อชิรญาฯ

8.8

เขียนโดย อชิรญาฯ

วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.39 น.

  5 session
  0 วิจารณ์
  7,135 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557 20.47 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) เวลาที่อันตรายที่สุดคือการขัดอารมณ์คน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

คุณเชื่อเรื่องโชคชะตาไหม ชีวิตคนเราสำหรับคนอื่นไม่รู้ว่าขึ้นอยู่กับอะไร แต่ชีวิของฉันขึ้นอยู่กับโชคชะตา โชคชะตาที่พลิกผัรมักทำให้เราเจอกับอะไรหลายๆอย่างที่ไม่คาดคิด ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี แต่โชคชะตาของแต่ละคนนั้นจะเป็นไปในทิศทางไหน อันนี้มันขึ้นอยู่กับตัวเลือกของคุณแล้วล่ะนะ

ฉันชื่อว่า อชิรญา หรือฉายานามเต็มๆของฉันคือ เจ้าฟ้าหญิงอชิรญา จุฬาภิธร

แน่นอน เมื่อได้ยินฐานันดรศักดิ์ของฉันแล้วใครๆก็มักจะคุ้นหู เพราะนามสกุลนี้เป็นของสายเลือดราชสกุล 

แม้ว่าภายในประเทศไทย ทุกคนจะให้ความสำคัญกับฉันในฐานะของเลือดราชวงศ์ แต่เมื่อออกนอกประเทศไป ฉันก็เป็นได้เพียงแค่คนธรรมดา

จะว่ากันตามจริง เลือดในตัวฉันครึ่งหนึ่งไม่ใช่คนไทยแท้แต่กำเนิดหรอก เลือดร้อนภายในตัวของชาวอาทิตย์อุทัยมันกำลังสั่นระริกหากคิดจะฆ่าใครสักคนนั้นย่อมไม่ยากเกินกำลัง

เอาเป็นว่ารู้นกันคร่าวๆพอหอมปากหอมคอก่อนละกันฉันไม่ค่อยอยากจะอธิบายเรื่องราวของฉันให้ใครฟังสักเท่าไหร่หรอกนะถ้าไม่จำเป็น รู้ไว้แค่ว่า ในประเทศไทยฉันเป็นราชวงศ์อันสูงส่ง แต่เมื่ออยู่ในญี่ปุ่น ฉันเป็นยากูซ่า!

 

แท่งเหล็กสีดำมะเมื่อมขนาดเหมาะมือจ่อนิ่งสนิทอยู่บนหัวของหญิงสาววัยเพียงยี่สิบปี แน่นอนว่าอาวุธสังหารที่เป็นท่อนเหล็กบางๆนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า 'ปืน'

หญิงสาวยืนจ้องสายตาให้กับหนุ่มใหญ่ที่สวมสูทสีดำสนิทอย่างท้าทาย ดวงตาสีทองอำพันจ้องลึกลงไปข้างในลูกตากระด้างของยากูซ่าประจำถิ่นเกียวโต ทั้งๆที่รู้ว่าอำนาจแห่งลูกตะกั่วนั้นสามารถส่งนางลงนรกได้ แต่ทว่าทิฐิในใจของตนเองกลับมีมากกว่าที่จะหวาดกลัวต่อความตาย

อชิรญากลับมารับช่วงต่อจากบิดาที่ญี่ปุ่นวันแรกก็เจอกับยากูซ่าเศษเดนที่คอยหาเรื่องนักท่องเที่ยวเอาเสียได้ ถึงจะพ่วงเพื่อนสาวสัญชาติไทยอย่างรินคณารถมาด้วย แต่เพื่อนสาวของนางก็ดูเหมือนจะลนลานจนทำอะไรไม่ได้เหมือนกันในตอนนี้

"อยากยิง...ก็ยิงสิ" 

เสียงหวานเข้ากับใบหน้าเรียวรูปไข่เอ่ยขึ้นอย่างไม่กลัวตาย รอยช้ำข้างปากของนางเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงกำลังที่ต่างกัน

เพียงเพราะไปสบตากับยากูซ่าเข้าให้ครั้งหนึ่ง กลับถูกทำให้บาดเจ็บได้ถึงขนาดนี้ นี่หลังจากพ่อของเธอเสียชีวิตลงกระทันหันพวกตัวเล็กตัวน้อยก็ทำกร่างกันได้เสียแล้วรึ

"ไม่ต้องมาทำใจกล้านังตัวดี ยังไงวันนี้แกก็ต้องกลายเป็นรูพรุนแน่นอน"

ยากูซ่าวัยกลางคนแค่นเสียงกระแทกใส่ ปากกระบอกปืนกดลงใส่หน้าผากอชิรญาแน่นกว่าเดิม

รินคณารถพยายามวิ่งเข้าไปแกะปืนออกจากมือของยากูซ่ารุ่นพ่อ แต่นางกลับถูกยากูซ่าอีกคนปล่อยลูกเตะใส่เข้ากลางลำตัว ตูมเดียวเพื่อนสาวเป็นอันหมดสติกลางอากาศร่างลอยคว้างกระเด็นไปเกือบสองเมตร

ยากูซ่าในที่นี้มีทั้งหมดห้าคนแล้วไอ้หัวหน้าคือตัวที่มันเอาปืนจ่อหัวของหญิงสาวอยู่ อชิรญามองรินคณารถที่เลือดไหลออกจากปากและจมูกด้วยสายตาเหม่อลอย ดีแล้วที่ยัยนั่นชิงหลับไปก่อน ไม่งั้นเรื่องคงยุ่งมากกว่านี้

"กรุณาเอาปืนออกไปจากหน้าผากของฉันด้วย"

เสียงเยียบเย็นกล่าวพร้อมพาร่างเดินท่อๆต้านแรงท่อนปืนด้วยรอยยิ้มน่ากลัว 

หญิงสาวเพียงคนเดียวในที่นี้กำลังทำให้เหล่ายากูซ่าทั้งห้าคนอดไม่ได้ให้ชมเชยถึงความใจเด็ดของนักท่องเที่ยวสาวชาวไทย

"ฮ่าๆๆๆๆ พูดอะไรวะนังนี่ จะบอกให้ฉันเอาปืนออกไป มันง่ายเกินไปหน่อยมั้ยวะ!"

ยากูซ่าทั้งหลายต่างพากันหัวเราะ หัวหน้าพวกมันเมื่อเห็นว่าอชิรญาเดินเข้ามาใกล้ก็สะบัดกระบอกปืนกระแทกหน้าหญิงสาวอย่างแรง

ผลัก!

แรงตบ ยังผลให้ร่างบางเซชนกำแพงตรอกซอยตัน ก่อนทรุดร่างล้มลง จนเพื่อนพวกมันเข้ามาหิ้วปีกหญิงสาวเอาไว้ทั้งสองข้าง

"เป็นไงนังตัวดี! ทีนี้ยังจะกล้าซ่ากับฉันอีกไหม ฮ่าๆๆๆๆ"

อชิรญาไม่ตอบ นางเกร็งแขนทั้งสองข้างเอาไว้ก่อนกระโดนม้วนหลังสะบัดการจับกุมของไอ้หน้าตัวเมียทั้งสองคน

เฮ้ยยย...!

เป็นวินาทีเดียวกันที่ร่างของอชิรญาพุ่งเข้าประชิดตัวหัวหน้ายากูซ่าอย่างรวดเร็วพร้อมออกหมัดรัวเข้ากลางลำตัวของมันไม่ยั้งมือ

"อ๊ากกกกกก!"

สิบแปดหมัดสังหารทำลายอวัยวะภายใน หากไม่ทรมานจนตายก็ไม่แคล้วกลายเป็นผู้ทุพลภาพ

ลูกน้องทั้งสี่พอเห็นหัวหน้าตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายจึงควักเอาปืนออกมากระหน่ำไกอย่างรวดเร็ว

จะว่าฝีมือห่างชั้นก็ไม่ปาน เพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่พวกมันจะได้สังหารหญิงสาวดั่งใจ อชิรญาได้เกร็งข้อมือเบาๆเพื่อทำให้ปืนสั้นที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อโผล่ออกมาเป็นเขี้ยวเล็บสังหาร

ปังๆๆๆ...!

แสงสีแดงวาบปลาบออกจากปลายกระบอกปืนอย่าวรวดเร็ว สะเก็ดไฟร้อนจี๋ส่งตะกั่วสั้งหารเข้ากัดกินจุดตายของพวกมันอย่างแม่นยำ

ไร้ซึ่งเสียงร้องใดๆ พวกยากูซ่าระยำทั้งสี่เป็นอันต้องลงไปหายมบาลอย่างไม่เต็มใจ เหลือเพียงไอ้ตัวสุดท้ายที่ร่างดิ้นพล่านๆเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวก

"ทรมานนักหรือไอ้กร๊วก..." อชิรญาเปรยเสียงเรียบพร้อมจ่อปืนใส่หน้าผากของหัวหน้ายากูซ่า "ปืนน่ะ มันมีไว้ฆ่าคน ไม่ใช่เอามาไว้จ่อคนอื่นเล่น"

รอยยิ้มเย็นผุดขึ้นบนเรียวปากบาง "เข้าใจไหม"

ปังๆ....!!

โดยไม่รอคำตอบ วิญญาณของยากูซ่าตัวเป้งก็ต้องตามไปสมทบกับเพื่อนมันอย่างช่วยไม่ได้

อชิรญาพ่นลมออกจากปากอย่างโล่งอก หญิงสาวเดินไปหาเพื่อนสาวที่นอนสลบไม่ได้สติ ก่อนจะดึงร่างขึ้นแบกบนหลังในสภาพทุลักทุเล อีกไม่กี่นาทีต่อจากนี้ซอยนี่คงจะเต็มไปด้วยตรวจแล้วกระมัง ดังนั้นอชิรญาต้องรีบพาเพื่อนสาวกลับไปยังคฤหาสน์ให้เร็วที่สุด

"เธอนี่นะ..รินคณารถ ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆ"

อชิรญาบ่นพึงพำก่อนย่างเท้าก้าวออกไปบนทางเดินในเกียวโต พึงกลับมาเยี่ยมเยียนญี่ปุ่นในรอบสิบปีแท้ๆ กะว่าจะเดินดูอะไรให้สนุกเสียก่อนไม่คิดเลยว่าจะโดนขัดอารมณ์เสียได้

เห้อ... จะว่าไป...ญี่ปุ่นก็ไม่เลวร้ายสักเท่าไหร่หรอกนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา