เส้นทางสายมรณะ

10.0

เขียนโดย ฮางมะ

วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 เวลา 20.17 น.

  1 ตอน
  6 วิจารณ์
  4,056 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2556 07.29 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

รถเมล์ร่วมสีแสดสด แล่นผ่านถนนที่แน่นขนัดด้วยยวดยานพาหนะ กอร์ปกับเป็นเวลาเย็นย่ำ ทั้งคนเลิกงาน และนักเรียนเลิกเรียน

         มันคงเป็นวิถีชีวิตที่คุ้นชินของคนเมืองใหญ่ ไม่ว่าอย่างไร ปัญหารถติดก็ไปไกลเกินกว่าที่ผู้คนจะแก้ได้ ถึงแก้ได้จริง ก็ไม่มีทางทำได้ ตราบใดที่ยังไร้ระเบียบและพร่องวินัยของคน

               

         ในรถเมล์ สองหนุ่มนั่งมองผ่านหน้าต่างออกไปข้างนอก ทั้งสองแตกต่างอย่างชัดเจนในสีเสื้อ คนหนึ่งเสื้อแดงอีกคนสีเทา แต่เหมือนกันตรงที่เป็นเสื้อช็อปช่างกล แต่คนละสถาบัน ใครเห็นคงเกาหัวย่างสงสัย ว่าสองคนสองสถาบันมานั่งด้วยกันได้อย่างไร

               

         ตาของทั้งคู่ มองไปที่ป้ายรถเมล์ข้างหน้า เห็นนักเรียนกลุ่มใหญ่รอรถอยู่

               

        “มึงว่าปัญหานักเรียนตีกันจะจบเมื่อไหร่วะ” เด็กช่างกลเสื้อแดงถามเพื่อนต่างสถาบันที่นั่งข้างๆ

               

        “มันไม่มีวันนั้นหรอก ไม่มีวันพอๆกับที่รถเมล์จะจอดตรงป้าย”

               

        “เอ่อว่ะ จริงของมึง” คนถามสนับสนุน เพราะเห็นว่ารถที่นั่งมาคันนี้ก็จอดเลยป้ายไปกว่าห้าสิบเมตร

 

ผู้โดยสารหลายคนกระสับกระส่าย เพราะเเห็นว่ารถเมล์กำลังจอดรับอันธพาล ในคราบนักเรียน

               

        “จอดทำไม ตาไม่มีเหรอ มันถือไม้ถือมีด รออยู่นะ อีกเดี๋ยวก็มาก่อเรื่องอีกหรอก” ยายคนหนึ่งตะโกนด่าคนขับ หลายคนสนับสนุน

         

        “ไม่จอดเจอยิงดิป้า” กระเป๋ารถสวนทันควัน และเหตุผลของเขาก็ทำให้เงียบกริบทั้งคันรถ

               

        นักเรียนนักเลงกลุ่มใหญ่ กรูกันขึ้นมา บนรถ ยืนออจนแน่นขนัดเหมือนปลากระป๋อง ท่าทางหึกเหิม อารมณ์พลุ่งพล่าน

               

        “วันนี้ เรากับมัน แตกกันไปข้าง” เสียงเหี้ยมหาญ ของนักเรียนช่างกลว่า ลูกสมุนพยักหน้าอย่างกระตือรือร้น

         

        “ใช่พี่วันนั้นมันแสบมาก ไอ้คิงก็ตายห่าไปคนแล้ว วันนี้ผมขอแลกกับมันแก้แค้นให้เพื่อน”

               

        “ไอ้หนูเอ้ย ยายขอละ พ่อแม่ส่งมาเรียนอย่ามาทะเลาะกันเลย”

               

        “หุบปากเถอะยาย ถ้ายังอยากมีฟันปลอมไว้เคี้ยวข้าว” เด็กช่างกลเสื้อเทาว่า ทำเอาหญิงชราเอามือปิดปากแทบไม่ทัน ทั้งหมด มองไปที่ทางข้างหน้า

               

        “ขับเร็วหน่อยดิพี่ ช้าจังว่ะ” หัวหน้านักเรียนนักเลงตะโกน

 

          รถเพิ่มความเร็วอีกครั้ง ช่างกลคนละสถาบันนั่งมองกลุ่มนักเรียนนักเลงที่อยู่บนรถ

               

        “เด็กโรงเรียนมึงนิ” คนเสื้อช็อปแดงพูดขึ้น

               

         “ใช่ เดี๋ยวแม่งยิงกันเลือดสาด ยิ่งกว่าหนังสงคราม”

               

         “ทำยังกับมึงกับกู ไม่เคย” พูดแล้วก็หัวเราะ “ยังไงชีวิตนี้เราก็หนีไม่พ้นสงคราม”

               

รถจอดลงอีกครั้งครั้งนี้ ผู้คนเต็มคันรถค่อยๆลงไปจนหมด ไม่มีใครอยากเอาชีวิตมาทิ้ง บนการต่อสู้ที่มีรถเมล์เป็นสมรภูมิรบ  เก้าอี้ว่าง นักเรียนเลีอดร้อน เข้ามานั่ง

               

       “ไอ้ สัน มึงมองดูดีๆนะเว้ยพวกมันมีกี่คน” เสนาธิการช่างกลสั่งสมุน เด็กหนุ่มคนหนึ่งพยักหน้า รีบเดินไปที่ประตูรถ ถือที่จับเอี้ยวตัวมองดูทางข้างหน้า

 

               

        “มึงพนันกับกูไหม ว่าไอ้พวกที่พวกมันจะไปรุมกระทืบนะ ต้องมากกว่านี้แน่ๆ” ทั้งสองยังคุยกันเงียบๆ และดูท่าพวกช่างกลเลือดร้อนก็ไม่ได้สนทั้งสองเลย

               

        “กูไม่เล่นกับมึงหรอก” ทั้งสองหัวเราะ

               

        “ลึกๆมึงรู้ไหม ว่าเรื่องนี้มันเริ่มต้นมาจากอะไร”

               

        “มึงจะมาหาเหตุผลอะไรตอนนี้ มันเลยจุดนั้นมานานแล้ว”

               

         “แต่กูอยากรู้” เพื่อนต่างสถาบันพูดต่อ

               

         “แทททูคัลเลอร์มั้ง” ชายเสื้อช็อปเทาตอบตามองไปนอกหน้าต่าง

              

          “เหรอ กูว่าไม่ใช่แค่ศักดิ์ศรีหรอกมั้ง”

               

          “งั้นมึง คิดว่าอะไร”

               

           “ไม่รู้สิ มันอาจเป็นเพราะรถเมล์มั้ง”

 

           "เกี่ยวไร กับรถเมล์"

 

           "ความผิดของมันไม่ใช่แค่ จอดไม่ตรงป้าย ขับรถเร็ว หรือมาไม่ตรงเวลา แต่มัน ยอมให้นักเรียนหลายสถาบันขึ้นรถมาได้ พอขึ้นมาก็เกิดเขม่นกัน เกิดแทงกันตาย จากนั้นมันก็ลุกลาม"

 

           "เหตุผล ของมึงมั่วมาก กูว่าจุดเริ่ม อาจจะเพราะอยากโชว์สาว"

 

           "ช่างแม่งเหอะ ไม่ว่ามันจะเริ่ม มาจากอะไรแต่มันไม่ใช่จากการรักสถาบันแน่ๆ" ทั้งสองหัวเราะ

 

           ทั้งคู่หยุดคุยเมื่อได้ยินเสียง โหวกเหวกโวยวายมาจาก คนดูต้นทาง หลายคนขยับตัวอย่าง เตรียมพร้อม

               

           “พี่ คิว พวกมันมีมากเหลือเกินพี่”

         

          “ไหน กูดูดิ” หัวหน้าใหญ่ยื่นหัวไปดู “แม่ง ฉิบหายละ!” เขาสบถ

 

          ห่างจากรถไปไม่กี่ร้อยเมตร เด็กช่างคูอริ ยืนมาออกันที่ป้ายรถเมล์ เสื้อช็อปแดงมากกว่าห้าสิบชีวิต กำลังชีไม้ชี้มือมาตรงรถเมล์คันนี้ และหลายคนมีปืน!

               

          หัวหน้าวิ่งไปที่คนขับ ควักปืนออกจากเอว

               

          “เฮ้ยมึงจะทำไร” พนักงานเก็บเงินร้อง

              

           “จอด จอดรถเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นกูยิง!”

         

          “จอดไม่ทันแล้ว”คนขับปากคอสั่น

               

          “งั้นมึงก็เร่งความเร็ว เร็ว!”

               

          “ได้ๆๆ”

 

           มันก็กลับมานั่งที่เดิม หลายคนกระสับกระส่าย มองไปข้างหน้าอย่างหวั่นๆราวกับพญามัจุราช รออยู่ แต่ก็อยากจะสู้ให้รู้ดำรู้แดง เพียงแต่วันนี้ คนฝ่ายโน้นเยอะกว่า

               

          “เอาไงดีพี่” ลูกน้องถามหน้าตาตื่น

               

           “บ้าชิบ มึงไปคุมคนขับเลย ถ้าพวกมันขวางทางรถ เอาปืนจ่อหัวคนขับให้ขับชนไปเลย!”

               

            “ได้!”

 

         

           “กูว่าแล้ว” เด็กช่างเสื้อแดงว่า มันเป็นอย่างที่เขาว่าไว้

               

           หนุ่มซ็อปเทาพยักหน้าเห็นด้วย “เดี๋ยวได้รู้กันละ”

 

         

           รถเมล์เร่งความเร็วอย่างเต็มกำลัง แต่คู่อริฝ่ายนั้น ก็เดินมาออกันเต็มถนน

               

           “ลุงชะลอรถทำไม”

               

          “มันมาขวางหน้า”

               

          “ไม่ต้องสน ขับไป  ไม่งั้นตาย”

 

          คนขับกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่อาวุธสังหารที่จ่อหัวก็ทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้นเยอะ แกหลับหูหลับตา เหยียบคันเร่ง มิดไมล์ จนฝูงนักเรียนนักเลงคู่อริแตกระจาย

               

          เสียงปืนดังขึ้นหลายนัดดังอยู่ตรงหน้า สองหนุมต่างสถาบัน พอมองไปก็พบตัวหัวหน้านั่งแอบอยู่ที่ริมหน้าต่าง ปล่อยกระสุนลงไปที่คู่อริ แต่ฝ่ายตรงข้ามก็สาดกระสุนตอบกลับมาอย่างหูดับตับไหม้ รถเมล์คันใหญ่ถูกใช้ให้เป็นที่รองรับลูกตะกั่ว ทั้งคนขับกระเป๋ารถก็หมอบหลบแทบไม่ทัน

               

           ทั้งสองคนนั่งเฉยมองกระสุนปลิวผ่านร่างไป เสียงดัง ลูกหนึ่งทะลุผ่านร่าง หนุ่มเสื้อช็อปสีแดง ตรงท้อง แต่มันกับยิ้มชอบใจ บ้างก็ไปถูกหลายคนในรถเมล์ล้มตึง บางคนแม้จะหลบหลังเก้าอี้แต่ยังโดนลูกตะกั่วยังทะลุทะลวงเข้าไปจนแน่นิ่ง

               

          รถแล่นผ่านไปแล้ว ทั้งสองที่นั่งอยู่ต่างหันมายิ้มให้แก่กัน เลือดกระเซ็นเปรอะเก้าอี้นั่ง หันไปมอง หัวหน้าขบวนอีกครั้งก็ปรากฎว่านอนตายอยู่ที่เบาะ กระสุนเจาะหน้าผาก จนไปทะลุออกด้านหลังเลือดสาดกระจาย ไม่ต้องให้หน่วยงานใดมาพิสูจน์ ตายสนิท

         

          “มีคนมาเพิ่มอีกแล้วสิ” เด็กช่างเสื้อช็อปสีแดงว่า

               

          “ใช่ กูมีพวกแล้ว” ช่างกลคู่อริว่า เพราะเห็นว่าที่ตายไปนั้นมาจากโรงเรียนตัวเอง

               

          “บ้าจริง อย่างนี้กูก็โดนรุมดิว่ะ”

 

           ไม่นานร่างของ หัวหน้านักเรียนนักเลงก็ลุกขึ้น มองไปทั่วคันรถ ก่อนจะตกใจที่เห็นทั้งสองคนโดยเฉพาะ เด็กช่างกลเสื้อช็อปแดง

 

          “มึง!” คิวร้องเมื่อเห็นคู่อริ นั่งอยู่บนรถ

 

           “เฮ้ยไอ้น้องยินดีต้อนรับว่ะ” เด็กช่างกลเสื้อสีเทาเอ่ยทักรุ่นน้อง ราวกับทักทายกันในโรงเรียน

 

          “พี่ ปาน!” คิวมองทั้งสองอย่างตกใจสุดขีดเมื่อเห็นรุ่นพี่ที่ตายไปหลายปีแล้วมาปรากฎตรงหน้า

 

          “เออ กูเอง”

 

           “พี่…พี่ตายแล้วนี่”

 

           “ก็ใช่สิว่ะ เหมือนมึงนั่นแหละ” ผีช่างกลสีแดงพูดก่อนหัวเราะ

 

           “ไม่จริง” คิวร้องอย่างตกใจ แต่สองคนนั้นก็ชี้นิ้วไปที่พื้นรถ คิวก้มลงมอง ก่อนจะตะลึงค้างด้วยความตกใจสุดขีด เื่มื่อเห็นร่างของตัวเองแน่นิ่งไป

 

           “แต่ถ้าอยากได้รับการยืนยัน ก็ดูนี่”

 

          พลันทั้งสองก็ ก็กลายร่างตอนตาย ชายเสื้อแดง มีรูกระสุนทะลุตรงขมับ เลือดไหลออกมาอย่างน่าสยดสยองส่วนรุ่นพี่สถาบันเดียวกัน ก็มีมีดปักอยู่กลางอกโลหิตอาบร่าง คิวแทบช็อค

 

           “ยินดีต้อนรับด้วยว่ะ สู่เส้นทางสายมรณะ ที่ไม่รู้จบสายนี้ ฮ่าๆๆ” ทั้งสองหัวเราะพร้อมๆกัน เสียงนั้นช่างเย็นเข้าไปถึงไขสันหลัง

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา