โลกกลม

8.9

เขียนโดย Mawmeaw

วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 00.46 น.

  1 ตอนเดียวจบ
  7 วิจารณ์
  4,851 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 เมษายน พ.ศ. 2562 19.06 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ที่สำนักงานข่าวอิสระแห่งหนึ่ง  
 
วันนี้มีอะไรคึกคักเป็นพิเศษนะ ผู้คนในสำนักงานถึงได้ดูท่าทางตื่นเต้นกันใหญ่เลย นั่นเป็นความคิดของช่างภาพข่าวอิสระอย่างวีระ
 
ขณะที่เขากำลังสงสัยอยู่นั้น เขาก็ได้รับคำตอบแทบจะทันที เมื่อหัวหน้างานพูดขึ้นว่า
 
“วันนี้ทางสำนักงานข่าวอิสระของเรา มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะขอต้อนรับนักข่าวอิสระคนใหม่ คือ คุณพัชรีหรือคุณแพท ครับ ”
 
เสียงปรบมือต้อนรับดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณสำนักงานแห่งนั้น
 
วีระรู้สึกคุ้นๆหูกับชื่อนักข่าวคนใหม่มาก เขาอดไม่ได้ที่จะแหวกฝูงชนเข้าไป เพื่อจะดูหน้านักข่าวใหม่คนนี้อย่างชัดๆ
 
และเขาก็ต้องตกตะลึงและอึ้งไปพร้อมๆกัน ในขณะที่นักข่าวสาวคนใหม่หันหน้ามาเจอเขาเข้าพอดี เธอจึงพูดขึ้นว่า
 
“สวัสดีค่ะ คุณวีระ ดิฉันพัชรีหรือแพทค่ะ ดิฉันเป็นนักข่าวใหม่ของที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จัก และขอฝากเนื้อฝากตัวกับช่างภาพฝีมือดีอย่างคุณด้วยนะคะ คุณวีระ”
 
“เอ่อ…คือ คุณ… คุณ… แพท จำเราไม่ได้เหรอ เราวี วีระที่เราเคยเรียนอยู่ห้องเดียวกันตอนอยู่ชั้นประถมงัย เรายังจำได้เลยว่าเธอชอบวาดรูปครอบครัวที่สุดเลย”
  
“เอ่อ ขอโทษนะคะ ดิฉันคิดว่าคุณคงจำผิดคนแล้วล่ะค่ะ ดิฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนหน้านี้เลยนะคะ แล้วอีกอย่างดิฉันไม่ชอบวาดรูปมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ”
 
เมื่อได้ฟังอย่างนั้น วีระแทบไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เขามั่นใจว่าเขาจำเธอได้แม่นยำ ไม่ผิดแน่
 
เด็กหญิงพัชรีหรือเด็กหญิงแพท สมัยอยู่ชั้นประถมเธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวผอมๆสูงๆ ชอบมัดผมแกะสองข้าง เธอมีนิสัยขี้แย มักจะแอบไปนั่งร้องไห้บ่อยๆ เมื่อถูกเพื่อนล้อเลียน 
 
แต่ในวันนี้เธอคือ หญิงสาวสวย รูปร่างบอบบาง สูงโปร่ง มั่นใจในตัวเองสูง และที่แน่ๆดูเหมือนเธอจะจำเพื่อนคนนั้นของเธอไม่ได้เสียด้วย 
 
"เธอจำเพื่อนร่วมชั้นที่ชอบแกล้งเธอบ่อยๆคนนั้นไม่ได้จริงๆเหรอเนี่ย"
 
ชายหนุ่มเก็บไปครุ่นคิดด้วยความสงสัย
 
ขณะที่เขานั่งใช้ความคิดอยู่นั้น เขาก็แทบสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีเสียงกระแอมดังขึ้นใกล้ๆโต๊ะทำงานของเขาว่า
 
“คุณวีระคะ หัวหน้าให้คุณลงพื้นที่ทำสารคดีเชิงข่าว พร้อมกับคุณพัชรีนักข่าวคนใหม่ของเราค่ะ”
 
เขาแปลกใจไม่น้อย ที่จู่ๆหัวหน้าก็ให้เขาไปกับนักข่าวใหม่ ทั้งๆคนที่มีประสบการณ์มากกว่าเขาที่น่าจะสอนงานให้กับนักข่าวใหม่ได้ดีก็มีออกถมเถไป
 
แต่ถึงอย่างไรก็เถอะ ถือว่าเป็นโชคดีแล้วกันที่เขาต้องการคุยกับเธอให้รู้เรื่องว่าเธอจำเขาไม่ได้จริงๆหรือแกล้งทำเป็นจำไม่ได้กันแน่นะ
 
............................................................
 
หลังเสร็จสิ้นการถ่ายทำสารคดีเชิงข่าว ซึ่งเป็นงานแรกสำหรับนักข่าวมือใหม่อย่างพัชรี หญิงสาวได้เอ่ยขึ้นด้วยความไม่พอใจ ว่า
 
"นี่คุณวีระ วันนี้คุณเป็นอะไรไป รางวัลช่างภาพดีเด่นที่คุณเคยได้รับ 2 ปีซ้อน ดูเหมือนปีนี้คุณจะชวดซะแล้วล่ะค่ะ"
 
"ทำไมคุณถึงไม่พยายามซูมกล้องให้มองเห็นให้ทั่วบริเวณพื้นที่ที่ดิฉันกำลังบรรยายอยู่ล่ะคะ แต่คุณกลับซูมมาที่เฉพาะใบหน้าของดิฉันเท่านั้น คุณทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไรคะ”
 
ชายหนุ่มมองหน้าพัชรีนิ่ง ก่อนเอ่ยขึ้นว่า
 
"ผมกำลังจะพิสูจน์ความจริงว่า จริงๆแล้ว คุณคือคนคนๆเดียวกับแพทที่ผมเคยรู้จักหรือเปล่า"
 
"เพราะแพทที่ผมเคยรู้จัก เธอไม่ใช่คนลืมอะไรได้ง่ายๆ แม้กระทั่งลืมเพื่อนร่วมห้องของตัวเอง"
 
“อาจจะใช่นะคะที่แพทเพื่อนสมัยประถมของคุณ เขาเป็นคนที่ไม่ลืมอะไรง่ายๆ แต่ก็เพราะว่าดิฉันไม่ใช่เธอนี่คะ เพราะฉะนั้นไม่แปลกหรอกค่ะที่ดิฉันจะไม่เหมือนเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ”
 
ชายหนุ่มมีสีหน้าไม่ค่อยเชื่อถือคำพูดของหญิงสาวสักเท่าไหร่ เขาตัดสินใจโพล่งขึ้นมาว่า
 
"ผมคิดว่าผมโชคดีที่สุดแล้ว ที่ผมได้มาเจอกับเธอที่นี่"
 
"พัชรีหรือผมชอบเรียกเธอว่าแพท สมัยที่เราเรียนชั้นประถม เราได้อยู่ห้องเดียวกัน เธอเป็นเพื่อนที่ทำให้ผมแอบยิ้มได้ทุกครั้งที่เธอเอารูปครอบครัวที่เธอวาดมาอวดผม"
 
"มันน่าหัวเราะยิ่งกว่าอ่านหนังสือขายหัวเราะซะอีก กับกระดูกลอยได้ที่เธอมักจะวาดมาอวดผมทุกครั้ง"
 
"ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้แกล้งเธอโดยการเอารูปไปซ่อน เพราะผมแอบหวังว่า ถ้าเธอร้องไห้หรือต้องการเพื่อนปรับทุกข์ เธออาจจะมาหาผมเป็นคนแรกก็ได้"
 
"ตอนนี้ผมอยากขอโทษเธอและผมอยากบอกกับเธอว่า ผมขอโทษจริงๆที่ต้องฉีกรูปครอบครัวที่เธอวาดเป็นครั้งสุดท้ายทิ้งไปต่อหน้าต่อตาเธอ"
 
"เพราะผมสงสารเธอ ที่เธอต้องนั่งร้องไห้ทุกครั้งที่เธอดูรูปครอบครัวที่อบอุ่นของเธอ และผมมักจะบอกเธอเสมอว่าพ่อของเธออยู่บนสวรรค์ ไม่ได้อยู่กับเธอแล้วในตอนนี้"
 
"ซึ่งเธอก็มักจะร้องไห้ทุกครั้งเมื่อใครๆมาล้อเลียนเธอว่า เธอเป็นเด็กไม่มีพ่อ และเธอก็มักหยิบรูปที่เธอวาดขึ้นมานั่งกอดและร้องไห้ เธอบอกกับผมว่า พ่อของเธอไม่อยู่กับเธอแล้วจริงๆเหรอ เธอไม่อยากเชื่อ"
 
"เธอถามผมว่า เธอเป็นเด็กไม่มีพ่อแล้วใช่มั๊ย เธอนั่งดูรูปไปร้องไห้ไป ผมไม่อยากเห็นเธอเป็นแบบนั้น ผมอยากเห็นเธอเป็นเด็กหญิงที่ร่าเริงสดใส อย่างที่เด็กวัยนั้นควรจะเป็นต่างหาก"
 
"ความจริงผมไม่ได้หงุดหงิด หรือโมโหเธอเลย เพียงแต่ผมไม่อยากให้เธอ มานั่งเศร้าเสียใจและร้องไห้เมื่อมีใครมาตราหน้าว่าเป็น ไอ้ลูกไม่มีพ่อเหมือนกับผม"
 
เมื่อพูดจบ วีระก็สะพายกระเป๋ากล้องขึ้นบ่า เตรียมตัวจะกลับ แต่เขาก็ต้องหยุดชะงักในทันที เมื่อหญิงสาวพูดขึ้นว่า
 
"ฉันรู้ว่านายไม่เคยเปลี่ยนเลยนายวี นายเคยเป็นเพื่อนฉันยังงัย เดี๋ยวนี้นายก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่เหมือนเดิม"
 
"ในวันนี้ฉันรู้ความจริงทั้งหมดอย่างแจ่มแจ้งแล้ว ขอบใจนะที่บอกความจริงกับฉัน ฉันรอฟังเหตุผลที่นายฉีกรูปที่ฉันวาดทิ้งไป มานานมากแล้ว"
  
"จนกระทั่ง ฉันได้มีโอกาสเข้ามาสมัครงานที่เดียวกับนายและฉันก็แอบรอคอยความหวังว่าจริงๆแล้ว นายอาจจะมีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้นก็ได้"
 
"และแล้ววันที่ฉันรอคอยมันก็มาถึงจนได้ ขอบใจนะนายวีที่เป็นเพื่อนที่ดีกับฉันมาตลอดจนกระทั่งเดี๋ยวนี้ ขอบใจนายจริงๆ"
 
หญิงสาวพูด พร้อมๆกับน้ำใสๆที่ไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยด้วยความตื้นตันใจ
  
วีระหยิบกระดาษทิชชูขึ้นมาและส่งให้หญิงสาวเช็ดน้ำตา
 
ก่อนจะพูดกับหญิงสาวเบาๆ ว่า
 
“เธอนี่นะ ไม่เคยเปลี่ยนเลย เคยขี้แยยังงัย เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่”
 
ชายหนุ่มแอบคิดในใจต่อไปอีกว่า
 
"ก็เหมือนกับเรานั่นแหละ ที่เคยเป็นอย่างไร เดี๋ยวนี้ก็ยังคงเป็นอย่างนั้นอยู่"
 
"เมื่อก่อนเราเคยแอบชอบเธอสมัยเรียนชั้นประถมยังงัย เดี๋ยวนี้เราก็ยังคงแอบชอบเธออยู่อย่างงั้น ไม่เคยเปลี่ยนเลยเหมือนกัน..."
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านเรื่องสั้นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา