เธอ(YOU)

9.8

วันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2564 เวลา 19.24 น.

  11 chapter
  0 วิจารณ์
  5,548 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 22 มีนาคม พ.ศ. 2565 12.45 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

6) Chawin's Letter

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   

Chawin's Letter

 


 

- Next Day -

วันนี้เจษลินทร์พาคุณเจนไปทำธุระในช่วงเช้าทำให้เขาเข้าบริษัทสายไปสักหน่อย หลังจากจอดรถเสร็จ เขาเห็นปัณณวิชญ์เข้ามาเอารถพอดีจึงเอ่ยทักทาย

 

“สวัสดีครับคุณปัณณวิชญ์”

“สวัสดีครับ” คนเด็กกว่าเอ่ยตอบ

เจษลินทร์มองสำรวจรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตที่คนตรงหน้าคร่อมอยู่ 

“รถสวยนะครับ เมื่อคืนเห็นในรูปว่าสวยแล้วของจริงสวยกว่าอีก รุ่นอะไรแล้วนะ” เจษลินทร์ว่าพร้อมยกยิ้มชื่นชมรถสีขาวดำตรงหน้า

เป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวยิ้มแบบไม่เฟคให้เห็น นั่นทำให้ปัณณวิชญ์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบ

“ข ขอบคุณ อันนี้ Ducati 959 Panigale ครับ"

คนโตกว่าพยักหน้ารับ สายตายังคงจับจ้องไปที่ส่วนต่างๆของรถ เขาเองก็อยากลองขับดูเหมือนกันแต่ไม่เคยมีโอกาสเลย

"คุณเพิ่งเข้างานเหรอ” ปัณณวิชญ์ถามบ้าง

“ครับ ”

ยังไม่ทันได้พูดอะไรกันต่อ น้องมิ้นท์ผู้ช่วยคนเก่งของเจษลินทร์ก็วิ่งหน้าตื่นมาหาเขา

“พี่เจษ มิ้นท์โทรหาตั้งแต่เมื่อเช้า เห็นพี่เจษไม่รับสาย กำลังนึกเป็นห่วงอยู่เลยค่ะ”

“อ่า โทษทีพี่ลืมเปิดเสียงโทรศัพท์น่ะ แล้วที่วิ่งหน้าตื่นมานี่คงไม่ใช่เพราะดีใจที่เห็นพี่เข้าสตูหรอกนะ”

“ค่ะ พอดีคุณศศิธร โทรมาบอกว่าเปลี่ยนเวลาคุยงานเป็นสิบเอ็ดโมงสี่สิบห้า มิ้นท์ติดต่อพี่ไม่ได้เลยให้น้องอ้อนล่วงหน้าไปรับหน้าทางนั้นไว้ก่อน พี่เจษก็รู้ว่าคุณศศิธรเขาจะคุยกับพี่เท่านั้น”

“ห้ะ สิบเอ็ดโมงสี่สิบห้า? อีกยี่สิบนาที! จากที่นี่ไปก็ไม่ใช่ใกล้ๆ แถมแถวนั้นรถก็ติดประจำอีก อ่า งั้นมิ้นท์เรียกวินมอ’ไซค์หน้าปากซอยให้พี่หน่อย ถ้าแว้นไปน่าจะทัน” เจษลินทร์เอ่ยน้ำเสียงรนหน่อยๆ ต่างกับท่าทางที่ยังคงสุขุมของเขา

“เอ่อ ผมไปส่งได้นะ” ปัณณวิชญ์เอ่ยขึ้น

เจษลินทร์ทำหน้าแปลกใจ ถึงเมื่อคืนเราจะสงบศึกกันแล้วก็เถอะ แต่ก็ไม่คิดว่าอีกคนจะอาสาไปส่งเขา

“กว่าจะไปเรียกรถมาก็หมดไปหลายนาทีแล้ว ผมไปส่งได้ ขับรถเก่งด้วย”

ไม่มีเวลาให้เจษลินทร์มาคิดเล็กคิดน้อย เขาจึงตอบตกลง “งั้นรบกวนด้วยนะครับ”

ปัณณวิชญ์ถอดหมวกกันน็อค สะบัดผมสองสามที แล้วยื่นหมวกให้อีกคน

เจษลินทร์เลิกคิ้วเล็กน้อย รู้ว่ามันไม่ใช่เวลา แต่ก็ต้องยอมรับว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าเขานี่'เท่เป็นบ้าเลยแฮะ แล้วไอ้ลูกกระเดือกที่แสนเด่นเป็นสง่านั่นคืออะไร่เหร๋อ? ทำไมของเขาไม่เห็นมีแบบนี้บ้างเลย?

“เอ่อ คุณมีใบเดียวนี่ คุณใส่เถอะ”

“ผมว่าลูกค้าคงแปลกใจถ้าคุณหัวฟูไปคุยกับเขา” เจ้าของรถเอ่ยหน้านิ่ง

เจษลินทร์ยิ้มแห้งๆรับหมวกมาใส่ แล้วก้าวขึ้นรถแบบเก้ๆกังๆ

ปัณวิชญ์เห็นแบบนั้นจึงยื่นแขนให้คนตรงหน้าจับ  นั่นทำให้คนโตกว่ายกยิ้มให้กับความใจดีที่ไม่ตั้งใจนั้น

“ตึก RAC ถนนXXX ครับ”

เจษลินทร์ยังคงเงอะงะ เนื่องจากเบาะหลังที่เขานั่งอยู่มันสูงทำให้เขาวางตัวไม่ถูกว่าจะต้องนั่งยังไง มือไม้มันดูเก้งก้างไปหมด

เจ้าของรถจึงดึงมือขาวๆของเจษลินทร์มาเกาะเอวเขาไว้

"จับดีๆไม่งั้นจะร่วง" ว่าเสร็จก็บิดลูกชายคู่ใจออกไป

ส่วนคนที่นั่งข้างหลังได้แต่เกาะเอวปัณณวิชญ์แน่น อยู่ๆก็รู้สึกคันยุบยิบในหน้าอกแปลกๆแฮะ

.

.

“ขอบคุณมากนะ ถ้าไม่ได้คุณผมต้องแย่แน่ๆ ผมไปก่อนนะไว้วันหลังผมเลี้ยงข้าวเป็นการตอบแทน” คนโตเอ่ยพร้อมจะวิ่งเข้าบริษัทไป แต่โดนอีกคนคว้ามือไว้ก่อน

เจษลินทร์หันมามองด้วยความแปลกใจปนอึ้ง ปัณณวิชญ์จึงรีบปล่อยมือ

“คนเฝ้าประตูคงไม่ให้คุณเข้าหรอก ถ้าคุณไม่ถอดหมวกก่อน”

เจษลินทร์หน้าเหวออีกรอบพร้อมหัวเราะออกมา มือก็สาละวนถอดหมวกคืนให้เจ้าของ

เสร็จแล้วโบกมือลาปัณณวิชญ์ วิ่งดุ๊กดิ๊กหายเข้าไปในตึก

เจ้าของรถมอไซค์ลูบหมวกกันน้อคอย่างทะนุถนอมก่อนจะหยิบมาสวม เขาเป็นคนรักหมวกกันน้อคมาก ทุกๆใบเขาจะเก็บรักษาดูแลอย่างดี

ยอมให้คนแปลกหน้าใส่นี่ก็ถือว่ากลั้นใจมากแล้วสำหรับเขา

 

 

 

 

ในคืนวันเดียวกัน เจษลินทร์มานั่งในห้องทำงานของผู้เป็นพ่ออีกครั้ง เขาหยิบจดหมายที่ได้เมื่อคืนขึ้นมาดู

เป็นซองจดหมายสีน้ำตาล เขียนหน้าซองด้วยปากกาหมึกซึม

 

ตามสัญญา

ข้างในเป็นกระดาษA4 ที่ถ่ายเอกสารจากกระดาษที่เขียนด้วยลายมืออีกทีนึง มีใจความว่า

 

ผมไม่ได้ฆ่าผู้หญิงคนนั้น คืนนั้นผมแค่ไปทำงาน แค่ทำงานเอง!

ผู้ชายคนนั้นเขาพาผู้หญิงที่ไม่ได้สติขึ้นรถมาด้วยจริงๆ

หลังจากที่ผมแวะปั๊มไม่นานผมก็รู้สึกว่าตัวเองอาการไม่ดี ฝืนขับรถไปจนถึงซอยเปลี่ยวนั่น แล้วสติผมก็วูบไป จำอะไรไม่ได้อีกเลย

พอตื่นขึ้นมา ก็เห็นผู้หญิงคนนั้นมีมีดทิ่มอยู่บนหน้าอกแล้ว มีดเล่มนั้นไม่ใช่ของผมด้วยซ้ำ!!

ผมไม่ได้ฆ่าเธอ ผมไม่ได้ฆ่าเธอจริงๆ!!

ชีวิตผมจบสิ้นแล้วทุกอย่าง เขาหลอกผม! แล้วผมจะมีชีวิตต่อไปทำไม? ผมจะจะอยู่ไปเพื่ออะไร? การตายของผมมันจะมีค่าให้คนเห็นว่าผมบริสุทธิ์รึเปล่านะ'

 

 

ชวินทร์ กรณ์กัณณ์

29 กุมภาพันธ์ 2561

 

 

 

พออ่านเสร็จ เจษลินทร์หยิบมือถือขึ้นมาหาข่าว พบว่าชวินทร์เสียชีวิตวันถัดมาหลังจากที่เขาเขียนจดหมายนี้

เขารู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูก ได้แต่บอกตัวเองต้องรีบสืบหาความจริงให้ได้ พร้อมพิจารณาเนื้อความของจดหมายอีกรอบ

ในจดหมายชวินทร์บอกว่ามีผู้ชายขึ้นรถไปกับเขา ถ้างั้นก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ว่าเขาจะไม่ใช่ฆาตกร

แต่เขายอมรับสารภาพทำไมล่ะ?

เจษลินทร์ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนมือเรียวจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาเพื่อนสนิทเจ้าเดิม

 

Jecelyn: ขุน ยุ่งอยู่รึเปล่า

Khun: ไม่ยุ่ง ว่าจะทักหาอยู่พอดีเลย

Jecelyn: เรื่องคดีที่คุยกันอ่ะ ลองไปแง้มๆ ดูบ้างรึยัง

Khun: อือ ไปดูมาแล้ว

Jecelyn: เป็นไงบ้าง มีไรผิดปกติมั้ย

Khun: จริงๆ จะว่ามีก็มีนะ วันเสาร์นี้ว่างมั้ยล่ะ มาคุยกันหน่อย

Jecelyn: อื้อ ได้ๆเดี๋ยวชวนยูไปด้วย

Khun: เค แล้วเจอกัน

Jecelyn: โอเค

 

 

เรื่องคดีคงต้องรอดูหลักฐานและข้อมูลเพิ่มวันเสาร์นี้ละนะ

แล้วเจษลินทร์มานั่งคิดถึงที่มาของจดหมายในมือ

'เจ้าเด็กป่วนนั่นเป็นคนส่งจดหมายให้เขาสินะ แต่เด็กนั่นรู้ได้ไงว่าเขาจะไปที่ร้านนั้น?'

คนที่รู้ว่าเขาจะไปที่นั่นมีแค่ปรานต์ เพราะปัณณวิชญ์ตามมาโดยที่ไม่ได้นัดกันก่อน

'งั้นเป็นฝีมือปรานต์เหรอ?' ไม่ใช่แน่นอน เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยมหาลัย

'หรือว่าเด็กป่วนจะสะกดรอยตามเขา?' ก็ไม่น่าใช่ เพราะไม่รู้สึกถึงการถูกแอบตามสักนิด

เจษลินทร์หันมองซองจดหมายสีน้ำตาลอย่างพิจารณาอีกครั้ง

ซองจดหมายก็เป็นกระดาษทั่วไปลายมือที่เขียนก็ไม่ได้ประณีตอะไร สมกับเป็นเด็กผู้ชายวัยเลือดร้อนที่เจษลินทร์เคยเดาไว้ก่อนหน้านี้

เมื่อดูดีๆ เขาเห็นว่าตัวหนังสือจะมีรอยเลอะหมึกปากกาที่ยังไม่แห้ง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าคนที่เขียนนั้นถนัดซ้าย

พลันนึกถึงเรื่องเมื่อคืน เขาจำได้ว่ายังท้วงปัณณวิชญ์ในใจอยู่เลยว่าอีกฝ่ายถนัดซ้าย

เอ๋? เดี๋ยวนะ! ปัณณวิชญ์เหรอ?

ภาพในหัวเจษลินทร์นึกย้อนไปตอนที่เขาเจอกับปัณณวิชญ์ครั้งแรกเมื่อสองปีก่อน

ตอนนั้นอีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนมากว่าไม่ชอบเขา

คิดไปคิดมาการพูดจาของปัณณวิชญ์ก็ออกทำนองเดียวกันกับข้อความที่เจษลินทร์ได้รับเลยนี่นา!

ทั้งแดกดันและแสนจะประชดประชัน

พอมาตอนนี้เขาได้รับข้อความอีกครั้ง ปัณณวิชญ์ก็ปรากฏตัวขึ้นเช่นกัน มันคงไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ

เพราะทุกครั้งที่เขาเจอปัณณวิชญ์ ฝ่ายนั้นเป็นคนเลือกเองได้ทั้งหมดว่าจะมาเจอเขารึเปล่า

คิดมาถึงตรงนี้เจษลินทร์เชื่อเกินครึ่งแล้วว่า 'ปัณณวิชญ์ต้องเป็นเจ้าเด็กที่ส่งข้อความหาเขาแน่!'

แค่ต้องพิสูจน์ให้ได้แค่นั้นเอง

ว่าแล้วเจษลินทร์ก็ส่งข้อความหาขุนพลอีกครั้ง ขอให้เพื่อนหาประวัติของ ชวินทร์ กรณ์กัณณ์ และครอบครัวมาด้วย

.

.

Rrrrrrrrr Rrrrrrrrrr

เสียงโทรศัพท์ของเจษลินทร์แผดเสียงขึ้น ในขณะที่เจ้าตัวกำลังนอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียง

 

[ฮัลโหล เจษยุ่งอยู่รึเปล่าครับ]

“ไม่ยุ่งครับ พี่ซันล่ะ ว่างแล้วเหรอครับถึงโทรมาได้”

[เพิ่งประชุมเสร็จเลยครับ กลัวว่าถ้ารอให้พี่ว่างเจษคงหลับไปแล้ว]

“ถ้าเหนื่อยก็พักบ้างนะครับ เจษเห็นพี่ทำงานไม่ได้หยุดเลย”

[แค่ได้ยินเสียงเจษก็หายเหนื่อยแล้ว]

“โห งั้นต่อไปเจษจะส่งข้อความเสียงไปให้ แล้วพี่ซันทำงานตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยดีมั้ยครับ”

[คนน่ารักนี่ใจร้ายกันทุกคนเลยมั้ยน้า]

“อันนี้ก็ตอบไม่ได้ ต้องไปถามคนน่ารักดูแล้วแหละ”

[พี่ก็ถามอยู่นี่ไง ตั้งแต่รู้จักกับเจษมาก็ไม่เคยเห็นคนอื่นน่ารักอีกเลย]

“หยอดเก่งขนาดนี้ เปิดร้านขายขนมทองหยอดเถอะครับ น่าจะรุ่ง”

[ฮ่าฮ่า ถ้าเจษอยากเปิด พี่เปิดให้ได้นะครับ]

“เบื่อจังเล้ย คนนิสัยรวยเนี่ย” เจษลินทร์เอ่ยน้ำเสียงหมั่นไส้ ทำให้ปลายสายหัวเราะเบาๆตอบกลับมา

[เจษครับ วันอาทิตย์นี้ว่างมั้ย]

“ทำไมเหรอครับ”

[ไปเดตกัน]

“พี่ว่างแล้วเหรอ”

[ครับ ว่างช่วงบ่าย เราไปดูหนังแล้วก็ไปดินเนอร์กันนะครับ]

“ได้ครับ”

[โอเค วันอาทิตย์พี่ไปรับนะ]

“ครับ งั้นวันนี้พี่ก็พักผ่อนเถอะ”

[ครับผม ฝันดีนะครับ]

“ฝันดีครับ”

[เอ้อ เจษ!]

“ครับ?”

[คิดถึงนะ]

“อ่า ครับ คิดถึงเหมือนกันครับ”

ปลายสายพูดบอกลาเจษลินทร์อีกสองสามประโยคจึงได้กดวางสายไป

 

เจษลินทร์กับ ซัน หรือ ซีเปียน คุยกันได้ประมาณสี่เดือนกว่าแล้ว ความสัมพันธ์ของพวกเขาเป็นแบบช้าๆเรื่อยๆไม่รีบร้อน เพราะต่างคนก็ต่างงานยุ่ง ยิ่งซีเปียนมีธุรกิจหลายอย่างที่ต้องดูแล เวลาว่างแทบจะไม่มีเลย ได้เจอกันมากสุดคืออาทิตย์ละครั้งเท่านั้นเอง

แต่เจษลินทร์ก็ไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องนั้นเท่าไหร่ เพราะเขาเองก็มีเรื่องที่ต้องทำมากมาย อย่างเช่นช่วงนี้นี่แหละ!

 

 

 

TBC

 


 

จะใช่นายคนนั้นที่พิ่เจษคิดหรือเปล่าน้าาาาาา

(。= _ =。) 

ติชมกันเข้ามาได้นะคะ

 

LOVE

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา