ผมจำรายละเอียดไม่ค่อยได้ ผมจำได้แค่ว่า วันนั้นเป็นวันจันทร์ที่ผมเบื่อมากวันหนึ่ง หลังจากที่ผมจัดการภารกิจส่วนตัวทั้งวันมาแล้ว ผมลังเลที่จะเลือกระหว่างกลับบ้านหรือไปหาที่ผ่อนคลายตามแบบของผม ผมตัดสินใจอยู่นาน แต่สุดท้ายผมก็เลือกที่จะไปผ่อนคลายที่สปาแห่งหนึ่งในเมือง

 

สปาแห่งนี้เป็นสปาที่ผมไปประจำ เนื่องจากอุปกรณ์ผ่อนคลายต่างๆ ของเขามีความพร้อมมาก  ทุกอย่างเหมาะสมและดีต่อการพักผ่อน มีห้องซาวน่า อบไอน้ำ บ่อน้ำร้อน มีห้องเย็นคลายความร้อนหลังแช่น้ำร้อน มีห้องพักผ่อนในสไตล์ญี่ปุ่นที่หอมกลิ่นเสื่อทาทามิ ความสะอาดเป็นเยี่ยม เรียกได้ว่าเป็นที่ที่เหมาะในการเอนกายหลังวันอันเหนื่อยล้าจริงๆ

 

ผมเริ่มหย่อนตัวลงบ่อน้ำร้อนอย่างช้าๆ ปล่อยให้ร่างกายปรับอุณหภูมิและคุ้นชินกับความร้อน ผมหลับตา ปล่อยสมองให้โล่ง ปล่อยความเครียดให้สลายไปกับน้ำ ผมนั่งแช่อยู่สักพัก ก็เปลี่ยนอิริยาบถมองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาชำเลืองเห็นน้องชายคนหนึ่ง กำลังผ่อนคลายอยู่กับความร้อนเช่นเดียวกับผม

 

ผมรู้สึกร้อนขึ้นอย่างบอกไม่ถูก คอเริ่มแห้ง สงสัยอาจจะเป็นเพราะผมแช่น้ำนานเกินไป..

 

ผมพยายามไม่โฟกัสที่สิ่งรอบข้าง ผมลุกขึ้น เปลี่ยนไปแช่น้ำเย็น เพราะผมเริ่มทนไม่ไหวกับอุณหภูมิที่เกินขอบเขตของความผ่อนคลายไปมาก แต่ผมพยายามแล้ว.. มันไม่สำเร็จ ผมคอยแต่จะเหลือบมองน้องชายที่ผมไม่รู้จักเหมือนพวกโรคจิต ผมไม่ชอบตัวเองเลยที่ทำแบบนี้ แต่ผมคิดว่ามันเป็นเพราะผมชอบน้องเขาเข้าแล้ว…

 

ผมเปลี่ยนไปแช่น้ำในบ่อที่ไม่ร้อนเท่าบ่อแรก มันเป็นบ่อ jet stream ซึ่งทำให้ผ่อนคลายมาก คล้ายกับมีแรงดันน้ำมานวดหลังเราตลอดเวลา ผมเลือกที่จะอยู่ที่นั่งในสุดของบ่อ ในขณะที่น้องชายกำลังเพลิดเพลินอยู่กับ jet stream อีกมุม ผมห้ามตัวเองไม่ได้จริงๆ ที่จะชำเลืองมองน้องเขาเป็นระยะๆ โดยที่น้องเขาไม่รู้ตัว

 

ระหว่างที่ผมแช่น้ำและไม่ได้มองน้องเขาอยู่นั้น อยู่ๆ ผมก็รู้สึกถึงความแปลกเหมือนมีใครกำลังจับจ้องผมอยู่เช่นเดียวกัน แต่... ในบ่อนี้มีแค่เราสองคน

 

ผมจึงค่อยๆ ชำเลืองกลับไปมองน้องชายที่ผมไม่รู้จักอีกด้านหนึ่งของบ่อ สิ่งที่ผมเห็นเพียงชั่วครู่ก็คือใบหน้าของน้องที่รีบสะบัดกลับและแกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

ผมยิ้มให้น้องเขาหนึ่งครั้ง แม้ว่าน้องเขาจะไม่ได้มองผมอยู่

 

เพราะผมรู้ดีว่านั่นมันคือสัญญาณ ที่คนอย่างผมเข้าใจว่าตอนนี้มันกำลังเกิดอะไรขึ้นในสถานที่ที่ไม่มีใครรู้จักกันแห่งนี้ และผมก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรู้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตอนนี้

 

ผมกับน้องแยกย้ายกันไปอาบน้ำ และเปลี่ยนชุดเพื่อที่จะไปพักผ่อนต่อในห้องเย็น

 

โอกาสของผมมาถึงแล้ว…

 

ผมจำไม่ได้แน่ชัด ว่าผมหรือน้องที่เดินเข้าไปในห้องเย็นก่อน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ผมจำได้ว่า เรานั่งเงียบกันอยู่นานพอสมควร ก่อนที่ผมจะเริ่มบทสนทนาก่อน

 

“มาบ่อยมั้ยครับ ผมไม่เคยเห็นหน้าเลย” ผมถาม

 

“ประมาณเดือนละครั้งครับ ไม่บ่อยมาก พี่ละครับ” น้องชายตอบ

 

“พี่ไม่ได้มานานมากละ อาจจะประมาณ 5 เดือน” ผมตอบ

 

และหลังจากนั้นเราก็มีบทสนทนากันยาว โดยผมขยับไปนั่งข้างน้องชาย เราถามชื่อซึ่งกันและกัน แลกเปลี่ยน Instagram และเริ่มคุยกันอย่างสนิทสนมมากขึ้น ผมถามน้องว่ามีแฟนรึเปล่า น้องบอกว่าน้องไม่มี ผมไม่เคยรู้สึกกับใครแบบนี้มาก่อน ผมยอมรับเลยว่าผมชอบน้องเขา โดยที่ผมไม่สนใจด้วยซ้ำว่าเขาจะชอบผมรึเปล่า

 

เรานั่งกันอยู่สักพัก เริ่มทนความหนาวไม่ไหว น้องเจบอกผมว่า ได้เวลาที่น้องต้องกลับบ้านแล้ว ผมจึงอ้อนวอนสุดฤทธิ์

 

“ไม่กลับไปแช่คลายหนาวสักหน่อยเหรอครับ” ผมถาม

 

“อืออออออออ ครั้งหน้าดีกว่าครับ ต้องไปแล้ว” น้องตอบ

 

“ก็ได้ครับ แล้วแต่น้องเจละกัน” ผมตอบ

 

ผมทดสอบน้องเขาด้วยกลยุทธ์อันชั่วร้ายบางอย่าง ผมขอกอดน้องเขาหนึ่งที ในขณะที่ส่วนนั้นของผมเริ่มพองตัวขึ้น ซึ่งไม่มีทางที่น้องเจจะไม่รู้สึกตัวอย่างแน่นอน ก่อนจะเดินออกจากห้องเย็นกลับไปที่ล๊อคเกอร์เพื่อจะกลับไปแช่น้ำร้อนอีกครั้ง

 

น้องเจหยุดที่ล๊อคเกอร์ และพูดขึ้นมาว่า “สักรอบก่อนกลับก็ได้” ผมยิ้มในใจ แต่สิ่งที่พูดออกไปคือ “อะไรนะครับ” จนน้องเขาย้ำอีกครั้ง และรีบเดินเข้าโซนบ่อน้ำร้อนไปอย่างรวดเร็ว

 

ผมจำได้ว่า ผมยืนอยู่ที่ล๊อคเกอร์นานพอสมควร ในหัวคิดนู่นนี่เต็มไปหมด ว่าผมควรจะทำหน้ายังไง ควรเข้าไปแช่กับน้องเจไหม ไม่ควรทำอะไรบ้าง จะทำยังไงให้เราสามารถติดต่อกันได้อีกไปเรื่อยๆ ผมเดินไปคิดไป รู้ตัวอีกที ผมก็แช่น้ำร้อนอยู่ข้างน้องเจแล้ว

 

บ่อน้ำร้อนนั้นขุ่นพอที่จะทำให้คนในห้องไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นใต้น้ำ ผมเอื้อมมือไปจับมือน้องเจ มือของเขาตอบรับอย่างรวดเร็ว เรานั่งกุมมือกันนานพอสมควรที่ความร้อนเริ่มแทรกเข้ามาทำให้หน้าของเราสองคนชุ่มไปด้วยเหงื่อ

 

ณ ตอนนั้น ผมควบคุมสติไม่ได้แล้ว ผมมันคนเหี้ย มือของผมเริ่มเปลี่ยนที่จากมือของน้อง ไล่ไปตามขาที่เนียนลื่น ผมหยุดที่หน้าตักน้อง และมองหน้าเขา เขาหลับตา ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ ผมเริ่มขยับมือของผมขึ้นอีก จนกระทั่งมือของผมได้สัมผัสเข้ากับส่วนนั้นของน้องเจ ซึ่งกำลังอยู่ในสภาวะตื่นตัวอย่างเต็มที่

 

ร่างกายของผมแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ จากความตื่นเต้นและหัวใจที่เต้นแรงมาก แรงจนหากใครได้นั่งใกล้ๆ ในห้องเงียบๆ คงจะต้องได้ยินชัดเจนอย่างแน่นอน ผมเริ่มขยับมืออย่างช้าๆ ไปตามจังหวะ และเริ่มสำรวจบริเวณต่างๆ ของน้องเจอย่างระมัดระวังจนพอใจ แล้วผมจึงกลับมากุมมือน้องเจอีกครั้ง ครั้งนี้ ผมดึงมือน้องเจมาวางบนตักผม จริงอยู่ที่น้องอาจจะไม่ได้เป็นคนที่เหี้ยแบบผม แต่ก็เป็นคนประเภทเดียวกันพอที่จะรู้ว่าสัญญาณที่ผมมอบให้หมายถึงอะไร มือน้องเริ่มคลายจากมือผม และเลื่อนเข้าหาส่วนนั้นของผมทันที แต่ด้วยความที่ผมค่อนข้างเคยชินกับสภาพแวดล้อมหรือเหตุการณ์แบบนี้อยู่แล้ว ทำให้ส่วนนั้นของผมไม่ได้ตื่นตัวเท่าน้องเจ

 

น้องเล่นอยู่แค่ครู่เดียว ทุกอย่างมันร้อนมาก ผมจำได้ดี น้องบอกผมว่า “ไม่ไหวแล้วครับ ร้อนมาก” ผมก็บอกว่า “เห็นด้วยครับ” เราทั้งคู่จึงละออกจากกันและน้องก็ได้ลุกไปอาบน้ำเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน แต่ผมยังไม่กลับ ผมจึงเปลี่ยนชุดยูกาตะและไปส่งน้องที่ล๊อบบี้

 

ระหว่างที่ผมส่งน้องที่ล๊อบบี้ ผมมีความคิดชั่วอันหนึ่งผุดขึ้นมา หลังเหลือบไปเห็นป้ายห้องน้ำข้างล๊อบบี้ ผมทดสอบเขาอีก ผมหันไปหาน้องเจ พร้อมพูดแบบไม่มีเสียงว่า ผมต้องการไปปัสสาวะหน่อยในห้องน้ำตรงนั้น แล้วผมก็หันหลังเดินไปยังห้องน้ำทันที ในขณะที่น้องเจต้องเดินไปคืนกุญแจล๊อคเกอร์

 

ห้องน้ำเป็นห้องน้ำปิดมิดชิด ผมไม่ได้ปวดปัสสาวะเลย ผมยืนอยู่หน้ากระจก ตัวสั่นเล็กน้อย เพราะผมรู้ว่านี่เป็นกลยุทธ์ที่เสี่ยงมาก หากน้องเจรู้สึกว่าสิ่งที่ผมทำมันเกินขอบเขตที่น้องจะรับได้ ประตูที่ผมรอให้เปิดออกจะไม่มีวันเปิดออกเลย น้องจะกลับไปทันทีโดยไม่สนใจสัญญาณที่ผมให้ และนั่นหมายความว่าเราจะไม่มีโอกาสติดต่อกับน้องเจต่อได้หลังจากนี้อย่างแน่นอน

 

ผมยืนด้วยจิตใจว้าวุ่นอยู่ประมาณ 3 นาที ประตูก็เปิดออกจริงๆ น้องเจเดินเข้ามาหาผมที่หน้ากระจก

 

“อ้าว ยังไม่กลับหรอ” ผมถาม แต่ด้วยน้ำเสียงน้องคงรู้อย่างแน่นอนว่ามันเป็นแค่คำพูดตามมารยาท

 

แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น น้องเดินเข้ามาหาผม ชุดยูกาตะของผมพองขึ้นที่ส่วนนั้น ผมตื่นเต้นมาก น้องหยุดอยู่ตรงหน้าผม ก้มมองลงไปยังชุดยูกาตะที่พองขึ้น แล้วเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสายตาที่ผมคงไม่สามารถลืมได้เลยตลอดชีวิตนี้

 

“มองอะไร” ผมถาม หน้าผมน่าจะแดงมากแล้ว

 

“เปล่าครับ” น้องพูด

 

ผมเขินมาก ผมเลยดึงตัวน้องเขามากอด แล้วบอกไปว่า “รีบอยู่ไม่ใช่เหรอ รีบกลับไปเถอะ เดี๋ยวไม่ทัน” แต่ในใจผมอยากให้น้องอยู่กับผมนานๆ เสียเหลือเกิน

 

ผมดึงตัวน้องออก แต่น้องกลับเอามือมาจับส่วนนั้นของผมไว้ ผมจึงรีบหมุนตัวน้องไปที่ประตู และพร่ำบอกว่า “กลับเถอะครับ” อยู่หลายครั้ง

 

น้องมองผมด้วยสายตาอ้อนมากๆ ผมไม่ไหวจริงๆ ผมเลยหนีเข้าห้องส้วม แต่ไม่ได้ปิดประตู ผมมองน้องเดินออกนอกห้องน้ำโดยที่สายตาเรายังคงจ้องมองกันอยู่ตลอดเวลา

 

น้องเหมือนจะแง้มประตูปิด ผมจึงโบกมือลา ผมคิดว่าผมคงได้สำเร็จตัวเองหลังจากที่น้องกลับไปซะที แต่ผมคิดผิด..

 

น้องเปิดประตูและเดินกลับเข้ามายังห้องน้ำอีกครั้ง และตรงมายังห้องส้วมที่ผมอยู่ น้องปิดประตูลงกลอน และหันมามองหน้าผม

 

ผมทำอะไรไม่ถูก ได้แต่กระซิบว่า “จะทำอะไรครับ”

 

ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามโง่ๆ ในเวลานี้

 

น้องดึงกางเกงยูกาตะผมออก ส่วนนั้นของผมเด้งออกมาทันที มันตื่นตัวอย่างสมบูรณ์แบบชนิดที่น้องไม่ได้สัมผัสในบ่อน้ำร้อนอย่างแน่นอน

 

น้องจับมันเล่นสักพักแล้วมองหน้าผม แล้วจึงพูดว่า “ใหญ่จัง”

 

ผมคิดไม่ออกเลยว่าจะตอบว่าอะไร ผมเลยพร่ำบอกน้องว่า “กลับไปได้แล้วๆ ไหนบอกรีบไงครับ ต้องทำยังไงน้องเจถึงจะกลับครับ”

 

น้องตอบผมว่า “ผมกลับก็ได้ แต่ผมต้องเอาเจ้านี่ลงก่อน” พร้อมกับจ้องผมด้วยสายตาที่เว้าวอนมาก ผมไม่ไหวแล้วจริงๆ ในจุดนี้ ผมจูบน้องที่ริมฝีปากเบาๆ หนึ่งครั้ง

 

น้องเริ่มขยับข้อมือเร็วขึ้น ผมหายใจไม่เป็นจังหวะเลย ผมจูบน้องเขาอีกหลายที โดยที่น้องก็มีการจูบตอบกลับ แต่ดีหน่อยที่ไม่ได้ใช้ลิ้น ไม่อย่างนั้นวันนั้นไม่จบสวยแน่ๆ

 

ผมยอมรับว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้มันเกินกว่าสิ่งที่ผมคิดไว้เป็นอย่างมาก ใจจริงผมไม่อยากให้มันมาถึงจุดนี้ในเวลานี้เลย ผมมองว่ามันเร็วไป

 

ผมไม่ไหวแล้ว ผมจึงจับข้อมือน้องและบอกว่า “หยุดก่อนครับไม่ไหวละ กลับเถอะครับพี่ขอร้อง เดี๋ยวพี่จัดการเอง เดี๋ยวเลอะชุดครับ น้องเปลี่ยนชุดแล้ว” น้องจึงยอมหยุด

 

ผมกอดน้องอีกครั้ง จูบอีกครั้ง แล้วจึงเปิดประตูห้องส้วมให้น้องออกไปข้างนอก

 

ดูเหมือนน้องจะพอใจแล้ว จึงยอมกลับโดยดี…

 

หลังจากที่ผมจัดการตัวเองจนทุกอย่างกลับสู่สภาวะปกติ ผมเดินออกจากห้องส้วมและกลับไปยังล๊อคเกอร์ โทรศัพท์ของผมดังขึ้น

 

“ ” อีโมจิแมวยิ้มทะเล้นได้ถูกส่งจาก Instagram ของน้องเจเข้า inbox ผม ผมยิ้ม ผมดีใจมากที่น้องเป็นคนทักมาหาผมก่อน ผมจึงส่งอีโมจิมองบนกลับไป หวังว่าจะกวนน้องเขาเล่นๆ

 

เราได้คุยกันอย่างต่อเนื่องประมาณครึ่งเดือนหลังจากที่พบกันครั้งแรก แต่ก็นั่นแหละครับ การเริ่มด้วยอะไรที่ฉาบฉวย มันก็ไม่ได้มีความยั่งยืนเสมอไป…

 

บทสนทนาของเราค่อยๆ สั้นลง สั้นลง…

 

จนมันเงียบหายไปตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม…

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา