แค่รักเธอ...

-

เขียนโดย HibariKyoya

วันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.59 น.

  1 ตอน
  1 วิจารณ์
  3,501 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2556 15.07 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 พึ่งฝึกเขียน กรุณา ติ (ด่า) , ชม ผมด้วยน่ัคร๊าฟฟฟ           
    
                                              แค่ได้รักเธอ
“คบกับฉันได้ไหม”นั่นเป็นประโยคแรกระหว่างน้ำเย็น ชายหนุ่มผู้เยือกเย็นเหมือนชื่อ และไออุ่น หญิงสาวที่เฉื่อยชาที่สุดในโรงเรียน
“ฉันรอคำตอบอยู่นะ”คำพูดของน้ำเย็นดึงให้ไออุ่นหลุดจากภวังค์ ไออุ่นได้แต่พยักหน้ารับเพราะยังตกใจกับคำพูดของน้ำเย็นอยู่.............4 ปีต่อมา..............“ถามจริงๆเถอะไอ เธอทนอยู่กับคุณชายเย็นชานั่นมาตั้งสี่ปีได้ยังไงกัน”“เขาชื่อน้ำเย็น อีกอย่างฉันไม่ได้ทน แต่ฉันรักเขา”“อะไรที่ทำให้เธอรู้สึกว่ารักกันล่ะ เขาเคยบอกรักเธอด้วยเหรอ”คำพูดแทงใจของหยาดฟ้าทำเอาไออุ่นพูดไม่ออก ก็จริงอย่างที่เพื่อนของเธอพูด น้ำเย็นไม่เคยบอกรักเธอเลยสักครั้งเดียว ไม่เคยโทรหา ไม่เคยไปเที่ยวด้วยกัน แม้แต่กินข้าวที่โรงเรียนก็แทบจะนับครั้งได้ แล้วอะไรกันคือสิ่งที่ทำให้ไออุ่นรักน้ำเย็น หรือเป็นเพราะคำขอคบกันของน้ำเย็นเท่านั้นจริงๆ“เย็นนี้กลับด้วยกันนะ ไปกินไอศกรีมกัน”หยาดฟ้าเอ่ยชวนเพื่อนที่กำลังนั่งหน้าเศร้า เพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น ไออุ่นได้แต่พยักหน้ารับเงียบๆก่อนจะมองดูนาฬิกาที่ข้อมือ“ไปเก็บกล่องข้าวเหรอ”“จ้ะ เดี๋ยวมานะ”ไออุ่นเดินตรงไปยังล็อกเกอร์เก็บของของน้ำเย็น ก่อนจะเปิดออกด้วยกุญแจสำรองที่น้ำเย็นเก็บเอาไว้ไต้กระถางต้นไม้ข้างล็อกเกอร์ “หนักเท่าเดิม ไม่ได้กินอีกแล้วสินะ”ไออุ่นเดินถือกล่องข้าวด้วยสีหน้าเศร้าอีกครั้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่น้ำเย็นไม่ทานข้าวกล่องที่เธอทำให้แต่ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา น้ำเย็นไม่เคยแม้แต่จะแกะห่อข้าวด้วยซ้ำไป หลายครั้งที่เธอคิดจะเลิกทำ แต่เพราะเธอแค่อยากจะเจอกับน้ำเย็นให้บ่อยขึ้น อย่างน้อยแค่ตอนเอาข้าวกล่องไปให้ก็ยังดี แต่ทุกครั้งเธอก็ทำได้แค่เอาข้าวกล่องไปไว้ในล็อกเกอร์เท่านั้น“ไออุ่น”ไออุ่นหันไปทางเดียวกับต้นเสียง“น้ำเย็น มีอะไรเหรอ”ไออุ่นถามก่อนจะแอบกล่องข้าวไว้ด้านหลัง“เปล่าหรอก แค่จะบอกว่าอาทิตย์หน้าซ้อมฟุตบอลดึก คงไม่ได้กลับด้วย”“เอ่อ......จ้ะ เข้าใจแล้ว”น้ำเย็นเดินไปสนามฟุตบอลโดยไม่พูดอะไรต่อ ไออุ่นเดินกลับห้องเรียนไปอย่าเงียบๆ“ไอ เธอยังไม่ชินอีกเหรอ เธอก็กลับบ้านกับฉันแทบทุกวัน จนฉันจะแฟนเธอแทนน้ำเย็นอยู่แล้ว”หยาดฟ้าพูดพลางตักไอศกรีมเข้าปาก ส่วนไออุ่นได้แต่นั่งเขี่ยไอศกรีมจนตอนนี้ละลายกลายเป็นน้ำไปแล้ว“หาคนใหม่เถอะ ฉันสงสารเธอจริงๆนะ อย่าเอาความรักมาทิ้งกับผู้ชายที่เขาไม่เห็นค่าของเราเลย ไม่คุ้มหรอก”“น้ำเย็นเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้นนะ เพียงแต่.........”“เขาไม่เคยแสดงออกว่ารักเธอใช่ไหมล่ะ ฉันฟังประโยคนี้มากี่พันครั้งแล้วรู้ไหม ตั้งแต่พวกเธอคบกันยังไงล่ะ”ไออุ่นนั่งนิ่ง ก่อนน้ำตาของเธอจะไหลลงมาอาบบนใบหน้า นี่เป็นอีกครั้งในรอบหนึ่งอาทิตย์ที่เธอต้องเสียน้ำตาให้กับความรู้สึกเหงาในจิตใจ หยาดฟ้าได้แต่ส่งทิชชู่ให้โดยไม่พูดอะไรต่อ เพราะเวลาแบบนี้ไออุ่นจะชอบคิดเงียบๆคนเดียวสนามฟุตบอล“น้ำ แกไม่เห็นพาแฟนมาเปิดตัวกับเพื่อนๆสักทีล่ะ ทุกคนเขาอยากรู้จักนะ ว่าใครกันที่เป็นแฟนกัปตันทีมฟุตบอล”“จะรู้ไปทำไมกัน ข้าว เขาไม่ชอบอยู่กับคนเยอะๆ ยิ่งไม่คุ้นเคย เขาก็ยิ่งไม่ชอบ”“เขาไม่ชอบหรือแกไม่ชอบ คบกันมาตั้งนาน ไม่เคยแม้แต่จะบอกว่าเป็นใคร อยู่ห้องไหน อย่างนี้มันใช้ได้ที่ไหนกัน”“พูดมากนักก็ไปวิ่งรอบสนามสิบรอบไป ปฏิบัติ”“ได้ที่สั่งใหญ่เลยนะกัปตัน จำไว้นะแก”ต้นข้าวได้แต่วิ่งรอบสนามอย่างเซ็งๆ“ขอโทษนะคะ พี่ข้าวอยู่ไหมคะ”“วิ่งรอบสนามอยู่ มีอะไรหรือเปล่า”“คือว่า พายเอาขนมมาให้พี่ข้าวค่ะ ยังไงฝากพี่น้ำเย็นให้เขาด้วยนะคะ”น้ำเย็นรับขนมมาก่อนจะวางไว้ข้างๆตัว“น้องพายไปแล้วเหรอ”ต้นข้าววิ่งกลับมายังมานั่งที่น้ำเย็นนั่งอยู่“อืม เขาฝากนี่ไว้ให้”น้ำเย็นยื่นถุงขนมให้กับต้นข้าว ก่อนจะถอนหายใจออกมา“เป็นอะไร จะว่าไป ไม่เห็นแฟนแกเอาขนมมาให้บ้างเลยนะ”“ฉันไม่กินของหวาน”“แต่ก็น่าจะมีพวกข้าวกล่อง หรือแซนวิชบ้างนี่นา”“เขาคง....ไม่ว่างมั้ง”ก็จริงอย่างที่ต้นข้าวพูด เขาไม่เคยได้ทานข้าวฝีมือไออุ่นเลยสักครั้ง จะขอให้ทำให้ก็เกรงใจ กลัวว่าเขาจะไม่ว่าง จะชวนไปกินข้าวตอนเย็นก็กลัวว่าเธอจะไม่ไป แค่ชวนกลับบ้านด้วยกันทุกวัน เขายังไม่กล้าเลย ได้แต่อ้างนั่นอ้างนี่ไปเรื่อย ที่บอกว่าเขาเย็นชา จริงๆเขาก็แค่ขี้อายก็เท่านั้นเอง ยิ่งกับคนที่เขาหลงรักตั้งแต่แรกพบอย่างไออุ่นด้วยแล้ว เขายิ่งไม่กล้าจะทำให้เธอเสียใจด้วยซ้ำ แต่เขากลับไม่เคยรู้เลยว่าการที่เขาไม่ค่อยแสดงออกจะทำให้ความรักระหว่างเขาและเธอกำลังสั่นคลอน“ใครยืนอยู่หน้าบ้านเธอกันไอ หน้าตาหล่อเชียว”“นั่นมัน..........”ชายหนุ่มปริศนาหันมาทางสองสาวก่อนจะส่งยิ้มให้“ไอหมอก!”“สบายดีใช่ไหมไออุ่น”ไออุ่นโผเข้ากอดจนชายหนุ่มเกือบเสียหลัก“คิดถึงจังเลย กลับมาแล้วเหรอ”“หมอกกลับมาแล้วนะ จะกลับมาอยู่กับไอ และจะไม่ไปไหนแล้ว”ชายหนุ่มกอดตอบอย่างอบอุ่น“ไม่คิดจะทักคนอื่นเลยหรือไง หมอก”หยาดฟ้าเอ่ยอย่างงอนๆ“อ้าว! อยู่ด้วยเหรอ นึกว่าเงาของไอเสียอีก”“ไอหมอก!”“ครับผม ไอหมอกครับ”ชายหนุ่มยิ้มทะเล้นก่อนจะเดินจูงมือไออุ่นเข้าบ้าน หยาดฟ้าจึงเดินกลับบ้านของเธอไป“แล้วหมอกไม่เรียนต่อที่นั่นแล้วเหรอ”“หมอกเบื่อที่จะอยู่ต่างประเทศ กลับมาเรียนต่อที่นี่ก็เหมือนกันนั่นแหละ”“งั้นก็เรียนที่เดียวกับไองั้นสิ ดีเหมือนกันไอจะได้รู้สึกดีขึ้น”“มีอะไรงั้นหรอ เล่าให้หมอกฟังหน่อยสิ”ไออุ่นจึงเล่าเรื่องของเธอกับน้ำเย็นให้ไอหมอกฟัง“แล้วไอรักเขาเพราะอะไรล่ะ ถึงไม่อยากเลิกกับเขา”“ไอก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าไอไม่สามารถเลิกรักเขาได้”น้ำตาของไออุ่นค่อยๆไหลลงมาอย่างแผ่วเบา ไอหมอกจึงค่อยๆเอนศีรษะของไออุ่นซบกับไหล่ของเขาโดยไม่พูดอะไรต่อโรงเรียนช่วงพักกลางวัน“เป็นยังไงบ้าง ที่นี่ดีไหม”“กว้างดี อากาศก็กำลังดี ไม่หนาวด้วย”ไออุ่นและไอหมอกทานข้าวพลางพูดคุยกันตามประสาคนไม่เจอกันนาน“กินหมูเยอะๆ ไอจะได้มีแรง”ไอหมอกพูดพลางตักเนื้อหมูไปใส่จานของไออุ่น“หมอกต่างหาก กินผักเยอะๆฉลาด”ไออุ่นตักผักใส่จานของไอหมอก ในระหว่างที่ทั้งสองสนุกสนานกับการตักนั่นนี่ใส่จานให้อีกฝ่าย พวกเขาไม่รู้เลยว่ามีสายตาไม่พอใจมองอยู่ไม่วางตา“มีอะไรน้ำ ไม่ไปซื้อข้าวล่ะ”“ไม่หิวแล้ว”น้ำเย็นรีบเดินออกจากโรงอาหารทันที ก่อนจะวิ่งไปซ้อมฟุตบอลท่ามกลางแสงแดดยามเที่ยงวัน ขณะที่เขากำลังจะเตะลูกฟุตบอลเข้าประตู จู่ๆเขาก็เห็นทุกอย่างมืดลงก่อนจะ.....“น้ำเย็น!”ต้นข้าวรีบวิ่งมาพยุงเขาไปยังห้องพยาบาล ระหว่างที่พาไปก็เดินสวนกับหยาดฟ้าตรงทางเดิน หยาดฟ้าจึงรีบไปบอกไออุ่นทันที เมื่อรู้ข่าวไออุ่นจึงรีบไปยังห้องพยาบาลทันที เมื่อไปถึงก็เห็นว่าน้ำเย็นนอนหลับอยู่จึงไม่ได้ปลุกเขา“แฟนของน้ำเย็นเหรอ”“ค่ะ เอ่อ..”“ต้นข้าวครับ เพื่อนน้ำเย็น เขาไม่เคยเล่าให้ฟังเหรอครับ”“ไออุ่นค่ะ คือ.... เขาไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟังค่ะ ก็เลยไม่ทราบ”“ไม่แปลกหรอกครับ ขนาดพวกราเองยังรู้เลยว่าคนไหนแฟนเขา แต่ผมก็เริ่มเข้าใจแล้วล่ะ”ต้นข้าวยิ้มขึ้น ทำให้ไออุ่นเริ่มงง“ก็มีแฟนน่ารักแบบนี้ เป็นผม ผมก็คงไม่อยากให้ใครรู้จักเหมือนกัน”“ฉันเหรอ น่ารัก?”“น้ำเขาไม่เคยบอกเหรอ ต้องเข้าใจหน่อยนะครับ น้ำเขาขี้อายมาตั้งนานแล้ว แต่คนส่วนใหญ่มักจะบอกว่าเขาเย็นชา ตลกดีเหมือนกัน”ต้นข้าวขำออกมาน้อยๆ แต่กลับยิ่งทำให้ไออุ่นงงมากกว่าเก่า “จริงสิ น้ำเขาเป็นลมเพราะไม่ทานข้าว แล้วยังไปซ้อมกลางแดด ก็เลยเป็นแบบนี้ ยังไงก็หาอะไรให้เขาทานหน่อยแล้วกันเผื่อจะดีขึ้น แต่ถ้าเป็นฝีมือเธอ อาจดีขึ้นมากก็ได้”“คงไม่หรอกค่ะ ฉันทำให้กี่ครั้ง เขาก็ไม่เคยกินเลยสักที”ไออุ่นตอบหน้าเศร้าๆ“แต่น้ำเขาบอกว่าเธอไม่เคยทำให้เขานี่นา มันยังไงกันล่ะ”“ฉันทำให้เขาทุกวันนะคะ แต่เอาไปไว้ในล็อกเกอร์พอตอนเย็นก็ไปเอากลับ แต่มันไม่เคยถูกเปิดเลยสักครั้ง”เมื่อต้นข้าวได้ยินเรื่องล็อกเกอร์เขาก็เข้าใจทันที จึงอธิบายให้ไออุ่นฟังว่าจริงๆแล้วน้ำเย็นจะเปิดล็อกเกอร์แค่ตอนเย็นหลังซ้อมฟุตบอลเสร็จเท่านั้น ไออุ่นถึงได้รู้ว่าจริงๆแล้วน้ำเย็นไม่ได้ไม่ชอบอาหารของเธอ แต่เป็นเพราะเขาไม่เคยรู้เลยต่างหากว่าเธอทำอาหารให้เขา ไออุ่นจึงขอตัวไปเอาข้าวกล่องมาให้น้ำเย็นที่กำลังนอนอยู่ทันที ไออุ่นกลับมาพร้อมข้าวกล่องเมื่อเข้ามาในห้องก็พบว่าน้ำเย็นตื่นแล้ว ไออุ่นเดินไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงของน้ำเย็น“เป็นยังไงบ้าง น้ำเย็น”“ปกติดีแค่นอนไม่พอเท่านั้น”น้ำเย็นตอบโดยไม่มองหน้าของไออุ่นแม้แต่น้อย“ต้นข้าวบอกว่า น้ำเย็นไม่ทานข้าวแล้วก็ไปซ้อมกลางแดด เลยเป็นลม”“..........”น้ำเย็นนิ่งเงียบแต่ใบหน้าของเขากลับแดงขึ้นเรื่อยๆ ไออุ่นยิ้มน้อยๆกับอาการของน้ำเย็น ก่อนจะยื่นข้าวกล่องให้น้ำเย็น“อะไร”“ข้าวกล่องจ้ะ ไอทำมาให้น้ำเย็น ที่จริงแล้ว.........”ไออุ่นเล่าเรื่องข้าวกล่องของเธอให้น้ำเย็นฟัง“สรุปว่าที่ผ่านมาไออุ่นทำอาหารให้น้ำ แต่น้ำไม่รู้มาตลอดเลยใช่ไหม”“จ้ะ”“เฮ้อ......อย่างนั้นเหรอเนี่ย”น้ำเย็นถอนหายใจก่อนจะตักข้าวคำสุดท้ายเข้าปาก“เอ่อ.....เป็นยังไงบ้าง”ไออุ่นก้มหน้าลงเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าน้ำเย็นทานข้าวหมดแล้วน้ำเย็นอมยิ้มก่อนจะตอบออกมานิ่งๆ“อร่อย”ไออุ่นเงยหน้าขึ้น แต่ไม่ทันจะเห็นรอยยิ้มก็มีเสียงเรียกเธอจากข้างหลังเสียก่อน“ไอ ได้เวลาเข้าเรียนแล้วนะ ไปเถอะ”หมอกเดินเข้ามาในห้องก่อนจะจูงมือของไออุ่นออกไปโดยไม่คิดที่จะมองน้ำเย็นเลยแม้แต่น้อย“หมอก ทำอะไรเนี่ย เดี๋ยวน้ำเย็นเขาก็เข้าใจผิดกันพอดี”“ก็เขาไม่เคยสนใจใยดีอะไรไอเลยนี่นา ไม่เห็นจะต้องสนใจเขาเลย”“หมอกไม่เข้าใจหรอก ว่าน้ำเย็นเขาเป็นคนยังไง”“จะเป็นคนยังไงก็ช่าง แต่เขาทำให้ไอร้องไห้มามากแล้ว หมอกไม่ชอบ”หมอกจูงมือไอเข้าห้องโดยไม่พูดอะไรอีกเย็นวันต่อมา“มีอะไรกับฉันงั้นเหรอ ถึงเรียกฉันมาที่นี่”ไอหมอกเอ่ยถามชายหนุ่มที่ยืนพิงกำแพงของโรงเรียนอยู่ชายหนุ่มเดินมาประจันหน้า แสงอาทิตย์ลอดออกมาทำให้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มชัดขึ้น“น้ำเย็น”“นาย ไอหมอกสินะ นายจะเป็นใครฉันไม่สน แต่ถ้านายยังยุ่งกับไอหมอกอยู่ล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยนายแน่”น้ำเย็นกระชากคอเสื้อของไอหมอกขึ้นพร้อมส่งสายตาขู่ ไอหมอกเชิดหน้าขึ้นแล้วยิ้มที่มุมปาก“แล้วยังไง นายคิดว่าฉันจะกลัวอย่างนั้นสิ ฉันกับไอ เรารักกันมานานกว่านายเสียอีก อีกอย่างฉันก็ไม่เคยทำให้ไอเสียใจเหมือนนาย”“ฉันทำให้ไอเสียใจตอนไหนกัน”“ก็เพราะไอ้นิสัยไม่ชอบแสดงออกของนายนี่ไง ที่ทำให้ไอต้องร้องไห้แทบทุกวันเพราะคิดว่านายไม่ได้รักเขา”“แล้วใครบอกล่ะว่าฉันไม่ระ........”“หยุดพูดดีกว่า เพราะคนที่อยากฟัง เป็นไอ ไม่ใช่ฉัน”ไอหมอกปัดมือของน้ำเย็นออก ก่อนจะหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งยื่นให้น้ำเย็น“ถ้านายทำให้ไอเสียใจ ฉันจะพาไอไปจากชีวิตของนายเอง”ไอหมอกเดินไปยังประตูโรงเรียนเพื่อกลับบ้าน ปล่อยให้น้ำเย็นยืนงงกับกระดาษแผ่นเล็กในมือวันเสาร์“รอนานไหม น้ำเย็น”“ไม่ ไปกันเถอะ”หลังจากที่อ่านข้อความในกระดาษน้ำเย็นจึงตัดสินใจโทรศัพท์หาไออุ่นเพื่อชวนเธอไปเที่ยวสวนสนุก ทั้งสองเดินไปเรื่อยๆโดยไม่มีทีท่าว่าจะเล่นอะไรเลย จนกระทั่งถึงใต้ต้นไม้ใหญ่คู่หนึ่ง ทั้งสองจึงตัดสินใจนั่งลงเพื่อทานข้าวกลางวัน ในระหว่างที่กำลังทานไออุ่นก็เอ่ยถามน้ำเย็นขึ้น“ทำไมถึงชวนมาที่นี่ล่ะ”“เอ่อ...ก็ ไม่มีอะไรหรอก แค่เห็นว่าเราไม่เคยไปเที่ยวไหนกันเลย ก็เท่านั้น”“แต่ดูเหมือนน้ำเย็นจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เลย ถ้าฝืนก็ไม่เป็นไรนะ กลับกันก็ได้”ไออุ่นพูดพลางก้มหน้าลง“ไม่ได้ฝืน เพียงแต่น้ำแค่ไม่รู้จะชวนไออุ่นเล่นยังไงดี”น้ำเย็นพูดก่อนจะยิ้มออกมาทำให้ไออุ่นยิ้มรับเช่นกัน เมื่อทานอาหารเสร็จทั้งคู่จึงไปเล่นเครื่องเล่นด้วยกันจนค่ำ และที่สุดท้ายของการเดทครั้งนี้คือ ชิงช้าสวรรค์“ว้าว! ข้างบนนี้สวยจริงๆ อ๊ะ ข้างล่างอย่างกับเมืองจำลองเลย น้ำเย็นดูสิ”ไออุ่นตื่นเต้นกับการนั่งชิงช้าสวรรค์มากจึงพูดไม่หยุดตั้งแต่ขึ้นมา“เอ่อ.....ไอ คราวหลังเรียกน้ำเฉยๆก็ได้ เรียกชื่อเต็มแล้วฟังแปลกๆ”“จ้ะ น้ำก็เหมือนกันเรียกไอแบบนี้ล่ะ ดีแล้ว”ไออุ่นนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างพลางยิ้มเศร้าๆเหมือนคนเหม่อลอย“เป็นอะไรหรือเปล่าไอ ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า”น้ำเย็นเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงก่อนจะลุกมานั่งข้างๆไออุ่น“นึกถึงเมื่อก่อน ตอนที่มานั่งชิงช้ากับหมอก ตอนนั้นไอยังกลัวความสูงอยู่เลย”ไออุ่นเล่าไปพลางยิ้มไปพลางโดยที่เธอไม่ได้รู้เลยว่าคนข้างกายเธอตอนนี้กำลังจะลุกเป็นไฟอยู่แล้ว“ไอ คงจะรักหมอกมากสินะ”“จ้ะ ไอรักหมอกมาก เพราะมีหมอกไอถึงอยู่มาได้”คำพูดของไอทำให้น้ำเย็นแทบจะกลายเป็นน้ำเดือดในทันที เมื่อชิงช้าสวรรค์หยุดลงน้ำเย็นรีบเดินลงมาโดยไม่ใยดีไออุ่นที่วิ่งตามมาเลยแม้แต่น้อย“เดี๋ยวก่อนน้ำ รอไอด้วย น้ำ!”น้ำเย็นหยุดเดินไออุ่นจึงรีบวิ่งมาดักหน้าไว้“เป็นอะไรน้ำ ทำไมน้ำเป็นแบบนี้ล่ะ”“ก็ถ้าไอรักหมอกมาก ก็ไปหาเขาสิ จะมาอยู่กับน้ำทำไม”“แต่ว่าหมอกเขา........”“เราไม่ควรคบกันตั้งแต่แรกจริงๆ”น้ำเย็นเดินจากไปไม่หันกลับมามองไออุ่นอีกเลย ปล่อยให้หญิงสาวยืนร้องไห้อยู่คนเดียวท่ามกลางความมืดยามค่ำคืน ไอหมอกที่คอยตามทั้งสองมาโดยตลอดเข้ามาปลอบไออุ่นก่อนจะพาเธอกลับบ้านไปกิ๊ง...ก่อง“มาแล้วครับ”“เอ่อ...หยาด”“ใช่ฉันเองแหละ น้ำเย็นเรามีเรื่องต้องคุยกันเดี๋ยวนี้”หยาดฟ้ามาหาน้ำเย็นที่บ้านแต่เช้า เพราะเมื่อคืนไอหมอกโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างไออุ่นกับน้ำเย็นให้ฟัง แล้วยังบอกอีกว่าจะพาไออุ่นไปต่างประเทศด้วย หยาดฟ้าจึงอยากจะมาคุยกับน้ำเย็นแทนไออุ่นให้รู้เรื่อง“มีอะไรก็ว่ามา”“นายบอกเลิกไอทำไม รู้ไหมว่าเขาเสียใจแค่ไหน แค่นี้นายยังทำให้เขาเสียใจไม่พออีกเหรอ”“บอกเลิกน่ะใช่ แต่ฉันเคยทำให้เขาเสียใจเมื่อไหร่กัน”“ก็นายไม่เคยโทรหา ไม่เคยไปไหนด้วยกัน แถมยังไม่ยอมกินอาหารของไอเลย แบบนี้ใครบ้างจะไม่เสียใจ”“..............”“ที่สำคัญที่สุด คือนายไม่เคยบอกรักไอเลยสักครั้ง ฉันถามจริงๆ นายรักไอบ้างหรือเปล่า”“ฉันก็ต้องระ...”“หยุดเลย! คนที่อยากฟังคำนี้ไม่ใช่ฉัน แต่คนที่เขาอยากฟังกำลังจะไปต่างประเทศตอนบ่ายโมงครึ่ง”“............”“นี่นายจะเงียบให้มันได้อะไรขึ้นมา พูดกับฉันให้รู้เรื่องได้ไหม”“ฉันไปพูดให้เขาฟังแล้วมันได้อะไรขึ้นมา ในเมื่อเขาก็มีคนที่เขารักมากอยู่ด้วยแล้วนี่นา”“นายหมายถึงใครกัน?”“ก็หมอกไง คนที่ไอรักมากที่สุด”น้ำเย็นพูดก่อนจะหันหลังเดินเข้าบ้านไป แต่ยังช้ากว่าคำพูดของหยาดฟ้า“แต่ไอหมอกเขาเป็นพี่ชายของไอนะ!”น้ำเย็นหยุดชะงักก่อนจะหันกลับมาถามหยาดเพื่อความแน่ใจ แล้วหยาดฟ้าก็เล่าเรื่องไอหมอกให้เขาฟังเขาถึงได้เข้าใจแล้วว่าทำไมไอหมอกถึงดูหวงไออุ่นนัก แล้วทำไมไออุ่นถึงพูดว่ารักไอหมอกต่อหน้าแฟนของตัวเอง นั่นเป็นเพราะ เขาทั้งสองเป็นพี่น้องกันนั่นเอง“มัวยืนดีใจอยู่ทำไมเล่า ไม่รีบไปสนามบินเดี๋ยวไอก็ไปก่อนพอดี”น้ำเย็นจึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านก่อนจะหยิบกุญแจรถออกมาและเขายังหยิบกล่องของขวัญใบเล็กติดมือไปด้วย........สนามบิน.........“แน่ใจนะว่าไม่ไปกับหมอกจริงๆ”“ไอไปไม่ได้หรอก หัวใจของไออยู่ที่นี่”“แต่เขาทำร้ายจิตใจไอมากนะ”“ไอรู้ แต่ไอรักน้ำเย็น ถ้าจะให้ไอเลิกรักเขาไอคงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แน่ๆ”ไออุ่นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม ทำเอาผู้เป็นพี่อดเป็นห่วงเสียไม่ได้ “เครื่องใกล้ออกแล้ว ไอช่วยถือกระเป๋านะ”“ไอ อย่าไปนะ!”เสียงของน้ำเย็นทำให้ไออุ่นและไอหมอกหันไปหาเจ้าของเสียงทันที น้ำเย็นเดินมาหาไออุ่นก่อนจะพูดความในใจของเขาออกมา“ไอ น้ำขอโทษ ที่ตลอดมาน้ำทำให้ไอเสียใจมาโดยตลอด น้ำขอโทษที่น้ำไม่ยอมแสดงออกมาว่าน้ำรู้สึกยังไง น้ำขอ.......”ไม่ทันทีน้ำเย็นจะพูดจบ ไออุ่นก็โผเข้ากอดน้ำเย็นทันที“ไอ ไม่ได้อยากฟังคำว่าขอโทษนะคะน้ำ”“น้ำรักไอนะครับ เรากับมาคบกันเหมือนเดิมนะไอ”สิ้นเสียงของน้ำเย็น น้ำตาของไออุ่นก็ไหลอาบทั้งสองแก้มในทันที“แค่นี้ก็พอแล้ว แค่คำว่ารักคำเดียวที่ไออยากฟัง”ทั้งสองคลายอ้อมกอดก่อนที่น้ำเย็นจะมอบกล่องของขวัญใบเล็กที่เขาหยิบมาด้วยให้กับไออุ่น“สุขสันต์วันเกิดนะไอ ขอโทษที่เมื่อวานไม่ได้ให้ แกะดูสิ”ไออุ่นรับมาก่อนจะแกะออก ภายในเป็นกล่องกำมะหยี่สีแดง น้ำเย็นหยิบกล่องมาก่อนจะเปิดให้ไออุ่นดู“แต่งงานกันนะไอ”.......... 2 ปีต่อมา..........“รู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านไปจริงๆ น้ำน่าจะทำตัวให้ดีกว่านี้ ไอจะได้ไม่ต้องเสียใจ”“แล้วมาพูดอะไรในวันแต่งงานกันล่ะคะ ว่าแต่กระดาษแผ่นนี้น้ำยังเก็บไว้อีกเหรอ”ไออุ่นพูดก่อนจะหยิบกรอบรูปที่ภายในบรรจุกระดาษแผ่นน้อยเอาไว้ขึ้นมาดู“เก็บสิไอ อย่างน้อยกระดาษแผ่นนี้มันก็ทำให้เราได้อยู่ด้วยกันในวันนี้ไง”น้ำเย็นตอบก่อนจะจูงมือไออุ่นไปขึ้นรถ แล้วมุ่งหน้าสู่โบสถ์เพื่อทำพิธีแต่งงานของเขาและเธอ แค่คำว่ารักเพียงคำเดียว ก็มีความหมายมากกว่าคำพูดอันสวยหรูสักแสนล้านคำ‘พรุ่งนี้วันเกิดไอ เขาชอบแหวนรูปหัวใจ ไอหมอก

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา