Skip ความจนทะลุมิติ (Poor boy & Dogs)

9.0

เขียนโดย January13

วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 22.37 น.

  7 บท
  1 วิจารณ์
  8,595 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2563 20.45 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

6) หุ่นยนต์​มือสังหาร

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          เช้ามืดวันรุ่งขึ้นผมตื่นมาด้วยความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เจ้าหมา 2 ตัวก็เช่นกัน เราเดินทางมุ่งหน้าไปยังจังหวัดที่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ใช้เวลาพอสมควรก็มาถึงโรงงานของผม พวกเราแอบเอารถไปจอดทิ้งไว้ข้างหลังโรงงาน เจ้าดำซุ่มดักพนักงานที่บังเอิญเดินผ่านมาแถวนั้นจับโปะยาสลบจนครบ 3 คน แล้วถอดเอายูนิฟอร์มที่เป็นเสื้อแขนยาวกางเกงขายาวสีน้ำเงินเข้ม ร้องเท้าและหมวกเซฟตี้พร้อมกับหน้ากากปิดจมูกมาจัดแจงแบ่งกันใส่เพื่อพรางตัวให้กลมกลืนกับพนักงาน ดำและนวลซ่อนอาวุธต่างๆ ที่เตรียมมาไว้ภายใต้เสื้อผ้ามากเท่าที่จะเอาไปได้ เมื่อพร้อมแล้วดำก็สั่งให้รอจังหวะที่พนักงานจอแจอยู่หน้าโรงงานเยอะๆ จึงค่อยเข้าไปแฝงตัว ผมภาวนาให้วันนี้สุพรไม่เข้ามาตรวจโรงงานจะได้ทางสะดวก

 

          เมื่อถึงเวลาเริ่มงานพวกเราเข้าไปยังไลน์การผลิต​ ทำทีเป็นยุ่งมากเหมือนที่พนักงานหลายๆ คนชอบทำเวลาหัวหน้าเดินผ่านมา สักพักดำก็พยักหน้าให้สัญญาณว่าเริ่มปฏิบัติการได้ ผมเข็นถังสารเคมีเปล่าปลีกตัวออกมาจากตรงนั้นเป็นคนแรก ส่วนดำและนวลจะค่อยๆ ทยอยตามมาทีหลังเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต เส้นทางที่จะไปอาคารสำนักงานต้องผ่านคลังเก็บสินค้า สินค้าของโรงงานผมเป็นชิ้นส่วนเครื่องจักรการผลิตขนาดใหญ่ พวกมันถูกจัดวางบนพาเลทไม้และเก็บอย่างเป็นระเบียบบนไมโครแร็คที่สูงขึ้นไปหลายชั้นจนเต็มพื้นที่ ผมอดยืนดูความยิ่งใหญ่ของตัวเองไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมมีโรงงานใหญ่โตขนาดนี้ คิดไปว่าถ้าจัดการกับพวกที่ตามฆ่าผมได้อย่างถาวร ผมก็คงจะได้เสวยสุขกับทรัพย์สินเหล่านี้ แล้วผมยังต้องตามหาปุ่มรีเฟรชอยู่อีกไหม ความลังเลผุดขึ้นมาในสมอง พอละสายตาหันกลับมามองทางเดินข้างหน้าก็พบหุ่นยนต์สีเงินเงาวับลักษณะคล้ายๆ คนยืนอยู่ ไม่ทันสังเกตว่าก่อนหน้านี้มันอยู่ตรงนั้นไหม

 

          “โรงงานเราผลิตของแบบนี้ด้วยหรอเนี่ย เจ๋งไปเลย อยากรู้จังว่ามันทำอะไรได้บ้าง” ผมเดินเข้าไปชมสินค้าใกล้ๆ มันยืนนิ่งเหมือนยังไม่ได้เปิดสวิตช์ ผมพยายามหาปุ่มเปิดใช้งานแต่ก็ไม่เจ​อ​ จึงละความสนใจแล้วเดินออกมา​ มุ่งหน้าไปยังอาคารสำนักงานเป้าหมายเดิม

 

          “ทองหมอบ!!!” เสียงดำตะโกนมาจากข้างหลัง ผมตกใจมาก​ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็รีบหมอบลงกับพื้นทันที เจ้าดำยิงหุ่นยนต์นั่นจนหัวหลุดกระเด็นไปทางตัวไปทาง

 

          “พี่ดำทำอะไรน่ะ ทำไมไม่ใช้ปืนเก็บเสียง เดี๋ยวคนก็แตกตื่นกันหมด” นวลที่ตามหลังมาติดๆ ว่า

 

          “ไม่ทันคิดน่ะ เห็นมันกำลังจะทำร้ายทอง” ดำพูดพร้อมเข้ามาดึงตัวผมออกห่างจากซากหุ่นยนต์

 

          “วะ ฮ่าๆๆๆๆๆ” จู่ๆ เสียงหัวเราะที่คุ้นหูก็ดังขึ้นแต่มาจากทางไหนไม่ทราบ มันเป็นเสียงหัวเราะแห่งความชั่วร้าย 3 เสียงที่พ้องประสานกันอย่างลงตัว อย่างกับวงซิมโฟนี​ออเคสตร้า​ ผมไม่อยากเดาเลยว่าคนพวกนั้นเป็นใคร ทันใดนั้นเองภาพ 4 มิติก็ปรากฏขึ้น เผยให้เห็นโฉมหน้าเจ้าของเสียงหัวเราะหลอนๆ​เมื่อสักครู่นี้

 

          “สวัสดีครับพ่อ เหลือเชื่อมาก​ ที่พ่อรอดจากซอมบี้พนักงานมาได้ ดวงแข็งไม่เบาเลยนะครับ” ที่พูดอยู่นั่นคือสุพรลูกชายผมเองครับ ส่วนคนที่นั่งข้างๆ คือวิภาดาภรรยาของผม และคนที่ยืนอยู่ข้างหลังหล่อนคือเล้งเพื่อนสนิทของผมเอง พวกเขารวมตัวกันอยู่ที่ไหนสักแห่ง ดูเหมือนจะเป็นห้องปฏิบัติการหรือห้องควบคุมอะไรสักอย่าง

 

          “ที่รักคุณเป็นยังไงบ้างคะ ทำไมไม่ยอมกลับบ้าน ชอบออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้านเป็นประจำ นี่ฉันอุตส่าห์เตรียมสาวใช้สวยๆ ไว้ให้คุณเป็นโหลเลยนะ” วิภาดาพูดผิด เพราะที่ผมเจอมามันมากกว่าโหลซะอีก แถมอาวุธครบมือและเตะหนักๆ กันทั้งนั้น ผมคงพิศวาสพวกหล่อนไม่ลงหรอก

 

          “ไงทอง หายหน้าหายตาไปเลยนะเพื่อน ฉันคิดถึงนะเนี่ย ทริปหน้าไปไหนกันดี ฮ่าๆๆๆ หึๆๆๆ” พูดจบเล้งก็หัวเราะอย่างน่าสะพรึง แอบเห็นมันจับไหล่ภรรยาผมด้วย

 

          “หยุดเถอะทุกคน เรามาค่อยๆพูดค่อยๆจากันดีกว่า ฉันยอมแล้ว อยากได้อะไรหรืออยากให้ฉันทำอะไร ฉันยอมทุกอย่าง” ผมพยายามเกลี้ยกล่อมพร้อมยื่นข้อเสนอเผื่อจะทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจ

 

          “มันสายไปแล้วหละค่ะที่รัก ไม่มีอะไรจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นได้ นอกจากพวกเราจะเห็นคุณตายต่อหน้าต่อตาตรงนี้” คนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของผมบอก ทำให้ผมรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก หุ่นยนต์ตัวนั้นที่ดำยิงล้มลงไป อยู่ดีๆ ก็ลุกขึ้นมาหยิบหัวของตัวเองหมุนใส่เข้าที่เดิม

 

          “ทอง” มันเรียกชื่อผมพรางมองมาอย่างหมายมาด เหมือนถูกตั้งโปรแกรมมาเพื่อเอาชีวิตผมโดยเฉพาะ ดำและนวลเห็นดังนั้นก็เข้ามาคุ้มกันผมทันที

 

          “พ่อเคยบอกว่าอยากผลิตหุ่นยนต์มือสังหาร วันนี้ผมทำสำเร็จแล้วแต่ยังไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพ ยังไงผมฝากพ่อตรวจงานให้หน่อยแล้วกันนะครับ” จบประโยคก็พากันหัวเราะอย่างสะใจอีกครั้ง ก่อนที่ภาพ 4 มิตินั้นจะดับไป  

 

          “ทอง คุณว่ามันมีแบบนี้กี่ตัว” ดำหันมาถาม จริงๆ แล้วผมไม่อยากเดาเลย แต่ยังไม่ทันที่จะอ้าปากตอบ หุ่นยนต์มือสังหารแบบเดียวกันนับสิบๆ ตัวก็เดินเรียงแถวออกมา ไม่มีใครบอกสุพรหรือยังไง ว่าถ้ายังไม่มีออเดอร์อย่าพึ่งผลิตสินค้าไว้ในสต็อกเยอะเกินไป มันจะกลายเป็นต้นทุนจม นี่ผมยังไม่ได้หาตลาดให้สินค้าใหม่เลยนะ สุพรจะทำมาทำไมเยอะแยะ

 

          “พี่ดำ มีแผนไหม” นวลกระซิบถาม ดำพยักหน้าก่อนตะโกนบอก

 

          “ยิง!!!” ว่าแล้วก็สาดกระสุนใส่ฝูงหุ่นยนต์พวกนั้นจนชิ้นส่วนหลุดกระจุยกระจาย

 

          “สินค้าของลูกชายคุณไม่ผ่านคิวซีแล้วหละทอง” ดำพูดอย่างชะล่าใจ ผมก็คงคิดเช่นนั้นถ้าหากว่าไม่เห็นพวกมันกำลังประกอบตัวเองขึ้นมาใหม่ ชิ้นส่วนแต่ละชิ้นเหมือนมีแม่เหล็กดึงดูดซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะกระเด็นกระดอนไปทางไหนก็สามารถหากันเจอ

 

          “ทอง” พวกหุ่นยนต์เรียกชื่อผมพร้อมๆ กัน พวกมันคิดว่าผมเป็นพ่อหรือไงเรียกอยู่ได้

 

          “ปืนกลยังทำอะไรพวกมันไม่ได้เลยหรอเนี่ย” นวลตกใจที่เห็นพวกมันกลับมายืนหน้าสลอนได้อีกครั้ง

 

          “ถ้าอย่างนั้นก็...เอาน้อยหน่าไปกิน!!!” พูดจบก็ล้วงเอาระเบิด MK2 ขึ้นมาถอดสลักแล้วคว้างออกไปใส่กลุ่มหุ่นยนต์มือสังหาร ก่อนจะพาผมกระโดดหลบหลังไมโครแร็คที่มีสินค้ากันแรงระเบิดไว้อยู่ เมื่อฝุ่นควันจางหายไปทำให้เห็นการประกอบตัวเองของพวกมันอีกครั้ง ไม่ว่าจะลองใช้อาวุธชนิดใด รุนแรงแค่ไหนก็ไม่สามารถทำให้ชิ้นส่วนของพวกมันเสียหายได้ เพียงแต่ทำให้ชิ้นส่วนแตกกระจายออกจากกันเท่านั้น

 

          “พี่ดำ เราทำอะไรพวกมันไม่ได้เลย ฉันหมดแรงแล้วนะเนี่ย ขนาดพวกมันยังไม่ได้โจมตีอะไรเราเลย” นวลเริ่มกังวล

 

          “เราต้องหาสวิตช์เปิดปิดของพวกมัน” ดำพูดพรางคิดแผนไปด้วย

 

          “เมื่อกี้ฉันสำรวจดูแล้ว ไม่มีสวิตช์เปิดปิดอยู่ที่ตัวของมันเลย” ผมบอก

 

          “มันน่าจะอยู่ที่หอบังคับการณ์ ไม่แน่อาจเป็นที่เดียวกันกับที่ลูกชาย ภรรยาและเพื่อนสนิทของคุณอยู่ตอนนี้ก็ได้” เจ้าดำเริ่มเดาเรื่อง ฟังแล้วก็มีความเป็นไปได้สูง

 

          “เอาไงต่อดี” นวลถาม

 

          “ยังไงเราก็ต้องพาทองไปขึ้นฮอให้ได้ ถึงจะฆ่าไม่ตายแต่พวกมันใช้เวลาพอสมควรในการประกอบตัวเองขึ้นมาใหม่ เพราะฉะนั้นน่าจะพอใช้ถ่วงเวลาได้ ใช้อาวุธที่มีทำให้พวกมันพังไปก่อนแล้วค่อยฝ่าไป” ดำสั่งการ ว่าแล้วก็พากันกระหน่ำยิงหุ่นยนต์มือสังหารพวกนั้นชุดใหญ่ แต่จู่ๆ หุ่นยนต์ตัวหนึ่งก็ยิงสวนกลับมาด้วยเลเซอร์ลำแสงสีแดงโดนปืนของเจ้านวล ทันใดนั้นอาวุธคู่กายก็สลายกลายเป็นผุยผงร่วงกราวลงไปกองกับพื้น

 

          “พวกมันทำอย่างนี้ได้ด้วยหรอ?!” นวลตกใจ ผมนึกภาพออกเลยว่าถ้ามันยิงโดนร่างกายเราจะเป็นยังไง ตอนนี้ไม่สงสัยแล้วว่าเจ้าหุ่นยนต์นี่ทำอะไรได้บ้าง จริงๆ ไม่อยากรู้แล้วด้วยซ้ำ

 

          “ดำ มีแผนสำรองไหม” ผมถาม

 

          “มีสิ”

 

          “ยังไง???” นวลสลับถามบ้าง

 

          “อย่าให้พวกมันพังอาวุธ หาที่หลบ และวิ่ง!!!!!” พูดจบก็พากันมุดไมโครแร็ค หลบหลังชิ้นส่วนเครื่องจักรที่เป็นสินค้าของผมเอง ตั้งแต่เกิดเรื่องบ้าๆ นี่ทรัพย์สินของผมเสียหายไปหลายอย่างแล้ว ผมควรจะชินสินะ จริงๆ ก็ไม่แย่เท่าไหร่หรอก เอามาใช้เป็นเครื่องป้องกันตัวเองจากอันตรายแบบนี้ ถือได้ว่าเป็นวิธีการใช้สอยประโยชน์ขั้นสูงสุด ผมคิดว่าสินค้าพวกนี้แข็งแรงพอที่จะใช้เป็นโล่กำบังได้แต่ว่าคิดผิด เมื่อโดนเลเซอร์ของหุ่นยนต์มือสังหาร สินค้าของผมก็สลายกลายเป็นเถ้าธุลีเช่นเดียวกับปืนของนวล ดีที่ผมมีสินค้าเยอะมาก เต็มทุกพาเลทและทุกแร็คจึงมีที่ให้หลบเยอะ

 

          “ทอง ผมขอถอนคำพูดนะ ที่ว่าสินค้าของลูกชายคุณไม่ผ่านคิวซีน่ะ” ดำบอกขณะวิ่งหลบลำแสงอำมหิต

 

          “ฉันให้ผ่านทุกคิวเลยหละ ตั้งแต่เอถึงแซด” นวลเสริม เวลาหนีตายอย่างนี้ยังจะมีอารมณ์มาสรรเสริญเยินยอสุพรกันอีก

 

          พวกเราพากันหลบหลีกการโจมตีของเหล่าหุ่นยนต์มือสังหารจากในคลังเก็บสินค้าจนออกมาถึงด้านนอกได้ แต่ดำและนวลสูญเสียอาวุธไปเกือบหมด ลานด้านนอกหน้าคลังเก็บสินค้าเป็นพื้นที่โล่งซึ่งอันตรายมากเพราะหาที่หลบหลีกได้ยาก ดีที่ยังมีรถบรรทุกเข้ามาจอดเพื่อรอรับสินค้าไปส่งอยู่สองสามคัน ส่วนคนขับนั้นวิ่งหนีไปตั้งแต่ได้ยินเสียงปืนดังมาแต่ไกลแล้ว และคงตกใจมากจนลืมดับเครื่องยนต์

 

          “พี่ดำพาทองไปก่อน เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง” นวลบอกขณะหลบอยู่ข้างรถบรรทุกสิบล้อ

 

          “นวล อย่าทำอะไรนอกเหนือจากแผนที่วางไว้สิ” ดำดุ

 

          “ไม่ได้นอกแผนนะ ฉันแค่จะสกัดพวกมันเอาไว้ เดี๋ยวตามไปสมทบ”

 

          “เธออาจเป็นอันตราย” ผมบอก

 

          “ไม่หรอกน่า เร็วเข้าพวกมันมากันแล้ว” พูดจบก็กระโดดขึ้นไปนั่งหลังพวงมาลัยรถบรรทุกคันนั้น

 

          “นวล เธอขับรถสิบล้อเป็นด้วยหรอ” ผมตะโกนถาม หมาอะไรจะสามารถขับยานพาหนะได้ทุกชนิด

 

          “ถามอะไรอย่างนั้น นี่ฉันนวลมือขับ ขับทุกสิ่งซิ่งยกล้อนะคะ” ว่าแล้วก็เคลื่อนรถออกไป ที่เคยนึกสงสัยว่าเจ้านวลมันขับรถสิบล้อเป็นหรือเปล่า พึ่งมาได้คำตอบก็ตอนนี้ ดำลากผมวิ่งมุ่งหน้าไปยังอาคารสำนักงานอย่างเร่งรีบ แต่ผมอดเป็นห่วงนวลไม่ได้จึงต้องคอยหันหลังมองอยู่เรื่อยๆ นวลรอจังหวะที่หุ่นยนต์มือสังหารออกมาออกันด้านหน้าคลังสินค้า แล้วก็เร่งเครื่องพุ่งตรงเข้าไปอย่างรวดเร็วก่อนจะหักหลบจนรถเสียหลักพลิกคว่ำ ส่วนที่เป็นตู้คอนเทนเนอร์ล้มทับหุ่นยนต์พวกนั้นเข้าอย่างจัง ผมตกใจมากกลัวนวล จะได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่นานประตูรถบรรทุกก็เปิดออก นวลกระโดดออกมาจากรถอย่างมาดเท่ห์แล้วรีบวิ่งตามมา คิดในใจนี่มันหมาหรือแมวเก้าชีวิตเนี่ย

 

          ดำพาผมมาถึงหน้าอาคารสำนักงาน มีพนักงานบางส่วนอยู่บริเวณนั้นเห็นหมาถือปืนกลวิ่งมาหน้าตั้งก็พากันแตกตื่นรีบหนีไปคนละทิศคนละทาง เมื่อเข้ามาภายในอาคารดำใช้สันปืนกระแทกปุ่มสัญญาณเตือนภัยฉุกเฉิน กริ๊ง!!! เสียงดังระงมไปทั่วทั้งตึก พนักงานที่ทำงานอยู่เมื่อได้ยินดังนั้นก็รีบพากันอพยพออกนอกอาคารสวนทางกับผมและดำที่กำลังวิ่งขึ้นไปชั้นบน โดยมีนวลตามหลังมาติดๆ พร้อมกับหุ่นยนต์มือสังหารบางส่วนที่ไม่ได้โดนตู้คอนเทนเนอร์ทับ โชคดีของผมที่มีพนักงานวิ่งหนีกันจ้าละวันทำให้เจ้าหุ่นยนต์พวกนั้นพลาดเป้า แต่ก็โชคร้ายสำหรับพนักงานบางคนที่โดนลูกหลงเลเซอร์พิฆาตจนกลายเป็นเถ้าภายในชั่วพริบตาเดียว ผมภาวนาให้พวกเขาไม่เจ็บและขอบคุณที่ช่วยชีวิตผมถึงจะไม่ได้ยินดีก็ตาม

 

          “พี่ดำ กระสุนฉันหมดแล้ว” นวลบอก

 

          “นวลพาทองไปที่ฮอก่อน เดี๋ยวฉันจะยิงสะกัดเอง” ดำสั่ง ยังไม่ทันเท่าไหร่กระสุนของตัวเองก็หมดเช่นกัน จึงหันไปคว้าเอาถังดับเพลิงชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ข้างผนังมาฉีดใส่กลุ่มหุ่นยนต์มือสังหาร

 

          “ดำนายทำอะไรน่ะ!!! เดี๋ยวก็ได้ตายกันหมดหรอก” ผมตกใจว่ามันเอาอะไรคิดถึงได้ทำแบบนั้นก๊าซในถังดับเพลิงจะไปทำอะไรศัตรูได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อหุ่นยนต์มือสังหารพวกนั้นโดนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ฉีดออกมาเป็นไอเย็นจัดสีขาวคล้ายน้ำแข็งแห้งก็เกิดอาการรวน สั่นกึกๆ แล้วชิ้นส่วนก็แตกเป็นเสี่ยงๆ

 

          “ดำ เมื่อกี้มันอะไรน่ะ? นายทำได้ยังไง?” ผมถามอย่างประหลาดใจ

 

          “เอาจริงๆ เลยนะ ไม่รู้สิ แต่ถ้าให้เดาคิดว่าเจ้าหุ่นยนต์พวกนั้นคงเครื่องร้อนมาก พอโดนความเย็นจัดเลยเปราะล่ะมั้ง” ดำอธิบายแบบไม่ค่อยแน่ใจ แต่จะเป็นเพราะอะไรก็ช่าง งานนี้ดำเป็นต่อแล้ว มันไล่ยิงหุ่นยนต์มือสังหารด้วยถังดับเพลิงอย่างเมามัน ผมว่าสุพรคงต้องไปทำการบ้านมาใหม่แล้วหละ

 

          “ทองรีบตามมาสิ เร็วเข้า” นวลตะโกนเรียก ผมจึงรีบตามไปอย่างนึกขึ้นได้ มัวแต่ชื่นชมความเท่ห์ของเจ้าดำมันอยู่นั่น เกือบลืมไปว่ากำลังหนีตาย ผมมาถึงชั้นดาดฟ้า เฮลิคอปเตอร์จอดอยู่ไม่ไกล นวลสตาร์ทเครื่องรอไว้แล้ว เห็นภาพตอนที่มันขับรถสิบล้อคว่ำก็นึกหวั่นใจ มันคงไม่ขับฮอตีลังกากลับหัวสองสามตลบหรอกใช่ไหม

 

          “ทอง ขึ้นมาเร็ว” นวลกวักมือเรียก ผมจึงรีบกระโดดขึ้นไป ดำก็ตามหลังมาติดๆ ในที่สุดนวลก็นำฮอขึ้นบินได้สำเร็จ

 

          “ให้ตายเถอะ เหนื่อยเป็นบ้าเลย นี่ฉันไม่ได้เตรียมตัวมาสู้กับหุ่นยนต์นะ” นวลบ่นอีกตามเคย ผมไม่เคยได้ยินว่ามันเตรียมตัวมาเพื่อสู้กับอะไรเลย แต่พอถึงเวลาก็ลุยแหลกทุกที

 

          “เอาหละทอง ทีนี้คุณต้องมองหาสลัมที่คุณเคยอยู่ตอนเด็กๆ ให้เจอ แล้วจบเรื่องบ้าๆ นี่ซะ” ดำบอก ผมไม่รอช้ารีบลุกขึ้นมองมาหาเป้าหมาย จู่ๆ ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างพุ่งเข้ามาเฉียวฮอไปอย่างหวุดหวิด

 

          “นั่นอะไรน่ะ!!!” นวลถามขึ้น

 

          “ไม่รู้สิ ฉันมองไม่ทัน” ผมตอบ พรางมองหาต้นตอ นวลขับฮอผ่านหอบังคับการขนาดใหญ่ มันสูงจากพื้นดินราว 200 เมตร ส่วนยอดเป็นกระจกแผ่นใหญ่หลายแผ่นที่ประกอบกันเป็นทรงกลม มันโปร่งและใสมากพอที่จะทำให้ผมสามารถมองเห็นบุคคลที่นั่งอยู่ห้องควบคุมด้านในได้

 

          “สุพร!” ผมอุทาน เมื่อเห็นลูกชายสุดที่รักยิ้มส่งให้อย่างอำมหิต วิภาดาและเล้งก็อยู่ตรงนั้นด้วย สามคนนี้ยังไม่ล้มเลิกความคิดที่จะฆ่าผมอีกหรอเนี่ย คราวนี้จะส่งอะไรมาอีกหละ สงสัยไปอย่างนั้นแหละ จริงๆ ผมก็ไม่อยากรู้เท่าไหร่หรอก เปรี้ยง!!! จู่ๆ บางอย่างก็พุ่งเข้ามาเฉี่ยวชนฮออีกครั้งอย่างแรง

 

          “เราโดนโจมตี” นวลพูดน้ำเสียงมั่นใจ

 

          “โดนโจมตีจากอะไร?” ดำถามพรางมองหาคู่ต่อสู้ผมเองก็เช่นกัน เราแบ่งกันดูคนละฝั่ง ไม่อยากเดาเลยว่าสามคนนั้นส่งอะไรมา

 

          “ให้ตายเถอะนั่นมันตัวอะไรน่ะ!!!” ดำถามลอยๆ ผมจึงรีบเข้ามาดู เห็นตัวอะไรบินอยู่ไม่ไกล และมันกำลังใกล้เข้ามา

 

          “เทอราโนดอน!!!” คุณพระคุณเจ้าช่วย!!! บอกผมทีสิว่าสิ่งที่ผมเห็นมันไม่ใช่เรื่องจริง

 

          “นวลระวังซ้าย นกยักษ์มันยิงจรวดมาทางเรา!!!” ดำตะโกนบอก โว๊ะ!!! เทอราโนดอนยิงจรวดได้ ใหญ่ไปอี๊ก จริงๆ ผมอยากจะบอกดำว่าเจ้านั่นไม่ใช่สัตว์ประเภทเดียวกับนก มันถูกจัดอยู่ในกลุ่มสัตว์เลื้อยคลานที่บินได้ต่างหาก แต่คิดว่าตอนนี้คงไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งอธิบายกันเรื่องนี้ จรวดนั่นมันพุ่งมาเร็วและแรงมากจนนวลหักหลบแถบไม่ทัน เฉียดใบพัดฮอไปอย่างหวุดหวิด

 

          “มันไม่ใช่เทอราโนดอนของจริง มันคือเครื่องบินรบ ห้องนักบินอยู่ที่หงอนกลางหัวของมัน มีจุดยิงจรวดที่มือสองข้างและปาก” ดำบอกขณะใช้กล้องส่องทางไกลสำรวจคู่ต่อสู้อย่างละเอียด

 

          “ลูกชายคุณนี่ช่างประดิษฐ์ประดอยจริงๆ เลยนะทอง” นวลชม แต่ทำไมผมถึงไม่รู้สึกภูมิใจในตัวสุพรเลยสักนิด

 

          “โชคดีของเราที่บนนี้มีของดี” ดำรื้อเจอกล่องอลูมิเนียมที่ซ่อนอยู่ มีอาวุธบ้างอย่างอยู่ในนั้น

 

          “อะไรน่ะ???” ผมชะโงกหน้ามาดู

 

          “Barrett M82A1” ดำบอกพรางหยิบปืนสไนเปอร์ไรเฟิลนั้นออกมาประกอบ

 

          “เจ๋งไปเลยพี่ดำ ทองคุณนั่งลงและรัดเข็มขัดให้แน่น ได้เวลาเล่นงานพวกมันคืนบ้างหละคราวนี้” นวลสั่ง ในขณะที่ดำประกอบอาวุธเสร็จพร้อมโจมตีเครื่องบินรบเทอราโนดอนพอดี

 

          “เห็นคนขับแล้ว” ดำส่องกล้องเล็งปืนไปทางศัตรูที่บินอยู่ไม่ไกลนักก่อนจะลั่นกระสุนใส่อย่างแม่นยำ

 

          “ทำไมมันหมูอย่างนี้หละ ไม่เห็นสนุกเลย” นวลพูดขึ้น จริงๆ ผมว่าหมูบ้างก็ดีนะ ถ้านวลอยากสนุก ผมแนะนำให้มันกลับไปนอนเล่นเกมส์เพลย์ที่บ้านเลย

 

          “มันมีแบบนี้กี่ตัว” ดำถามลอยๆ เป็นคำถามชวนขนหัวลุกมากๆ ผมยังไม่ทันจะอ้าปากเอ่ยอะไร นวลก็พูดขึ้นมาก่อน

 

          “พี่ดำ อยู่ข้างหลังเราเป็นฝูงเลย!!!” นวลดูจอมอนิเตอร์ด้านหน้าเห็นจุดแดงๆ สิบกว่าจุดแสดงความเคลื่อนไหวของเทอราโนดอนซึ่งกำลังพุ่งเป้ามาทางเรา

 

          “นวล ระวังซ้าย!!!” ดำตะโกนบอก นวลหักหลบจรวดได้อย่างหวุดหวิด พวกมันยิงมาติดๆ กัน ทำให้นวลต้องหักซ้ายหักขวาที ผมที่นั่งลุ้นอยู่เฉยๆ รู้สึกมึนหัวอยากจะอาเจียน

 

          “นวล บินสูงขึ้นไปอีก พรางตัวในเมฆเอาไว้ก่อน” ดำสั่ง

 

          “รับทราบ” นวลรับคำแล้วบินแหงนขึ้นไปทันที ผมนึกว่าเล่นรถไฟเหาะอยู่ ไม่รู้ว่าบนฮอนี่พอจะมีถุงพลาสติกไหม ผมจะไม่ไหวแล้ว ขณะที่ผมนั่งทำหน้าพะอืดพะอมอยู่นั้น ดำก็สั่งให้นวลบินเข้าหาเทอราโนดอนตัวที่อยู่ใกล้เรามากที่สุดอย่างระมัดระวัง ก่อนที่ดำจะไล่ปลิดชีพนักบินด้วยปืนสไนเปอร์ไรเฟิลคุณภาพสูง สอยเจ้าเทอราโนดอนร่วงไปทีละลำสองลำ ความยากมันอยู่ที่นวลจะต้องคอยระวังจรวดของฝั่งตรงข้ามที่ยิงเข้ามาด้วย ส่วนดำนั้นยิงแม่นมาก ผมไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฝีมือหรือคุณภาพของอาวุธ

 

          “ให้ตายเถอะ กระสุนหมดแล้ว นวลยังเหลือพวกมันอีกกี่ตัว” ดำถาม

 

          “เหลืออีก 5” นวลตอบ

 

          “ดำ มีถุงไหม” ผมถาม

 

          “คุณจะถามว่ามีแผนไหมใช่หรือเปล่า” นวลคิดว่าผมพูดผิด แต่จริงๆ ผมพูดถูกนะ

 

          “อาวุธของเราหมดแล้ว เราต้องเอาศัตรูมาเป็นอาวุธ นวลพอจะมีอุปกรณ์อะไรติดตัวมาบ้าง” ดำเริ่มคิดแผน โดยไม่สนใจประเด็นเรื่องถุงที่ผมขอ

 

          “มีตีนตุ๊กแก ปืนยิงสลิงพร้อมอุปกรณ์ ซีดีอัลบั้มบีลีฟของบอดี้สแลมแล้วก็หมากฝรั่ง” นวลบอก

 

          “ฉันขอหมากฝรั่งอันนึงสิ” ผมรีบขอเลย คิดว่ามันน่าจะช่วยให้อาการวิงเวียนดีขึ้นได้ นวลส่งหมากฝรั่งให้โดยไม่หันมามอง จึงไม่ทันสังเกตสีหน้าปะหลับปะเหลือกของผม 

 

          “โอเค แผนก็คือฉันจะยึดเครื่องบินรบเทอราโนดอนนั่นแล้วใช้โจมตีพวกมันเอง จบจากตรงนี้ฉันจะบินกลับไปที่หอบังคับการเพื่อจัดการกับลูกชาย ภรรยา และเพื่อนรักของทอง ส่วนนวลไปส่งทองให้ถึงสลัมให้ได้” ดำสั่งการ

 

          “ไม่ คนที่ควรจะไปส่งทองคือพี่ดำต่างหาก งานนี้ฉันขอลุยเอง” นวลขัด

 

          “ไม่ได้ นี่คือคำสั่ง”

 

          “ไม่ ฉันรู้นะว่าพี่ดำคิดจะทำอะไร ขอฉันทำเองเถอะ”

 

          “ไม่ได้” ดำปฏิเสธเสียงแข็ง

 

          “นี่พวกนายพูดเรื่องอะไรกัน” ผมถามแต่ไม่มีใครสนใจ

 

          “ถ้าเกิดว่าข้างหน้าต้องไปเจออะไรอีก ฉันคงไม่มีปัญญาคิดแผนช่วยเหลือทองให้ปลอดภัยได้หรอก อาวุธอะไรก็ไม่มี ฉันขอเป็นคนไปเองนะพี่ดำ” นวลอ้อนวอน ดำไม่ได้ตอบอะไรแต่เดินเข้ามานั่งแทนที่ ส่วนนวลลุกขึ้นมาเตรียมตัวปฏิบัติการ มันสวมตีนตุ๊กแกไว้ที่เท้าทั้ง 4 พร้อมสวมเข็มขัดเซฟตี้สำหรับโหนสลิงแล้วสะพายปืนสไนเปอร์ไรเฟิลที่ไม่มีกระสุนไว้ด้วย

 

          “ทอง ขอบคุณสำหรับลูกชิ้นเอ็นหมูวันนั้นนะ แม่ของพวกเราโดนรถชนตาย พวกเราอดนมจนหิวโซ ถ้าไม่มีคุณวันนั้นพวกเราคงตายไปแล้ว ยินดีที่ได้รับใช้นะเจ้านาย” นวลพูดแล้วยิ้มให้ก่อนจะเปิดประตู มันยิงสลิงไปเกี่ยวไว้กับเครื่องบินของคู่ต่อสู้ลำหนึ่งแล้วกระโจนลงจากฮออย่างรวดเร็ว

 

          “สู้ๆ นะนวล ฆ่ามัน!!!” ผมตะโกนให้กำลังใจตามหลัง ไม่รู้ว่ามันจะได้ยินหรือเปล่า

 

          “ทองปิดประตู” ดำสั่งเสียงเครือ ผมปิดประตูเรียบร้อยก็มองนวลที่โหนสลิงลงไปเกาะเครื่องบินรบเทอราโนดอนของคู่ต่อสู้ได้สำเร็จ มันค่อยๆ ไต่จากส่วนขาไปยังห้องนักบินที่อยู่ตรงหงอนกลางหัวอย่างระมัดระวัง เมื่อถึงที่หมายนวลก็ใช้สันปืนสไนเปอร์ไรเฟิลกระแทกหน้าต่างกระจกห้องนักบินเต็มแรง เพื่อจะเข้าไปยึดเครื่องบิน มันถีบคนขับกระเด็นออกมาแล้วสวมรอยทันที

 

          เปรี้ยง!!! ฮอของผมโดนโจมตีจากเทอราโนดอนตัวอื่น ไม่แน่ใจว่ากระแทกเข้าที่ส่วนไหน ทำเอาฮอเสียการทรงตัวไปชั่วขณะ นวลไม่รอช้ารีบตามมาประกบยิงคุ้มกันทันที ดูเหมือนว่าเทอราโนดอนที่เหลืออีก 3 ตัวจะรู้แล้วว่ามีไส้ศึก จึงพากันบินเข้ามาประกบนวลและกระหน่ำยิงอย่างเต็มที่ แต่ว่าพวกมันรู้จักเจ้านวลของผมน้อยไป ระดับมือขับพวงมาลัยทองคำอย่างนวลมีหรือจะยอมให้โดนยิงง่ายๆ มันบังคับเครื่องบินหมุนเป็นเกลียวหลายตลบเพื่อหลบจรวดที่พุ่งเข้ามา ก่อนจะบินเหินขึ้นไปแล้วตีลังกากลับหัว ยิงจรวดใส่พวกนั้นจนร่วงไป 2 ลำ เห็นแล้วผมก็นึกดีใจที่ไม่ได้อยู่ในเครื่องบินรบนั่นกับนังนวลด้วย ไม่อย่างนั้นอ้วกต้องพุ่งแน่ๆ

 

          เหลือเทอราโนดอนอีก 1 ตัวถ้าไม่รวมนวล มันกำลังพุ่งเป้ามาที่ฮอของผม เปรี้ยง!!! เราโดนโจมตีอีกแล้วคราวนี้ทำเอาฮอส่าย นวลรีบบินเข้ามายิงสกัดแต่เจ้านั่นหลบได้ก่อนจะหันมาโจมตีนวลคืนแต่ไม่โดน มันจึงขับเบียดไล่บี้นวลมาติดๆ นวลเร่งความเร็วหนีเต็มกำลัง ทางข้างหน้าเป็นภูเขาซึ่งมีรอยแยกอยู่ตรงกลาง นวลบังคับเครื่องบินให้ทำมุมตั้งฉากกับพื้นดินอย่างรวดเร็วทำให้ลอดผ่านรอยแยกนั้นไปได้ แต่เทอราโนดอนของคู่ต่อสู้กลับลำไม่ทันจึงชนเข้ากับภูเขาไปเต็มๆ   

 

          “ดำ นวลทำได้แล้ว เรารอดแล้ว!!!” ผมดีใจมากที่ตัวเองและเจ้าหมา 2 ตัวยังปลอดภัยดี แต่ดำกลับขับฮอนิ่งเฉยไม่พูดไม่จา ผมเห็นแสงวิบๆ สะท้อนมาจากเครื่องบินรบเทอราโนดอนที่นวลขับ คาดว่าน่าจะมาจากแผ่นซีดีอัลบั้มบีลีฟของบอดี้สแลมกระทบกับแสงอาทิตย์ นวลรู้ไหมว่านั่นเป็นของล้ำค่า อัลบั้มนี้ทำขึ้นเมื่อหกสิบกว่าปีที่แล้วเลยนะ ยุคที่ผมอยู่ตอนนี้ถือเป็นของหายากมากๆ เอามาทำเล่นๆ อย่างนี้ได้ยังไง ว่าแต่มันทำอย่างนั้นทำไม ผมเห็นนวลขับเครื่องบินย้อนกลับไปทางที่เรามาก็นึกแปลกใจว่าทำไมมันไม่มาด้วยกัน

 

          “ดำ นั่นนวลจะทำอะไร” ผมถาม แต่ดำไม่ตอบ

 

          “ฉันถามไม่ได้ยินหรอ นายรู้ใช่ไหมว่านวลจะทำอะไร บอกฉันมาสิ” ผมเริ่มตวาด ดำถอนหายใจแรงๆ ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างยากลำบาก

 

          “คุณรู้จักระเบิดพลีชีพไหม” ดำถามแทนคำตอบ หัวใจผมหล่นวูบ ตามองตามเครื่องบินรบรุ่นเทอราโนดอนที่นวลกำลังขับตรงไปยังหอบังคับการที่ลูกชาย ภรรยาและเพื่อนสนิทผมอยู่ ซึ่งไกลออกไปพอสมควร

 

          “ไม่นะนวล ไม่!!!” ผมแหกปากร้องทั้งๆ ที่รู้ว่านวลไม่มีทางได้ยิน ลูกไฟลูกใหญ่สว่างวาบขึ้นทันทีที่นวลขับชนหอบังคับการนั้นเข้าไปเต็มๆ ผมทรุดตัวลงร้องไห้อย่างกับเด็กๆ วันนี้ผมเสียเพื่อนที่ดีที่สุดไปอีก 1 ตัว ผมรู้สึกเจ็บปวดที่พาพวกมันมาเดือดร้อนกับเรื่องวุ่นๆ ที่ผมเป็นคนก่อ ดำเองถึงแม้จะเข้มแข็งขนาดไหนก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาได้เช่นกัน เราเงียบกันอยู่นานกว่าที่ดำจะพูดขึ้น

 

          “ทอง คุณต้องรีบหาสลัมที่คุณเคยอยู่นะ” ความจริงสภาพจิตใจผมตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะทำอะไรทั้งนั้น แต่ว่าผมจะไม่ยอมให้ด่างและนวลสละชีวิตอย่างเปล่าประโยชน์ ผมต้องเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ให้ได้ ผมมองผ่านกระจกหน้าต่างลงมายังพื้นดินข้างล่าง หาบริเวณที่เป็นสีส้มๆ น้ำตาลๆ ของสนิมที่กัดกินสังกะสี บ้านแถวสลัมเป็นอย่างนี้ทั้งนั้น ดำขับฮอไปเรื่อยๆ อยู่พักใหญ่ในที่สุดก็เจอ หวังว่าจะใช่นะ

 

          “เจอแล้ว!!! ดำข้างล่างนั้น” ผมชี้บอก

 

          “มีร่มชูชีพอยู่ข้างหลังนั่นน่ะ คุณสวมแล้วกระโดดลงไปซะ อย่าลืมกระตุกร่มหละ”

 

          “อ้าว แล้วทำไมนายไม่ลงจอดหละ”

 

          “เมื่อกี้เราโดนโจมตี เครื่องยนต์บางส่วนเสียหายทำให้ไม่สามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย” ดำอธิบาย

 

          “แต่ว่าเราลงไปด้วยกันก็ได้นี่นา ฉันเคยเห็นคนอุ้มหมากระโดดร่มในโทรทัศน์”

 

          “ทองฟังนะ ถ้าไม่มีคนบังคับเครื่อง ฮอก็จะตกซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เรากระโดดลงไป แล้วเราก็จะโดนทับตายกันทั้งคู่ ทีนี้คุณจะไปได้หรือยัง”

 

          “ทำไม ทำไมพวกนายต้องเสียสละเพื่อฉันขนาดนี้” ผมโวยวายร้องไห้เป็นเด็กๆ อีกแล้ว

 

          “พวกเราเสียสละให้คุณได้ อย่างที่คุณเคยเสียสละให้พวกเรา ผมรู้นะว่าวันนั้นคุณไม่อิ่ม ลูกชิ้น 2 ไม้ ไม้นึงมี 4 ลูก ทั้งหมดมี 8 แบ่งให้พวกเรา 3 เหลือให้คุณกิน 5 ลูก เด็กผู้ชายกินมื้อเที่ยงแค่นั้นไม่อิ่มหรอก แต่คุณก็ยอมแบ่งให้พวกเรา คุณเป็นคนจิตใจดีนะทอง คุณต้องกลับไปเป็นทองคนเดิมให้ได้” ดำบอก ผมพยักหน้าทั้งน้ำตาที่ไหลอาบแก้มเป็นหลายสาย เพราะร่องเหี่ยวย่นบนใบหน้าเยอะเหลือเกิน นี่ขนาดผมไปดึงหน้ามาแล้วนะเนี่ย ผมค่อยๆ หยิบร่มชูชีพมาสวมให้เรียบร้อยทั้งที่ยังสะอึกสะอื้น

 

          “ไปได้แล้วทอง ยินดีที่ได้รับใช้” ดำพูดพร้อมตะเบ๊ะมือให้ผม

 

          “ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะดำ” ผมพูดก่อนใช้แขนเสื้อเช็ดน้ำตา แล้วหันมาเปิดประตูยืนทำใจอยู่ครู่หนึ่งก็กระโดดลงจากฮอ ร่างกายลอยเคว้งคว้างอยู่ในอากาศหัวใจก็เช่นกัน ไม่นานผมก็รีบกระตุกร่ม แรงกระตุกนั้นดึงผมขึ้นเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ตกลงสู่พื้นดินแต่ร่มเจ้ากรรมดันเกี่ยวกับต้นไม้ ทำให้ผมห้อยตัวอยู่อย่างนั้น ดีที่ไม่สูงมากผมจึงปลอดเข็มขัดเซฟตี้ที่รัดตัวออกจากร่มชูชีพ แล้วก็ตกลงมาก้นจ้ำเบ้าเล็กน้อย พอลุกขึ้นมาทรงตัวได้ก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าเห็นเฮลิคอปเตอร์บินไกลออกไปเรื่อยๆ คิดว่าดำคงหาที่ตกที่ไม่เดือดร้อนชาวบ้าน อาจเป็นป่ารกๆ ที่ไหนสักแห่ง ถ้าไม่มีพวกมันผมคงไม่สามารถมีชีวิตมาได้ถึงตอนนี้ ผมรู้สึกขอบคุณและจะไม่มีวันลืม 3 ผู้พิทักษ์ของผมเลย พวกมันจะอยู่ในใจของผมตลอดไป

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา