Pathenon โรงเรียนมนตราพาเธนอน

-

เขียนโดย OAZIS

วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เวลา 13.58 น.

  17 ตอน
  2 วิจารณ์
  6,690 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 กันยายน พ.ศ. 2564 15.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

14) คำตอบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 14

คำตอบ

 

          “นาย…นายเป็นใคร” เอ็ดเวิร์ดมึนงงกับภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า ไม่รู้จะต้องพูดอะไรต่อไป เขาเรียบเรียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถูก เขาจำได้ว่าเขาเข้านอนตามปกติ ได้ยินเสียงกรนของนิโคลอยู่เตียงข้างๆ แล้วเขาก็ตื่นขึ้นมาที่ไหนก็ไม่รู้ ดำมืดไปหมดทุกทิศทาง แล้วเขาก็เห็นบ้านตัวเอง แต่พอจะเข้าบ้าน ก็มีคนมาขวาง แล้วคนนั้นก็ดันเป็นตัวเขาเอง…หรือใครก็ตามที่หน้าเหมือนเขาหยั่งกับฝาแฝด

 

          “ก็เห็นๆ กันอยู่นี่” เด็กคนนั้นตอบยักไหล่ตอบกลับมา ราวกับคำถามที่เขาถามช่างเป็นอะไรที่ไร้สาระสิ้นดี “ฉันก็คือเอ็ดเวิร์ด ฟอร์บส์ไง นายนั่นแหละคือใคร”

 

          “หมายความว่าไง” เอ็ดเวิร์ดถามกลับ “ฉันคือเอ็ดเวิร์ด ฟอร์บส์”

 

          “อย่างนั้นหรอ” ร่างนั้นทำท่าลูบคางเหมือนคนกำลังใช้ความคิด “นายรู้จักอะไรเกี่ยวกับเอ็ดเวิร์ด ฟอร์บส์บ้างล่ะ”

 

          “นี่นายกำลังพูดถึงอะไร” เอ็ดเวิร์ดไม่เข้าใจคำถาม แน่ล่ะ เขาต้องรู้จักตัวเองดีอยู่แล้ว ก็นี่มันชีวิตเขานี่ แต่ไม่รู้เพราะอะไร เอ็ดเวิร์ดกลับรู้สึกอึดอัดกับคำถามนี้

 

          “อืมมมมม” ร่างนั้นลากเสียงยาวอย่างยียวน “คำถามนี้มันยากไปสำหรับนายงั้นหรอ เอ็ดเวิร์ด งั้นฉันเปลี่ยนคำถามให้ใหม่ก็ได้ ทำไมนายถึงอยากเจอแก่นเวทล่ะ” ร่างนั้นยิ้มเย้ยหยันให้เอ็ดเวิร์ด “หวังว่าคำถามนี้คงไม่ยากเกินไปนะ”

 

          “ฉันอยากรู้ความจริงเรื่องพ่อของฉัน” เอ็ดเวิร์ดตอบคำถามอย่างแน่วแน่ อย่างน้อยก็ในความรู้สึกเขาน่ะนะ แต่ไม่รู้สิ ลึกๆ แล้วเขารู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่….

 

          “แค่นั้นจริงๆ หรอเอ็ดเวิร์ด” ราวกับอ่านใจได้ ร่างนั้นพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่เขาจะคิดเรื่องที่คาใจเสร็จเสียอีก “ไม่ใช่ว่ามันยังมีอะไรในใจที่นายตอบตัวเองไม่ได้อยู่รึเปล่า”

 

          “นายรู้ได้ยังไง” เอ็ดเวิร์ดถาม มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาไม่เข้าใจอะไรในคนตรงหน้าเลยสักนิดเดียว

 

          “นี่ ฉันก็คือนายนะเพื่อน ไม่สิ ถ้าวัดจากความสนิทชิดเชื้อแล้ว เราคือคู่หูกันเลยล่ะ เราอยู่กับด้วยกันมาตลอด” ร่างนั้นยืดอกตอบอย่างโอ้อวด

          

          “ฉันรู้จักกับนายก่อนนิโคล แอเลน่า หรือเดรโกซะอีก ไม่สิ รู้จักกับนายก่อนที่นายจะรู้จักกับพ่อหรือแม่ด้วยมั้ง”

 

          เอ็ดเวิร์ดส่ายหัวไล่ความคิดทั้งหมดออกไป เขาไม่สนใจอะไรแล้ว เขาเบื่อที่จะมายืนตอบคำถามบ้าบอ ไร้สาระที่หาคำตอบไม่ได้กับใครก็ไม่รู้ที่อ้างว่าเป็นเขา เขาต้องการเพียงเข้าไปในบ้านของเขา ไปเจอแม่ แล้วถามทุกอย่างที่เขาสงสัย

 

          เด็กหนุ่มออกวิ่งสุดฝีเท้า ชนร่างนั้นที่ขวางทางอยู่กระเด็นไปด้านข้าง แล้วรีบพุ่งไปที่บ้านด้วยความเร็วทั้งหมดที่เขามี แต่ไม่รู้ทำไม แม้ว่าเขาจะวิ่งด้วยความเร็วเท่าไร เขาก็ไม่รู้สึกว่าเข้าใกล้ตัวบ้านได้เลยแม้แต่น้อย ยิ่งเขาพยายามย่นระยะทางไปสู่บ้านมากเท่าไร ก็เหมือนบ้านหลังนั้นจะขยับหนีเขาไปเรื่อยๆ ทุกที ราวกับเขากำลังวิ่งอยู่กับที่

 

          ไม่รู้ว่าวิ่งมานานเท่าไร แต่ในท้ายที่สุด เขายืนหอบหายใจตัวโยนด้วยความเหนื่อย บ้านหลังนั้นยังคงอยู่ตรงหน้าด้วยระยะทางเท่าเดิมกับก่อนหน้านี้  เขายืดตัวขึ้น พยายามสูดอากาศรอบข้างเข้าไปในปอดให้ได้มากที่สุด สักพักก็มีเสียงดังขึ้นข้างหน้าเขา

 

          “นายไม่มีวันแตะประตูนั้นได้หรอก คู่หู จนกว่าจะตอบคำถามของฉันได้” ร่างนั้นกลับมายืนกอดอกตรงหน้าเขาอีกครั้ง ด้วยท่าทางที่ปกติดีทุกอย่าง

 

          “นี่…นี่มันหมายความว่ายังไง นาย…นายเป็นใครกันแน่” เอ็ดเวิร์ดพยายามรวบรวมลมหายใจอันน้อยนิด เปลี่ยงเสียงออกมาเป็นคำถามไปสู่ร่างตรงหน้า

 

          “ฉันตอบคำถามพวกนั้นไปหมดแล้วนะ” ร่างนั้นตอบกลับมาอย่างเบื่อหน่าย “นายจะเอาแต่ถามคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมาก็ได้นะ แต่มันไม่ช่วยอะไรหรอก ทางที่ดี นายตอบคำถามฉันให้ได้จะดีกว่า”

 

          เอ็ดเวิร์ดเหนื่อยเกินกว่าจะคิดอะไรออกได้ในเวลานี้ แต่เหมือนความคิดจะเล่นตลก ในตอนนี้ที่เขาไม่มีแรงพอที่จะคิดถึงเรื่องอะไร คำพูดของครูใหญ่ที่เคยพูดไว้ก็แล่นกลับเข้ามาในหัวอีกครั้ง “คุยกับตัวเองและทำความเข้าใจตัวเองให้กระจ่าง” คุยกับตัวเอง ทำความเข้าใจตัวเองงั้นหรอ หรือว่านี่คือ…

 

          “ใช่แล้ว” อีกครั้งที่ร่างตรงหน้าพูดต่อในสิ่งที่เขาคิด “อย่างที่นายเข้าใจนั่นแหละ ประตูหน้าบ้านนายตรงนั้น คือ…”

 

          “แก่นเวท” เอ็ดเวิร์ดต่อคำพูดให้จบ “ฉันไม่เข้าใจ ทำไมแก่นเวทถึงกลายเป็นประตูหน้าบ้านฉัน”

 

          ร่างนั้นหัวเราะออกมาเบาๆ ให้กับคำถาม “เวทมนตร์มันเป็นเรื่องตลกนะ คู่หู บางครั้งมันก็มักจะมาในรูปแบบที่เราคาดไม่ถึง”

 

          เอ็ดเวิร์ดพยายามทบทวนความคิดของตัวเองที่วุ่นวายอยู่ในหัวตอนนี้ให้เป็นระเบียบอยู่ และก็เป็นอีกครั้ง ร่างตรงหน้าพูดคำพูดที่เหมือนแทนสิ่งที่เขากำลังพยายามทำอยู่ออกมา

 

          “นายไม่จำเป็นต้องพยายามเข้าใจไปซะทุกอย่างหรอก เรื่องบางอย่างมันก็อยู่นอกเหนือความเข้าใจของเรา” ร่างนั้นเดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้น

          

          “ตอบคำถามฉันให้ได้ แล้วนายก็จะได้คำตอบในสิ่งที่นายอยากรู้ เพราะอะไรกัน เอ็ดเวิร์ด สิ่งที่คาใจของนายอีกอย่างคืออะไร ทำไมนายถึงอยากได้สิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์มาครอบครองนัก”

 

          เอ็ดเวิร์ดไม่รู้จะตอบคำถามนี้ยังไง เขาพยายามคิดทบทวนในหัวตัวเอง เพราะอะไรกันล่ะ นอกเหนือจากที่เขาอยากรับรู้ความจริงเรื่องพ่อของเขา เขาต้องการอะไรอีก ความต้องการอะไรสักอย่างที่ติดอยู่ที่ปลายความคิด ทำไมเขาถึงนึกไม่ออกกันนะ

 

          เมื่อเขาหายจากอาการเหน็ดเหนื่อย ความเงียบที่น่ากลัวก็กลับเข้ามาอีกครั้ง เอ็ดเวิร์ดลองหลับตาเพื่อเปิดใจรับความเงียบเข้ามาช่วยคิด ความเงียบช่างสงบและสงัดพอๆ กับความดำมืดรอบข้าง ไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาแม้กระทั่งเสียงลมหายใจ เว้นแค่เพียงเสียงเดียวราวกับเสียงกระซิบที่กำลังดังออกมาจากบ้าน เสียงแม่ของเขา

 

          แม่กำลังทำอะไรอยู่นะ…ความคิดเริ่มหลุดลอยไปที่ต้นเสียง ดูทีวีอยู่งั้นหรอ…รายการโปรดของแม่ล่ะสิ…ไม่ใช่นี่นา เสียงเหมือนกำลังพูดคุยกับใครอยู่เลย…ป้าไดอานี่หรอ…ไม่ใช่ เสียงผู้ชายต่างหาก…ใครกันนะ ไม่คุ้นเสียงเลย ก่อนหน้านี้ไม่เห็นจะได้ยินเลย…เสียงใครกัน แต่ฟังแล้วอบอุ่นชะมัด…หัวเราะกันอยู่ด้วยแหะ

 

          ไม่รู้ว่านานเท่าไรที่เอ็ดเวิร์ดจมอยู่กับเสียง 2 เสียงที่พูดคุยกันอยู่ แม้จะฟังไม่ชัดพอว่าเขาพูดคุยเรื่องอะไรกัน แต่เอ็ดเวิร์ดก็พลอยยิ้มตามไปด้วยทุกครั้งที่ได้ยินเสียงของทั้ง 2 คนนั้นหัวเราออกมานอกบ้าน น้ำตาเขาค่อยๆ ซึมออกมาทางหางตา เขาไม่เข้าใจทำไมเข้าต้องร้องไห้ แต่ที่มั่นใจก็คือมันไม่ใช่น้ำตาของความเสียใจแน่นอน เขาว่าเขาพอจะเดาได้แล้วว่าเสียงนั้นคือเสียงของใคร น้ำหยดใสไหลลงมาจากหางตาสู่แก้ม เอ็ดเวิร์ดยิ้มออกมาแล้วลืมตาขึ้น

 

          “รู้แล้วสินะ คู่หู” ร่างนั้นยิ้มให้เขา มีคราบน้ำตาอยู่บนในหน้าเช่นเดียวกัน

 

          เอ็ดเวิร์ดยิ้มตอบกลับ “ใช่ รู้แล้ว”

 

          “ขอฟังคำตอบของนายหน่อยสิ” ร่างนั้นกล่าว

 

          “ฉันอยากรู้ความจริงเกี่ยวกับพ่อ” เอ็ดเวิร์ดยิ้มตอบ “แต่ที่สำคัญที่สุด ฉันอยากเจอเขาสักครั้ง และไม่ว่ามันจะเป็นไปได้หรือไม่ก็ตาม ฉันอยากช่วยเขา อยากให้เรา 3 คนได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างมีความสุขอีกครั้ง”

 

          “โชคดีนะ” ร่างนั้นถอยออกไปทางด้านข้าง หลีกทาให้เอ็ดเวิร์ดได้เดินไปสู่บ้านของเขา “หวังว่าจะได้พบกันอีก”

 

          “ฝันไปเถอะ” เอ็ดเวิร์ดพูดขำๆ พร้อมกับก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าอย่างมีความสุข “กับนายครั้งเดียวก็เกินพอ”

 

          “ไม่ต้องห่วงหรอก” คำพูดจากร่างนั้นราวกับเสียงกระซิบที่ลอยตามลม ไม่ต้องการผู้รับฟัง แล้วร่างนั้นก็เดินไปอีกทางเข้าสู่ความมืดดำเบื้องหน้า ทิ้งไว้แต่เพียงคำพูดสุดท้ายก่อนจากไป “เราได้เจอกันอีกแน่ คู่หู”

 

          เอ็ดเวิร์ดเดินมาถึงหน้าประตูโดยไม่เหลียวมองกลับไปมองด้าน เขาทำใจอยู่สักครู่ เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู มันยังคงเย็นเยียบเหมือนทุกครั้งที่เขาเคยสัมผัส เด็กหนุ่มกลั้นใจ แล้วเปิดประตูเข้าไปในบ้าน มีแสงสว่างจ้าจนแสบตารอต้อนรับเขา

 

          เอ็ดเวิร์ดสะดุ้งตื่น ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง หายใจแรง เหงื่อออกเต็มใบหน้าและแผ่นหลัง รู้สึกถึงจังหวะหัวใจที่เต้นเปลี่ยนไป ราวกับเลือดในร่างสูบฉีดอย่างรุนแรงที่สุดอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสได้มาก่อน เขาไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจำอะไรไม่ได้เลย อย่างเดียวที่รู้แน่ชัดก็คือ เขาเปิดแก่นเวทได้แล้ว

 

          เอ็ดเวิร์ดยกมือขึ้นมาเช็ดเหงื่อบนใบหน้า และสัมผัสได้ถึงคราบบางอย่างบนแก้ม ไล่ลงมาจากหางตา “น้ำตาหรอ เราร้องไห้ทำไมกันนะ” เขารำพึงเบาๆ กับตัวเอง

 

          “เปิดได้แล้วสินะ เอ็ด” เสียงพูดจากข้างเตียงดังขึ้นจนทำเอาเด็กหนุ่มสะดุ้งโหยง เมื่อหันไปก็พบเข้ากับนิโคลที่นั่งอยู่บนเตียงของตัวเอง ในสภาพที่ไม่ต่างจากเขาสักเท่าไร

 

          “นายก็ด้วยงั้นหรอ นิค” เอ็ดเวิร์ดถามกลับ แต่ไม่ต้องถามก็พอจะเดาคำตอบได้

 

          “ใช่” เด็กหนุ่มตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ไม่รู้ว่าได้ยังไงเหมือนกัน ฉันจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง นายล่ะ”

 

          “ฉันก็เหมือนกัน” เอ็ดเวิร์ดตอบพลางก้มดูคราบน้ำตาในมือที่เช็ดออกมา

 

          ความเงียบเข้ามาปกคลุมอีกครั้งจากการที่ 2 เด็กหนุ่มพยายามนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น สักพักก็หันมามองหน้ากัน และหัวเราะกันออกมา ชัดเจนว่านึกไม่ออกกันทั้งคู่

 

          “ยังงี้ พรุ่งนี้ก็ไปกันได้แล้วสินะ” เสียงพูดข้างตัวของเอ็ดเวิร์ดอีกข้าง ทำเอาเขาสะดุ้งโหยงอีกครั้ง

 

          “ไอ้บ้าเดรโก มาหยั่งกับผี ตกอกตกใจหมด” เอ็ดเวิร์ดหันไปตะคอกเบาๆ ด่าเพื่อนที่อยู่ๆ ก็โผล่มาข้างตัวเขา จนทำเอาหัวใจเกือบหยุดเต้น “แล้วไอ้ที่ว่าไปเนี่ย ไปไหน”

 

          “บ้านนายไง ไปหาความจริงกัน” เดรโกตอบกลับสีหน้าเรียบ

 

          “แต่พรุ่งนี้เรามีเรียนพละนะ”  นิโคลทวนความจำเผื่อเพื่อนทั้ง 2 ของเขาจะจำไม่ได้ “คนอย่างนายรู้จักโดดเรียนกับเขาตั้งแต่เมื่อไร เดรโก”

 

          “ก็พร้อมๆ กับที่คนอย่างนายจำตารางเรียนได้นั่นแหละ” เดรโกตอบกลับเบาๆ

 

          เด็กทั้ง 3 คนมองหน้ากัน แล้วก็หัวเราะกันออกมาดังลั่นแบบไม่เกรงใจเพื่อนคนอื่นๆ ที่กำลังหลับกันอยู่เลย

 

          “ตามนั้น” เอ็ดเวิร์ดย้ำอีกครั้ง “พรุ่งนี้ไปบ้านฉันกัน”

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา