กรงทอง

7.0

เขียนโดย zeeto

วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 18.32 น.

  5 ตอน
  1 วิจารณ์
  6,714 อ่าน
แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

2) เมื่อดวงใจทั้งสองมาพบกัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          “พระโอรสพระเจ้าข้าวันนี้กระหม่อมคิดว่าเราควรเดินทางไปทางทิสตะวันตกนะพระเจ้าข้า” เสียงของนลาดลพลทหารคนสนิทกล่าว “ไม่วันนี้ข้าจะเดินทางไปทางทิศเหนือ” “ทิศเหนือ” “ใช่ข้ามั่นใจว่าวันนี้ข้าจะพบกรงทองที่นั้น” “แต่พระโอรสพระเจ้าข้าทิศเหนือนั้นมีแต่หน้าผาสูงชันและอันตรายมากนะพระเจ้าข้า” “ข้ารู้ แต่ไม่มีของวิเศษใดได้มาง่ายๆพวกเจ้าก็เช่นกันเตรียมตัวให้พร้อมข้าจะออกเดินทางทันทีที่พระอาทิตย์ขึ้น” ยังไงเสียกรงทองต้องเป็นของข้าให้จงได้ ไม่ใช่ไปตกอยู่ในมือของคนอ่อนแอเช่นโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ ไม่นานมากนักทันทีที่พระอาทิตย์ค่อยๆลอดผ่านม่านเมฆ เหล่าทหารและข้าต่างรีบเดินทางลัดเลาะไปตามทางทิศเหนือไปตามรำธาร ก่อนจะต้องปีนเขาสูงและหน้าผาที่ชันเพื่อไปเอากรงทองนั้นมา

 

          “ท่านผู้ทรงศีลนี้ข้าต้องเดินอีกไกลแค่ไหนรึ” “เจ้าจงปีนผานี้ไปจะพบกับถ้ำตรงหน้าผานั้นกรงทองที่เจ้าตามหาอยู่ในนั้น” “สูงเช่นนั้นข้าจะไปได้จริงๆรึ” “เจ้าทำได้เชื่อข้าเถิด...ส่วนนี้กริชแห่งอาทิตย์ข้าให้เจ้า” “กริชแห่งอาทิตย์” “เมื่อใดที่มีภัยใกล้ตัวจริงๆเจ้าจงใช้มันป้องกันตนเอง” “ขอบพระคุณท่านมากท่านผู้ทรงศีล เช่นนั้นข้าลาก่อน” “จำไว้นะพระโอรสสติปัญญาและความดีของท่านเท่านั้นที่จะทำให้ท่านชนะได้” เมื่อผู้ทรงศีลกลับไปข้าก็ได้แต่มองความสูงชันของหน้าผาที่ข้าต้องปีนขึ้นไป มันไม่ง่ายเลยสำหรับมือเปล่าที่จะต้องปีนไปเช่นนี้ แต่ข้าเชื่อว่าข้าจะทำมันได้เพื่อเสด็จพ่อเสด็จแม่และชาวเมืองอาพรสุทธินันท์ ข้าจักต้องทำให้ได้

 

          ใจของผู้เป็นพ่อที่ไม่อาจช่วยเหลือลูก ได้แต่ยืนมองจากบนนี้ขอให้เจ้าสามารถเอากรงทองมาได้นะชนกันย์ “คิดว่าคนอ่อนแอเช่นบุตรของท่านจะสามารถเอากรงทองไปได้รึ” “ท่านหมายความว่าเช่นใดท่านพระจันทร์” “ตราบใดที่บุตรของข้ายังอยู่เจ้าอย่าหวังเลยว่าจะได้ไปง่ายๆ บุตรของข้าจะทำให้บุตรของท่านไม่มีทางหายจากอาการประชวรเป็นแน่” “ท่านมันจิตใจโหดร้ายเกินไปแล้วนะท่านพระจันทร์” “ท่านจะพูดเช่นใดก็เรื่องของท่านแต่จำไว้เถิดบุตรของข้าคือผู้ชนะ”

 

          “พระโอรสพระเจ้าข้าทรงทอดพระเนตรบนนั้นเถิดพระเจ้าข้า” เสียงนลาดลทหารคนสนิทพูดพร้อมกับชี้ไปบนหน้าผาสูงก็พบว่ามีแสงสีทองสาดส่องออกมาจากด้านบน ใช่แล้วนั้นคือรัศมีของกรงทองเป็นแน่ ว่าแต่แล้วนั้นคือใครที่กำลังปีนขึ้นไปบนหน้าผานั้น สองคนรึ “ทำเช่นใดดีพระเจ้าข้า” “พวกเจ้ารอข้าอยู่ด้านล่างนี้แหล่ะข้าจะเป็นคนขึ้นไปเอากรงทองเอง” “จะดีหรือพระเจ้าข้า กระหม่อมว่า...” “ทำตามที่ข้าบอกพวกเจ้าตั้งกระโจมและพักรอข้าอยู่ตรงนี้ส่วนด้านบนนั้นข้าจะจัดการเอง” เมื่อสั่งเหล่าทหารเรียบร้อยข้าค่อยๆปีนขึ้นไปบนหน้าผาตามอีกสองคนที่กำลังปีนขึ้นไป

 

          กว่าจะมาถึงเล่นเอาเหนื่อยยิ่งนักข้าค่อยๆเปิดเอากระบอกน้ำออกมาดื่มแก้กระหายก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปในถ้ำ ที่มืดมิตรแต่แปลกเมื่อเข้ามาด้านในกับสว่างเป็นสีทองไปทั่วบริเวณถ้ำ ว่าแต่กรงทองอยู่ไหนละเมื่อค่อยๆเดินเข้าไปก็พบแสงที่ส่องกระทบเข้ากับดวงตาพอเข้าไปใกล้ๆ หัวใจของข้ากับยิ่งเต้นจนปวดไปทั้งอกนี่คงเป็นเพราะกรงทองใช่ไหม ข้าค่อยๆเดินเข้าไปด้านในจนพบกับบ่อน้ำที่มีแท่นหินและกรงทองวางอยู่ตรงกลางบ่อน้ำ “กรงทอง” บ่น้ำนี้ลึกแค่ไหนข้าจะสามารถไปหยิบเอากรงทองได้ไหม แต่แปลกบนหน้าผาหินสูงขนาดนี้กับมีบ่อน้ำได้ ‘ลงไปเอากรงทองมาซิชนกันย์นั้นเป็นของลูก’ เหมือนกับเสียงหนึ่งที่ดังกองในถ้ำบอกให้ข้าลงไปเอากรงทองมา ในเมื่อข้าลำบากในการเดินทางมาไกลเช่นนี้ด้วยวรกายที่ไม่แข็งแล้ว จะมีอะไรหน้ากลัวกว่าการเสี่ยงลงไปหยิบเอากรงทองกลางบ่อน้ำนั้น ปลายเท้าค่อยๆเหยียบลงบนผิวน้ำก่อนจะทิ้งตัวลงไปหยิบเอากรงทองกลางบ่อมา ในที่สุดกรงทองก็เป็นของข้าแล้ว ‘เปิดกรงทองซิชนกันย์’ มือของข้าค่อยๆหมุนดูกรงทองรอบๆเพื่อหาที่เปิดเมื่อพบแล้ว ข้าไม่รอช้า “ส่งกรงทองให้หม่อมฉันเถิดพระโอรส” “หฤษฎ์!!...” “พระเจ้าข้า...” “เจ้ามาได้เช่นใด” “ก็ตามพระองค์มาไงละพระเจ้าข้า ส่งกรงทองมาให้หม่อมฉันเถิด” “ไม่มีทาง...เจ้าทำเช่นนี้ต้องการอันใด” “ข้าก็อยากได้ของวิเศษเพื่อจะขึ้นเป็นใหญ่เช่นกัน” “เจ้ามันกบฏแผ่นดิน ข้าไม่มีทางมอบกรงทองนี้ให้แก่คนชั่วเช่นเจ้าหรอก” “อย่างพระองค์จะทำอะไรหม่อมฉันได้วรกายอ่อนแออย่างนี้” “ถึงวรกายของข้าจะอ่อนแอแต่ข้าก็มีสติและปัญญาที่จะทำให้บ้านเมืองของข้าสงบสุขได้” “โธ่โธ่โธ่...นี้คิดว่าการเป็นพระราชาต้องดูแลแค่ทุกข์สุขของราษฎรหรือพระเจ้าข้า ช่างโง่เขลายิ่งนักประเดี๋ยวนี้การจะเป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่จักต้องเก่งเรื่องการสงครามและต่อสู้เพื่อขยายอาณาเขตไปยังเมืองต่างๆด้วยพระองค์จึงจะยิ่งใหญ่ได้” “ข้าไม่ได้ต้องการยิ่งใหญ่เพื่อให้คนเกรงกลัวแต่ข้าต้องการจะยิ่งใหญ่เพื่อให้ชาวเมืองของข้ารักข้าก็เท่านั้น”

 

          มันเรื่องอะไรกันทันทีที่เข้ามาถึงปากถ้ำกับได้ยินเสียงของคนต่อปากต่อคำออกมา ถ้าไม่ผิดไปจากที่คิดตอนนี้โอรสแห่งอาพรสุทธินันท์คงได้กรงทองไปแล้ว แต่เสียงของอีกคนคือใครกันเท่าที่ได้ยินตอนนั้นเหมือนคนทั้งสองจะรู้จักกัน “ขึ้นมาจากบ่อน้ำแล้วส่งกรงทองมาให้กระหม่อมเถิดพระโอรส” “ไม่” “แน่พระทัยแล้วรึว่าจะไม่ส่งกรงทองให้กระหม่อม” “คนเลวเช่นเจ้าไม่ควรครอบครอง” “เช่นนั้นถ้ากระหม่อมส่งสารไปถึงท่านลุงของกระหม่อมจะเกิดอันใดขึ้นกับพระราชาและพระมเหสีของอาพรสุทธินันท์” “นี่เจ้า...” “ฮาๆๆๆ...ขึ้นจากบ่อน้ำแล้วส่งกรงทองมาให้กระหม่อมเถิดพระเจ้าข้า” ไม่ได้การณ์แล้วขืนเป็นเช่นนี้กรงทองต้องตกไปอยู่ในมือของไอ้คนหยาบช้าเป็นแน่ แล้วที่ได้ยินถ้ากรงทองตกไปอยู่ในมือของไอ้คนชั่วนี้มีหวังได้เกิดสงครามเป็นแน่ แม้ข้าจะไม่อยากให้โอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ได้ไปครอบครองแต่การจะให้คนที่คิดจะก่อเกิดสงครามได้กรงทองไปครอบครองนั้น มันก็ไม่สมควรเช่นกัน “ดีมากพระเจ้าข้าส่งกรงทองมาให้กระหม่อมเถิดพระเจ้าข้า”

 

          โอ้ย!!!... ไม่ทันที่จะส่งกรงทองให้กับหฤษฎ์ก็มีใครคนหนึ่งถีบหฤษฎ์มาจากด้านหลังจนล้มคว่ำไปอยู่ที่พื้น “เจ้าไปยืนอยู่ด้านนั้น” ท่านผู้นี้คือใครข้าได้แต่มองใบหน้าที่งดงามก่อนจะทำตามที่สั่ง “เจ้าเป็นใคร” “ข้าเป็นใครเจ้าจะได้รู้แน่ไอ้คนชั่ว” “ฮาๆๆๆ...คนชั่วเช่นนั้นรึ ถ้าข้าชั่วเพราะอยากจะครอบครองกรงทองแล้วเจ้าละขึ้นมาถึงนี้ไม่ใช่ว่ามาเพราะต้องการกรงทองเช่นกัน” “ใช่ข้าต้องการกรงทอง แต่ความต้องการของข้าไม่ได้มีเพื่อทำเรื่องชั่วช้าเข่นเจ้า” “ข้าก็อยากจะรู้นักเชียวว่าคนเช่นเจ้าจะสามารถทำอะไรทหารหลวงเช่นข้า” “ทหารหลวงเช่นนั้นรึ...งั้นเจ้าก็จงรู้ไว้ว่าข้าคือองค์ชายธีรภัทรโอรสแห่งโลหนันท์” พูดจบคนที่กล่าวว่าเป็นโอรสแห่งโลหนันท์ก็ฟาดฟันดาบใส่หฤษฎ์ที่ตอบโต้ไม่แพ้กัน “ฝีมือองค์ชายแห่งโลหนันท์ทำได้แค่นี้รึ” เสียงเย้ยหยันของหฤษฎ์ต่อโอรสแห่งโลหนันท์ที่ฟาดดาบอย่างไม่ละเว้นก่อนที่หฤษฎ์จะเสียหลักโดนถีบให้ล้มกระเด็นออกไปปากถ้ำ “คนเช่นเจ้าไม่ควรที่จะเกิดหรือตายบนแผ่นดินใดเลย เจ้ามันเลวยิ่งกว่าเดียรฉาน” “งั้นโอรสแห่งโลหนันท์เช่นเจ้าก็ฆ่าข้าให้ได้ซิ” “เจ้าได้ตายแน่” พูดจบเจ้าชายแห่งโลหนันท์พลิกตัวเองหมุนกลับก่อนจะฟันดาบที่มือของหฤษฎ์ล่วงลงพื้นก่อนจะเหวี่ยงร่างของหฤษฎ์ให้ตกออกไปหน้าผาทันที แต่ไม่ใช่เพียงหฤษฎ์เท่านั้นที่กระเด็นออกไปร่างของโอรสแห่งโลหนันท์ก็เช่นกัน “ท่าน” มือที่ถือกรงทองไว้แน่นทิ้งกรงทองลงกับพื้นก่อนที่จะกระโดดคว้ามือของอีกคนไว้ “อ๊าก...จับมือข้าไว้ข้าจะดึงเจ้าขึ้นมา”

 

          ใบหน้างดงามของพระโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ที่มองมายังข้าก่อนจะค่อยๆดึงข้าขึ้นมาจากหน้าผา “จับมือข้าไว้แน่นๆ” “เจ้าช่วยข้าทำไม” “เพราะท่านช่วยชีวิตข้า” “ท่านไม่คิดว่าข้าอาจจะต้องการเป็นผู้ฆ่าท่านกับมือหรอกรึ” “จิตใจของท่านไม่ใช่คนชั่วร้าย หยุดพูดเถิดข้าจะดึงเจ้าเอง” สายตาที่เป็นห่วงเป็นใยคำพูดเหล่านั้นทำไมมันทำให้ข้ารู้สึกแปลกๆเช่นนี้ “อ๊าก...” “เจ้า...” “ข้าไม่เป็นไรข้าต้องช่วยเจ้าให้ได้” “แต่เจ้าอ่อนแอเกินไปเจ้าช่วยข้าไม่ได้หรอก” “ได้ซิ...ข้าต้องช่วยเจ้าให้ได้ข้าไม่มีทางให้เจ้าเป็นอะไรแน่” ข้าได้แต่พยักหน้าให้กับคนที่ดึงข้าก่อนที่จะดึงสุดกำลังช่วยให้ร่างที่ห้อยอยู่ตรงหน้าผาขึ้นมาทาบทับบนร่างของเขาได้ เสียงหายใจหอบถี่ของโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ที่ดังอยู่ข้างๆหูของข้า “เจ้าปลอดภัยแล้ว เจ้าปลอดภัยแล้ว อ๊าก...เจ็บเหลือเกินอ๊าก...” “เจ้า...” “ข้าเจ็บที่หัวใจของข้าอีกแล้วอ๊าก....” กรงทองเป็นเสมือนยาวิเศษที่รักษาร่างกายและดวงใจที่ไม่สมบูรณ์ ใช่แล้วกรงทองสำคัญต่อโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์เพราะแบบนี้ เมื่อคิดได้เช่นนั้นข้ารีบลุกไปหยิบกองทองที่ตกกับพื้นก่อนจะรีบเอาออกมาเปิดทันที เมื่อกรงทองถูกเปิดออกลูกแก้วที่อยู่ด้านในก็ค่อยๆลอยออกมา ลูกแก้วนี้เหมือนกับลูกแก้วที่ข้าได้มา ข้าค่อยๆหยิบเอาลูกแก้วในห่อผ้าออกมาดูก็พบว่าลูกแก้วทั้งสองค่อยๆลอยเข้าหากันก่อนจะรวมเป็นลูกเดียวแล้วส่องแสงประกายออกมาครอบคลุมบนร่างกายของโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์และตัวข้านั้น ‘เมื่อใจที่แตกสลายมารวมกันแล้วร่างกายและจิตวิญญาณของท่านทั้งสองจะสมบูรณ์’ สิ้นแสงที่ครอบคลุมร่างกายของข้าและโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์แล้วร่างที่เจ็บปวดค่อยๆมีพระพักตร์ที่ดีขึ้นก่อนจะลุกขึ้นมานั่งมองหน้าข้า “เจ้าได้ยินเสียงนั้นไหม” เจ้าชายแห่งอาพรสุทธินันท์กล่าว “ใช่ข้าได้ยิน...เจ้าว่ามันเพราะเหตุใด” “ข้าก็ไม่แน่ใจ...จริงซิข้าต้องขอบใจเจ้ามากที่ช่วยชีวิตข้า” “ข้าก็เช่นกันถ้าเจ้าไม่ดึงข้าจากหน้าผาข้าอาจจะตกลงไปพร้อมกับคนชั่วนั้น...โอ้ย!!”

 

          โอ้ย!! เสียงที่ทำให้ข้าหันกลับไปมองเจ้าชายแห่งโลหนันท์อีกครั้งก่อนจะพบว่าหัวไหล่ด้านซ้ายหน้าจะถูกดาบของหฤษฎ์ฟันเข้าตอนต่อสู้ “เจ้าได้รับบาดเจ็บ” “ข้าไม่เป็นไร” “เจ้าอย่าดื้อซิ เดี๋ยวข้าจะทำแผลให้เจ้าเอง” พูดจบข้ารีบเดินไปหยิบเอาห่อผ้าของตนเองออกมาก่อนจะเอายาสมุนไพรต่างๆที่ตรียมไว้ก่อนเดินทางออกมาทำแผลให้แก่คนที่เจ็บ “เบาๆซิข้าเจ็บ" "หึหึ...เก่งดาบเก่งต่อสู้ไม่ยำเกรงแต่กับโอดโอยเพราะยาสมุนไพรหรอกรึ” “มันเหมือนกันหรือไง...แล้วเจ้ามองข้าทำไม” “ก็เจ้าหน้ามอง...ข้าไม่เคยเห็นใครมีพระใบหน้างดงามเช่นนี้มาก่อน” “เรื่องของเจ้า...แต่ข้าเคยเห็นสิ่งที่งดงามมานักต่อนักแล้วไม่ว่าจะเป็นธิดาจากเมืองต่างๆหรือหญิงงามในวัง” “เช่นนั้นรึ...ข้าก็เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน แต่แปลกเจ้ากับงดงามกว่าหญิงงามเหล่านั้นเสียอีก” “พูดอะไรของเจ้า...ข้าเป็นโอรสจะงามได้เทียบเท่าเหล่าธิดาเช่นใด” “นั้นซิเป็นโอรสแท้ๆแต่ใบหน้าของเจ้ากับงดงามชวนหลงใหลยิ่งนัก” “หยาบคาย...พอเถิดว่าแต่เจ้ากับข้าจะลงไปได้เช่นไรในเมื่อตอนนี้เย็นมากแล้วคงไม่ทันก่อนค่ำเป็นแน่” “ถ้าลงไม่ทันเราก็พักบนนี้ไปก่อนวันพรุ่งค่อยลงไป...อีกอย่างเจ้าได้รับบาดเจ็บควรพักเสียก่อน”

 

          นี้เวลามันผ่านไปช้าหรือว่าใจข้าเองนะที่มันร้อนรน ทำไมข้าไม่สามารถอยู่อย่างสงบใจได้เลยพอหันไปมองโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์ทีไร กับโดนสายตาคู่นั้นจับจ้องไม่เว้นวาง จากที่ไม่คิดอะไรตอนนี้ใจของข้างก็แปลกๆเช่นกันแล้วนะ “เจ้าหิวไหม” คนมองถามมาที่ข้า “ถามแปลก” “ข้ามีอาหารอยู่เจ้าเอาไปกินซิ” “แล้วเจ้าละไม่หิวรึ” “หิว...แต่ข้าอยากแบ่งให้เจ้า” “ขอบใจ...ว่าแต่เจ้าไม่เจ็บปวดที่หัวใจแล้วรึ” “ไม่เลย แต่หัวใจของข้าเหมือนกับฟื้นฟูขึ้นดีมากจนประหลาดใจ” “คงเพราะกรงทองและลูกแก้วนั้น” “แต่ข้าว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะเจ้า” สิ้นคำพูดข้าได้แต่หลบสายตาก่อนจะหยิบอาหารที่รับมาเข้าปากแทน แล้วนี้มันเกิดอะไรกันแน่ทำไมข้าต้องรู้สึกตื่นเต้น หวั่นไหวไปกับสายตาและคำพูดของคนตรงหน้านี้ด้วย “จริงซิเจ้ามีนามว่าอะไรรึ” “ธีรภัทร โอรสแห่งโลหนันท์” “ชื่อไพเราะเหมาะกับเจ้า ส่วนข้าชื่อชนกันย์” “อือ...” “ว่าแต่เจ้าขึ้นมาเอากรงทองเพราะเหตุใดรึ” “ก็แค่เบื่อกับการอยู่ในวังก็เลยออกมาหาอะไรหน้าตื่นเต้นทำก็เท่านั้น” “งั้นแสดงว่าเจ้าก็ไม่ได้ต้องการกรงทอง” “ต้องการ แต่เพราะเจ้าจำเป็นต้องใช้มันมากกว่าข้า ข้าเลยไม่สามารถแย้งชิงมาได้” “เจ้าเป็นคนจิตใจดียิ่งนัก เพราะเหตุนี้เจ้าถึงทำให้ข้ารู้สึกหลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่พบ” “นี่เจ้า...” หลงรักเช่นนั้นรึบ้าไปแล้วแน่ๆชายผู้นี้พูดอะไรออกมาเขารู้ตัวหรือไม่ นี้ข้าเป็นชายและเขาก็เป็นชาย ยังจะกล้ามาพูดว่าหลงรักข้าได้ ไม่กลัวเพศภัยจะเกิดหรือไง แล้วทำไมข้าต้องมารู้สึกเขินอายเพราะคนคนนี้ด้วย

 

          “มานั่งใกล้ๆข้าซิจะได้อบอุ่น” ข้าหันไปเรียกโอรสแห่งโลหนันท์ที่นั่งอยู่อีกด้านเหมือนเกรงกลัวอะไรบางอย่าง เพราะด้วยอาการบาดเจ็บแล้วข้ากลัวเขาจะไม่แย่เอา “มานั่งนี้เถอะข้าทำร้ายเจ้าไม่ได้หรอก” “ถึงเจ้าไม่ทำร้ายข้าแต่สายตาของเจ้าทำร้ายข้านี่” “เจ้าหมายความว่าเช่นไร” “ช่างเถอะ...ข้านั่งตรงนี้ได้” “แต่เจ้าจะหนาวตายได้ ไม่เห็นรึอากาศบนนี้หนาวขนาดไหนถ้าเจ้าเป็นอะไรมาข้าก็แย่ซิ” “ที่แท้เจ้าก็ห่วงตนเอง” “ใช่ข้าห่วงตนเองเพราะถ้าเจ้าเป็นอะไรไปข้าจะอยู่อย่างไรละ ข้าบอกเจ้าแล้วนี่ว่าข้าหลงรักเจ้า” “นี่เจ้า...” “มานอนตรงนี้เถิด” “ไม่...ข้าจะนอนของข้าตรงนี้” “ถ้าเช่นนั้นข้าคงต้องไปนอนกอดเจ้าตรงนั้นเช่นกัน” พูดจบข้าลุกขึ้นก่อนจะเดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้างๆโอรสแห่งโลหนันท์ทันทีพร้อมกับดึงร่างของโอรสแห่งโลหนันท์เข้ามากอดไว้ “นี่เจ้า...ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้” “ไม่...ก็ข้าบอกเจ้าแล้วว่าถ้าเจ้าไม่เข้าไปนั่งกับข้าตรงนั้นข้าจะมากอดเจ้าตรงนี้เอง” “เจ้านี้มัน...ตกลงข้าไปนอนกับเจ้าตรงนั้นก็ได้” “เชื่อตั้งแต่แรกก็ไม่ต้องให้ข้าทำแบบนี้หรอก หรือความจริงเจ้าอยากให้ข้ากอด” “ข้าควรจะตัดลิ้นเจ้าทิ้งเสียดีไหม ชอบพูดจาอะไรเช่นนี้” “ข้าก็พึ่งพูดจาแบบนี้แค่กับเจ้าเพียงคนเดียว หาได้พูดกับใครก่อนไม่”

 

          แย่แน่ๆถ้ายังไม่สามารถแยกห่างจากโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์แบบนี้มีหวังข้าอาจจะต้องไหวหวั่นกับคนคนนี้เป็นแน่ แต่จะทำยังไงละให้โอรสแห่งอาพรสุทธินันท์เลิกหลงใหลในข้าได้ เพราะขนาดตัวข้าเองตอนนี้ก็รู้สึกดีไปกับอ้อมกอดของเขาเมื่อครู่เสียแล้ว ต้องหาวิธีที่จะทำให้ข้าและเขาไม่สามารถทำเรื่องผิดๆให้ได้ เพราะไม่เป็นการดีแน่ถ้าข้าและโอรสแห่งอาพรสุทธินันท์จะมารักใคร่กัน และเมื่อรักกันไม่ได้ข้าต้องทำเช่นใด ความรู้สึกสับสนนี้ข้าควรทำเช่นใดดีเหล่า

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา