เรื่องเล่า นิทานในฝัน

8.6

วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 19.50 น.

  3 เรื่อง
  11 วิจารณ์
  7,950 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) นิทานในฝัน :: ดาวเคราะห์สีน้ำเงิน 2 [ END ]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

               มันเป็นวันหยุดประจำของเขา และเป็นวันที่เขาตัดสินใจมาที่หอสมุดแต่เช้าแทนที่จะมาในตอนบ่ายแก่ๆเหมือนอย่างเคย เขาเลือกหาหนังสืออ่านตามชั้นวางไปเรื่อยเปื่อย ดวงตายาวรีไล่อ่านสันปกอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะจบลงด้วยการยืนเก้กังอยู่หน้าชั้นหนังสือและเอื้อมมือผอมๆหยิบนวนิยายเรื่องหนึ่งออกมา ซึ่งมันทำให้สายตาของเขา…จ้องสบกับดวงตากลมโตของคนที่อยู่อีกฝั่งโดยบังเอิญ

 

                    วินาทีนั้นเหมือนทุกอย่างหยุดชะงัก แม้แต่ลมหายใจของเขาก็เหมือนจะถูกกักกั้นเอาไว้ด้วย ร่างทั้งร่างเหมือนถูกแช่แข็งกะทันหัน แต่พอเมื่อได้เห็นริมฝีปากแดงสวยส่งยิ้มอย่างเป็นมิตรมาให้เท่านั้น กายผอมแห้งก็อุ่นซ่านขึ้นมาในทันตา!

 

แพทริคยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเพราะขาทั้งสองข้างไม่ยอมขยับไปไหน ตาคู่เรียวยังคงจ้องมองไปข้างหน้าไม่ลดละ ถึงแม้ว่านางฟ้าในฝันที่เป็นจริงของเขาจะหายวับไปจากตาแล้วก็ตาม…

 

“โซรา…เขยิบไปหน่อยได้ไหมครับ”

 

                    คำขอโทษที่ดังขึ้นทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อยและรีบถอยให้กับชายอีกคนในทันที ก่อนที่กายสีฟ้าซีดจะเดินไปยังที่นั่งของตนอย่างเลื่อนลอย

 

                    เพราะเช้านี้มุมส่วนตัวถูกจับจองไปหมดแล้ว แพทริคจึงต้องเลือกนั่งที่โต๊ะตัวเหยียดยาวกลางโถงกว้างแทน ความสงบเงียบทำให้ใจของเขากลับมาเป็นปรกติอีกครั้ง มันไม่เต้นระส่ำเหมือนเมื่อครู่ที่ผ่านมาอีกแล้ว อาการเลื่อนลอยหายไปเมื่อเขาผ่อนลมหายใจเบาๆและวางหนังสือลงตรงหน้า ก่อนจะเปิดอ่านผ่านๆตาด้วยความรู้สึกโหวงเหวงเช่นเคย

 

                    เขาอ่านมันอย่างไม่ค่อยตั้งใจนัก มันเป็นนวนิยายเกี่ยวกับรักต้องห้ามที่เกิดขึ้นบ่อยๆในดาวเคราะห์แห่งนี้ เรื่องราวของชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ไปตกหลุมรักหญิงสาวแสนสวยเข้าอย่างจัง แต่ดันไม่สมหวังในความรักเพราะถูกกีดกันจากครอบครัวของหล่อน หากแต่ท้ายที่สุดแล้วทั้งสองก็ได้ครองคู่กัน ตามแบบฉบับนวนิยายน้ำเน่าที่ใครๆก็นิยมอ่าน

 

                    แพทริคอ่านเรื่องนั้นไปได้สิบกว่าหน้าก็ต้องปิดหนังสือลงด้วยความเบื่อหน่าย ศีรษะที่ก้มอยู่เงยขึ้นและหมุนไปมาเล็กน้อยให้คลายเมื่อย ก่อนที่จะหยุดกึกเมื่อสายตาของเขามองไปเห็นใครคนหนึ่งที่นั่งถัดจากเขาไปสองโต๊ะ!

 

                    ‘นางฟ้าในฝัน…’

 

                    เสียงอุทานดังก้องไปทั่วสมองของชายหนุ่ม ดวงตายาวรีเบิกตากว้างขึ้นโดยอัตโนมัติ ปากบางอ้าออกเล็กน้อยอย่างหลงลืมตัว ไหล่เล็กลู่ลงดั่งคนหมดแรง ใบหูสีฟ้าซีดเริ่มเปลี่ยนไปเป็นสีแดงระเรื่อจนลามไปถึงแก้มตอบทั้งสองข้างอย่างไม่ทราบสาเหตุ

 

                    ถึงจะอยู่ไกลแต่เขาก็มองเห็นเพียงเธอได้อย่างชัดเจน กายของเธอเป็นสีฟ้าเจือขาวดูนุ่มนิ่มเหมือนปุยเมฆบนท้องฟ้า ตัดกับสีชมพูหวานจากชุดเดรสแบบกระโปรงบานที่เธอสวมใส่ ผมสีน้ำตาลคาราเมลยาวประบ่าถูกทำเป็นลอนอย่างสวยงาม และถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะกำลังก้มหน้าจมอยู่กับหนังสือที่เธอหยิบมาอ่าน เขาก็ยังจดจำดวงตาอันกลมโต จมูกอันจิ้มลิ้ม และริมฝีปากแดงสวยของเธอได้เป็นอย่างดี

 

                    ความรู้สึกเช่นนี้มันยากจะเข้าใจ…เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต ไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาทำให้หัวใจของเขาหวั่นไหวได้ตั้งแต่แรกพบ แม้ใครบางคนจะเคยบอกกล่าวเขาไว้บ้าง ว่าวันหนึ่งเขาจะต้องได้ประสบกับพวกอาการเหล่านี้ แต่เขาก็ทำทีมองว่ามันเป็นเรื่องน่าตลก และมันคงไม่เกิดขึ้นกับตัวเขาอย่างแน่นอน

 

                    แต่เธอคนนี้กลับทำให้ความคิดนั้นเปลี่ยนไป…เธอคนนี้ทำให้เขารู้ว่าวันหนึ่งวันใดที่ใครกล่าวไว้นั้นได้มาถึง…เธอคือคนที่ทำให้สมองของเขามีแต่เสียงอื้ออึง…ให้เขาได้รู้สึกอบอุ่นตรงกลางใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมานานแสนนาน…

 

                    ‘นี่สินะที่ใครเขาเรียกกันเก๋ๆว่า…ฟารา อีนา เลอฟา’

 

 

                    และนับตั้งแต่วันนั้นแพทริคก็มายังหอสมุดในช่วงเช้าแทนเมื่อถึงวันหยุดประจำ เขาเฝ้าแอบมองหญิงสาวผู้นั้นอยู่ห่างๆ เธอเป็นผู้หญิงที่สวยหวานกว่าผู้หญิงคนไหนในสายตาเขา ยิ่งตอนที่เธอเงยหน้าเหม่อมองอะไรสักอย่าง และอมยิ้มเล็กน้อยเหมือนกับว่ากำลังฝันกลางวันอยู่ก็มิปาน มันยิ่งทำให้เธอดูช่างน่ารักสำหรับเขาเสียเหลือเกิน

 

                    แต่ความที่เป็นคนขี้อายทำให้ไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากทักทายหรือสิ่งยิ้มให้ยามที่เธอหันมามอง เขากลับทำได้แต่เพียงหลบสายตาเธอแค่เท่านั้น แล้วพอถึงตอนสายของวัน นางฟ้าในฝันก็ลาจากไปพร้อมกับหัวใจของเขาที่เกาะติดเธอไปด้วย…

 

                    แล้ววันหนึ่งเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆกฎการสลับที่นั่งทุกสามชั่วโมงทำให้เขาและเธอได้มาใกล้ชิดกัน วันนั้นเขาลุกออกจากโต๊ะตัวกลมและเดินไปนั่งลงที่โต๊ะเหยียดยาว เฉกเช่นเธอที่เดินมานั่งเยื้องกันกับเขา ทำเอาหัวใจของเขาเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ และยิ่งพอเธอหันมามันก็ยิ่งเต้นตูมตามมากขึ้นไปใหญ่ จนเขาต้องรีบยกหนังสือเล่มหนาขึ้นมาบังหน้าไว้ด้วยความเขินอายสายตาของเธอ

 

“โอ้โห คุณอ่านเล่มนี้ด้วยหรอคะ”

 

                    เสียงใสที่ดังขึ้นทำเอาแพทริคไม่อยากเชื่อหูของตัวเอง เขาเลื่อนหนังสือลงเล็กน้อยเพื่อมองเธอเพราะไม่แน่ใจว่าเธอพูดกับเขาหรือเปล่า แต่พอทันทีที่ได้เห็นดวงตากลมโตมองมาทางเขาเท่านั้นแหละ เขาก็รีบวางหนังสือลงและส่งยิ้มแหยๆกับหัวเราะแห้งๆออกมาเบาๆทันที

 

                    “ดาวเคราะห์ที่เรียกว่าโลก” เธออ่านตามชื่อบทที่เห็น พลางขยับเปลี่ยนมานั่งฝั่งตรงข้ามเขาแทน

 

                    “เอ่อ…ครับ…ครับ…” ชายหนุ่มได้แต่พูดทวนคำเสียงแผ่ว ใบหน้าที่แปลเปลี่ยนเป็นสีระเรื่อก้มลงเหมือนดั่งคนกำลังถูกจับผิด

 

                    “ฉันหาเล่มนี้อยู่ตั้งหลายวันก็ไม่ยักจะเจอ คุณไปเจอมันอยู่ตรงไหนหรอคะ” เธอถามพลางมองคนตรงหน้าอย่างสงสัยใคร่รู้

 

                    “เอ่อ…พอดีว่า…ผมยืมไปอ่านที่บ้านด้วยน่ะครับ” แพทริคตอบแต่ยังคงก้มหน้าอยู่เช่นเดิม “วันนี้ถึงกำหนดการคืน แต่ผมยังอ่านไม่จบก็เลย…เอามาอ่านต่อ”

 

                    “อ้อ…อย่างนี้นี่เอง” เธอพูดพลางพยักหน้าเล็กน้อย “งั้นถ้าคุณอ่านจบแล้วช่วยเอามาให้ฉันด้วยนะคะ”

 

                    “ดะ…ได้สิครับ ได้…ได้…” เขาตอบกลับอย่างเคอะๆเขินๆ ใจก็ยิ่งเต้นระส่ำมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงใสๆแสนไพเราะของเธอ

 

                    ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อหญิงสาวก้มหน้าอ่านหนังสือของตนอีกหน อย่างไม่สนคนที่นั่งตัวเกร็งทำอะไรไม่ถูก ได้แต่แอบเหลือบมองเธออย่างที่เคยทำ หากแต่ความคิดของชายหนุ่มกลับกำลังตีกันให้ยุ่งเหยิง ว่าจะรวบรวมความกล้าเปิดปากชวนเธอคุยต่อดี…หรือว่าจะอยู่เงียบๆไปอย่างนี้และปล่อยโอกาสให้หลุดลอย

 

แล้วความกล้าก็ชนะความกลัวในที่สุด…

 

                “คุณชอบอ่านพวกหนังสือเกี่ยวกับนอกดาวเคราะห์หรอครับ” คำถามแรกหลุดออกไปอย่างหวั่นๆ สายตาเรียวเอาแต่จ้องหนังสือในมือของอีกฝ่าย ที่เขียนกำกับหน้าไว้ว่า ‘เรื่องน่ารู้ของดาวเคราะห์ที่ชื่อว่าโลก’

 

                “ใช่ค่ะ ฉันชอบอ่านมากๆเลย” เธอเงยหน้าขึ้นและตอบคำถามเขาพร้อมกับรอยยิ้ม “มันสนุกและน่าตื่นเต้นดีนะคะ กับการที่ได้รู้ว่ามีดาวเคราะห์ดวงอื่นที่คล้ายกับดาวเคราะห์ของเรา”

 

                คำตอบอันแสนสดใสเลื่อนลอยผ่านไปจากหูของชายหนุ่ม เพราะเพียงแค่ได้เห็นรอยยิ้มแสนหวาน มันก็ทำให้เขาลืมทุกสิ่งอย่างไปหมด และยิ่งในตอนนี้เธอกำลังทำท่าเหมือนกันคนเพ้อฝัน มันก็ช่างดูน่าพิสมัยจนเขามิอาจละสายตาไปจากเธอได้เลยจริงๆ

 

               “ฉันน่ะ…ชอบคิดแล้วก็จินตนาการถึงดาวดวงอื่นอยู่เรื่อยเลยล่ะค่ะว่ามันจะเป็นยังไง สวยงามมากแค่ไหน มีชนชาวดาวเคราะห์เหมือนเราหรือเปล่า…ยิ่งดาวที่ชื่อว่าโลกที่ใครๆกำลังพูดถึง ว่ามันเป็นดาวเคราะห์ที่เหมือนเรามากที่สุด…ฉันล่ะอยากจะเห็นกับตาตัวเองจริงๆค่ะ”

 

                หญิงสาวร่ายยาวอย่างอดเสียไม่ได้เมื่อได้พูดถึงสิ่งที่ตนชื่นชอบ หรือเรียกว่าคลั่งไคล้เสียมากกว่า ให้คนที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่ตรงหน้าต้องหัวใจพองโตมากขึ้นไปอีก

 

               เธอช่างพูด ช่างคิดและช่างฝัน จนเขาอดที่จะเคลิ้มตามรอยฝันนั้นเสียไม่ได้ ท่าทีเหม่อลอยกับยิ้มน้อยๆของเธอเหมือนดั่งกับเครื่องมัดใจ ที่ทำให้หัวใจของเขาถูกมัดไว้อย่างแนบแน่น ไม่เหลือหนทางจะแก้ออกได้เลยสักนิด…

 

               “โอ๊ะ! ฉันต้องไปแล้วล่ะค่ะ” เธอกล่าวเมื่อก้มลงมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง “ยินดีที่ได้พบนะคะ หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก”

 

               รอยยิ้มแสนหวานปรากฏบนใบหน้าแสนสวยอีกครั้งก่อนที่กายสาวจะลาจาก ให้คนที่ตกอยู่ในภวังค์ต้องอ้าปากเก้อมองตามตาไม่กระพริบ ก่อนที่เขาจะได้สติเมื่อเสียงกริ่งของประตูดังขึ้น เขาจึงรีบวิ่งตามเธอออกไปในทันที   

 

               “เดี๋ยวครับ!” แพทริครีบห้ามหญิงสาวไว้เสียงลั่น ทำให้เธอต้องหันมามองเขาด้วยความสงสัย รวมถึงผู้คนที่อยู่ในละแวกนั้นด้วย

 

               “คือ…ชื่อของคุณ…”

                “อ้อ…ฉันชื่อแอนนาค่ะ แอนนา กัมปานา” แอนนาตอบพลางส่งยิ้มให้เขาเช่นเคย หากแต่นามสกุลของเธอช่างฟังดูคุ้นหูอย่างน่าประหลา

 

                “เอ่อ…ผมชื่อ…”

 

                “แพทริค เวลตัน”

 

               เธอชิงพูดก่อนเมื่อเขาจะแนะนำตัวเองบ้าง ทำให้เขาต้องมองเธอด้วยความประหลาดใจ กายหนุ่มร้อนผ่าวขึ้นมาโดยอัตโนมัติเมื่อความคิดไร้สาระแล่นเข้ามาในสมอง หากแต่ประโยคเสริมของเธอความร้อนก็คลายลง แถมยังดิ่งลงจนเย็นชืดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก  

 

               “ฉันได้ยินคุณผู้คุมหอสมุดเรียกคุณบ่อยๆน่ะค่ะ”

 

               “งั้นเหรอครับ…” เขาเอ่ยออกมาเสียงแผ่วพลางก้มหน้าลงเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นและส่งยิ้มแบบจริงใจที่สุดให้กับเธอเป็นครั้งแรก “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณแอนนา”

 

                หญิงสาวมองหน้าเขาพลางอมยิ้มก่อนจะเอ่ยคำยินดีออกมา “เช่นกันค่ะคุณแพทริค”

 

                สองตาประสานกันดุจดั่งว่าจะลึกซึ้ง เสียงอื้ออึงบนท้องถนนดูจะเบาลงถนัดตา ถึงแม้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะไม่หยุดเคลื่อนไหว แต่ชายหนุ่มรับรู้แล้วว่าหัวใจของเขาจะหยุดอยู่ที่หญิงสาวเพียงคนเดียว…

 

ต่อจากนี้เขาจะเปลี่ยนไป จะเป็นคนกล้าแกร่งที่พิชิตใจเธอให้จงได้

 

 

                “ฉันไปก่อนนะคะ...แล้วเจอกันค่ะ”

 

เพราะเธอเป็นดั่งดวงดาวที่พรั่งพราย…

 

 

                ‘ปี๊นนนน!!!!!!!!’

 

 

                ‘เอี๊ยดดดดด!!!!!!!!!’

 

 

 

และเป็นดั่งหัวใจของเขาชั่วนิจนิรันดร์…

 

 

 

                ‘โคร่มม!!!!!!!!!!!’

 

 

“เลอฟา ยาอู ฟาราวา…แล้วเราจะได้เจอกัน”

 

 

 

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

ก็ ไม่รู้ สินะ.....

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา