คิดถึง

6.7

เขียนโดย พี่หญิง

วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 08.01 น.

  1 Ep.
  4 วิจารณ์
  3,802 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     
     ยามเย็นอันโพล้เพล้มาเยือนอีกครา ท้องฟ้าที่เคยสว่างเป็นสีฟ้าสกาวถูกแทนที่ด้วยแสงสีส้มทองของดวงอาทิตย์อัสดง ลมทะเลพัดหอบเอาคลื่นทะเลมากระทบฝั่งเป็นระยะๆไม่ได้ทำให้'เพียง'สนุกสนานหรือมองเห็นทัศนียภาพตรงหน้าสวยงามแต่อย่่างใด กลับทำให้เฝ้าถามตัวเองอยู่ในใจ ว่าเหตุไฉน เธอถึงมาเยือนสถานที่ที่เธอและ 'ภานุ' ผู้ชายที่เธอรักมากที่สุดรองจากกครอบครัว แต่ด่วนจากไปในเวลาที่เธอยังไม่ได้บอกความรู้สึกที่เธอมีให้เขาได้รู้เลย  
     ลมทะเลพัดผ่านใบหน้าเธอไปลับไม่กลับย้อนมาต้องใบหน้าเธอซ้ำสอง แต่ก็มีสายลมสายใหม่พัดมาต้องใบหน้าเธอเรื่อยๆ ถ้้าหากเราสามารถโยนขว้างสิ่งที่คอยรบกวนจิตใจเราให้ทุกกข์อยู่เสมอไปกับสายลมสายแรกที่พัดผ่านไป และรอรับเรื่องใหม่ๆ ให้ผ่านเข้ามาในชีวิตเหมือนสายลมที่คอยพัดมาเยือนเรือนร่างเราหลังจากที่สายลมสายแรกผ่านไปแล้วก็คงดี   
   แต่เธอทำไม่ได้!!!   เธอไม่สามารถโยนขว้างความทรงจำอันไหนที่เธอเคยสร้างร่วมกันมาด้วยกันเขา   ไม่สามารถปล่อยทิ้งให้ลอยไปกับคลื่นทะเล...   ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้เธอทุกข์ทรมานแทบขาดใจ ยามใดที่นึกถึงมััน   หรือจะเป็นเรื่องที่สุขสวยงามจนเธอไม่อาจพรรณนาได้     
     เธอสูดหายใจเข้าเอากลิ่นอายของเกลือเข้าไปสู่ปอด หวังว่าจะช่วยเยียวยารักษาอาการอยากอาเจียนลงไปได้บ้าง ก่อนจะพริ้มหลับตาลงไปสู่วังวนเรื่องที่ครั้งหนึ่งมันเคยเกิดขึ้นมาในชีวิต ปล่อยให้ลมทะเลพรมจูบตามเรือนร่าง ไม่นึกหนาวแม้แต่น้อย...  
     'เสียงเจื้อยแจ้วของเหล่านักเรียนชาย-หญิง ดังขึ้นแทบจะแยกไม่ออกว่าเสียงไหนเป็นเสียงของใคร พอคุณครูรัฐดาพร เดินเข้ามาภายในห้องเท่านั้นล่ะ เสียงกระวีดกระวาดของนักเรียนหญิง และเสียงหวีดหวิวของนักเรียนชายก็อันตรถานหายไปกับสายลมทันที  
     "วันนี้เรามีเพื่อนใหม่จะมาเรียนกับเราในปีนี้นะจ๊ะ...แนะนำตัวว่าชื่ออะไรให้เพื่อนๆ ในห้องได้รู้จักเธอซิจ๊ะ"  
     เด็กชายที่มีใบหน้าเสี้ยมเหลียม ท่าทางหยิ่งผยอง และมีสายตาเด็ดเดี่ยวก้าวออกมายืนหน้าชั้นเรียน พร้อมกับกล่าวแนะนำตัวอย่างรวดเร็ว ไม่มีทีท่าเขินอายแต่อย่างใด  
      "สวัสดีครับ ผมชื่อ ด.ช.ภัทรพงษ์ อิสวรรจน(อิด-สะ-วอน-รด-จะ-นะ) ชื่อเล่นชื่อภานุครับขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ"  
     หลังจากที่ภานุกล่าวแนะนำตัวเสร็จแล้ว คุณครูรัฐดาพร ก็เอ่ยขึ้นว่า  
     "เอาล่ะนะนักเรียน ขอให้ทุกคนต้อนรับภานุอย่างอบอุ่นด้วยนะจ๊ะ ไหนดูซิ ว่าครูจะหาที่นั่งให้เธอนั่งตรงไหนดี"  
     คุณครูรัฐดาพรมองกราดทั่วห้องก่อนจะมาอ้อยอิ่งอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่ง  
"ครูว่าเธอน่าจะไปนั่งกับ 'เพียงฟ้า' นะ นั่นละจ๊ะ ตรงที่ว่างๆ"  
ภานุนั่งลงข้างกายเพียงฟ้า ก่อนจะหันน่ามาพูดด้วยท่าทางเสียงยานคางว่า  
"เธอชื่อเพียงฟ้าเหรอ"  
"เปล่า"  
"งั้นทำไมครูคนนั้นถึงเรียกเธอว่าเพียงฟ้าล่ะ"  
"นั่นชื่อจริงของฉัน"  
"ปกติคนที่ชื่อเพียงฟ้าที่ฉันเคยรู้จักมา จะเป็นทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นนะ"  
"นั่นคนอื่น"  
"แล้วตกลงชื่อเล่นเธออะไรละ"  
"เพียง"  
 "เพียง ฉันได้อยู่ห้องวิทย์-คณิต อย่างนี้ฉันก็ได้เครื่องเล่นเพย์สเตชั่นจากป๊าแน่"  
ภานุกระโดดดีใจเมื่อผลสอบออกมาว่าเขาได้อยู่ห้องไหน หากแต่เพียงไม่ได้เงยหน้าหรือร่วมยินดีไปกับ'เพื่อน'เลย เธอยังคงจ้องมองบอร์ดติดประกาศผลสอบของชั้นมัธยมศึกษาปีที่4  
"เพียงเธอเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมไม่นิ่งแบบนี้ล่ะ" เธอหันหน้าไปมองเขาช้าๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา  
"ฉันได้อยู่ห้องศิลป์ภาษา"
เท่านั้นแหละ หน้าภานุก็เปลี่ยนสีเป็นสีซีดทันที  
     'รับน้องหนุกเนอะ" ภานุเอ่ยขึ้นระหว่่างที่เขากับเพียงเดินออกมาจากตัวมหาวิทยาลัย เพื่อไปรอรถเมล์ที่ป้ายหน้า "พี่ผู้หญิงปีสี่น่ารักทุกคนว่ะ แกว่าปะ"   "อื้อ"   "หนุ่มๆ มหา'ลัยก็หล่อทุกคนนะเว้ย มีพี่คนหนึ่งนะมาถามฉันว่ารู้จักแกอ่ะเปล่า สงสัยพี่คนนั้นจะจีบแกว่ะเพียง"   เธอได้แต่ก้มหน้างุดๆ ไม่ยอมเอื้อนเอ่ยหรือตอบว่าอย่างไรในเรื่องนี้'
      "ทำไมเมย์ต้องทิ้งฉันว่ะ เพียง"    ภานุถามเพื่อนที่นั่งเคียงข้างเขา ในมือเขาถือแก้วใบใส เรียวยาว มีของเหลวสีเหลืองข้นคลั่ก   หากคนที่ถูกถามได้แต่ส่ายหน้าแทนคำตอบ ตาเรียวยาวของเธอจับจ้องแก้วบรรจุของเหลวที่อยู่ในมือของเขา   "แกก็เป็นแบบนี้ ไม่เคยพูด ไม่เคยบอกว่าคิดอะไรให้ฉันรู้สักอย่าง"   เขาพูดจากระโชกโหกหาก ไม่คิดว่าเพื่อนตัวเล็กที่จะเกิดกลัวเสียงของเขาหรือไม่   "เมาแล้ว พอเหอะ"    มือเล็กเอื้อมไปหวังว่าจะหยิบแก้วใบใสที่บรรจุแอลกอฮอล์มาจากมือเขา แต่--   "ฉันไม่เมา!!!" พูดพร้อมกับผลักมือเธอออกไป "ฉันจะกินให้ตายไปเลย แล้วแกก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก จะไปไหนก็ไปเลย!!!"      "เพียงฉันขอโทษ"   ภานุเกาะรั้วหน้าบ้านของเธอ ปากก็พร่ำว่าขอโทษ...ขอโทษ และก็ขอโทษไม่ยอมหยุด   "ตอนนั้นฉันเมานี่หว่า ก็เลยเผลอพูดแรงไปหน่อย"   "เฮ้ย! แกอย่่าเงียบดิว่ะ ปกติแกก็เงียบอยู่แล้ว ครั้งนี้เล่นไม่พูดอะไรเลย มันเสียวนะเว้ย"   คนถูกว่าก็ยังคงไม่ยอมพูดอะไร นอกจากจ้องหน้าเขานิ่ง   "เพียง ฉันขอโทษ ต่อไปนี้ฉันจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีกแล้ว ไม่มีแกเหมือนชีวิตฉันขาดอะไรไปสักอย่าง ถึงแกจะไม่ค่อยพูดก็เถอะ กลับมาเป็นนะ ฉันไม่มีใครให้ระบายด้วย"   เพียงยิ้มพร้อมกับพยักหน้า
      "อยากได้เหรอ จ้องตาเป็นมันเลย"   เพียงกำลังจ้องตุ๊กตาหิมะที่อยู่ในครอบแก้วของร้าน 'หาดเงิน หินทราย' ซึ่งร้านตั้งอยู่ที่ทะเลแห่งหนึ่งในจังหวัดกระบี่   "มันแพงเกินไป"   เธอพูดพร้อมกับจ้องมองป้ายราคาที่ติดไว้ข้างครอบแก้ว   1500$  
     "ทะเลที่นี่สวยเนอะว่าปะ"   ภานุถามคนที่นั่งข้างกายเขาอยู่บนโขดหิน   "อืม สวยมาก"   ภานุมองคนข้างๆ ก่อนจะยิ้มบางๆ และใช้มือโยกหัวคนตัวเล็กไปมา  
     เพียงยืนมองตุ๊กตาหิมะในครอบแก้วตัวเดิมที่เธอเคยมาจ้องมองมันอยู่ข้างร้านเมื่อวานนี้   "ไปเหอะ มายืนจ้องข้างร้านเขาแบบนี้เดี๋ยวเจ้าของร้านก็ว่าเธอคิดจะเป็นมาขโมยของหรอก"
  
      เพียงยืนชะเง้อคอมองหาภานุที่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ จนป่านนี้ก็ผ่านไปเกือบจะสิบนาทีแล้วเธอก็ยังไม่เห็นเขามาสักที รถตู้ที่เธอกับเขาโดยสารมาก็เดินทางมาถึงแล้วด้วย  
      เพียงตัดสินใจเดินไปดูภานุที่ห้องน้ำ เธอมองซ้ายมองขวาก่อนจะเดินข้ามถนน  
     คนมุงอะไรกันนะ? เธอนึกในใจก่อนจะเดินไปดูว่าอะไรกันนะทำให้คนมายืนมุงกันเยอะขนาดนี้        
      "ขอโทษนะคะ"   เธอกล่าว และแหวกทางเข้าไปดู  
     คนที่ยืนมุงดูพากันหลีกทางให้เธอ  
      เธอมองใครบางคนที่นอนอยู่บนพื้นถนน เลือดสีแดงท่วมร่างกายเขา ข้างๆ มีเศษแก้วและน้ำกระจายเกลื่อนบนพื้นถนน เธอก้มเก็บตุ๊กตาหิมะตัวเดียวกับตัวที่เธอจ้องมองจากร้าน หาดเงินหินทราย  
     หัวใจเธอแทบหยุดเต้น เมื่อเธอละสายตาจากตุ๊กตาหิมะมามองร่างที่นอนแน่นิ่ง นิ่งเสียจนเสียงรอบกายเธอนิ่งตาม  
     เธอคุกเข่าลงข้างๆ ภานุที่มีเลือดสีแดงท่วมตัวเขาทั้งร่าง ดวงหน้าเรียวยาวของเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดง ผมหน้าม้าของเขามีเลือดแข็งๆ เกาะตามไรผม ดวงตาที่ยังไม่ปิดสนิทมีรอยแผลที่เกิดจากเศษกระจกปาดเป็นทางยาว จมูกโด่งเป็นสันของเขาไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด กลับดูปกติเหมือนจมูกทั่วไป แต่ริมฝีปากหยักสวยได้รูป เจ่อนิดๆ และมีเลือดไหลซิบๆ  
     "มายืนมุงอะไรกันคะ เดี๋ยวเขาก็ฟื้นค่ะ เขาแกล้งฉันน่ะค่ะ ถึงครั้งนี้เขาจะแกล้งฉันหนักไปหน่อย แต่เดี๋ยวเขาก็ลุกขึ้นมาคุยกับฉันเหมือนเดิมค่ะ"  
      เธอพูด พร้อมกับยิ้มกว้างให้คนที่มายืนมุงดูภานุ  
      "อย่ามายืนมุงดูแบบนี้ซิคะ เดี๋ยวเขาก็อายไม่กล้าลุกขึ้นมาหรอกค่ะ"   บางคนก็ยืนส่ายหน้าให้กับคำพูดของเธอ แต่บางคนถึงขนาดร้องไห้ออกมา พร้อมกับพูดเบาๆว่า "โธ่เอ๋ย น่าสงสารจริงๆ"  
     เธอมองคนเหล่านั้นไปมาอย่างไม่เข้าใจ ภานุก็แค่แกล้งเธอเท่านั้นเองแหละ อีกเดี๋ยวเขาก็จะลุกขึ้นมาพูดกับเธอ แต่ทำไมผู้คนถึงมายืนมุงดู แถมยังร้องไห้เหมือนว่าเขาตายไปแล้วอย่างนั้นละ  
     "ภานุลุกขึ้นได้แล้ว คนอื่นเขาเข้าใจผิดไปหมดแล้วนะ แล้วนี่ไปเอาน้ำเฮลลูบอยมาราดตัวเองทำไม"  
     เธอเขย่าตัวเขาไปมา หวังให้เขาเลิกเล่นได้แล้ว แต่เขากลับไม่ไหวติงแม้สักนิด...  
     เธอใช้มือไปอังที่จมูกเขา ก็ไม่สามารถสัมผัสลมหายใจอุ่นๆ ของเขาได้เลย  
      "เฮ้ยแก! อย่าเล่นแบบนี้ดิ แกเป็นคนบอกฉันไม่ใช่เหรอว่าไม่ค่อยชอบตอนที่ฉันไม่พูดอ่ะตอนนี้แกก็ทำแบบนั้นอยู่นะ แล้วฉันก็ไม่ชอบแบบนี้ด้วย"  
     เธอหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างประคองใบหน้าเขาขึ้นมา  
     "แกบอกฉันว่า แกไม่ชอบให้ใครมาจับหน้าแก เพราะแกจั๊กจี้ แล้วฉันก็จะทำแบบนี้แหละ จนกว่าแกจะเลิกเล่นเป็นเด็กๆ"  
     เขายังคงนิ่ง...แต่ดวงตาของเธอกลับไม่นิ่งเหมือนที่เขาทำเลยแม้แต่น้อย ดวงตาเธอเริ่มผะผ่าว  
     "ไอ้ภานุแกตื่นขึ้นมาว้อย!!! ฉันอยากกลับบ้านแล้ว รถตู้ก็มารอรับตั้งนานแล้วด้วย"  
     เมื่อเห็นว่าเขายังคงนิ่ง น้ำตาหยดใสๆ ก็เริ่มไหลรินลงอาบแก้มทั้งสองข้างของเธอ  
      "ลุกขึ้นมาพูดกับฉันสิ ปกติแกพูดมากไม่ใช่เหรอ ลุกมาคุยอะไรให้ฉันฟังหน่อย อย่าเงียบแบบนี้สิ"  
     น้ำตาไหลรินมาจากไหนไม่รู้ ตั้งแต่เธอเกิดมาเธอไม่เคยร้องไห้เลยสักครั้งในชีวิต นอกจากตอนที่เธอเบิกตามองโลกวันแรก
 
        "ไอ้เลว ไอ้สารเลวภานุ!!!! ไอ้เกรียน ไอ้หยิ่ง ไอ้ขี้เก็ก ตื่นมาดิว่ะ ฉันพูดกับแกดีๆ แล้วนะ ตื่นมาสิ อย่านิ่งแบบนี้ แกห้ามนิ่งแบบนี้ ฉันสัญญาว่าจากนี้ไปฉันจะพูดให้มันมากกว่าที่ผ่านมาแกจะได้มีเพื่อนคุย แต่ตอนนี้แกต้องตื่นมาก่อน ตื่นมาสิ ลุกขึ้นมาสิไอ้ภานุ!!!!"  
     เธอกอดร่างของเขาไว้แนบกาย เขาจะรู้บ้างหรือเปล่าว่าเธอแอบรักเพื่อนคนนี้มาตั้งแต่เธอกับเขาเจอกันวันแรก จนมาถึงเธอกับเขาเข้ามาหาลัยแล้ว เธอไม่อยากให้มันจบแบบนี้ เธอยังไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้เขาได้รับรู้เลยสักครั้ง เธอต้องการให้เขาลุกขึ้นมาคุยกับเธอเหมือนเดิม...เหมือนที่เคยผ่านมา  
     เธอลืมตาขึ้นมามาจากภาพที่เคยเกิดขึ้น มาสู่บรรยากาศลมทะเล ตอนนี้ความมืดได้โรยตัวมาแทนที่แสงสีส้มทองของดวงอาทิตย์ ลมที่เคยพัดอ่อนๆ กลับกลายเป็นลมที่ทะเลที่หนาวเยือกไปถึงขั้วหัวใจ  
     เธอทรุดฮวบลงลงที่โขดหิน ที่ครั้งหนึ่งเธอกับภานุเคยได้มานั่งชมทะเลยามเย็นด้วยกัน จากนี้จะไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยนั่งข้างกายเธอ ไม่มีอีกแล้วคนที่มักจะพูดกรอกหูเธอไม่เว้นแต่ละวัน  
     เธอกำตุ๊กตาหิมะที่มันแตกออกจากครอบแก้วใสไว้ในมือ ตุ๊กตาหิมะตัวนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขามอบให้เธอ หลายครั้งเธอเหมือนจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับเขา เธอมีเพื่อนมากมาย ทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่คอยพูดให้เธอหัวเราะ บางครั้งก็มีผู้ชายมาคอยมาวนเวียนในชีวิตเธอ แต่เธอก็ปฏิเสธกับผู้ชายทุกคนที่พยายามจะมาเกี่ยวสายสัมพันธ์กับเธอ เพราะเธอมีภานุที่อยู่ในส่วนลึกของก้นบึ้งหัวใจ และเธอก็ยังคงคิดถึงเขาทุกลมหายใจเข้าออก...                               
 
 
The End.

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
6.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา