ผีกะที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ
-
เขียนโดย ทอแสงตะวัน
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เวลา 14.17 น.
7 ตอน
0 วิจารณ์
158 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 15.31 น. โดย เจ้าของเรื่องเล่า
3) "ล่าผีกะ...เงาแห่งสายเลือด"
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความหลายเดือนผ่านไปหลังการหายตัวของ หนานบัว หมู่บ้านห้วยปุ๋มเริ่มกลับมาเงียบสงบ แต่ “เงา” บางอย่างยังคงซุ่มซ่อนอยู่...
ณ เมืองเชียงราย มีหนุ่มชื่อ กาย — ลูกหลานหมอผีรุ่นใหม่ ผู้เชื่อในศาสตร์วิญญาณผสมเทคโนโลยี เขาได้รับจดหมายลึกลับ มีเพียงภาพถ่ายบ้านไม้กลางป่ากับชื่อ “ห้วยปุ๋ม” เขียนไว้ด้านหลัง
กายเริ่มสืบเรื่องราว และพบข้อมูลเกี่ยวกับ “ผีกะ” ในบันทึกของตายายเขา“ผีกะสืบทอดผ่านสายเลือด หากถูกสาป จะกลายเป็นเงาเฝ้ารอร่างใหม่”
เขาตัดสินใจเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านห้วยปุ๋ม และพบกับ “ครูบาอินทร์” ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ร่างกายอ่อนแรง ครูบาเตือนเขาว่า:
> “มันบ่ใช่ผีกะธรรมดา แต่มันคือนางกะ…ผู้เคยเป็นมนุษย์ที่ยอมขายใจเพื่อคนรัก”
ครูบามอบ “กล่องไม้ตะเคียน” ให้กาย ซึ่งภายในมีเครื่องมือโบราณ – ไม้ปลัดขิกเงิน, กระจกวิญญาณ, น้ำมันชะมด และเส้นผมของยายคำที่ยังไม่เน่า...
ภารกิจเริ่มต้น...
กายออกตามรอยเงาของผีกะ โดยใช้กล้องถ่ายภาพอินฟราเรดส่องตามรอยพลังงานในหมู่บ้าน และพบเงาหญิงสาวลาง ๆ ที่มักปรากฏใกล้บ่อน้ำเก่า
บ่อน้ำนี้คือจุดตายของอีฝ้าย...ในอดีต เธอเคยผูกคอตายใต้ถุนหลังถูกตราหน้าว่าเป็น “ผู้สืบทอดผีกะ”แต่แท้จริง เธอไม่ได้เต็มใจ...
---
คืนหนึ่ง กายตั้งพิธีสื่อสารวิญญาณ เรียกผีกะออกมาเผชิญหน้า สิ่งที่ปรากฏคือร่างหญิงสาวสวมซิ่นลายเมือง ผมยาวสยาย ดวงตาแดงฉาน — เธอคือ อีฝ้ายในร่างกะเต็มตัว
เธอพูดกับเขาว่า:
> “อย่าคิดมาล่าข้า...ข้าไม่ได้ฆ่าใครก่อนแต่โลกนี่มันต่างหาก...ที่ฆ่าข้าไปก่อนแล้ว”
เธอพยายามลวงจิตกายให้หวั่นไหว แต่เขายกกระจกวิญญาณขึ้นสะท้อนร่างเธอกลับเข้ากล่องตะเคียน พร้อมสวดคาถาโบราณ “นะปิตัง อิติวิญญา โสภะโต อัญชะติ”
แสงสว่างระเบิดกลางคืน...เสียงกรีดร้องของผีกะเงียบลง เหลือเพียงสายลมเย็นวูบหนึ่งที่พัดผ่าน
---
ตอนจบชั่วคราว...หรือจุดเริ่มต้น?
กายเก็บกล่องนั้นไว้ในห้องใต้ดินของบ้าน พร้อมเขียนคำเตือนไว้ว่า:
> “ห้ามเปิดกล่องนี้...หากยังไม่รู้ว่ารักคือของจริง หรือคำสาป”
แต่ค่ำคืนหนึ่ง...มีเสียงกระซิบแว่วจากกล่องว่า...
> “อ้ายกาย...ใจ๋เจ้าก็บ่ต่างจากใจหนานบัว... แล้วข้าจะรออยู่ในฝัน...”
---
ณ เมืองเชียงราย มีหนุ่มชื่อ กาย — ลูกหลานหมอผีรุ่นใหม่ ผู้เชื่อในศาสตร์วิญญาณผสมเทคโนโลยี เขาได้รับจดหมายลึกลับ มีเพียงภาพถ่ายบ้านไม้กลางป่ากับชื่อ “ห้วยปุ๋ม” เขียนไว้ด้านหลัง
กายเริ่มสืบเรื่องราว และพบข้อมูลเกี่ยวกับ “ผีกะ” ในบันทึกของตายายเขา“ผีกะสืบทอดผ่านสายเลือด หากถูกสาป จะกลายเป็นเงาเฝ้ารอร่างใหม่”
เขาตัดสินใจเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านห้วยปุ๋ม และพบกับ “ครูบาอินทร์” ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ร่างกายอ่อนแรง ครูบาเตือนเขาว่า:
> “มันบ่ใช่ผีกะธรรมดา แต่มันคือนางกะ…ผู้เคยเป็นมนุษย์ที่ยอมขายใจเพื่อคนรัก”
ครูบามอบ “กล่องไม้ตะเคียน” ให้กาย ซึ่งภายในมีเครื่องมือโบราณ – ไม้ปลัดขิกเงิน, กระจกวิญญาณ, น้ำมันชะมด และเส้นผมของยายคำที่ยังไม่เน่า...
ภารกิจเริ่มต้น...
กายออกตามรอยเงาของผีกะ โดยใช้กล้องถ่ายภาพอินฟราเรดส่องตามรอยพลังงานในหมู่บ้าน และพบเงาหญิงสาวลาง ๆ ที่มักปรากฏใกล้บ่อน้ำเก่า
บ่อน้ำนี้คือจุดตายของอีฝ้าย...ในอดีต เธอเคยผูกคอตายใต้ถุนหลังถูกตราหน้าว่าเป็น “ผู้สืบทอดผีกะ”แต่แท้จริง เธอไม่ได้เต็มใจ...
---
คืนหนึ่ง กายตั้งพิธีสื่อสารวิญญาณ เรียกผีกะออกมาเผชิญหน้า สิ่งที่ปรากฏคือร่างหญิงสาวสวมซิ่นลายเมือง ผมยาวสยาย ดวงตาแดงฉาน — เธอคือ อีฝ้ายในร่างกะเต็มตัว
เธอพูดกับเขาว่า:
> “อย่าคิดมาล่าข้า...ข้าไม่ได้ฆ่าใครก่อนแต่โลกนี่มันต่างหาก...ที่ฆ่าข้าไปก่อนแล้ว”
เธอพยายามลวงจิตกายให้หวั่นไหว แต่เขายกกระจกวิญญาณขึ้นสะท้อนร่างเธอกลับเข้ากล่องตะเคียน พร้อมสวดคาถาโบราณ “นะปิตัง อิติวิญญา โสภะโต อัญชะติ”
แสงสว่างระเบิดกลางคืน...เสียงกรีดร้องของผีกะเงียบลง เหลือเพียงสายลมเย็นวูบหนึ่งที่พัดผ่าน
---
ตอนจบชั่วคราว...หรือจุดเริ่มต้น?
กายเก็บกล่องนั้นไว้ในห้องใต้ดินของบ้าน พร้อมเขียนคำเตือนไว้ว่า:
> “ห้ามเปิดกล่องนี้...หากยังไม่รู้ว่ารักคือของจริง หรือคำสาป”
แต่ค่ำคืนหนึ่ง...มีเสียงกระซิบแว่วจากกล่องว่า...
> “อ้ายกาย...ใจ๋เจ้าก็บ่ต่างจากใจหนานบัว... แล้วข้าจะรออยู่ในฝัน...”
---
คำยืนยันของเจ้าของเรื่องเล่า
✓ เรื่องนี้นำมาจากแหล่งอื่นและได้รับการอนุญาตจากเจ้าของแล้ว
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้

รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ