เลดี้ไบอา
เขียนโดย Juzzie
วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2567 เวลา 02.47 น.
แก้ไขเมื่อ 5 มีนาคม พ.ศ. 2567 02.58 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ตอนที่ 1 คำสาปแห่งเวทานุส
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความท่ามกลางเสียงอึกทึกโหมโรงของเหล่าทหารในสนามรบ ณ ปลายเขตอาณาจักรเวทานุส รอบข้างของผู้ชนะสงครามเต็มไปด้วยศพของเหล่าอัศวินผู้กล้าทั้งสองฝ่าย ทหารที่เหลือรอดต่างพากันส่งเสียงสรรเสริญผู้นำทัพให้ออกหน้ามารับชัยชนะในครั้งนี้
แต่หากเขาผู้นั้นได้หายตัวไปเสียก่อนแล้ว
“ที่ท่านดยุกหายไปแบบนี้ ก็คงเป็นเพราะคำสาปบ้านั่นล่ะมั้ง”
“มันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือ เข่นฆ่าผู้คนมากมาย ก็สมควรโดนเช่นนั้น”
“เจ้าเองก็ร่วมในสงครามนี้ เหตุใดต้องพูดเช่นนั้นเล่า อีกอย่างนี่ก็เป็นหน้าที่ของวีรบุรุษ ท่านดยุคเองก็รับภาระหนักอึ้งตั้งแต่ยังเยาว์เลยนี่”
เมื่อ 5 ปีก่อน ไซรุส บิโอนาร์ด อายุเพียง 19 ปี แต่ได้รับภาระหน้าที่อันหนักอึ้งอย่างการเป็นผู้นำรบในสงครามกบฎกลางเมืองหลวง
ที่ต้องรับภาระนี้ตั้งแต่อายุเท่านี้ ก็เป็นเพราะแกรนด์ดัชเชสจันนา บิโอนาร์ด มารดาของไซรุส เป็นสายเลือดราชวงศ์ของอาณาจักรเวทานุส ซึ่งได้ขอสละราชสมบัติแลกกับการแต่งงานกับชายผู้เป็นที่รักอย่างแกรนด์ดยุกไลเบอริน บิดาของไซรุส และมันทำให้ราชวงศ์คอยรังแกและยกงานบริหารยากๆ ให้กับตระกูลบิโอนาร์ดอยู่เสมอ
“แล้วคำสาปที่ว่านั่น คืออะไร?” ในสงครามกบฏเมื่อ 5 ปีก่อน เวทานุสก็ได้รับชัยชนะอย่างไร้ที่ติ แต่แล้วมีหญิงสาวคนหนึ่งปรากฎตัวออกมาท่ามกลางไฟที่ร้อนระอุในสงคราม
“เจ้าเข่นฆ่าผู้คนมากมายตั้งแต่อายุเพียงเท่านี้ มิระอายใจบ้างหรือ คนบริสุทธิ์ต้องล้มตายไปอีกกี่คน เจ้าถึงจะพอใจ”
หญิงสวมผ้าคลุมยาวลากพื้น ปิดชิดทั้งใบหน้าและลำตัว ราวกับไม่อยากให้ผู้ใดรู้ตัวตนของเธอ พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งขรึม
“ข้าเพียงทำตามหน้าที่ที่ได้รับมา อีกทั้งข้าก็จำเป็นต้องปกป้องประชาชนของข้า พวกนั้นเป็นกบฏคิดทรยศแผ่นดิน ทั้งยังทำร้ายคนผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่มีแม้กระทั่งอาวุธ ท่านคิดว่าข้าทำผิดหรือ”
ไซรุสกล่าวด้วยความหนักแน่นและทหารทุกคนตรงนั้นก็ต่างเห็นพร้องแลนับถือเด็กน้อยคนนี้
สิ้นเสียงไซรุส ไฟสีม่วงก็แผดเผาขึ้นรอบกายหญิงสาว ไฟนั้นร้อนจนไม่มีใครคิดจะทนยืนอยู่ตรงนั้นอีกต่อไป พร้อมกับเสียงที่ว่า
“เจ้าจงอยู่กับคำสาปนี้ไปชั่วชีวิต แม้จะรบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง เจ้าก็จงล้มป่วยอย่างทรมาน ให้เจ้ามีโลหิตพิษที่ไหลออกตามร่างกาย เมื่อเจ้าสิ้นสุดการเข่นฆ่าผู้คน แม้จะเป็นผู้บริสุทธิ์หรือไม่ก็ตาม เจ้าจะไม่ตาย แต่เจ้าจะทรมานมากกว่าผู้ใด”
สิ้นเสียงคำสาป เพลิงม่วงก็ลุกโชยขึ้นสูงเชียดฟ้าและดับไปอย่างรวดเร็ว มันราวกับว่าการระเบิดปะทุของคำสาป นั้น ได้ทำให้คำสาปเริ่มทำงานแล้ว
ด้านหน้าของเหล่าทหาร เหลือเพียงร่างของดยุกน้อยที่ลงไปกองอยู่กับพื้นและมีเลือดไหลออกจากตา หู จมูกและปาก มิมีใครสามารถสัมผัสนายน้อยของตนได้ เนื่องจากเลือดนั้น เมื่อสัมผัสลงไป ก็ทำให้ผิวหนังแสบร้อนและเปื่อยยุ่ย แต่เหล่านักรบก็ได้ช่วยกันประคองไซรุสจนไปถึงคฤหาสน์เพื่อเข้ารับการรักษา
เรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปสู่หูของประชาชน บ้างก็เชื่อว่าเป็นเรื่องเล่า บ้างก็เชื่อว่าเป็นความจริง
…..
…..
…..
คะ..แค่ก...แค่ก
“อ่า เจ็บชะมัด”
ไซรุสในวัย 24 ตื่นจากการสลบไสลนานนับวัน เขากระอักเลือดออกมา ทั้งทางจมูก ตาและหูก็มีเลือดไหลออกมาเช่นกัน แต่คำพูดของเขาไม่ได้แสดงออกถึงความเจ็บปวดเลยแม้แต่น้อย
“เลดี้ครับ ท่านดยุกฟื้นแล้วครับ”
“ที่นี่วิหารเทเนียสงั้นหรือ ข้าบอกเจ้าแล้วนี่ เหตุใดจึงยังดั้นด้นพาข้ามาที่นี่อีก”
“ท่านดยุก ครานี้ท่านถึงกับหมดสติไป สิ่งที่ผมทำให้ท่าได้มีเพียงแค่ทำให้ท่าไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้นะครับ”
“แต่เจ้าหูเบาเชื่อฟังคำเล่าลือที่ว่าที่นี่มีผู้รักษาสูงสุดงั้นหรือ ไร้สาระดีนะเจ้าเนี่...”
ไม่ทันสิ้นเสียงไซรุสที่กล่าวเล่นกับองครักษ์ประจำตัว ก็ได้มีแสงดั่งมรกตปรากฏขึ้น ณ บริเวณรอบตัวเขา พร้อมกับเลดี้ที่มีสีของดวงตาเดียวกับแสงนั้น
ไม่นานนัก ความเจ็บปวดของเขาหายไปราวกับว่ามันไม่เคยมีมาก่อน รอยเปื่อยยุ่ยบนร่างกายจากการถูกพิษโลหิตที่เป็นฤทธิ์กรดกัดก็หายไปด้วย
“ไบอา แรร์ริสันค่ะ ข้าเป็นผู้รักษาสูงสุดที่นี่ หวังว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่จะเปลี่ยนความคิดท่านที่ว่าเป็นข่าวลือไร้สาระนะคะ ข้าขอดูแลท่านดยุกตรงนี้ต่อไปอีกสักครู่ รบกวนท่านองครักษ์ประจำตัวไปรอข้างนอกก่อนนะค”
เมื่อองครักษ์ออกไปนอกห้องรักษา ไบอาเขยิบกายมานั่งเคียงข้างไซรุส เขารู้สึกไม่เป็นตัวเอง ใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ ไม่เคยมีใครปฏิบัติกับเขาแบบนี้มาก่อน
มีหญิงสาวเข้าหาไซรุสมากมาย แต่นางเหล่านั้นมักเข้ามา หากไม่เพราะหวังในสมบัติของตรกูลก็คงเข้าหาเพียงเพราะใบหน้าอันงดงามของไซรุสที่เป็นที่เลื่องลือไปหลายอาณาจักร
“แต่ทำไมเลดี้คนนี้ถึงปฏิบัติต่างออกไป” นางไม่มีท่าทีเหล่านั้นและปฏิบัติกับข้าอย่างทะนุถนอม การรักษาด้วยการเอาใจใส่แบบนี้ มันทำให้ข้าอึดอัดใจเสียจริง
ไซรุสเพียงคิดไว้ในใจ ไม่ทันไร มือของไบอาก็มาแตะที่หน้าของเขา
“ท่านจะทำอะไรกับหน้าของข้า”
“ข้าเพียงจะรักษาให้ท่าน ตรงบริเวณนี้ยังมีรอยแผลเป็นเก่าอยู่ หากท่านเคยได้ยินข่าวลือเรื่องการรักษาของข้า ท่านเองก็ควรดิ้นรนในการมีชีวิตหน่อยไม่ดีกว่าหรือ เหตุใดปล่อยปละละเลยตัวเองได้เช่นนี้”
ไบอากล่าวพร้อมกับรักษาใบหน้าที่มีรอยแผลเป็นที่เกิดจากการกัดกร่อนโดยการแตะไปที่ใบหน้าอันงดงามนั้น และเพ่งสมาธิเต็มที่
เนื่องจากการรักษาแผลที่มาจากคำสาปและคงเป็นแผลที่เก็บมานานนั้น ต้องใช้ทักษะในการรักษาขั้นสูง หากไม่มีความชำนาญมากพออาจะทำให้ผู้รักษาโดนเวทย้อนกลับได้
“ข้ามิใช่เป็นเพียงผู้รักษาสูงสุดของวิหารนี้ แต่ข้ายังเป็นผู้ใช้เวทเหมือนท่าน หากแต่ธาตุก็แตกต่างกันออกไป จึงอาจจะทำให้ท่านไม่รู้สึกถึงพลังของข้า”
“เลดี้มิรู้หรือ ว่าการบอกว่าตัวเองเป็นผู้ใช้เวทกับคนแปลกหน้ามันอันตรายแค่ไหน”
“ข้ารู้ว่าคนที่ข้าบอกคือท่าน วิหารนี้ ภายในเน่าเฟะยิ่งนัก อีกอย่างข้าเป็นนักเวท ข้าเคยศึกษาในเรื่องคำสาปของท่านมาก่อนที่จะเกิดคำสาปนี้ ข้าจะเป็นคนที่รักษาและปลดคำสาปให้ท่าน แต่ท่านช่วยพาข้าออกไปจากที่นี่ได้หรือไม่”
ไซรุสจับสังเกตได้ว่า วิหารนี้มีอะไรแปลกๆอย่างที่เลดี้ไบอากล่าวมาจริงๆและเขาก็เชื่อว่าไบอามีความสามารถที่ควรเก็บไว้ข้างกาย ถึงจะเป็นคนที่เพิ่งรู้จักกันวันแรก แต่เขาไม่แม้แต่จะลังเลที่จะตอบตกลง
“งั้นท่านจะไปทำงานในส่วนใดของคฤหาสน์ข้าเล่า ทุกตำแหน่งงานถูกเติมเต็มด้วยผู้มากความสามารถหมดแล้ว”
....
.....
.....
“แต่งงานกับข้าสิคะท่านดยุก”
ไบอาพูดออกไปด้วยสีหน้าที่จริงจังแต่เต็มไปด้วยความจริงใจ ดวงตามรกตเปล่งประกายจ้องไปที่ไซรุส แม้เขาไม่คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว แต่ก็ทำให้เขาอยากรู้ว่าวิหารนี้ทำอะไรกับหญิงคนนี้กันแน่ นางถึงได้พูดด้วยความกังวลขนาดนี้
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ