แรดชิบหาย เมียอย่างมึง!

5.5

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.06 น.

  42 chapter
  66 วิจารณ์
  48.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

25) ตอนที่ 24

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 24

 

 

 

พีช

 

ผมถอดเสื้อกล้ามออกสวมชุดที่แขวนเตรียมไว้ให้สำหรับงานในคืนนี้ เข้าไปแทน มันใช่หน้าที่ผมไหมที่ต้องไปงานแทนไอ้คุณชายเล็กของบ้าน เหตุผลที่ไปไม่ได้ก็เพราะต้องไปเฝ้าเมีย เห้อ ไม่เป็นอันต้องทำอะไรแล้วเฝ้าแต่เมีย

 

“เพลงไปไหน?” ผมเอ่ยถามพ่อบ้านที่ยืนสงบนิ่งอยู่ไม่ไกล

 

“คุณชายกลางไปกับคุณท่านตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ”

 

หนีไปเที่ยวอีกตามเคย

 

“อืม บอกข้างล่างให้เตรียมรถ ฉันจะลงไปอีกสิบนาที” ผมสั่งการน้ำเสียงหงุดหงิด บ้านออกใหญ่โตไม่มีใครเคยติดบ้านสักคน

 

“ครับ”

 

มือของพีชแตะเบา ๆที่ขวดน้ำหอมหยิบขึ้นมาฉีดใส่ตัวหลับตาดมกลิ่นประจำตัวที่ขาดไม่ได้ ผมเชิดอกขึ้นรู้สึกมั่นใจพร้อมที่จะปั้นหน้าเข้าสังคม ไปคนเดียวมันเหงาแปลก ๆ

 

ร่างสูงใหญ่เดินตัวตรงลงมาใบหน้าเรียบเฉย พีชไม่ชอบงานสังคม ไม่ชอบจะผูกมิตรกันเพียงเพราะผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทำไมทำการค้ามันถึงได้ยุ่งยากไม่เหมือนการถ่ายภาพสักนิด อิสระที่มีไม่จำกัด จินตนาการเพียงแค่ปลายนิ้วกด มุมมองที่เปลี่ยนไปตามความคิดที่โลดแล่น

 

เมื่อไหร่ตารางงานเดือนนี้จะมานะ

 

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่หยุดยืนอยู่หน้างาน มองเข้าไปภายในก็อยากจะหมุนตัวกลับไปที่รถ ป๋ารีบกลับมาตอนนี้ได้ไหมครับ พีชไม่ชอบเลย

 

 “พี่น่านรอน้องด้วย” เสียงคุ้นหูดังไม่ไกล ผมเอียงหน้าหันไปมองทางขวามือตัวเองใบหน้าตึงที่เห็นน่านฟ้ามาในชุดเดรสสั้นสวยสมวัย มองเลยไปเป็นต้นน้ำและน่านน้ำที่เดินดิ่งเข้ามาหา

 

“ว่าไง หน้าไม่รับแขกเลยนะ” น่านน้ำเอ่ยล้อมือมาแตะบ่าโอบเข้าไปด้วยกันข้างใน ผมขืนตัวออกห่างเดินข้างกัน

 

“แค่ยี่สิบนาทีพีชจะกลับ” ผมเลือกที่นั่งด้านหน้าเมื่อมีคนเชิญให้นั่งตรงนี้ คนที่เหลือทยอยกันนั่งตาม

 

ต้นน้ำเหลือบมองร่างสูงของพีชที่อยู่ในสูทขาวดูเรียบร้อย กลิ่นน้ำหอมประจำตัวฟุ้งมาแตะจมูก พีชยังคงใช้กลิ่นที่เขาชอบ ใบหน้าเข้มเปื้อนยิ้มพอใจ

 

“น้ำยิ้มอะไร” น้ำเสียงใสกับใบหน้าหวานหันมามองต้นน้ำ

 

“อะไร? “

 

“อย่าคิดว่าฟ้าไม่รู้นะ” น่านฟ้าอมยิ้ม

 

ต้นน้ำนิ่งเงียบคิดว่าน่านฟ้ารู้อะไรเกี่ยวกับพีชและเขาเข้ารึเปล่า ความกังวลใจก่อตัวขึ้นเล็ก ๆ ไว้วันหลังค่อยบอกถึงรสนิยมความชอบของเขาแล้วกัน จะรู้ก็รู้ไป ในเมื่อมันก็หนีข้อนี้ไม่พ้น

 

“อะไรของแกยัยฟ้า?” พี่ชายเอ่ยถามสงสัยในคำพูด

 

“ก็เพื่อนฟ้าไง แอบอมยิ้มด้วยนะ สงสัยแอบชอบสาว ๆในงาน คนไหนกันนะ”

 

“หึ ขอให้เป็นสาวเถอะ กลัวจะไม่ใช่นี่สิ อาจจะเป็นคนแถว ๆนี้” น่านน้ำเหล่มองมาทางพีช ต้นน้ำมองตามสายตาของพี่ชายเพื่อน พีชหรือจะกล้าเล่าให้น่านน้ำฟัง

 

“พูดอะไรของพี่กัน ว้าว! เขาเดินแบบกันแล้วพี่น่าน”

 

ไฟในห้องงานดับลงสว่างจ้าส่องไปบนเวทีที่มีพิธีกรชายหญิงออกมากล่าวเปิดงานในครั้งนี้ พีชอาศัยความมืดมองไปทางต้นน้ำที่ปรบมือให้กับพิธีกรที่เริ่มจะกล่าวขึ้น

 

“สวย ๆ กันทั้งนั้นเลยเนอะพี่น่าน” น้องสาวกระซิบคุยกับพี่ชาย น่านน้ำพยักหน้ามองตาพราว

 

“อยากได้เป็นพี่สะใภ้สักคนไหมล่ะ”

 

“ไม่! แฟนพี่น่านต้องผ่านด่านฟ้าก่อนนะคะ”

 

“ยัยแก่แดด ดูพูดจาเข้า” น่านน้ำโยกหัวน้องสาวเอ็นดูเหลือบมองไปด้านหลังเห็นพีชมองต้นน้ำผ่านความมืด แต่อีกคนกลับไม่สนใจหรือแกล้งไม่สนใจกันแน่

 

น่าสนุก

 

“คุณต้นน้ำสนใจคนไหนเหรอครับ” น่านน้ำเอ่ยปากถาม

 

“ครับ? ไม่ได้สนใจคนไหนนี่ครับ”

 

“เห็นมองตาไม่กะพริบผมก็นึกว่าติดใจใครเข้า นางแบบพวกนี้ผมรู้จักนะ ไว้จะติดต่อให้” ผมหันขวับมามองทางเพื่อนชายตัวดี คราวนั้นก็จับคู่ให้น้องสาวตัวเอง มาครั้งนี้ก็จะหาสาวให้อีก

 

เดี๋ยวนายไม่ตายดีนะน่าน

 

“อืม งั้นถ้าสนผมจะบอกนะครับ” ต้นน้ำก็เล่นด้วย จะสนใจใครได้อีกเมื่อตัวเขารอแค่คน ๆเดียว คนที่นั่งงข้างกอดอกจ้องตาเขียวอยู่นี่ไง

 

กึก

 

อะไร? ใครเตะขาผม?

 

เปิดผ้าเลิกขึ้นมองหาตัวต้นเหตุก็เห็นเป็นน่านน้ำที่ยิ้มกริ่มมีเลศนัย นิ้วเรียวแตะหน้าจอสี่เหลี่ยมของตัวเองพร้อมทั้งชี้มาทางหน้าจอของผม เหมือนจะสื่อให้เปิดดู ผมก็หยิบขึ้นมาเปิดเจอข้อความทางไลน์ที่เด้งขึ้น

 

‘จิมมางานนี้ด้วย น่านเพิ่งเห็น พีชจะกลับเลยไหม’

 

ผมมือสั่นรู้สึกกลัวเพื่อนสารเลวคนนี้ อดีตที่เลวร้ายกับความทรงจำที่ชมชื่นกลับตีรวนขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าซีดเผือกเด่นชัดขึ้นเมื่อไฟกลับสว่างขึ้นอีกครั้ง ต้นน้ำหันมาสังเกตเห็นอาการที่เริ่มไม่ปกติมือลอดใต้ผ้ามาวางบนต้นขาของพีช

 

สายตาทั้งคู่สบกันก่อนพีชจะยื่นโทรศัพท์ให้ต้นน้ำดู เขาเห็นข้อความดังกล่าวบีบต้นขาพีขให้เลิกกังวล พีชส่ายหน้าน้อยเมื่อรู้อีกคนคิดเช่นไร

 

พิธีกรกล่าวจบปล่อยให้แขกชมการแสดงถัดไป จิมที่เดินเชิดออกมาแสดงภาพถ่ายฝีมือของเขาที่จะเป็นแบบบนเสื้อผ้าของชุดในคืนนี้ด้วยความภาคภูมิใจ แขกในงานพากันปรบมือชื่นชมกับความสามารถของเด็กคนนี้ที่อายุยังน้อยแต่มีผลงานในวงการ

 

ภาพนั้นมัน

 

“เฮ้ย! ทำไม…” น่านน้ำร้องตกใจตามองภาพที่แสดงโชว์สลับกับมองเพื่อนชายที่อึ้งไม่แพ้กัน

 

เพื่อนชั่ว ภูมิใจนักใช่ไหมขโมยงานของคนอื่นเขาไป

 

“สวยใช่ไหมล่ะคะ ฟ้าว่าโคตรสวยเลยพี่น่าน ถ้ามันได้มาอยู่บนเสื้อคงเหมาะเจาะขายดีมากเลย” น่านฟ้าเอยปากชมคิดว่าพี่ชายตะลึงเสียเต็มประดา

 

“มันใช่ที่ไหนกันล่ะ ภาพนั้นมันของพีชนะ ทำไมไปอยู่ที่จิมได้”

 

ผมลุกขึ้นยืนไม่สนใจแขกที่มองมาเป็นตาเดียว แน่นอนสิ ผมนั่งหน้าและยืนคืนในขณะที่ภาพยังคงฉายไปเรื่อย จิมตกใจอ้าปากค้าง ไม่คิดล่ะสิว่าผมจะมางานสังคมแบบนี้ด้วย ไม่แปลกหรอกที่คนส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าผมเป็นลูกชายคนโตของสวรรยา

 

………………………………………………………..

 

ต้นน้ำ

 

ผมเงยหน้ามองพีชที่ลุกขึ้นยืนตาจ้องไปที่จิมบนเวที มือบางกำแน่นกำลังโกรธจัดจนสีหน้าแดงก่ำ ไฟดับลงอีกครั้งเพื่อดึงความสนใจให้มาอยู่ที่บนเวทีแทน แต่ก็สายไปแล้ว พีชเดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมประชันหน้ากับอดีตเพื่อนที่ปรับหน้าเรียบเฉย

 

“ขอโทษนะคะ งานกำลัง…”

 

“จิม!! พีชว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน” น้ำเสียงเกี้ยวเอ่ยเข้มยื่นมือไปกระชากแขนเพื่อนให้ตามไปด้วยกัน แต่อีกคนปัดมือออกเรียกพนักงานให้มาจัดการลากพีชลงไป

 

ผมลุกขึ้นยืนพร้อมแขกเรื่อที่เริ่มสนใจและซุบซิบนินทาถามถึงคนที่ขึ้นไปป่วนงาน ดีหน่อยที่แค่งานเล็ก ๆ ไม่ใหญ่อลังการจนมีนักข่าวเป็นพรวน แต่แค่นี้ก็ไม่น่ายากที่จะมีหน้าพีชบนหนังสือพิมพ์

 

“พีชลงมา” ผมเป็นฝ่ายเดินตัดหน้าน่านน้ำไปเรียกพีชบนเวที พีชไม่ฟังยังคงยืนกระชากแขนจิม

 

“อะไรกัน!! พวกคุณทำงานกันยังไงให้มีใครไม่รู้ว่าทำร้ายร่างกายผมได้” จิมโวยวายปัดมือออกจากการจับกุม พนักงานที่ทำหน้าที่ดูแลงานนี้พากันกรูมาจับแขนพีชไว้คนละข้างพยายามลากออกมา

 

“ปล่อยผม!!! ภาพนี้มันของผมไม่ใช่ของเขา!!!”

 

“อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ!! ลากมันออกไปก่อนผมจะฟ้องร้องและถอนงานนี้ทิ้ง”

 

“หยุด! ปล่อยมือจากเขาซะ ผมสั่ง!!” พอทีกับความอดทนของความมักง่าย ผมตะโกนก้องให้ได้ยินกันให้ทั่ว ไม่อยากจะยอมรับตอนนี้เลยให้ตาย ถ้าต้นข้าวรู้มีหวังบ่นผมหูชาแน่

 

ก็เจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าในวันนี้มันเป็นของผมยังไงล่ะ….

 

“คะ คุณตฤณ…” เสียงพนักงานที่คุมงานทั้งหมดเอ่ยเรียกชื่อผมสั่นรัว ทำงานกันยังไงถึงไม่รู้ว่าชิ้นงานเป็นของใคร มีคนมาเสนอก็สนองไม่ลืมหูลืมตาเช็คให้ดี

 

“ผมบอกให้ลากมันออกไปไง!!! จะไปฟังไอ้บ้านี้ทำไมกัน หึ หน้าอย่างนายมางานนี้ได้ด้วยหรือไง” คำเยาะเย้ยกับใบหน้าดูถูกเต็มที่ฉายออกมาไม่มีปิดกั้น จิมยิ้มเลิกคิ้วสะใจที่ได้เล่นอะไรสนุก ๆ

 

“คุณ!! ทำไมพูดอย่างนั้นกับ…” ผมยกมือห้ามพนักงานคนนั้น

 

“นั่นสิครับ กล้ามางานนี้ได้ยังไง”

 

“รู้ตัวนี่  ถ้ารู้แล้วก็พาเจ้านายของนายกลับไปด้วยแล้วกัน ทำคนอื่นเขาวุ่นวายไปหมด”

 

“ใช่ ควรจะออกไปได้แล้ว” ผมยังคงพูดตอบรับไม่มีคัดค้าน

 

น่านน้ำเดินเข้ามาหาพีชแตะศอกให้กลับไปด้วยกัน ถ้าบุ่มบ่ามไปตอนนี้คงมีแต่เสียกับเสีย น่านฟ้ากำลังงงและไม่เข้าใจอย่างมาก สงสัยว่าเพื่อนชายเธอทำไมไปยืนตรงนิ่งตรงนั้นโดยไม่มีใครกล้าไปยุ่ง

 

“น้ำ!! พีชไม่ยอมนะ นั่นมันภาพของพีช” ผมไม่รู้ว่าภาพที่ขึ้นจอมันของใคร แต่พีชไม่เคยโกหกเลยสักครั้ง แต่กับคนอย่างจิมมันไม่ใช่ และอภัยให้ไม่ได้เด็ดขาด!

 

ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเก่า ครั้งนี้ผมจะพูดและจัดการคน ๆ นี้ให้สมกับความผิดที่ก่อ

 

“ได้ยินแล้วนะครับคุณสา ภาพนั้นเป็นของคนที่คุณเพิ่งสั่งให้ลูกน้องลากลงมา หรือจะให้ผมจัดการเองดี” หัวหน้าที่ชื่อสาก้มหน้ารับผิดหลับตาไม่กล้าเผชิญหน้ากับเจ้านายโดยตรง เอาแต่พยักหน้าเข้าใจ

 

“ปล่อยคุณคนนั้นแล้วมาจับคนหลอกลวงนี้ไว้ อย่าให้หนีไปได้” สาสั่งการ จิมหน้าซีดหวีดร้องให้ปล่อยใบหน้าเคียดแค้นมองพีชสลับกับต้นน้ำ

 

“อะไรกันวะ!! จะไปฟังไอ้คนใช้มันพูดทำไม นี่ภาพของผมนะเว้ย!!”

 

“ไม่ใช่!! ถ้างั้นช่วยบอกมาสิว่าภาพนี้มันถ่ายที่ไหน?! เมื่อไหร่?!” จิมอึกอักเพราะมันไม่ใช่ภาพสถานที่ทั่วไป ตอนวางแผนให้ขโมยมาก็ไปได้ดูเลยว่ามันคือภาพอะไร เพียงแค่ได้มาแล้วน้ำเสนอไปทั่วจนมาจบที่ผู้ให้เงินเยอะกว่าใคร

 

“ตอบไม่ได้ หึ นายมันเลวจิม!!!” พีชเดินดุ่มง้างมือจะชกลงบนหน้าจิม ผมเข้าไปยื่นแขนป้องเอาไว้ได้ทัน

 

“ช่วยวางตัวให้สมกับเป็นสวรรยาด้วยพีช ผมช่วยคุณได้แค่เรื่องภาพ แต่ข่าวทางสังคมจะมองคุณยังไงกัน”

 

“แต่มัน…ฮึย! พีชไม่ยอมนะ ยังไงก็ไม่ยอม”

 

“ครับ รู้แล้ว แต่ยังไงภาพพีชของต้องเป็นของผมนะครับ ส่วนเรื่องเงินค่อยมาตกลงกันอีกที”

 

“ไม่สนใจเงิน แต่น้ำต้องจัดการจิมให้พีช พีชไม่ยอม”

 

ดื้อด้านไม่เปลี่ยน ตระกูลนี้มันจะมีแต่คนหัวรั้นรึยังไง

 

ผมส่ายหน้ายิ้มหันมาตีหน้าเหี้ยมกับจิมที่สองแขนโดนล็อคไม่ให้ขยับ คงรู้แล้วล่ะว่าตัวเองจะโดนอะไร แต่ไม่วายตะส่งเสียงถากถางออกมาประจานพีชและผมกับเรื่องราวในอดีตอีก

 

“ตกลงได้กันแล้วเหรอ พีชรสนิยมเขาชอบผู้ชายนะครับ เห็นหน้านิ่งแบบนี้ร้ายไม่เบาเลย เอ๋ รู้สึกจะอกหักถึงขั้นหนีไปเมืองนอกเก็บตัวไม่กล้ากลับไทยเลยไม่ใช่เหรอ” จิมยังคงไท่หยุดที่จะประจานพีชให้คนอื่นได้รับรู้

 

“ที่พูดหมายถึงพีชหรือตัวเองกันแน่ครับ จากประวัติตอนนี้คุณโดนสามีทิ้ง ตกงานติดหนี้ก้อนใหญ่เลยนี่ ยังไงครับคุณหนูจิม” น่านน้ำออกโรงปกป้องเพื่อนยอมเป็นคนปากหมาสักวัน

 

“นาย!!”

 

“ครับ ผมน่านน้ำเพื่อนพีชอีกคนไง ไม่ต้องห่วงนะครับ เรื่องที่คุณโดนรุมโทรมเพราะความมักมากของตัวเองผมจะไม่บอกใครเลย” จิมกัดฟันแน่นสายตากวาดมองผู้คนที่มองเขาสายตาไม่อยากจะเชื่อ

 

“ปล่อย! ผมจะกลับ เราคงไม่ได้เจอกันอีกนะ” จิมสะบัดตัวดิ้นแต่ไม่มีใครยอมปล่อยมือรอคำสั่งจากต้นน้ำเท่านั้น

 

“เห็นทีจะไม่ได้ ขอให้สนุกกับที่นอนใหม่นะครับ ไว้ว่าง ๆ ผมจะไปเยี่ยม” ผมพูดร้ายออกไปสั่งคนให้โทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียบร้อย ก่อนจะมีคนในเครื่องแบบเดินเข้ามาจับจิมเอาไว้

 

จิมไม่ปล่อยให้ตัวเองลำบากนานหรอก ต้องมีคนเข้ามาช่วยแน่นอนอย่างไม่ต้องเดา แต่ผมก็มีแผนสำรองที่จะไม่ให้ผู้ชายคนนี้มายุ่งวุ่นวายที่ไทยได้อีก หึ ไปอยู่ในที่ ๆเหมายสมกับนายนะจิม

 

ผมเกลียดใครแล้วมันไม่ได้ดีสักคน

 

…………………………………………………………………………

 

เพทาย

 

ผมรอต้นข้าวเลิกงานระหว่างนั้นก็กลับไปทำงานที่ค้างจนหมด เรียนหนักแต่ได้กำลังใจดีมันก็มีแรงจะสู้ต่อไป ถ้าไม่มีต้นข้าวชีวิตผมมันคงจมอยู่กับการเที่ยวและผู้หญิงมากหน้าหลายตา สายตามองนาฬิกาที่แขวนติดผนังบอกเวลาที่ใกล้เลิกงานเต็มที ก่อนจะกลับก็คิดจะสั่งเค้กไว้สักปอนด์เอาใจเมียที่น่ารักสักหน่อย

 

“รอนานไหม” ต้นข้าวเดินเข้ามาหาผมส่งยิ้มละมุนปาดเหงื่อที่ไหลลงมาตามไรผม ต่อให้อากาศเย็นแค่ไหนก็ขี้ร้อนจนต้องพกพัดติดตัว

 

“ไม่นาน จะกลับยังล่ะ วันนี้พี่เมียออยู่ไหม”

 

“ไม่ ๆ เห็นว่าไปทำงานกลับดึกเหมือนเดิม จะกลับเลย? อยากเที่ยวตลาดนัดกลางคืนก่อนอ่า” น้ำเสียงเอาแต่ใจร้องขอ พร้อมหยีตาฉีกยิ้มน่ารัก

 

“ไม่กลัวพี่มึงมาเห็นรึไง”

 

“ไม่กลัว พี่ต้นน้ำไม่เที่ยวอะไรแบบนี้หรอก นะ ๆ ไปกัน” ไม่พูดเปล่ายังจับแขนผมเขย่าให้ยอม

 

แพ้ความน่ารักเมียเข้าทุกที

 

ผมลุกขึ้นยืนหยิบเสื้อแขนยาวสวมให้ต้นข้าวใส่ เดินมาหน้าเคาน์เตอร์สั่งเค้กสองปอนด์สำหรับของผมและเมีย พี่พิมเป็นผู้หญิงที่สาวและใจดีในความรู้สึกที่ได้เจอบ่อย ๆ ก็เมียอยู่นี่จะให้ไปไหน ถึงไม่ต้องบอกก็คงจะรู้ว่าผมกับต้นข้าวเป็นอะไรกัน เจ้าตัวเล่นนั่งจับแก้มนั่งเกาคางผมกลางร้านเหมือนเป็นของเล่นแก้เครียด

 

เอาเถอะ คนในร้านจะได้รู้ว่าคนนี้เมียผม

 

“อ้าว ลมกลับแล้วเหรอ” ผมหันไปมองเด็กชื่อลมที่เคยเจอกันไปครั้งนึง ต้นข้าวเดินเข้าไปทักทายคุยด้วยอย่างสนิทสนม ผมหันกลับมาทางเดิมไม่อยากมองภาพหงุดหงิดจนพาลเหวี่ยงเมียเข้า

 

“ครับ พี่ข้าวยังไม่กลับอีก”

 

“ยัง พี่ว่าจะไปเดินตลาด ไปด้วยกันไหมล่ะ” ผมดึงเสื้อต้นข้าวให้เข้ามาใกล้ ก้มหน้าลงไปกระซิบว่าจะชวนทำไม

 

“ไม่ดีกว่าครับ” ก็ดี ผมแยกเขี้ยวขู่ฝ่อ ต้นข้าวเงยหน้ามามองตีบนต้นแขนล่ำ

 

“นิสัยไม่ดี”

 

“เจ็บนะเมีย ก็เค้าจะไปกับเมียสองคนอ่า” ผมลูบแขนตัวเองพูดกลับเบา ๆ

 

“ทำเป็นพูดดี อ้ะ กูลืมของไว้ในห้องว่ะ เดี๋ยวมานะ” เมื่อนึกขึ้นได้ต้นข้าวกลับเข้าไปในห้องพักพนักงาน พิมยื่นกล่องเค้กให้เพทายพอดีกับมีสายเข้าจากเตชิน ลมเห็นว่าไม่มีใครก้าวเข้ามายืนประชิดร่างกำยำ

 

“เฮ้ย!!” ผมร้องเสียงหลงตกใจที่เห็นไอ้เด็กลมมันยืนซะติด จึงถอยออกมาเอาเค้กเป็นตัวกั้น

 

“พี่เรียนวิศวกรรมโยธาใช่ไหมครับ ไว้สอบเสร็จจะไปสมัครนะ” ลมยิ้มมือยื่นแตะเพทายที่บ่ากว้าง

 

ผมใช้มือข้างที่ว่างปัดมือมันออก ต่อหน้าคนอื่นก็ดูสุภาพบุรุษเด็กเรียบร้อยแต่ทำไมตอนนี้เหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคนได้วะ

 

………………………………………………………………..

 

ต้นข้าว

 

อ้ะ!

 

ผมชะงักเท้าที่เดินอยู่แอบมองไอ้หล่อกับลมคุยกัน มือลมแตะลงบนบ่าของไอ้หล่อจนมันสะดุ้งดันตัวถอย ความรู้สึกแปลกมันแล่นเข้าในอก ความคิดเริ่มสวนทางกันภายในหัว ไม่หรอก ลมไม่น่าจะชอบผู้ชายด้วยกัน

 

“ต้นข้าว! เสร็จยังวะ” เสียงไอ้หล่อตะโกนดังเอ่ยเร่งผม ลมหันมามองทางด้านหลัง ผมรีบหลบกลับเข้าไปในห้องแกล้งเดินออกมาเหมือนไม่รับรู้เหตุการณ์เมื่อครู่

 

“ขี้บ่น” ผมพึมพำเบา ๆ

 

“นานว่ะ ทำไมเมียโคตรนานเลย” ไอ้หล่อมันเน้นย้ำสถานะ ปกติผมจะด่ามันกลับแต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้ถึงชอบที่มันจะพูดขึ้นมา

 

“ไม่เห็นจะนาน แล้วลมยังไม่กลับอีกเหรอ” ผมถามลมที่มองมือผมที่คล้องแขนล่ำอยู่

 

“กำลังกลับครับ ไว้เจอหันใหม่นะพี่ข้าว สวัสดีครับ” หรือผมจะรู้สึกไปเองว่าไว้เจอกันใหม่ของลมไม่ได้สื่อถึงผม เพียงแค่ฉีกยิ้มกลับไปไม่ได้โต้ตอบอะไร

 

ร่างหนาของลมเดินผ่านเราไปแต่ไม่วายสายตาจะหันมามองเพทาย ผมรับรู้ถึงรังสีแห่งความร้ายในตัวของเด็ก ม.ปลายคนนี้ อยู่กันมาตั้งนานไม่เห็นจะมีวี่แววสนใจใคร แต่การกระทำวันนี้มันชัดเจนว่าเป้าหมายคือไอ้หล่อ

 

……………………………………………………………………

 

 TBC.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา