คนรัก...ที่เราไม่คาดคิด

-

เขียนโดย jiranun

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 18.10 น.

  1 ตอน
  0 วิจารณ์
  2,968 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 18.50 น. โดย เจ้าของเรื่องสั้น

แชร์เรื่องสั้น Share Share Share

 

1) คนรัก ที่เราไม่คาดคิด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
“นั่งเหม่ออะไรอยู่ครับ?”
อยู่ๆคนที่กำลังพูดถึงอยู่ก็มาพี่ภูแฟนของฉัน
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะคิดอะไรนิดหน่อยค่ะ”
งั้นเราไปกันเถอะฉันหิวแล้ว พี่ภูพูดแล้วจับมือฉันเดินออกจากโต๊ะที่นั่งอยู่วันนี้ฉันมีเดทกับพี่เขาพี่เขาบอกจะพาไปกินไอติมที่พึ่งเปิดใหม่นานๆทีจะได้เจอกันเพราะพี่เค้าก็อยู่ปี 3 แล้วเห็นบ่นว่างานเยอะมากน่าสงสารจัง
วิศวะต้องเรียนตั้ง 5 ปีหันกลับมาดูตัวเองเรียนนิเทศ 4 ปีเองแต่จริงๆมันไม่เองนะตั้ง 4 ปีแต่ถ้าเทียบกับที่พี่เขาเรียนอะนะพี่ภูเปิดประตูรถให้ฉันแล้วเดินไปนั่งที่ฝั่งคนขับพอพี่เค้าออกรถเราก็คุยกันนิดหน่อยเพราะไม่ได้เจอกันนานแต่ด้วยการขับรถต้องใช้สมาธิฉันก็ไม่ได้จะรบกวนพี่เค้ามากขับรถมาประมาณครั่งชั่วโมงก็ถึงมันเป็นร้านน่ารักๆที่ตกแต่งด้วยโทนหวานๆมีที่ถ่ายรูปสวยๆเหมาะกับผู้หญิงเป็นอย่างมาก
“ชอบไหมครับ?”
พี่เขาหันมาถามฉันเมื่อเราทั้ง 2 คนเข้ามานั่งในร้านและสั่งของหวานกับพนักงานเสร็จแล้ว
“ชอบมากเลยค่ะ พี่รู้จักร้านน่ารักๆแบบนี้ได้ไงคะ?”
“พี่เห็นเค้าแชร์ๆกันอะเห็นเค้าบอกผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบฉันว่าเธอน่าจะชอบเลยพอมา”
ใช่ร้านนี้เป็นร้านที่พึ่งเปิดได้ไม่นานแต่ก็มีรีวิวมากมายในอินเตอร์เน็ตซึ่งฉันก็เคยมาแล้ว 1 ครั้งแต่ไม่ได้มากับพี่ภูนะแต่มากับพี่ภัคเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเองแต่คงไม่บอกพี่ภูหรอกว่าเคยมาแล้ว
“น่ารักดีนะคะพริ้มก็พึ่งจะเคยมากับพี่ภูเป็นครั้งแรกนี่แหละค่ะ”
ฉันตอบพร้อมกับยิ้มให้พี่เขาไปพอของหวานมาเสิร์ฟฉันยื่นโทรศัพท์ให้พี่ภูเหมือนพี่เค้าจะรู้หน้าที่นะเขาหัวเราะในลำคอแล้วหยิบโทรศัพท์ไปจากมือฉันและเตรียมถ่ายรูปให้ฉัน
“1 2 3”
พี่ภูยื่นโทรศัพท์คืนมาให้ฉัน ฉันรับโทรศัพท์มารูปที่พี่เค้าถ่ายให้ฝีมือการถ่ายรูปของพี่เค้าถือว่าดีอยู่เลยนะแบบมุมได้ฉันลงรูปในไอจีและแท็กพี่เค้าจากนั้นก็วางโทรศัพท์และเริ่มลงมือทานของหวานที่พี่เขาพามากินพี่เขาเองก็กินด้วยผู้ชายกับของหวานน่ารักจังฉันมองพี่เค้าไปกินไปยิ้มไปจนพี่เค้าน่าจะรู้ตัวแหละเลยเงยหน้ามาจากไอติมที่กำลังกินอยู่
“มีอะไรรึเปล่ามองหน้าพี่แล้วยิ้มนี่คือ..”
ฉันไม่ได้ตอบเพียงแต่ทานไอติมของตัวต่อพอฉันทานเสร็จเราทั้งสองคนก็ออกจากร้านและพี่ภูก็ไปส่งฉันที่คอนโดแถวๆมหาลัยและพอถึงคอนโดของฉันเราทั้งคู่บอกลากันจากนั้นฉันก็รีบเดินขึ้นคอนโดและไปหาพี่ภัคที่อยู่องตรงข้ามกันฉันรีบเปิดประตูห้องของพี่ภัคไปก็เจอพี่ภัคนั่งอยู่ที่โซฟาอยู่หน้าทีวีเหมือนกำลังรอใครอยู่ฉันเดินเบาๆไม่ให้รู้ว่าฉันมาแล้วพอใกล้ไปถึงฉันก็แกล้งทำให้เขาตกใจแต่เขาไม่ตกใจเลย
”ทำไมพี่ไม่ตกใจเลย หนูอุส่าห์ทำตัวเงียบๆแล้วนะ”
“พี่อ่านหนังสืออยู่ครับ”
พี่ภัคพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆฉันจึงโงกหน้าไปดูก็เจอกับกองหนังสือมากมายวางอยู่ตรงหน้าเราทั้งสองคนก็เข้าใจแหละว่าพี่เค้าเป็นหมอต้องอ่านหนังสือต้องศึกษาเคสอีกมากมายเพราะแค่เวลา 6 ปีที่เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยคงไม่พอหรอกเพราะทุกๆอาชีพไม่มีใครเก่งเป็นตั้งแต่เริ่มต้องทำความเข้าใจอีกเยอะ “สู้ๆนะคะ”
ฉันพูดแล้วยิ้มให้พี่เค้าไปฉันช่วยอะไรเขาไม่ได้หรอกเรียนก็เรียนกันคนละสายจะให้มานั่งอ่านด้วยกันหรือช่วยพี่เขาฉันไม่ถนัดจริงๆขอให้กำลังใจอย่างนี้แล้วกัน
“กินอะไรมายังครับ หิวไหมพี่ทำอะไรให้กินไหม?”
พี่ภัคหันมาถามฉันหลังจากที่พี่เขาอ่านหนังสืออยู่
“ไม่หิวค่ะ”
“ทำไมไม่หิวครับไปกินอะไรกับใครมา?”
ตอบว่าอะไรดีอะบอกความจริงไปเลยแล้วกัน
“ไปกินไอติมกับพี่ภูมาค่ะ”
ฉันพูดพร้อมกับทำหน้าเศร้าๆเพราะจริงๆก็เกรงใจเขาแหละพี่เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นแฟนนินะถึงแม้ว่าจะไม่ได้บอกใครก็เหอะ
“หรอครับ”
พี่เขาพูดน้ำเสียงที่ฟังแล้วรู้ได้เลยว่าแอบน้อยใจแน่ๆงอนแล้วแน่ๆ
“งอนหรอคะ?”
“พี่ไม่มีสิทธิ์ไปงอนหรอกครับเพราะพี่ไม่ใช่แฟนจริงๆของเรานิ”แนะมีแอบแซะกันด้วย
“โอ๋อย่าน้อยใจไปเลยค่ะยังไงหนูก็รักพี่นะ”
“เมื่อไร่จะเลิกกับมันแล้วมาคบพี่คนเดียวครับเราแอบคบกันมานานแล้วนะ”
คำถามของพี่เขาทำฉันชะล่าใจเล็กน้อยแต่ก็จริงเราก็คบกันมานานแล้วถึงจะน้อยกว่าพี่ภูก็เถอะแต่ถ้าให้ฉันเลือกระหว่างพี่ภูหรือพี่ภัคฉันก็เลือกไม่ได้อยู่ดีฉันเป็นผู้หญิงแบบนี้ไม่สามารถเลือกอะไรได้ขนาดมีแฟนยังต้องมี 2 คนเลย...
“พี่ล้อเล่นครับอย่าเครียดนะ พี่รอน้องได้ครับ”
พี่ภูหันมาพูแล้วหันกลับไปสนใจหนังสือกองโตของพี่เขาต่อ
“แล้วพี่ทานอะไรหรือยังคะ?”
“ยังเลยครับรอคนมาถามแล้วให้คนถามเป็นทำให้อยู่ครับ” ไม่น่าถามเลยพริ้ม
“อยากให้หนูทำให้ก็บอกกันดีๆสิคะ แหม”
“ครับอยากให้ทำอาหารให้ทานครับแล้วน้องพริ้มจะทำให้พี่ได้ไหมคะ?”
มาพูดคะขาฉันก็เขินนะเนี่ยถึงแม้ว่าพี่เขาจะเป็นหมอแต่พี่เขาก็มีมุมหวานๆน่ารักๆเหมือนคนอื่นๆเหมือนกันตอนแรกคิดว่าจะเป็นคนที่เงียบๆนะเนี่ยฉันลุกจากโซฟาที่นั่งอยู่มาทำอะไรให้พี่เขาทาน....ทำอะไรดีคำถามแรกพุดออกมาจากความคิดจริงๆพี่เขาก็ทานอะไรก็ได้เพราะพี่เขาไม่ได้เป็นคนเรื่องมากในการทานอาหารอยู่แล้วงั้นทำอะไรง่ายๆดีกว่าเช่น ข้าวพัดไก่ พี่เขาก็ชอบสั่งเวลาไปทานข้าวอยู่บ่อยๆทำค่อยๆทำข้าวพัดไปเรื่อยๆผ่านไปครึ่งชั่วโมงฉันก็ทำเสร็จพอออกมายังเห็นพี่เค้านั่งจมกองหน้าหนังสืออยู่เลยฉันเลยเดินไปจัดโต๊ะเตรียมของให้เรียบร้อยว่าจะมาเรียกพี่เขาทีหลังพอฉันจัดโต๊ะเสร็จฉันก็ยังเห็นพี่เขานั่งอ่านหนังสืออยู่จะเรียกดีไหมเนี่ยแต่ถ้าไม่เรียกอาหารที่ทำมาร้อนๆมันจะเย็นซะก่อนเรียกก็ได้ฉันเดินเข้าไปใกล้ๆพี่เขาพูดเริ่มเข้าไปใกล้ๆฉันว่าพี่เขาไม่ได้อ่านหนังสือแล้แหละพี่เขาหลับอยู่ตั้งหากตอนหลับยิ่งน่ารักฉันหยิกแก้มพี่เขาเบาๆแต่พี่เขากลับลืมตาแล้วใช้มือของพี่เขาจับมือฉันเอาไว้
“ไม่ได้หลับอยู่หรอคะ?”
ฉันก็ถามอะไรโง่ๆถ้าพี่เขาหลับอยู่พี่เขาคงไม่มาจับมือฉันแบบนี้หรอก
“ยังครับพี่แค่พักสายตาเฉยๆพี่ได้กลิ่นข้าวพัดหอมๆพี่ก็ตื่นแล้วครับ”
เห็นไหมว่าพี่เขาชอบข้าวพัดแค่ไหนนี่ยังไม่ได้บอกว่าทำอะไรให้ทานนะแค่ได้กลิ่นยังรู้เลย
“งั้นพี่ก็ลุกสิคะจะได้ไปทานข้าวกันค่ะ”
พี่เขาไม่ตอบอะไรแต่หลับตาอยู่แล้วเอามือฉันไปรองแทนหมอนแทนวะงั้นอ้าวงงไหนบอกจะทานข้างทำไมถึงมานอนทับมือคนอื่นเขาแบบนี้นะ
“พี่ตื่นมาเลยค่ะเดี๋ยวข้าวพัดที่หนูทำมันจะเย็นแล้วไม่อร่อยนะคะ”
“ครับๆลุกก็ได้ครับพี่”
เขาค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วหัวเราะในลำคอก่อนจะจูงมือฉันให้เดินตามเขาเข้าไปในส่วนของห้องครัวก่อนที่เขากะนั่งตรงเก้าอี้แล้วเริ่มทานอาหารที่ฉันเป็นคนทำให้อยู่ในระหว่างนั้นไม่มีบทสนทนาใดๆงสิ้นเพราะพี่ภัคเป็นคนที่ชอบทานอาหารเงียบๆมากกว่านั่งคุยกันตอนแรกๆฉันก็ยังไม่ชินแต่ตอนนี้ฉันชินแล้วแหละพี่เขานั่งกิน 15 นาทีก็หมดแล้วจึงหันมาบอกฉันว่า
“อร่อยมากครับ”
พูดแล้วยิ้มให้หนึ่งที
“ค่ะ” “พี่จะทำอะไรต่อคะ”
“เดี๋ยวพี่อ่านหนังสือต่อครับ”
“งั้นหนูกลับห้องไปทำรายงานของหนูก่อนนะคะ”
ฉันพูดแล้วเตรียมจะเดินออกมาจากห้องพี่ภัคเพื่อกลับห้องของตัวเองแต่พี่ภัคถึงชายเสื้อนักศึกษาของฉันเอาไว้ “คะ”
“เอามันมาทำในห้องพี่ได้ไหม? พี่คิดถึงน้อง”
ฉันไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่พยักหน้าให้พี่เขาแทนพี่เขาจึงปล่อยมือจากชายเสื้อนักศึกษาของฉัน ฉันเอารายงานที่ต้องส่งพรุ่งนี้มาทำในห้องพี่ภัคถึงแม้จะไม่มีการคุยกันเพราะต่างคนต่างสนใจกับสิ่งที่ตนเองกำลังทำอยู่ ฉันชอบนะอาจไม่ได้เป็นความรักที่หวานเหมือนคู่รักทั่วไปเพราะพี่ภัคเขาก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่าฉันหลายปีอยู่ฉันเข้าใจเขาแหละมันเป็นอย่างงี้มานานแล้วซึ่งฉันก็ไม่ได้รึ้กขาดหายไปชอบจังความรู้สึกในตอนที่เรามีกันละกันหวังว่าพรุ่งนี้และในทุกๆวันฉันก็ยังมีพี่ภัคอยู่กับฉันตลอดไปนะ
ภาคภู
วินวิ่งเข้ามาแบบหน้าตาตื่นมันทำให้ผมที่กำลังนั่งอ่านหนังสือตกใจไปกับมันด้วย
“มึงกูได้ข่าวมาว่าพริ้มมันคบอีกคนอยู่”
ช็อกครับบอกเลยตอนนี้ผมช็อกมากทำไมพริ้มทำกับผมแบบนี้ตอนนี้เกิดคำถามมากมายเข้ามาในหัวเราเช่นตลอดเวลาที่คบกันมาเธอเคยรักผมจริงๆบ้างไหมเคยจริงจังกับผมจริงๆไหมเธอเห็นผมเป็นตัวแทนของไอ้คนนั้นไหมมันทำให้ผมโคตรเสียใจ
“เฮ้ยยมึงอย่าร้อง”
ผมไม่รู้ตัวเลยอยู่ๆไอ้วินมันก็พูดขึ้นมาผมจับที่หางตาตัวเองมันมีน้ำใสๆไหลออกมาจากตาผมนี่ผมร้องไห้หรอทำไมล่ะ
“มึงรู้ได้ไง”
ผมอยากรู้จริงๆว่ามันเอาข่าวว่าพริ้มคบชู้มาจากไหน
“กูไปเห็นมากับตาว่าพริ้มอยู่กับผู้ชายอีกคนแล้วประเด่นคือไรรู้ปะผู้ชายคนนั้นแม่งใส่ชุดกาวเป็นหมอเลยครับมึง”
“เชี่ยยยยรุ่นหมอเลยหรอวะ“
“ใจเย็นอย่าคิดไกลหน้ายังไม่แก่ยังแบบดูโตกว่าพวกเราประมาณ 4-5 ปีเอง
อ๋อผมรู้แหละไอ้ภัคแน่ๆผมเคยเห็นเบอร์มันโทรมาหาพริ้มอยู่แต่ตอนนั้นพริ้มบอกว่าเป็นรุ่นพี่ที่รู้จักเฉยๆไม่ได้อะไรกันตอนนั้นผมก็เชื่อใจน้องเขานะแบบไม่คิดว่าน้องเขาจะมีชู้วะผมว่าผมไปหาไอ้ภัคที่คอนโดมันดีกว่าผมรู้ว่าคอนโดมันอยู่ไหนแต่ถ้าไปแล้วเจอพริ้มไม่ดีแน่ๆโทรถามพริ้มก่อนดีกว่าว่าพริ้มอยู่ไหนโทรไม่นานพริ้มก็รับสาย
“พริ้มน้องอยู่ไหน?”
“อยู่ซุปเปอร์นัองมาซื้อของเข้าหอค่ะ”
เข้าหอหรือเข้าคอนโดวะ
“พี่มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“เปล่าๆจะกลับกี่โมง”
“น่าจะเย็นๆๆนะพี่คือน้องยังไม่ถึงเลยตอนนี้รถติดอยู่เลย”
“ครับ”
จบผมวางสายจากเธอแล้วรีบไปออกรถไปคอนโดที่ไอ้ภัคมันอยู่ผมจะไปยำมันผมจะไม่ถามว่าพริ้มไปคบมันทำไมหรือไปทำร้ายพริ้มเพราะพริ้มผมรักเธอมากเกินกว่าที่ผมจะทำร้ายเธอได้ไม่ว่าด้วยคำพูดหรือการทำร้ายร่างกายเผลอเเปปเดียวผมมาถึงคอนโดที่ไอภัคมันอยู่แล้วไม่รู้ว่าตอนนี้มันอยู่คอนไหมถ้ามันไม่อยู่ผมคงมาเสียเที่ยวขอให้มันอยู่เถอะผมเข้าไปถามพนักงานว่าคนชื่อภัคที่เป็นหมออยู่ห้องอะไรพนักงานเขาคงเห็นว่าผมหล่อมั้งเลยบอกผมมาตอนนี้ผมอยู่หน้าห้องของไอ้ภัคแล้วผมเคาะประตูห้องมันไม่นานมันก็เปิดประตูออกมาหล่อดีแต่ไม่เท่าผมหน้าหวานเกินพริ้มชอบไปได้ไงวะ
“คุณเป็นใครครับมีธุระอะไรกับผมครับ?”
“ถามเรื่องพริ้ม”
ไอ้ภัคหน้าเสียทันทีเมื่อผมพูดชื่อพริ้มออกมา
“พริ้มทำไมหรอครับ?”
มันตอบออกมาอย่างหน้าด้านๆจึงทำให้ผมทนไม่ไหว ผมกระชากคอเสื้อมันแล้วต่อยไปทีนึงจนมันเซล้มลง
“มึงจะเอาไงว่ะ!!!”
ผมตระโกนพูดอย่างรุนแรง
“อะไรว่ะแล้วมึงจะเอาไงอยู่ๆก็เข้าห้องคนอื่นมาแบบนี้แล้วยังมาหาเรื่องกันอีก”  มันพูดตอบกลับผม
“มึงอย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่องเลยเหอะวะ มึงใช่ไหมที่แอบคบกับพริ้ม!!”ผมตะคอกใส่มัน
“แล้วไงหรอ?ก็พริ้มเค้ารักกูไง”  มันตอบกวนผม
“มึง!!!”
ผมโมโหและโกรธจัดและจึงเห็นมีดที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆและหยิบมันขึ้นมาด้วยความโกรธมากผมจึงเผลอแทงมันเข้าไปที่ท้องจากนั้นมันทรุดตัวลงไปนอนกับพื้น
“เฮ้ย!!”
ผมทำตัวไม่ถูกเห็นเลือดมันไหลกองเต็มกับพื้นผมรีบวิ่งออกมาจากห้องของมันและวิ่งไปที่รถของผมและรีบออกรถขับกลับคอนโดตัวเอง
ภาคพริ้ม
หลังจากที่ฉันกลับมาจากซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตฉันว่าจะไปหาพี่ภัคที่คอนโดพอมาถึงคอนโดพี่ภัคฉันจะเคราะห์ประตูแต่พี่ภัคไม่มาเปิดฉันจึงจะเปิดประตูแต่ประตูไม่ได้ล็อคฉันเลยสงสัยแต่ก็เปิดเข้าไปแล้วเจอกับพี่ภัคที่นอนอยู่บนพื้นตรงนั้นมีเลือดเต็มไปหมดฉันตกใจมากและรีบวิ่งเข้าไปหาพี่ภัค
“พี่ภัค!!!!”
ฉันเรียกสะกิดพี่ภัคแต่ก็ไร้วี่แววในการตอบฉันรนมากและทำอะไรไม่ถูกจึงรีบโทรแจ้งตำรวจหลังจากที่ฉันโทรแจ้งตำรวจตำรวจมาถึงก็พบมีดที่วางอยู่ข้างๆพี่ภัคตำรวจจึงมาบอกกับฉัน
“ผมพบมีดนี้ที่ข้างๆศพแล้วจะเก็บไว้เป็นหลักฐานพิสูจน์กับการตายของเขานะครับ”
ฉันฟังที่ตำรวจพูดแล้วก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างโศรกเศร้า จากนั้นฉันกลับมาที่ห้องแล้วก็นึกได้ว่าที่คอนโดมีกล้องวงจรปิดจึงวิ่งไปหาคนที่ดูแลคอนโดและขอดูกล้องวงจรปิด ฉันวิ่งมาถึงและถาม
“ฉันขอดูกล้องวงจรปิดหน่อยได้ไหมคะ”
พอหลังจากที่ฉันพูดเสร็จคนที่ดูแลคอนโดนั้นก็พาฉันมาที่ห้องที่มีกล้องวงจรปิดของคอนโดฉันให้เขาย้อนดูไปถึงตอนที่เกิดเหตุและฉันก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันไม่คาดคิดและคนคนนั้นก็คือ
“พี่ภู!!!!!”
ฉันช็อกไปและตกใจมากๆและฉันก็ไม่คิดว่าพี่ภูจะทำถึงขนาดนี้ฉันไม่คิดว่าพี่ภูจะฆ่าคนได้ลงขนาดนี้ฉันอยากจะร้องไห้ออกมาแต่มันก็ร้องไม่ออกฉันเหมือนคนเหม่อลอยและจากนั้นฉันก็ดับลงและทุกอย่างมืดไปหมด ฉันลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองตอนนี้อยู่ที่ห้องแล้วฉันมองไปรอบๆก็ไม่พบกับใครอีกเลยฉันพยายามจะไม่นึกถึงเรื่อง ตอนนี้ฉันเหมือนไม่เหลือใครทั้งพี่ภัคและพี่ภู
“เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้…”
ฉันโทรหาพี่ภูแต่ปลายสายนั้นติดต่อไม่ได้เลยฉันทักไปหาทั้ง เฟสบุ๊คไลน์อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ แต่พี่เขาก็ไม่ตอบอีกทั้งยังปิดบัญชีไปแล้วและฉันไม่รู้จะทำยังไงฉันจึงตัดสินใจปล่อยทุกอย่างและลืมเรื่องราวในวันนี้และเหตุการณ์ในวันนี้จะเป็นอดีตของฉันตลอดไป….
หลังจากวันนั้นวันที่เกิดเหตุการณ์นั้นได้ผ่านมาร่วมนับปีกว่าๆได้ฉันได้มาเริ่มต้นชีวิตใหม่และเรื่องราวในวันนั้นที่ฉันตัดสินใจเลิกลากับพี่ภูและเราทั้งสองไม่ได้ติดต่อหากันอีกเลยหลังจากเหตุการณ์วันนั้นฉันก็ไม่ได้รู้เกี่ยวกับพี่ภูอีกเลยแต่ฉันก็พอได้ข่าวพี่ภูมาบ้างว่าพี่เขาติดคุกจากเหตุการณ์ในเรื่องวันนั้น ฉันรู้สึกผิดในทุกๆเรื่องเช่นเดียวกันทั้งเรื่องที่ฉันแอบคบกับพี่ภัคทั้งๆที่ยังเป็นแฟนพี่ภูอยู่ฉันก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้เหมือนกันแต่หลังจากนี้ฉันก็ได้มาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งฉันพยายามทิ้งทุกอย่างและมาเริ่มต้นใหม่เป็นคนใหม่และฉันคิดว่าการที่ฉันอยู่ตัวคนเดียวมันน่าจะดีกว่าที่มีความรักเช่นกัน…

 

คำยืนยันของเจ้าของเรื่องสั้น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับเรื่องสั้นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา