เจ้าสาวจ้าวยุทธภพ

9.0

เขียนโดย api3api

วันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.51 น.

  18 บท
  3 วิจารณ์
  20.11K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2557 00.44 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

14) การตัดสินใจของไป่หลิน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

      วันนั้นเป็นวันจันทร์แรม เสียงผู้คนดังโหวกเหวกออกมาจากในร้าน ข้าตอนนั้นอายุเพียงสิบสี่ละออกจากจานชามที่ยังล้างไม่เสร็จเพื่อดูเหตุการณ์  ผู้คนล้มตายมากมาย มารสีแดงตัวนั้นรวดเร็วดั่งสายลมมันใช้กระบี่จูหลงฆ่าคนตายไปเกลื่อนกราด มันพุ่งกระบี่มาที่ข้าและข้าก็ล้มลง วันนั้นเป็นวันแรกของข้าด้วยที่ได้พบกับเขาคนนั้น จอมยุทธ์ที่ช่วยข้าไว้จากเงื้อมมือมาร เมื่อข้าลืมตาตื่นทุกอย่างคลี่คลาย  ไม่มีบาดแผลที่ข้าเลยทั้งที่มีรอยขาดของเสื้อผ้า แต่เขากลับนอนสลบอยู่ข้างๆข้า

 

                เขาถ่ายทอดพลังวัตรเพื่อช่วยเหลือเด็กตัวน้อยๆที่ทำงานในสำนักโคมเขียว

 

                         เขากลายเป็นคนไร้พลังอ่อนแอกว่าคนธรรมดา

              และข้าตัดสินใจที่จะปกป้องเขาจนกว่าสิ่งที่เขาตั้งใจจะบรรลุผล

 

 

                           จนวันนี้คมดาบของข้ากลับทำร้ายเขา

 

 

    :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 

              "ข้าจื่อเสียผู้ที่เคยเคียงข้างเว่ยเส้าเทียนจะเปิดเผยความจริงแก่เจ้า ไป่หลิน"

 

         แม่นางจื่อเสียผู้สวยสดเชิญให้ไป่หลินนั่งในห้องของนาง ไป่หลินนั่งลงอย่างเงียบเชียบและตั้งใจฟัง และเรื่องเล่าจากจื่อเสียก็เริ่มขึ้น

 

               "นานมาแล้วที่เว่ยเส้าเทียนได้เป็นสุดยอดจอมยุทธและได้รับกระบี่จูหลงจากอาจารย์   กระบี่จูหลงมีพลังอันน่าอัศจรรย์ คมกริบดั่งมีดโกน แข็งแกร่งดั่งอัญมณีขาว  แต่ตั้งแต่วันนั้นเขาก็มีความคิดที่แปรเปลี่ยน"

 

             จื่อเสียส่ายศีรษะและนึกถึงเรื่องในวันวานของนาง

 

........................................................................................................

 

          หกปีก่อน สำนักดาบจันทรา

 

         จอมยุทธหนุ่มห้อม้ากลับมาพร้อมเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือด จื่อเสียในวัยสิบเก้าออกมาต้อนรับสามีด้วยอาการตื่นตะหนก

 

          "มีโจรดักปล้นข้า ข้าเลยจำต้องฆ่าพวกมัน ไม่มีอะไรต้องกังวลเจ้าอย่าห่วงไปเลย"

 

          เขาเดินไปล้างมือที่เปื้อนเลือด ภรรยาสาวเดินเข้ามากอดเขาจากข้างหลัง

 

          "วันนี้อู่หลงมาที่นี่เขามาหาท่าน อาจารย์เลยไล่เขาไป ฝีมือเขาร้ายกาจ ข้ากลัวจัง ข้ากลัวว่าซักวันท่านจะพลาดท่า"

          เขาปัดมือนางออกจื่อเสียล้มลงร้องให้ เว่ยเส้าเทียนเข้ามาด้วยอาการโมโห

 

           "เจ้าคิดว่าข้าจะแพ้งั้นรึ จอมยุทธอันดับหนึ่งกับกระบี่คู่ใจไม่มีวันแพ้ผู้ใด อีกสามวันเจ้าเมืองเหลยหยางจะส่งทหารมารับข้าไปรับตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ที่ด่านหน้าต้านมองโกล เจ้ายังจะพูดอปมงคลอีกเสียอารมณ์จริง ไป!!!  ไปเอาเหล้ามา"

 

            จื่อเสียสะอื้นวิ่งเข้าครัวไป จอมยุทธหนุ่มนั่งลงเก้าอี้หินอ่อนอย่างเสียอารมณ์เขายกกระบี่คู่ใจมาลูบคลำ

 

             "หึๆ จูหลง เราจะได้รับงานใหญ่ ข้าต้องพึ่งเจ้าเจ้าจะได้ดื่มเลือดที่เจ้าโปรดปราน"

 

           ภรรยาสาวแอบดูด้วยความตะหนกวันรุ่งขึ้นนางจึงไปปรึกษาหลินปิงอาจารย์เฒ่าเจ้าสำนักนางเล่าความจริงทั้งหมดให้เขาฟัง

 

             "อย่างที่ข้ากลัว กระบี่จูหลงเริ่มกลืนกินวิญญาณของเขา เราต้องคิดหาวิธีรับมือ จื่อเสียให้เขาไปออกรบที่ทัพหน้าไปก่อน หลังจากเขากลับมาเราจะแยกกระบี่กับตัวเขาออกจากกัน"

 

 

            เว่ยเส้าเทียนออกรบด่านหน้าฆ่ามองโกลตายมากมายได้สมญาว่านักรบกระดูกแดงเพราะร่างเขาอาบด้วยเลือดทุกครั้ง  ทุกคนต่างยกย่อง  แต่ทว่า

 

 

            เกิดสิ่งผิดปกติกับเขาเพราะเขาเกิดคลุ้มคลั่งบุกเข้าจวนอ๋องแล้วฆ่าเสียในสนามรบที่วิกฤตเขาเปลี่ยนให้เป็นโอกาสชิงตำแหน่งนำทัพต้านมองโกลจนกลับมาอย่างวีรบุรุษแต่

 

            เหล่าทหารของเขาคนหนึ่งกลับลอบวางยาพิษเว่ยเส้าเทียน พิษแล่นเข้าร่างเขาจนร่างมีเลือดออกตามรูขุมขน แดงฉาน ร่างเขาถูกนำไปทิ้งที่แม่น้ำลึกสุดหยั่งพร้อมกระบี่มาร   ทุกคนโล่งใจหมายว่าเรื่องจบแต่ไม่เป็นอย่างนั้น

 

            ทหารในกองกว่าห้าร้อยกลับถูกกองทัพตัวประหลาดสีแดงโจมตีตายทั้งกองร้อยก่อนได้กลับบ้านมาดูหน้าลูกเมีย เว่ยเส้าเทียนยังไม่ตายและเขาได้พลังใหม่   

           นั่นคือได้ปิศาจสีแดงมาเป็นพรรคพวก  ยุทธภพหวาดกลัวยิ่งเรียกขานเขาว่ามารกระดูกแดงตั้งแต่นั้น

 

           เหลยหยางหวาดกลัวยิ่งนักเขาเข้ามาหาหลินปิงเพียงลำพัง ใบหน้าเขาซีดเผือก

 

            "ท่านอาจารย์ เว่ยเส้าเทียนอันตรายยิ่งเขารู้แล้วว่าข้าวางยาพิษเขา ท่านอาจารย์ช่วยข้าด้วย"

 

           "จื่อเสีย เจ้ามาหาอาจารย์"

 

           จื่อเสียเดินเข้ามาหาอย่างว่าง่ายเหลยหยางเจอสาวงามถึงกับถูกตาต้องใจ

 

            "เว่ยเส้าเทียนต้องถูกกำจัด จื่อเสียเป็นภรรยาเขา ข้าจะให้นางแสร้งทำว่าคบชู้กันกับเจ้า เมื่อเว่ยเส้าเทียนโกรธจัดย่อมขาดการยั้งคิด  และมุทะลุ ตอนนั้นแหละข้าและสิบสำนักใหญ่จะเปิดเผยตัว กำจัดมารร้ายซะ"

 

            เหลยหยางได้ยินแผนการก็ดีใจเนื้อเต้นเขามองจื่อเสียไม่วางตา

 

            "ท่านอาจารย์จะเริ่มแผนเมื่อไร"

 

            "ข้าจะทำเป็นส่งข่าวเรื่องนี้ให้เขารู้และกำหนดสถานที่คือสำนักโคมเขียวลั่วโหยว วันนั้นเว่ยเส้าเทียนต้องถูกกำจัด"

 

          นกพิราบจากสำนักจันทราบินมาเกาะที่ไหล่ของมารร้ายในอีกสองวันต่อมา เว่ยเส้าเทียนเปิดอ่านแล้วโกรธสุดขีดเขายกพลปิศาจสีแดงมายังสำนักโคมเขียวลั่วโหยวที่อยู่เชิงเขาตั้งอยู่โดดเดียว

 

 

          สิบสำนักใหญ่กว่าสี่ร้อยบุกสู้และต้านทานกองทัพปิศาจเดชะบุญพิษในตัวเว่ยเส้าเทียนกำเริบ   หลินปิง อาจารย์เฒ่าสบจังหวะซัดฝ่ามือเข้าจุดผ่านพลังทั้งแปดของร่างกาย ทำลายวรยุทธเขาจนสิ้น

            เว่ยเส้าเทียนง่อยเปลี้ยเสียวรยุทธถูกทิ้งให้อับอายที่นั่นนั้นเอง

 

         .......................................................................................

 

 

          จื่อเสียจบบทสนทนา ไป่หลินทำท่าทางดีใจแวบหนึ่งก่อนจะสำรวมท่าที

 

           "ท่านหมายถึงเว่ยเส้าเทียนยังไม่ตาย"

 

           "ซู่.... เจ้าอย่าเสียงดังไป ร่างมาแดงเป็นแค่ร่างอวตารจากกระบี่จูหลง"

 

           จื่อเสียทำท่ากระซิบกระซาบไป่หลินพยักหน้าแล้วเริ่มตั้งคำถาม

 

            "ข้าจะออกตามหาเขา"ไป่หลินบอกกับจื่อเสียนางพยักหน้า

 

            "นั่นแหละที่ข้าอยากบอกเจ้า เจ้าช่วยดูแลเขาด้วยเถอะพาเขาไปใช้ชีวิตที่ห่างไกล ข้าทำบาปกับเขาเหลือเกิน ข้าต้องพึ่งเจ้าแล้วไป่หลิน"

 

            ไป่หลินพยักหน้าแต่นางมีเรื่องสงสัยอีก

 

           "แล้วกระบี่จูหลงนี่ล่ะ ข้าไม่อยากเก็บมันไว้แล้วข้าคืนให้สำนักจันทราแล้วกัน"

 

            "ได้ กระบี่จูหลงสิ้นฤทธิ์แล้วเมื่อหกปีก่อนเพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน ข้าจะมอบมันคืนให้อาจารย์ข้า"

 

              ไป่หลินยื่นกระบี่ให้จื่อเสีย แล้วลาจื่อเสียทันที

 

               "ไป่หลินทำไมไม่พักสักคืนก่อนล่ะ ข้าจะต้อนรับเจ้าเอง"

 

                "ไม่เป็นไรมิได้  ข้าอยากทำในสิ่งที่ข้าตัดสินใจ"

 

                ไป่หลินวิ่งไปที่คอกม้าแล้วปลดเชือกม้าตัวโปรดของนาง ไป่หลินตบที่คอม้าเบาๆ

                "เจ้าม้า ข้าต้องพึ่งเจ้าแล้วล่ะ เราไปกันเถอะ"

 

 

                  ย่าห์ ไป่หลินควบม้าออกจากจวนเจ้าเมืองอย่างเร็วในใจนางเต้นอย่างลิงโลด

 

                "ท่านพี่ข้าอยากเจอท่านเหลือเกิน"

 

::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

 

          

 

 

           

 

         

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา