top secret

8.3

เขียนโดย new235

วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.45 น.

  6 ตอน
  3 วิจารณ์
  7,253 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558 09.25 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

6) ตามหาวันที่ 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 "เอาจริงหรอคุณ ถ้าเข้าไปอีกรอบมีหวังตัวพรุ่นแน่ๆ"

 

"ไม่หรอคราวนี้ ผมจะเข้าไปคุยกับคนในบ้านให้ได้"

 

"แล้วคุณจะเข้าไปอย่างไง"

 

"คุณคอยดูวิธีของผมละกัน"

 

  วันที่3 ถนนเอ็ดสตรีฟ รัฐโอไอโอ

แซมและโมนิก้า กลับมาบ้านหลังเดิม

 

"เล่นแบบนี้เลยหรอคุณ" โมนิก้าพูดพร้อมส่งกระเป๋าให้แซมที่กำลังปีนกำแพง

 

"คุณรออยู่ข้างนอกนะ"

 

"ฉันก็ไม่ตามคุณไปอยู่แล้ว" 

 

แซมปีนกำแพงบ้านเป้าหมายและเดินย่องลัดพุ่มไม้ด้วยความระมัดระวัง เขาเดินอ้อมไปทางข้างหลังบ้านและควักเอาของที่อยู่ในกระเป๋าออกมา มันเป็นเศษหญ้าแห้งที่ถูกมัดเป็นก้อนกลมๆเขาควักเอาไฟแช็กขึ้นมาอีกอันและจุดไฟไปที่ก้อนหญ้าแห้งก้อนนั้น แซมพยายามให้มันมีควันให้มากที่สุดและว่างมันไว้ที่ประตูหลัง ควันจากก้อนหญ้าแห้งที่แซมจุดก็ปลิวเข้าไปในบ้านแค่ครู่เดียวควันก็ปกคลุมทั่วทั้งห้อง ทันทีที่เหตุการณ์ดำเนินไปก็มีปฎิกิริยาเกิดขึ้นในบ้าน

 

"ช่วยด้วย! ไฟไหม้บ้านฉันๆ ค่อกแค่กๆ" เสียงผู้หญิงเจ้าของบ้านร้องขอความช่วยเหลือเธอคงกำลังสำลักควันที่เข้าไปในบ้าน เธอพยายามตระเกียดตระกายมาที่หน้าประตูบ้านแล้วเปิดประตูวิ่งออกมา 

"ใครก็ได้ช่วยเรียกรถดับเพลิงให้ที ใครก็ได้" เธอวิ่งออกมาหน้าบ้าน

 

มันเป็นไปตามแผนที่แซมว่างไว้

 

"เธอๆช่วยฉันด้วย ช่วยเรียกรถดับเพลิงที เร็วๆเลยนะ" เจ้าของบ้านที่วิ่งออกมาเจอกับ โมนิก้า ที่ยืนอยู่หน้ารั้วบ้านก่อนแล้ว

 

"ค่ะๆ ฉันจะโทรเรียกรถให้" โมนิก้าตอบ

 

แซมเห็นเหตุการณ์เป็นไปตามแผนของเขาจึงรีบปีนกำแพงออกมาแบบเนียนๆโดยที่เจ้าของบ้านไม่ทันเห็นเพราะกำลังตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขาทำท่าเดินมาเหมือนคนที่บังเอิญผ่านมา 

 

"เกิดอะไร ขึ้นคับคุณ" แซมถาม

 

"ไฟไหม้ค่ะ ฉันเรียกรถดับเพลิงแล้วเดียวคงมา" โมนิก้าตอบ

 

"โห ควันเยอะขนาดนี้ รอรถดับเพลิงคงไม่ทันแล้วคุณ"

 

"แล้วจะทำอย่างไงดี ช่วยฉันด้วย" เจ้าของบ้านอ้อนวอน

 

"ผมช่วยเอง ต้องรีบแล้วเดียวไม่ทัน มีก๊อกน้ำและสายยางอยู่ตรงไหนบางคับ" 

เจ้าของบ้านรีบไขกุญแจเปิดประตูรั่วให้แซมเข้าไป "ก๊อกอยู่ตรงสวนหลังบ้าน เร็วๆเข้า" 

แซมรีบวิ่งไปที่หลังบ้านเขาใช้สายยางฉีดน้ำไปจุดที่เขาว่างเพลิงไว้มันดับอย่างง่ายดาย

 

"ไฟดับแล้วคับคุณนาย มันคงเกิดจากความร้อนที่สะสมในใบไม้"

 

"ไฟดับแล้วใช่ไม ขอบคุณคุณมากจริงๆ แต่ฉันไม่มีอะไรตอบแทนหรอกนะและรีบออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว" เจ้าของบ้านสีหน้าเปลื่ยนไปหลังจากไฟดับเธอดูโมโหขึ้นทันที 

 

"ไหนๆ ผมก็มาเจอคุณนายแล้ว จะไม่คุยอะไรหน่อยได้อย่างไง"

 

"โมนิก้า จับเธอใส่กุญแจมือเลย" โมนิก้าเข้าล็อกแขนเจ้าของบ้านจากข้างหลังแล้วใส่กุญแจมืออย่างรวดเร็ว

 

"นี่เธอจะทำอะไร ปล่อยฉันนะ" เจ้าของบ้านพยายามดิ้น

 

"แซม เร็วเข้าฉันคงจับเธอไว้ไม่ได้นาน" 

 

"ผมขอเข้าประเด็นเลยนะคุณนาย ก่อนอื่นต้องขอโทษคุณก่อนที่ทำแบบนี้ แต่ถ้าเข้ามาดีๆคุณคงไม่ยอม ผมชื่อแซม ผมมาหาคุณเพื่อที่จะถาม เรื่อง ดร.เดลี คาชา หวังว่าคุณคงรู้จัก ผมจะปล่อยคุณนายและไม่ทำร้ายอะไร ขอให้คุณนายยอมพูดคุยกันดีๆ"

 

"พวกแกเป็นใครแล้วต้องการอะไร ฉันจะไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรทั้งนั้น ต่อให้ฆ่าฉันก็เถอะ" คุณนายเจ้าของบ้านกัดฟันแน่นแววตาดุ 

 

"ผมตามหา ดร.เดลี คาชา เพื่อจะช่วยเขาผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีอะไร" แซมพูดขึ้น "พาเธอเข้าบ้านก่อน โมนิก้า ยืนคุยแบบนี้คงไม่ดีเดียวมีใครมาเห็นเข้าแล้วจะเข้าใจผิด" 

 

"ปล่อยเธอได้แล้วมังคุณ ฉันว่าเธอคงไม่หนีไปไหน" โมนิก้าปลดกุญแจมือออกจากข้อมือของคุณนายเจ้าของบ้าน

 

"ผมจะบอกคุณนายอีกครั้งนะว่าผมมาดีคุณนายไม่ต้องกลัวผมจะเล่าเรื่องทุกอย่างให้คุณนายฟังก่อนแล้วให้คุณนายตัดสินใจว่าจะทำตามคำขอของผมหรือเปล่า"

 

แซมเล่าเรื่องทุกอย่างที่เขาประสบมาและสาเหตุที่ต้องมาสหรัฐให้คุณนายเจ้าของบ้านฟัง เธอไม่ขัดขืนอะไรแต่กลับนั่งฟังอย่างสงบ เมื่อแซมเล่าช่วงที่เขาพบผู้บาดเจ็บ คุณนายกลับร้องไห้ออกมา

 

"เรามาถูกแล้วละโมนิก้า" แซมพูด 

 

"อึม ฉันก็ว่างันเมื่อตระกี้ฉันยังตกใจกับสิ่งที่เราทำอยู่เลย" โมนิก้าตอบ

 

"พวกคุณ มาเพื่อช่วยฉันจริงๆ ใช่ไม" คุณนายสะอึกอื้น

 

"ใช่คับ คุณนายพอจะเล่าให้เราฟังได้ไมว่า ดร. เดลี คาชา เป็นมาอย่างไง" แซมถาม

 

"ฉันชื่อ ฮาแลน เป็นภรรยาของ ดร.คาชา เหตุการณ์เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 1988 ดร.ได้รับคำเชิญจากนักวิจัยคนหนึ่งที่แม็กซิโกและได้ไปไปทำวิจัยอยู่ที่นั้น 2 ปีและก็กลับมาพร้อมกลับอุกกาบาตฉันไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับมันหรอกนะ สามีของฉันได้มอบอุกกาบาตให้กับ พิพิธฑ์ครีฟแลนด์ แต่มีส่วนหนึ่งที่เขานำกลับมาที่บ้าน ตั้งแต่เขากลับมาก็เอาแต่หมกตัวอยู่กับงานวิจัยของเขาอยู่หลายปี จนวันหนึ่งได้มีชายคนหนึ่งมาหาที่บ้าน เขาคุยกันอยู่พักใหญ่ เหมือนเขาต้องการอะไรบางอย่างแต่สามีของฉันปฎิเสฐไป เขามีปากเสียงกันและก็กลับไป แต่หลังจากนั้นอีก 2 วันเขาก็กลับมาอีกแต่คราวนี้เขาเอาคนอื่นมาด้วย เป็นชายร่างใหญ่สองคน สวมแว่นตาดำอย่างกับบอดี้การ์ดดูหน้ากลัว และเหตุการณ์ที่ฉันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นชายสองคนนั้นบุกเข้ามาในบ้านและจับตัว สามีฉันไป ฉันทำอะไรไม่ถูกในตอนนั้น พวกมันเป็นใครฉันไม่รู้เลย ฉันไปแจ้งความกับตำรวจแต่พวกเขาก็ไม่ทำอะไรเลยได้แต่ลงบันทึกประจำวัน นับตั้งแต่วันนั้นก็ผ่านมาเกือบปีฉันไม่รู้จะทำอย่างไงและหวาดกลัวมาตลอดไม่กล้าออกไปไหนและไม่เคยให้ใครเข้ามาในบ้าน" คุณนายเล่าพร้อมน้ำตา

 

"คุณนายใจเย็นๆ ก่อนนะคับ ผมเข้าใจเรื่องที่คุณนายเล่าและจะช่วยคุณนายอย่างเต็มที่" แซมพูด "ผมขอดูห้องทำงานของ สามีคุณนายได้ไมคับ" 

 

"ได้สิค่ะ" คุณนายลุกขึ้นและเดินนำไปห้องใต้ดินเล็กๆ ในห้องมีเพียงคอมพิวเตอรืหนึ่งเครื่อง และเอกสารไม่กี่ฉบับ 

 

"โมนิก้าคุIช่วยถ่ายรูปของในห้องด้วยนะ ผมไม่ถนัดเรื่องวิทยาศาสตร์สักเท่าไรคงต้องให้ โจนาธานช่วยวิเคราะข้อมูลพวกนี้" 

 

"ค่ะ" 

 

"เราต้องขอตัวกลับอังกฤษ ผมต้องให้เพื่อนของผมช่วย และผมจะติดต่อกลับมา" 

 

"ขอบคุณ คุณมากจริงๆ คุณทำให้ฉันมีความหวังขึ้นมาบางที่จะพบสามีของฉัน ขอบคุณจริงๆ" 

 

"โมนิก้า ผมว่าเราคงต้องเข้าไปพิพิธภัณฑ์สักหน่อยแล้ว"

 

"คุณจะเข้าไปทำอะไรอีก"

 

"ผมจะเข้าไปดูอุกกาบาตลูกนั้น"

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา