Exosome ตัวช่วยงานผิวอนุภาคเล็ก ช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีจริงไหม ?

-

เขียนโดย GUEST1676279945

วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2567 เวลา 14.35 น.

  1 ตอน
  0 วิจารณ์
  258 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 มกราคม พ.ศ. 2567 14.40 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า

แชร์เรื่องเล่า Share Share Share

 

1) Exosome ตัวช่วยงานผิวอนุภาคเล็ก ช่วยฟื้นฟูผิวได้ดีจริงไหม ?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ขอชวนเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับ “Exosome” อีกตัวช่วยฟื้นฟูผิวผิวที่มีอนุภาคเล็กกว่าเซลล์ทั่วไปถึง 1,000 เท่า ! ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก เหมาะกับสาว ๆ ที่ผิวแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น ไม่มีเวลาดูแลตัวเองมากนัก 

 

สำหรับใครที่สนใจ Exosome อยากรู้ว่า Exosome คืออะไร ? Exosome อันตรายไหม ? Exosome ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? สามารถหาได้ในบทความนี้ค่ะ !

 

Exosome นวัตกรรมฟื้นฟูผิว ที่สาว ๆ ต้องรู้จัก !

 

Exosome หรือ เอ็กโซโซม คือสารชีวโมเลกุลกว่า 1,000 ชนิดที่สำคัญต่อผิว มีขนาดเล็กกว่าเซลล์ทั่วไปถึง 1,000 เท่า ! มีลักษณะเป็นวงกลมขนาดเพียง 30 - 100 nm. โดยตัวยาจะเข้าไปซ่อมแซมโครงสร้างผิวที่เสื่อมสภาพได้ตรงจุด ลงลึกถึงระดับยีน (Epigenetic) ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์ได้ดี ช่วยฟื้นฟูและบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก รวมถึงช่วยชะลอการเสื่อมของผิวอีกด้วย

 

ตัวอย่างสารที่สำคัญใน Exosome เช่น

  • Growth Factor ช่วยกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ
  • Peptides โปรตีนย่อยที่ประกอบด้วยอะมิโน 6 ชนิด ช่วยเพิ่มจำนวนและการทำงานของเซลล์ผิวหนัง
  • Amino Acids องค์ประกอบสำคัญของโปรตีน ช่วยสร้างเซลล์ผิวให้แข็งแรงและยืดหยุ่น
  • Coenzymes ช่วยกระตุ้นการทำงานในเซลล์ร่างกาย มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
  • Hyaluronic Acid ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น กักเก็บน้ำ เพิ่มความยืดหยุ่นใต้ชั้นผิวหนัง

 

ซึ่ง Exosome ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมขณะนี้ คือ ASCE+ (แอสเซ่พลัส) จากประเทศเกาหลี ที่มีการวิจัยและพัฒนา Exosome ให้มีเมโลกุลขนาดเล็ก ซึมเข้าผิวได้ไว มีประสิทธิภาพสูง ผลิตจากสเต็มเซลล์ของดอกกุหลาบ ที่ผ่านการควบคุมคุณภาพ ปลอดภัยได้ผลลัพธ์ดีค่ะ

 

Exosome เห็นผลลัพธ์ได้ในกี่วัน ?

 

หลังทำ Exosome กี่วันเห็นผล ? ขอตอบว่าเพื่อน ๆ จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงในช่วง 3 - 7 วันค่ะ ส่วนจะเห็นผลลัพธ์มากหรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและการตอบสนองในแต่ละคน

 

ซึ่งในช่วงแรกควรทำ Exosome ทุก 1 เดือนติดต่อกัน 3 ครั้ง จะให้ผลลัพธ์นาน 3 - 6 เดือนสำหรับผู้มีปัญหาผิวน้อย แต่สำหรับผู้มีปัญหาผิวมาก ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง ในช่วงแรกให้ทำ 5 ครั้ง โดยทำครั้งที่ 1 - 3 ห่างกัน 2 อาทิตย์ ครั้งที่ 4 ห่างกัน 1 เดือน และครั้งที่ 5 ห่างกัน 1 ปีค่ะ

 

Exosome เหมาะกับใคร ?

 

 

  • Exosome เหมาะกับผิวโทรม แห้งกร้าน ขาดความยืดหยุ่น 
  • Exosome เหมาะกับผิวที่มีปัญหาฝ้ากระ จุดด่างดำ ผิวหมองคล้ำ
  • Exosome เหมาะกับผิวบอบบาง แพ้ง่าย มีผดผื่น เป็นสิว สิวอักเสบ
  • Exosome เหมาะกับผู้มีหลุมสิว รูขุมขนกว้าง ผิวขรุขระไม่เรียบเนียน
  • Exosome เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟู และบำรุงผิวให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
  • Exosome เหมาะกับผู้ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง ต้องการ Boost ผิวเร่งด่วน

 

Exosome หลังทำมีผลข้างเคียงไหม ? 

 

Exosome ไม่มีผลข้างเคียงรุนแรงค่ะ อาจจะมีเพียงรอยแดงที่จะดีขึ้นเองใน 2 - 3 วัน หรือตุ่มนูน ๆ บริเวณที่ทำ ซึ่งจะหายไปเองหลังตัวยาซึมเข้าไป แต่สิ่งสำคัญที่ควรระวังก่อนทำ Exosome เสมอ คือการทำ Exosome โดยหมอที่มีประสบการณ์ น่าเชื่อถือ จากคลินิกที่ได้มาตรฐาน และหมอจะต้องแกะกล่องใหม่ เปิดขวด และผสมยาต่อหน้าเท่านั้น

 

ข้อควรระวัง Exosome ของแท้ 1 กล่องจะมี 2 ขวด นั่นก็คือ Lypophilized Powder (ขวดสีฟ้า) รูปแบบผง และ Diluent (ขวดสีดำ) รูปแบบน้ำ ก่อนฉีดหมอจะทำการผสมยาทั้ง 2 เข้าด้วยกัน

 

หลังทำ Exosome ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ผิวสวยอยู่ได้นาน ๆ 

 

ดูแลตัวเองหลังทำ Exosome ยังไงให้ผิวสวย ๆ อยู่กับเรานาน ๆ ? สามารถดูแลตัวเองตามคำแนะนำนี้ได้เลยค่ะ

 

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัส แตะ แกะ เกา บริเวณที่ฉีด 
  2. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อร่างกาย ประมาณ 1.5 - 2 ลิตรต่อวัน 
  3. งดแอลกอฮอล์ทุกชนิด ประมาณ 7 - 14 วัน
  4. หลีกเลี่ยงการทำทรีตเมนต์ หรือทำเลเซอร์ที่ให้พลังงานความร้อนกับผิวประมาณ 7 - 14 วัน
  5. งดกิจกรรมที่ให้ความร้อนสูง เช่น การทำซาวน่า ออกกำกายหนัก ๆ จนหน้าแดง

 

Exosome กับ Rejuran ต่างกันอย่างไร ?

 

 

Exosome มาจากประเทศเกาหลีเช่นเดียวกับ Rejuran แต่จุดเด่นของทั้งสองต่างกันอย่างไร ? ผลลัพธ์เหมือนหรือต่างกันแค่ไหน ? สามารถสรุปข้อแตกต่างได้ดังนี้ค่ะ

 

Exosome

  • เป็นสารชีวโมเลกุลที่ถูกปล่อยจาก Stemcell เช่น Growth Factor, Peptides, Hyaluronic Acid
  • เน้นกระตุ้นกระบวนการฟื้นฟูผิว แก้ปัญหาริ้วรอย สิว ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
  • เหมาะกับผู้ที่ผิวอ่อนแอ แห้งกร้าน ไม่กระชับ มีริ้วรอย รูขุมขนกว้าง มีรอยสิว ฝ้ากระ และจุดด่างดำ
  • สามารถเห็นผลได้ใน 3 วัน ทำ 1 ครั้งอยู่ได้นาน 3 เดือน หากทำต่อเนื่อง 2 - 3 ครั้ง อยู่ได้นาน 3-6 เดือน และทำต่อเนื่อง 5 ครั้ง อยู่ได้นาน 1 ปี
  • แนะนำให้ทำต่อเนื่องเดือนละครั้งในช่วง 3 - 4 เดือน

Rejuran

  • Polynucleotide หรือ PN บริสุทธิ์ เข้มข้น 2% สกัดจาก DNA ปลาแซลมอน
  • เน้นบำรุงผิว กระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยกระชับรูขุมขนให้เรียบเนียน
  • เหมาะกับผู้มีปัญหาหน้าโทรม ผิวขรุขระ รูขุมขนกว้าง มีหลุมสิวตื้น ๆ 
  • สามารถเห็นผลได้ใน 3 - 5 วัน ฉีด 1 ครั้งอยู่ได้นาน 1 เดือน หากฉีดต่อเนื่อง 4 ครั้งอยู่ได้นาน 6 เดือน
  • แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 4 ครั้ง ห่างกัน 2 - 3 สัปดาห์

 

สรุปทำ Exosome หรือ Rejuran คำตอบคือขึ้นอยู่กับสภาพปัญหาที่ต้องการแก้ไขค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ ไม่แน่ใจว่าควรเลือกทำอย่างไหนดี สามารถนัดปรึกษาหมอที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินสภาพผิว และเลือกวิธีที่เหมาะสมให้ค่ะ

 

สรุป

 

สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีปัญหาผิวโทรม อ่อนแอ มีรอยสิว และต้องการฟื้นฟูผิวอย่างเร่งด่วน Exosome เป็นอีกหัตถการที่ตอบโจทย์แน่นอนค่ะ นอกจากเห็นผลลัพธ์เร็วแล้ว ยังปลอดภัยเป็นสารสกัดจากเซลล์เพาะเลี้ยง ไม่มีสารที่อันตรายต่อร่างกาย สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการนัดปรึกษาหมอ เพื่อประเมินผิวหน้าได้เลยค่ะ

 

ทั้งนี้อย่าลืมทำ Exosome กับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ Exosome ของแท้นะคะ เพื่อการฟื้นฟูบำรุงผิวที่เต็มประสิทธิภาพ และความปลอดภัยต่อเพื่อน ๆ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับเรื่องเล่าเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

อ่านเรื่องเล่าเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา