เรื่องเล่า นิทานในฝัน

8.6

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 19.50 น.

  3 เรื่อง
  11 วิจารณ์
  7,937 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) นิทานในฝัน :: ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                กาลครั้งหนึ่งไม่นานนัก มีดาวเคราะห์ดวงน้อยอันสวยงามดวงหนึ่งที่ล่องลอยอยู่ในจักรวาลอันแสนกว้างใหญ่ ได้ให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตนับร้อยนับพันชนิดขึ้นอย่างประณีตและละเอียดอ่อนที่สุด เกิดกลายเป็นวัฏจักรแห่งการดำรงอยู่อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยสีน้ำเงินที่ถูกแต่งแต้มไปทั่วทั้งท้องฟ้า ผืนน้ำ และผืนดิน มันจึงถูกสิ่งมีชีวิตจากดาวเคราะห์ดวงอื่นขนามนามว่า “ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน”

 

                เวลาผ่านร่วงเลยไปนานแสนนาน สิ่งมีชีวิตที่กล้าแกร่งที่สุดก็ได้เข้าปกครองดาวเคราะห์ตามที่ควรเป็น นั่นคือชนชาวสีน้ำเงินแสนสุข ที่ใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่ายและเป็นระบบระเบียบตามวิถีทางของตน เรียบง่ายเสียจนชายหนุ่มผู้หนึ่งในดวงดาวนั้นคิดว่ามันช่างแสนน่าเบื่อ และไม่น่ารื่นภิรมย์เอาเสียเลย…

 

                ชายผู้นี้เป็นเพียงสิ่งเศษเสี้ยวที่ดำรงชีพอยู่ในดาวเคราะห์สีน้ำเงินแห่งนี้ เขาเป็นชายตัวสีฟ้าซีดที่ใช้ชีวิตเรียบง่ายตามปรกติดั่งชนชาวทั่วไป ทุกๆเช้าเขาจะตื่นไปทำงานและกลับมายังบ้านหลักเล็กของเขาในตอนบ่ายแก่ๆ วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขามีพ่อและแม่แต่พวกท่านเสียชีวิตไปแล้วเมื่อหลายปีก่อน น้องนุ่งที่ใครว่ามีให้พอผูกพันก็ไม่มีกันกับเขา เหล่าเครือญาติที่มีก็นานๆทีจะแวะมาเยี่ยมเยียน ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว อยู่แบบตัวคนเดียวโดยไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงได้ แม้ว่าเขาจะมีเพื่อนจากที่ทำงานบ้างก็ตาม แต่มันก็ไม่สามารถทดแทนความอ้างว้างที่อยู่ในใจของเขาได้ ถึงแม้ว่าเขาจะเจอะเจอผู้คนมากมาย มันก็ไม่สามารถลดทอนความเงียบเหงาที่เกาะกุมและกัดกินหัวใจของเขาได้บ้างเลย

 

                แล้ววันหนึ่งที่ท้องฟ้าดูสดใส ในตอนบ่ายแก่ๆที่เขาเลิกงานและเปลี่ยนใจไม่กลับบ้านเหมือนอย่างเคย เขาได้มุ่งหน้าไปยังที่แห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ทำงานมากนัก เป็นสถานที่อันเงียบสงัดและเต็มไปด้วยหมู่มวลของหนังสือนับร้อยนับพัน หรืออาจจะมากกว่านั้นเขาก็ยังไม่แน่ใจ เป็นที่ที่ชนชาวสีน้ำเงินดำรงรักษาไว้มานานแสนนาน เพราะมันเป็นสถานที่สำคัญที่สุดในดวงดาว นั่นคือ ‘หอสมุดใหญ่แห่งดาวเคราะห์สีน้ำเงิน’ ที่ที่ทุกคนสามารถเข้ามาเรียนรู้สิ่งต่างๆผ่านตัวหนังสือที่มีลายเส้นขะยึกขะยือ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวในหรือนอกดาวเคราะห์สีน้ำเงินนี้ก็ตาม…

 

                ‘กิ๊ง…’ เสียงกริ่งดังขึ้นทุกครั้งที่ประตูถูกเปิด ความสงบเงียบแผ่ไปทั่วโถงกว้างจนเท้าแกร่งแทบไม่กล้าจะขยับ ดวงตายาวรีสอดส่ายสายตามองซอกแซกอย่างหวาดหวั่นเล็กน้อย ก่อนที่ร่างผอมสูงจะรวบรวมความกล้าและเดินเข้าไปด้านในอย่างระมัดระวัง เพื่อให้เกิดเสียงดังน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผมสีน้ำตาลเข้มหยิกที่ยาวเสียจนถึงติ่งหูเรียบลู่ลงทันทีเมื่อเขาก้มศีรษะ ผิดกับปรกติที่จะฟูฟ่องผ่องก๋าตามแบบฉบับคนไม่ค่อยดูแลตัวเองเสียเท่าไหร่ หากแต่เขาก็ไม่อาจแคล้วคลาดจากสายตาของผู้คุมหอสมุดร่างท้วมไปได้ หล่อนหันมามองเขาทันทีเมื่อเขาเดินเข้ามา พลางส่งยิ้มร่าดั่งว่าเขาเป็นญาติห่างๆที่ไม่ได้เจอกันมาเสียนาน

 

                “ฮาลาอาตานา…หอสมุดใหญ่แห่งดาวเคราะห์สีน้ำเงินยินดีต้อนรับจ้ะ”

 

                ประโยคนี้ดังขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แจ่มใสเมื่อมีใครสักคนเข้ามาในหอสมุด พร้อมกับมือซ้ายอวบๆที่ยกมาทาบทับอกด้านขวา ส่วนมือขวาก็ยื่นมาจับทักทายกับฝ่ายตรงข้ามพลางโค้งศีรษะลงเล็กน้อย เป็นไปตามธรรมเนียมการทักทายแบบฉบับของชนชาวสีน้ำเงินที่มีมาแต่ช้านาน…

 

                “เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกใช่ไหมจ๊ะ” สตรีร่างท้วมผู้คุมหอสมุดถามชายหนุ่มพร้อมกับรอยยิ้มอันแสนใจดี

 

                “ครับ” เขาตอบกลับสั้นๆพลางก้มหน้าลงเล็กน้อย

 

                “งั้นสมัครสมาชิกก่อนนะจ๊ะ เวลาจะยืมหนังสือจะได้ไม่ยุ่งยาก และจะได้หาที่นั่งได้ตามใจชอบด้วย” หล่อนบอกก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบแผ่นกระดาษสีใสจากช่องเก็บเอกสารออกมาหนึ่งแผ่น

                 “กรอกเอกสารนี้ให้ครบ แล้วก็เซนต์ชื่อกำกับด้านล่างขวามือด้วยนะจ๊ะ เดี๋ยวฉันจะไปเอาบัตรสมาชิกมาให้”

 

               เมื่อพูดจบร่างท้วมก็เดินหายวับไปอีกห้องหนึ่งที่อยู่ด้านหลัง ทิ้งให้คนที่เพิ่งมาใหม่อย่างเขาต้องยืนโดดเดี่ยวอยู่หน้าเคาน์เตอร์พลางจ้องมองกระดาษใสนั้นตาเขม็ง ก่อนที่นิ้วผอมๆจะลากไปตามกระดาษให้เกิดเป็นตัวอักษรที่อ่านง่ายขึ้น และเริ่มกรอกเอกสารนั้นโดยใช้นิ้วชี้ลากเป็นตัวหนังสือดั่งใจที่เขาคิด

 

                ตาคู่เรียวจดจ่ออยู่กับข้อความตรงหน้า นิ้วก็ร่ายลายลักษณ์ออกมาอย่างบรรจงที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนเวลาผ่านไปสิบนาทีกว่าๆ สตรีร่างท้วมก็เดินออกมาจากห้องเล็กหลังเคาน์เตอร์พร้อมกับยิ้มร่าเหมือนอย่างเคย

 

                “กรอกเสร็จหรือยังจ๊ะ” เสียงเล็กถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสดใส

 

                “ครับ…” ชายหนุ่มยังคงตอบสั้นๆเช่นเดิม พลางส่งกระดาษให้กับหล่อน

 

                “แพทริค เวลตัน ใช่ไหม” หล่อนเริ่มอ่านทวนข้อมูลที่เขากรอกให้

 

                “ใช่ครับ” เขาตอบกลับไปและเริ่มก้มหน้าลงอีกครั้ง

 

                “แพทริค เวลตัน…อ่ะนี่จ้ะบัตรสมาชิกของเธอ” หล่อนกล่าวพร้อมกับยื่นบัตรสี่เหลี่ยมใบเล็กๆที่เพิ่งถูกเพิ่มชื่อให้กับเขา ก่อนจะกล่าวคำส่งท้ายอย่างจริงใจว่า…

 

               “ขอให้มีความสุขกับการอ่านหนังสือนะจ๊ะ”

 

               ชายหนุ่มจึงรับบัตรสมาชิกนั้นมาและเดินไปยังกลางโถงกว้าง ที่มีโต๊ะตัวเหยียดยาววางเรียงรายเป็นแถวแปดแถว เสริมด้วยโต๊ะตัวกลมตามมุมต่างๆสำหรับคนที่อยากมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าใคร แน่นอนว่าเขาก็เป็นหนึ่งในนั้นจึงเลือกเดินไปยังโต๊ะตัวกลมติดผนังกระจกใสแทน เพราะมันเป็นส่วนตัวและยังสามารถมองเห็นภายนอกอย่างถนัดตาได้อีกด้วย

 

               ที่นั่งทุกที่นั่งจะถูกจองทันทีเมื่อบัตรสมาชิกของใครคนหนึ่งประทับลงบนโต๊ะเป็นการแสดงตัว ทำให้คนอื่นๆไม่สามารถมานั่งแทนที่ได้เพราะถือเป็นการทำผิดกฎของดาวเคราะห์ และถ้าใครไม่ทำตามกฎแล้วล่ะก็จะถูกจับกุมและไม่สามารถเข้าหอสมุดใหญ่แห่งดาวเคราะห์สีน้ำเงินนี้ได้อีกเลย แต่แน่นอนว่าทุกคนที่เข้ามาที่นี่จะได้มีที่นั่งเป็นของตัวเองกันทุกคน เพราะความกว้างใหญ่และโต๊ะตัวยาวเหยียดทั้งหลายนั้นสามารถรองรับได้มากกว่าผู้คนที่เข้ามาใช้บริการจริงๆเป็นเท่าตัว และทุกๆสามชั่วโมงจะมีการสลับสับเปลี่ยนที่นั่งเพื่อความยุติธรรมและเท่าเทียม ซึ่งมันอาจจะฟังดูยุ่งยากและน่าหงุดหงิดไปเสียหน่อย แต่กฎต่างๆก็ถูกตั้งขึ้นเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคมสีน้ำเงินนี้นั่นเอง…

 

                และตั้งแต่นั้นมาชายหนุ่มนามว่า แพทริค เวลตัน ก็มายังหอสมุดแห่งนี้ทุกวันหลังเลิกงาน เขาอ่านหนังสือหลายต่อหลายเล่มหลายต่อหลายแนว ทั้งประวัติศาสตร์ สารคดี  วิทยาศาสตร์ หนังสือเกี่ยวกับความรู้นอกดาวเคราะห์ แนวนวนิยายตั้งแต่ผจญภัยไปจนถึงน้ำเน่า หรือแม้แต่นิทานปรัมปราที่เด็กๆชอบฟังเองก็ตาม เขาก็อ่านมันหมดเพื่อเติมเต็มความอ้างว้างและหาแนวทางให้กับตัวเอง

 

               แต่จนแล้วจนรอดมันก็ไม่ได้ผล…อาจจะมีแค่เพียงนิด…ความเงียบเหงายังคงกัดกินหัวใจของเขาอยู่อย่างนั้น…อย่างไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะเลือนหายไปได้เสียที

 

               และแล้ววันหนึ่งดาวเคราะห์ทั้งดวงก็ดูสดใสซาบซ่ายิ่งกว่าครั้งแรกที่เขาดำเนินชีวิตผิดแปลกไป ในวันที่หัวใจอันแห้งเหี่ยวของเขามันสั่นไหวและกลับมาพองโตขึ้นอีกหน ดั่งมีน้ำมนต์สีน้ำเงินมาราดรดร่างกายให้ชุ่มฉ่ำ ใบหน้าซีดเซียวตามปรกติเริ่มแดงกร่ำขึ้นทุกครั้งเมื่อดวงตาคู่สวยคู่หนึ่งหันมาเมียงมอง… 

 

               มันเป็นวันหยุดประจำของเขา และเป็นวันที่เขาตัดสินใจมาที่หอสมุดแต่เช้าแทนที่จะมาในตอนบ่ายแก่ๆเหมือนอย่างเคย เขาเลือกหาหนังสืออ่านตามชั้นวางไปเรื่อยเปื่อย ดวงตายาวรีไล่อ่านสันปกอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะจบลงด้วยการยืนเก้กังอยู่หน้าชั้นหนังสือ และเอื้อมมือผอมๆของเขาหยิบนวนิยายเรื่องหนึ่งออกมา ซึ่งมันทำให้สายตาของเขา…จ้องสบกับดวงตากลมโตของคนที่อยู่อีกฝั่งโดยบังเอิญ

 

               วินาทีนั้นเหมือนทุกอย่างหยุดชะงัก แม้แต่ลมหายใจของเขาก็เหมือนจะถูกกักกั้นเอาไว้ด้วย ร่างทั้งร่างเหมือนถูกแช่แข็งกะทันหัน แต่พอเมื่อได้เห็นริมฝีปากแดงสวยส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรมาให้เท่านั้นแหละ กายผอมแห้งก็อุ่นซ่านขึ้นมาในทันตา!

 

               แพทริคยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเพราะขาทั้งสองข้างก็ยังไม่ยอมขยับไปไหน ตาคู่เรียวยังคงจ้องมองไปข้างหน้าไม่ลดละ ถึงแม้ว่านางฟ้าในฝันที่เป็นจริงของเขาจะหายวับไปจากตาแล้วก็ตาม…

 

++++++++++++++++++++++++++++++++++

แบ่งครึ่งให้ตื่นเต้นไปงั้น =__= จริงๆแล้วมันลงพร้อมกันไม่ได้ Y__Y

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา