ประวัติศาสตร์จีนโดยสังเขป

-

เขียนโดย Domewriter

วันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 20.29 น.

  20 ตอน
  0 วิจารณ์
  6,021 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 21.20 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า

แชร์เรื่องเล่า Share Share Share

 

20) ยุคราชวงศ์โจว 11

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

37)  โจวเชิ่นจิ้ง

♢ 320 - 315 BC : ราชวงศ์โจวตะวันออก
          สมเด็จเจ้าองค์ที่ 37  โจวเชิ่นจิ้ง ชื่อเดิม จีติ้ง เป็นโอรสของโจวเสี่ย และ เป็นพระราชภาติยะของโจวเลี่ย และเป็นพระนัดดาของโจวอาน                       

         โจวเชิ่นจิ้งทรงครองราชย์ได้ 5 ปี ก็เสด็จสวรรคต องค์ชายโจวหนั่น พระอนุชาขึ้นครองราชบัลลังค์

38)  โจวหนั่น

♢ 314 - 256 BC  : ราชวงศ์โจวตะวันออก
           สมเด็จเจ้าองค์ที่ 37  โจวหนั่น เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์โจว

           312  ปีก่อนคริสตกาล  แคว้นหานไม่สามารถปกป้องดินแดนของตนเอง และต้องขอความช่วยเหลือทางทหารจากแคว้นอื่นๆ   ประกอบกับการแย่งชิงดินแดนระหว่าง  แคว้นเว่ย และ แคว้นฉี เพื่อเป็นเข้ายึดครองแคว้นหาน   ทำให้เกิดสงครามที่เรียกว่า ยุทธการหม่าหลิง ทำให้แคว้นฉีครอบครองอำนาจทั้งหมดในภาคตะวันออก  

           แคว้นจงซานถูกแคว้นจ้าวทำลายจนสิ้นชาติ  ราชาเยว่อี้หรืองักเย ถอย ทัพหลบหนีไปทางทิศเหนือ
           ในเวลานั้น เอี้ยนเจาหว่าง ที่กำลังฟื้นฟูแคว้นเอี้ยนขึ้นใหม่   หลังจากที่ ถูกแคว้นฉีทำลาย เขาได้ประกาศหาคนมาช่วยบริหารบ้านเมือง มีผู้คนหลั่งไหลไปขอเข้าร่วมอย่างมากมาย เยว่อี้ก็เป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น
            เอี้ยนเจาหว่างจึงแต่งตั้งเยว่อี้ ให้เป็นแม่ทัพใหญ่ โดยมีเป้าหมายจะ ล้างแค้นที่แคว้นฉีเหมือนกัน

            311 - 304  ปีก่อนคริสตกาล ฉินอู้หวังแห่งแคว้นฉิน  ครองราชย์ได้ 3 ปี ก็เสด็จสวรรคต  ฉินเจ้าเซียงสืทอดราชบัลลังค์ขึ้นปกครองแคว้นฉิ้น                   

             296 ปีก่อนคริสตกาล  โจวหนั่นผู้ปกครองแผ่นดินทั้งหมด ได้สูญเสียอำ นาจทางการเมืองและการทหารเกือบทั้งหมด ในตอนนั้น แคว้นใหญ่ 7 แคว้น แย่งชิงแผ่นดินกันอย่างดุเดือด จนเหลือเพียง 7 แคว้นใหญ่ ในตอนปลายยุคชุนชิว ในยุครณรัฐ หรือ ช่วงจั้นกั๋วและเลียดก๊ก  ประกอบด้วย  ฉิ้น,  ฉู่,  ฉี,  เยี่ยน, จ้าว,  เว่ย์, และหาน            

          ไป๋ฉี่ หรือ กองซุนฉี่ เกิด 332 ปีก่อนคริสตกาล อำเภอเหมย มณฑล ส่านซี ระหว่าง 290-257 ปีก่อนคริสตกาล รับราชการเป็นขุนพลของแคว้นฉิ้น
          ไป่ฉี่รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองทัพฉินมากกว่า 30 ปี ฝ่ายตรงข้าม เสียชีวิตกว่า หนึ่งล้านราย,ทำให้เขาได้รับฉายาเหรินตู้ แปลว่า คนขายเนื้อมนุษย์
           บันทึกพงศาวดารฉื่อจี้ ระบุว่า  ไป๋ฉี่ยึดเมืองมากกว่า 73 เมืองจากอีก 6 แคว้นในยุครณรัฐ   และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการบันทึกว่า เคยพ่ายแพ้แม้แต่ครั้งเดียว
          นักประวัติศาสตร์จีนเสนอชื่อให้เป็น 1 ใน 4 แม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุค รณรัฐ ซึ่งประกอบด้วย หลี่มู่ หวังเจี่ยน และเหลียนป๋อ     

          286 ปีก่อนคริศตกาล แคว้นฉีฉวยโอกาสที่แคว้นอื่นๆ กำลังหารือวาง แผนสงบศึกกันใน 7  แคว้น ยกทัพไปตีแคว้นฉิน และได้ยกทัพใหญ่ ไปโจมตี แคว้นซ่ง ทำลายแคว้นซ่งจนสิ้นชาติ
          เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้แคว้นต่างๆ หวาดกลัวกันมาก  แคว้นฉินจึงใช้ โอกาสนี้ กล่าวยุยงให้ทุกแคว้นร่วมมือกันโจมตีแคว้นฉี โดยได้ขุนนางเตียงี้ อาศัยฝีปากคมกล้าช่วย แคว้นฉิ้นหว่านล้อม 6 แคว้นที่เหลือโจมตีแคว้นฉี
286 ปีก่อนคริศตกาล แคว้นฉีฉวยโอกาสที่แคว้นอื่นๆ กำลังหารือวาง แผน จะยกทัพไปตีแคว้นฉิน แต่ตัดสินใจได้ยกทัพใหญ่ไปโจมตีแคว้นซ่งก่อน จนสามารถยึดครองแคว้นซ่งได้
          เหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้แคว้นต่างๆ หวาดกลัวกันมาก แคว้นฉินจึงใช้ โอกาสนี้  กล่าวยุยงให้ทุกแคว้นร่วมมือกันโจมตีแคว้นฉี   โดยได้ขุนนางเตียงี้ อาศัยฝีปากคมกล้าช่วยแคว้นฉิ้น หว่านล้อม 6 แคว้นที่เหลือร่วมกันโจมตีแคว้นฉี แคว้นเอี้ยนจึงเข้าร่วมพันธมิตรอีก 5 แคว้น ฉู่ โจว จ้าว หาน เว่ย

          285 ปีก่อนคริสตกาล    เมิ่งอู่ บุตรชายของเมิ่งอ้าวขุนพลอาวุโสของฉิ้น เมิ่งอ้าว ได้นับตำแหน่งแม่ทัพของกองทัพฉิ้น เมิ่งอู่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในกอง ทัพของเมิ่งอ้าว นอกจากนี้ ลูกชายของเขายังเป็นยอดขุนพลเช่นกับนามว่า เมิ่ง- เถียน และ เมิ่งอี้ ก็เข้าร่วมกองทัพในการต่อสู้กับแคว้นฉี
           284 ปีก่อนคริสตกาล  พันธมิตร 6 แคว้น ได้รวมกำลังกันยกทัพบุกโจม ตีแคว้นฉี ทำให้แคว้นฉีถูกโจมตีจนแตกพ่าย และล้อมเมืองหลวงของแคว้นฉีเอาไว้
           ภายหลัง 5 แคว้นใหญ่ ไม่นับแคว้นเอี้ยน ยุติการเคลื่อนทัพ เพราะคิด จะทำสัญญาสันติภาพกับแคว้นฉี   โดยเห็นว่ากองทัพของแคว้นฉีที่พ่ายแพ้จะ ยอมอยู่เฉยไม่บุกรุกรานแคว้นอื่นๆ อีก             

           แต่เอี้ยนเจาหว่างนั้นมีความอาฆาตแค้นแคว้นฉีอย่างยิ่ง  จึงไม่แยแส ต่อความเห็นของ 5 แคว้น  ประกาสจะแบ่งผลประโยชน์ให้ผู้ที่ร่วมมือจัดการแคว้นฉีให้สิ้นซาก
           แคว้นฉู่เข้าร่วมมือด้วย แม่ทัพเยว่อี้จึงนำกองทัพเอี้ยนพร้อมกองทัพฉู่ บุกเข้าตีเมืองหลินจือเมืองหลวงของแคว้นฉีแตกพ่าย    
           ฉีหมิ่นหวังถูกแม่ทัพแคว้นฉู่สังหารตายในระหว่างหลบหนี กองทัพ ฉีที่เหลือนำเชื้อพระวงซ์ฉีถอยไปตั้งหลักที่หัวเมืองอื่น
           ผลงานในครั้งนี้ทำให้ เยว่อี้ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น ฉางกว๋อจวินอ๋อง ปกครองดินแดนที่ยึดได้
           เยว่อี้ปกครองดินแดนที่แคว้นฉี 5 ปี ไล่ล่าเชื้อพระวงศ์ฉีที่เหลือรอด ทำ สงครามยึดดินแดน ได้มากกว่า 70 หัวเมือง    จนแคว้นฉี เหลือเมืองในการปก- ครอง แค่สองเมืองเท่านั้น

           แคว้นฉิน หวังฉินเจ้าเซียงได้ทำสัญญายกเมืองสิบกว่าหัวเมืองแลกกับ ตราประทับหยกประจำราชวงศ์แคว้นต่างๆ เพื่อเป็นผู้นำแคว้นพันธมิตรทั้ง 6 แคว้น ซึ่งเสนาบดีโซวฉิ้ง พกตราประทับ 6 แคว้นมามอบให้แคว้นฉินตามสัญญา

           แต่แคว้นฉินไม่ทำตามทั้งคิดยึดตราหยกซึ่งแคว้นจ้าว ไว้โดยไม่ยอมส่ง มอบเมืองให้ทำให้ถูกลอบช่วงชิงนำตราประทับหยก   ในขณะเดียวกันนั้นเยว่ย์อี้ส่งนักฆ่าไปลอบสังหารฮั่งเสี้ยวอ๋องแห่งแคว้นฉี

            279 ปีก่อนคริสตกาล  เอี้ยนเจาหว่างสิ้นชีพ เอี้ยนฮุ่ยหว่างขึ้นปกครอง แคว้นเอี้ยน   

           ในขณะนั้น แม่ทัพเถียนตาและเชื้อพระวงศ์ชาวแคว้นฉี  ได้ส่งคนไปยุยงให้เอี้ยนฮุ่ยหว่างเกิดความหวาด ระแวงเยว่อี้
          เอี้ยนฮุ่ยหว่างระแวงไม่ไว้ใจเยว่อี้อยู่ก่อนแล้ว จึงหลงกลของเถียนตานสั่ง ให้ถอดถอนตำแหน่งอ๋องของเยว่อี้  ทำให้เยว่อี้ต้องหลบหนีไปหลบภัยอยู่ที่แคว้น จ้าว                      

            278 ปีก่อนคริสตกาล  ฉิ้นเจ้าเซียงแห่งแว้นฉิ้น ได้ส่งกองทัพเข้ายึดเมือง หยิง เมืองหลวงของแคว้นฉู่ และพิชิตเผ่าซีหรง
           272 ปีก่อนคริสกาล  หวังฉินเจ้าเซียงสั่งให้สังหารหมู่ทหารของแคว้น จ้าว 450,000 คนที่ฉางผิง
           สงครามฉางผิง ระหว่าง 265 - 260 ปีก่อนคริสตกาล  เป็นสงครามใหญ่ ระหว่างแคว้นฉิ้นและแคว้นจ้าว ใน 260 ปีก่อนคริสตกาล
          สาเหตุจาก แคว้นจ้าวเพิ่งผลัดเปลี่ยนอ๋องใหม่ เป็นจ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋ง ได้ไม่นาน ฉิ้นเจ้าเซียงจึงมั่นใจว่าจะยึดเมืองได้ ส่งกองทัพออกไปโจมตีแคว้นจ้าว
           แคว้นจ้าวจึงส่งคนไปขอให้แคว้นฉียกทัพมาช่วย  โดยเสนอคืนดินแดน ที่เคยยึดจากแคว้นฉีให้ พร้อมทั้งส่งฉางอันจวินลูกชายที่ยังเด็กไปเป็นตัวประกัน ที่แคว้นฉี เพื่อรับประกันว่าจะทำตามสัญญา
            แคว้นฉีจึงสั่งให้แม่ทัพเถียนตานนำทหารสิบหมื่นมาช่วย แคว้นฉิน ทราบข่าวจึงต้องถอยทัพกลับไปที่ด่านหานกูก่วน
           264 ปีก่อนคริสตกาล หลังแคว้นฉิ้นหลังจากถอยทัพออกจากแคว้นจ้าว ฟั่นจวี๋ที่ปรึกษาคนสำคัญของแคว้นฉิเน ได้เสนอแผน  ‘ผูกมิตรไกลโจมตีใกล้’    โดยการผูกมิตรกับแคว้นจ้าว เพื่อไปโจมตีแคว้นหานที่มีพรมแดนติดกับแคว้นฉิ้น ก่อน           

          ฉิ้นจ่าวเซียงทำตามคำแนะนำของฟั่นจวี๋ส่งทูตไปผูกมิตรกับแคว้นจ้าว โดยขอให้แคว้นจ้าวอย่าส่งทหารไปช่วยแคว้นหาน  ถ้าแคว้นจ้าวยอมทำตามจะ แบ่งดินแดนส่วนหนึ่งที่ยึดได้
          แต่จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งไม่เชื่อ เพราะแคว้นฉินขึ้นชื่อเรื่องปลิ้นปล้อนตลบตะแลงผิดสัญญา ตัวอย่างก่อนหน้านี่ หวังฉิ้นจ่าวเซียงเคยเสนอว่าจะยก 15 เมืองให้ เพื่อแลกกับตราหยกของแคว้นจ้าว แต่เมื่อให้หลิ่นเซี่ยงหยูนำส่งตรา หยกไปให้ถึงมือแล้ว
           ฉิ้นจ่าวเซี่ยงกลับผิดสัญญาไม่ยอมยกเมืองให้ แถมยังคิดยึดตราหยกไปดื้อๆ อีก แต่ยังดีที่หลิ่นเซี่ยงหยูคาดไว้แต่แรกแล้วจึงใช้แผนที่เตรียมไว้นำตราหยกกลับคืนมาได้                      

           ฉิ้นจ่าวเซี่ยงเห็นแคว้นจ้าวไม่ยอมหลงกลง่ายๆ จึงส่ง อี้เหริน ผู้เป็นหลานชายไปค้ำประ กันอยู่ที่แคว้นจ้าว
          จ้าวเสี้ยวเฉิงหวังจึงยอมรับข้อเสนอของแคว้นฉิ้น สัญญาว่าจะไม่ยกทัพ ลงไปช่วยแคว้นหาน  แต่หานห้วนฮุ่ยหวังแห่งแคว้นหานพยายามรับมือสุดความสามารถ  ทำให้แคว้นฉิ้นไม่สามารถยึดครองแคว้นหานได้โดยง่าย                  

           แคว้นจ้าวสมคบดับแคว้นหานวางแผนเข้าแทรกแซงภายในแคว้นฉิ้น เพื่อป้องกันการรุกราน ของแคว้นฉิ้นในอนาคต  ในขณะที่สงครามฉางผิงใน ช่วงท้าย แคว้นหานพยายามที่จะทำให้แคว้นฉิน สิ้นเปลืองทรัพยากรไปกับการ ก่อสร้างสาธารณูปโภคที่มีราคาแพง เพื่อลดความสามารถทางทหารของแคว้นฉิ้น

            แคว้นหานจึงส่งขุนนางวิศวกรชื่อ เจิ้งกั๋ว ที่แสร้งทรยศไปสวามิถลภักดิ์ ยังแคว้นฉิ้น ชักชวนให้ฉิ้นเสี้ยวเจิ้งลงทุนสร้างคลองเจิ้งกั๋ว ใช้ในระบบสาธารณูป โภคที่มีงบประมาณมหาศาล

           หากแต่คลองเจิ้งกั๋วนั้นกลับสร้างผลประโยชน์ให้กับแคว้นฉินมหาศาล ทั้งช่วย พัฒนาระบบเกษตรกรรมและเศรษฐกิจให้กับแคว้นฉิน ส่งผลให้ผลผลิต ทางเกษตร กรรมและเศรษฐกิจมีมูลค่ามากกว่าแคว้นทั้ง 6

           262 ปีก่อนคริสตกาล แคว้นหานพ่ายแพ้ติดต่อกันหลายครั้ง เสียทหาร ไปหลายหมื่นคน กองทัพฉินยกทัพถึงเทือกเขาไท่สิงซาน เดินตัดผ่านเส้นทาง กลางดินแดนแคว้นหาน ยึดครองเมืองที่ทัพทหารผ่านไปเอาไว้ ทำให้ดินแดน ของแคว้นหาน ถูกทัพฉินตัดแบ่งเป็นสองส่วน
           แคว้นหานรู้ตัวว่าไม่มีกำลังพลมากพอที่จะขับไล่ทัพฉินออกไปได้จึง ส่งคนไปขอความช่วยเหลือจากแคว้นจ้าว   โดยเสนอว่าจะยกดินแดนในเขต ซางตั๋งจวินให้แคว้นจ้าวเป็นการตอบแทน
          จ้าวเสี้ยวเฉิงหวังได้ข้อเสนอที่ดีเช่นนี้ แคว้นจ้าวจึงไม่สนใจสัญญาที่เคย ทำไว้กับแคว้นฉิ้น  ยอมตกลงรับข้อเสนอจากแคว้นหาน  สั่งให้แม่ทัพเหลียนผ่อ ยกทัพลงไปช่วยแคว้นหาน
           ฉิ้นจ่าวเซี่ยงหวั๋งทราบข่าวจึงโกรธมากรีบส่งคนไปทวงสัญญาบีบบังคับให้ กองทัพจ้าวถอยทัพกลับไป   แต่จ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งไม่สนใจสั่งให้แม่ทัพเหลียนผ่อ ตั้งกองทัพประจันหน้ากับกองทัพฉินต่อไป  และไม่ยอมคืนตัวหลานชายที่เป็นตัว ประกันในแคว้นจ้าวกลับไปด้วย  ทำให้สงครามฉางผิงที่แคว้นฉิ้นต้องสู้รบกับทั้ง แคว้นจ้าวและหาน ยืดเยื้อเป็นเวลา 3 ปี
           แม่ทัพไป๋ฉี่ แห่งแคว้นฉินผู้เลื่องชื่อที่ชนะสงครามมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แม่ทัพเหลียน-ป๋อแห่วแคว้นจ้าวจึงไม่กล้าสู้รบตรงๆ กับกองทัพฉินทำการตั้งรับ อยู่ในที่สูง หวังจะใช้ชัยภูมิที่ได้เปรียบขับไล่ทัพฉินให้ถอยไปเอง
          แม่ทัพไป๋ฉีใช้เวลาอยู่นานหลายเดือน ยังหาทางเจาะเข้าไปไม่ได้ จึงเสนอ แผนให้   หวังฉินจ่าวเซี่ยงหวั๋งปลดตนออกจากตำแหน่ง แล้วสั่งให้ขุนพลหวังเห๋อ เป็นแม่ทัพมาคุมแทน หมายจะหลอกให้กองทัพจ้าวของเหลียนผ่อยกทัพออกมาโจมตี
          แต่เหลียนผ่อรู้ทันจึงไม่ยอมหลงกลไป๋ฉี ยังคงตั้งรับอยู่ที่เดิม ทำให้ทั้งสอง ฝ่ายจึงยันกันไว้อีกหลายวัน
          จ้าวเสี้ยวเฉิงหวังเห็นกองทัพฉินรุกล้ำเข้ามาในดินแดนแคว้นจ้าวอยู่นาน แล้ว จึงเร่งรัดให้แม่ทัพเหลียนผ่อนำกองทัพออกโจมตีขับไล่กองทัพฉินออกไป จากดินแดนแคว้นจ้าว แต่แม่ทัพเหลียนผ่อเอาแต่ตั้งรับไม่ยอมออกรบทำให้จ้าว เสี้ยวเฉิงหวั๋งไม่พอใจเป็น อย่างมาก
          ฟั่นจวี๋ทราบข่าวว่าจ้าวเสี้ยวเฉิงหวั๋งไม่พอใจแม่ทัพเหลียนผ่อ จึงส่งคนไป ปล่อยข่าว ในแคว้นจ้าวว่าเหลียนผ่อจัดการได้ไม่ยาก คนที่แคว้นฉินกลัวที่สุดก็คือ จ้าวคว่อลูกชายของ จ้าวเชอ
          เนื่องจากในปี 270 ก่อนคริสตกาล จ้าวเชอ ผู้เป็นบิดาของจ้าวคว่อเคย รบชนะกองทัพฉิ้น สังหารทหารฉินไปหลายหมื่นคนที่สงครามเอ้อวี้
          จ้าวเสี้ยวเฉิงหวังทราบข่าวจึงสั่งให้เรียกตัวจ้าวคว่อมาพูดคุยด้วย จ้าวคว่อ ผู้นี้เคยโต้เถียงพิชัยสงครามเอาชนะบิดาของตัวเองได้ จึงคิดว่าตัวเองเก่งกว่าบิดา คุยโตโอ้อวดไปทั่ว เมื่อมีโอกาสได้สร้างชื่อจึงเสนอแผนการที่คิดขึ้นไว้ออกมา
           จ้าวเสี้ยวเฉิงหวังฟังแล้วก็รู้สึกเชื่อถือในฝีมือของจ้าวคว่อ จึงสั่งให้เปลี่ยนตัวแม่ทัพทันที  แต่หลิ่นเซี่ยงหยูที่ปรึกษาคนสำคัญของจ้าวเสี้ยวเฉิงหวังไม่เห็น ด้วย พยายามคัดค้านไว้ แต่ก็ไม่เป็นผล
           260 ปีก่อนคริสตกาล เดือน 7  จ้าวคว่อได้เป็นแม่ทัพคุมกองทัพแทน เหลียนฝ๋อ ฉินจ่าวเซี่ยงทราบข่าวก็รู้ว่านี่เป็นโอกาสที่จะเอาชนะแคว้นจ้าวจึงรีบ คืนตำแหน่งให้กับแม่ทัพไป๋ฉี
           ส่วนจ้าวคว่อยังไม่ทราบข่าวว่าไป๋ฉีกลับมาคุมกองทัพแทนที่หวังเห๋อแล้ว จึงสั่งให้ ทัพจ้าวยกทัพออกจากแนวป้องกันเป็นฝ่ายบุกโจมตีกองทัพฉิน
          แม่ทัพไป๋ฉีวางแผนดักรอเล่นงานอยู่นานแล้ว เมื่อเห็นจ้าวคว่อนำทัพออก มาโจมตี   แม่ทัพไป่ฉีจึงแบ่งทหารสองหมื่นห้าพันคนอ้อมไปโจมตีตลบหลังกอง ทัพจ้าวและส่งทหารห้าพันคนอ้อมไปตัดเส้นทางขนส่งเสบียง กองทัพฉิ้นปิดทาง ถอยของกองทัพจ้าวไว้ทั้งหมด
          กองทัพจ้าวเสียท่าก็คิดจะถอยทัพกลับ แต่พื้นที่ที่กองทัพจ้าวอยู่นี้เป็นที่ต่ำ ส่วนกองทัพฉินยึดครองที่สูงเอาไว้ทำให้ยากจะตีฝ่าออกไปได้
          กองทัพจ้าวถูกล้อมกักจะบุกขึ้นหน้าก็ไม่ได้จะถอยกลับก็ไม่ได้ กองทัพฉิ้น ก็ไม่บุกโจมตี แค่ยึดชัยภูมิในที่สูงเอาไว้
          จ้าวเสี้ยวเฉิงหวังแห่งแคว้นจ้าวรีบขอความช่วยเหลือจากแคว้นอื่นๆ      แต่ หลายสิบปีที่ผ่านมา แคว้นหาน แคว้นเว่ย และแคว้นฉู่ เคยแพ้ให้กับแคว้นฉินมาแล้ว หลายครั้ง ดังนั้นกริ่งเกรงเสียกำลังงทหารและเสบียงไปโดยเปล่าประโยน์จึงไม่ยก ทัพไปช่วย
           ฝ่ายแคว้นฉีไม่พอใจที่แคว้นจ้าวที่เคยผิดสัญญาที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ จึงไม่ ยอมยกกองทัไปช่วย ส่วนแคว้นเอี้ยนเลือกอยู่ข้างแคว้นฉิ้น ทำให้แคว้นจ้าวต้องหา ทางต่อสู้เอาเอง
          กองทัพจ้าวถูกล้อมอยู่ที่นี่นานถึง 46 วัน กองทหารจ้าวหิวโหยไม่มีอาหาร ให้กิน จึงเกิดเหตุฆ่ากันเองเพื่อนำศพมากินประทังชีวิต
          จ้าวคว่อเห็นว่าไม่มีกองทัพหนุนมาช่วยแล้วจึงตัดสินใจนำกองทหารที่ เหลือทั้งหมดตีฝ่าออกไป   กองทัพฉิ้นที่อยู่ในที่สูงจึงยิงธนูสังหารทุกคนที่บุก เข้ามา
          จ้าวคว่อผู้เป็นแม่ทัพถูกเกาทัณฑ์เสียชีวิต กองทัพจ้าวที่เหลือจึงยอมจำนน ต่อกองทัพฉิ้น  แต่แม่ทัพไป๋ฉีไม่ยอมไว้ชีวิตแม้แต่คนเดียวสั่งทหารขุดดินฝังกลบ กองทหารจ้าวที่อยู่ด้านล่างทั้งหมดทั้งเป็น
          สงครามฉางผิงจึงจบด้วยชัยชนะของแคว้นฉิ้น บันทึกประวัติศาสตร์ระบุว่า สงครามในครั้งนี้มีทหารจ้าวถูกฆ่าตายไปราวๆ สี่แสนห้าหมื่นคน ทำให้ต่อมาแคว้น จ้าว ถูกเรียกว่า แคว้นแห่งหญิงม่ายและเด็กกำพร้า      การพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้ แคว้นจ้าวตกต่ำลงจนไม่มีสิทธิ์ขึ้นมาทำศึกกับแคว้นฉิ้นได้อีก
           260 ปีก่อนคริสตกาล ฉิ้นเจ้าเซียงส่งกองทัพไปโจมตีแคว้นโจวตะวัน-ออก นับเป็นการปรกาศสงครามกับแคว้นโจวที่ถือเป็นผู้ปกครองแผ่นดินทั้งหมด         

           257 ปีก่อนคริสตกาล แม่ทัพไป๋ฉี่หนึ่งในแม่ทัพมีฝีมือของแคว้นฉิ้น เสีย ชีวิตที่เมืองเสียนหยาง มณฑลส่านซี
          256 ปีก่อนคริสตกาล  ราชวงศ์โจวพ่ายแพ้แก้ราชวงศ์ฉิน นับเป็นการล่มสลายของราชวงศ์โจว  โจวหนั่นทรงครองราช 55 ปี ยาวนานที่สุดในราชวงศ์โจว และราชวงศ์จีนในยุคก่อนระบบจักรวรรรดิทั้งหมด

.....จบยุคสมัยราชวงศ์โจว

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับเรื่องเล่าเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านเรื่องเล่าเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา