แรดชิบหาย เมียอย่างมึง!

5.5

เขียนโดย LemonNest

วันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.06 น.

  42 chapter
  66 วิจารณ์
  48.61K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 21.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

26) ตอนที่ 25

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 25

 

 

 

จิม

 

“ปล่อย บอกให้ปล่อยไงวะ!!” ผมสะบัดตัวเองออกมาจากมือโสโครกของไอ้พวกชั้นต่ำ มันกล้าดียังไงมาจับผมโยนออกจากงาน

 

ครั้นจะคิดหนีก็เป็นการยาก ตำรวจในเครื่องแบบสองนายเดินอาดเข้ามาล็อกกุญแจมือผมเอาไว้ทั้งสองข้าง ไม่มีทาง! ผมจะไม่ยอมนอนในห้องขังเส็งเคร็งนั่นให้เสื่อมเสีย

 

“ฝากด้วยนะครับ” ต้นน้ำพูดไว้วานตำรวจที่รู้จักกัน ผมเจ็บและแน่นอยู่ในอกสายตาจ้องมองไอ้อดีตเพื่อนหน้าโง่ที่ยืนอยู่ข้างไอ้คนใช้ของมัน

 

คิดจะเสวยสุขอยู่บนความทุกข์ของกูมันไม่ง่ายหรอก!

 

จิมคิดแค้นใบหน้าถมึงทึงกวาดตามองหาทางหนีทีไล่ โดนจับไปก็ไม่มีใครรู้จักมาประกันตัวให้ หนีรอดไปได้ก็คงต้องหนีไปทั้งชีวิต ทำยังไงดี เราจะทำยังไงดีกับสถานการณ์ตอนนี้

 

ในขณะที่ต้นน้ำกำลังคุยกับตำรวจพีชก็หันมาเห็นจิมจ้องปืนที่เหน็บข้างของตำรวจอีกนายนิ่ง ปากร้องตะโกนลั่นแต่ไม่ทันนิ้วเรียวที่เหนี่ยวไกปืนมาทางต้นน้ำ พีชเอาตัวเข้ามาขวางก่อนจะโดนลูกกระสุนสาดเข้าที่แขนขวา ศีรษะกระแทกปูนแข็งล้มพับไป

 

“พีช!!!” ต้นน้ำรับร่างสูงของพีชเอาไว้ในอ้อมแขน ความโกลาหลเกิดขึ้นเมื่อจิมหนีไปตามซอกตึกที่ทิ้งร้าง

 

ผมวิ่งหนีไปตามทางเลี้ยวที่พอจะหลบหลีกได้ ซ่อนตัวก้มหน้านั่งอยู่ข้างถังเปล่ามือปิดจมูกกันสิ่งเหม็นที่โชยออกมาจนแสบจมูก เหล็กสีเงินที่คล้องกับข้อแขนจะดึงยังไงก็ไม่มีวันออกได้ถ้าไม่มีลูกกุญแจ มองเห็นหินหนักข้างตัวความคิดจะหลุดพ้นฉายขึ้นในหัว

 

ไม่ลองไม่รู้

 

กึก กึก

 

เสียงก้อนหินกระทบเหล็กหนาที่ออกแบบมาเป็นอย่างดีดังก้อง จิมเหลือบมองตำรวจก่อนจะทุบหินลงบนกุญแจมืออีกครั้ง

 

“ชิบ! ทำไมมันออกยากออกเย็นจังวะ” เสียงบ่นพึมพำปาหินทิ้งด้วยความโมโห

 

เสียงฝีเท้าดังใกล้เข้ามา จิมหยุดการกระทำทุกอย่างลงย่อตัวซ่อนให้แนบเนียนที่สุด ร่างใหญ่ของตำรวจที่เพิ่มมาหลายนายมองหาเขาให้ควั่ก

 

ตึก ตึก ตึก

 

เสียงรองเท้าหนักเหยียบลงบนพื้นทางเดินคืบคลานเข้ามาในระยะประชิด ตำรวจนายหนึ่งเล็งปืนส่ายไปทั่ว เหมือนค้นพบทางสว่างมองไปด้านหลังตัวเองเห็นแสงไฟของรถยนต์วิ่งแล่นไปมา เท่ากับว่าถ้าหลุดไปจากตรงนี้ได้เราก็จะรอด เพียงแค่ใช้ปืนขู่มีเหรอใครจะไม่ยอม

 

“เจอไหมครับ” น่านน้ำวิ่งมาถามเหงื่อแตกพลั่ก ผมเกลียดมัน รอให้กูหลุดไปได้ก่อนเถอะ กูจะจัดการมึงให้ลงนรกไปพร้อม ๆ กับไอ้พีช

 

“ทางเรากระจายกำลังและวอบอกทุกพื้นที่แล้วครับ ไม่มีทางรอดไปได้แน่”

 

หึ กูจะรอดให้ดู

 

สองขานั่งยอง ๆ ถอยหลังทีละก้าวช้า ๆ มือแนบกับพื้นเย็นประคองตัวเองไม่ให้หงายหลัง จิมลุกขึ้นยืนเมื่อพ้นจากซอกตึกเหม็นตรงเข้าไปขวางรถยนต์คันหนึ่งจ่อปืนขู่ให้ลงมา แทรกตัวเข้าไปนั่งที่คนขับสตาร์ทรถออกไปด้วยความเร็ว

 

“พวกโง่ คนอย่างกูไม่มีวันเป็นหมาจนตรอกให้มึงมาดูถูกกันได้ง่าย ๆ” เสียงเย้ยหยันเอ่ยขึ้นแสยะยิ้มมุมปากหักพวงมาลัยจอดรถทิ้งข้างทางเมื่อข้างหน้าคือด่านตำรวจ

 

ผมวิ่งเข้าไปในป่ามองสายตาก็สาดส่องมองไปรอบ ๆ เห็นบ้านคนตั้งเด่นอยู่ไม่ไกลมากนัก สมองครุ่นคิดแผนการล่วงหน้า สองเท้าจ้ำอ้าวแสร้งใบหน้าเศร้าเดินไปเคาะประตูบ้านหลังนั้น

 

ก๊อก ๆ ๆ

 

ผมจะต้องบอกว่าโดนโจรจับตัวมา ต้องเล่าว่ามันกำลังตามฆ่าและตอนนี้ผมกำลังต้องการที่พักอาศัยชั่วคราว ถ้าเขาช่วยผมจะให้เงินก้อนโตเป็นค่าตอบแทน ใช่! ทุกอย่างมันลงตัว

 

“….หืม…ว่าไง” เสียงยานครางของชายวัยรุ่นหน้าตาน่ากลัวเอ่ยขึ้นมือจับประตูเปิดค้างเอาไว้

 

เหม็นกลิ่นเหล้า อี๋ โสโครกน่ารังเกียจ

 

“ขอโทษครับ ผมถูกโจรไล่ฆ่ามา ขอพักอาศัยชั่วคราวได้ไหมครับ” เมื่อไม่มีทางเลือกมากนัก ยังไงซะคืนนี้ก็ต้องหาที่นอนให้ได้ก่อนแล้วกัน ชายเจ้าของบ้านตาปรือกวาดตามองร่างจิมหัวจรดเท้า

 

“โจรงั้นเหรอ? หึ เข้ามาสิครับ” มันเอามือสกปรกมาแตะแขนผมและกระชากดันตัวเข้ามาข้างใน มีเพื่อนมันอีกหลายคนนั่งล้อมวงกินเหล้ากันอยู่ สายตาคนในบ้านมองผมเป็นจุดเดียว

 

กลัว

 

ผมหันหลังเตรียมหนี มือใหญ่ผลักผมติดกำแพงกระชากกลุ่มผมกำแน่นบีบคางผมให้เงยหน้าขึ้น หมัดหนักต่อยลงที่ท้องจนผมร้องไม่ออกทรุดตัวนั่งยองที่พื้น

 

“ผิวนิ่มดีนี่หว่า ไงวะ หลงเข้ามาให้กูกินถึงที่” มันมองสายตาโลมเลียมือรูดซิปกางเกงลง ผมเบี่ยงหน้าหนีตัวสั่นลมหายใจกำลังจะหมดลง

 

“อย่าเข้ามา…อึก…ไอ้คนน่ารังเกียจ…” ผมหลีกหนีมือร้อนที่แตะเนื้อตัวผมสัมผัสใบหน้าไล้นิ้ววนมาลูบแก้ม

 

“มันว่ากูน่ารังเกียจว่ะ ฮ่า ๆ ๆ” มันหันไปคุยกับเพื่อนมันยกเท้าถีบผมให้ลมลงกองกับพื้น

 

“อีคุณหนูตกยาก มึงอย่ามาปากดีในถิ่นกูนะ คืนนี้เรามาสนุกร่วมกันดีกว่า…หืม…กูก่อนเป็นไง”

 

เงาดำทะมึนทาบทับลงมาบดบังแสงจากไฟนีออนเห็นเป็นรูปร่างของมัน ผมขดตัวมือกุมท้องที่เจ็บพลิกตัวคลานไปตามทางเดิน  ผมผวาเฮือกมีมือมากระชากหัวขึ้นมองไปด้านหลังก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อมันควักสิ่งที่สกปรกออกมาถูไถกับบั้นท้ายของผม

 

“ไม่!!! เพี้ยะ!” เสียงของผมร้องดังพร้อมกับมือที่ฟาดลงมาบนก้อนเนื้อนิ่ม สีหน้ามันสะใจกวักมือเรียกเพื่อนอีกคนมาช่วยถอดเสื้อผ้าผมออก ผมดิ้นสุดแรงใจจะขาดที่เห็นกางเกงของตัวเองล่นลงไปรั้งไว้ที่สะโพก ภาพอุจาดตาที่แม้แต่ตัวเองยังรับไม่ได้

 

ฮึก…

 

น้ำหยดใสร่างเผาะลงกับพื้น ภาพเก่าไหลย้อนเข้ามาในหัวของผม ผู้หญิงมากมายที่ผมทารุณกรรมเยี่ยงสัตว์เดรัจฉาน น้ำตาของพวกเธอที่ร้องขอความสงสารเมื่อรู้ว่าตัวเองจะถูกส่งไปที่ใด ผมยิ้มร้ายและสั่งคนจัดการโดยไม่รู้สึกสงสารหรือเห็นใจสักนิด สิ่งที่ต้องการมีเพียงเงิน

 

เพราะผมเชื่อว่าเงินมันจะให้ความสุขกับเราได้ทุกอย่าง

 

หนุ่มนักเรียกนอกที่ต้องดิ้นรนหาเลี้ยงตัวเองมันจะมีสักกี่คนที่อยากจะคบเป็นเพื่อน ถ้าผมไม่สร้างภาพว่าเป็นคนรวยมีฐานะดีเพื่อนจะพากันวิ่งเข้าหาหรือไม่ ใคร ๆ ก็อยากคบกับคนรวยทั้งนั้นแหละ รวมทั้งผมที่หลอกไอ้ฝรั่งหน้าโง่จนหมดตัวและถีบมันทิ้งไปไม่ใยดี บนโลกใบนี้ไม่มีที่ให้คนโง่ยืน

 

‘นายชื่อจิมใช่ไหม เราพีชนะ มีอะไรให้เราช่วยก็บอก’

 

เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกว่ามีเพื่อนจริง ๆ พีชเป็นคนที่ดีมากและน่าอิจฉามากกว่าคนอื่น ทั้งฐานะที่ดีและมันสมองที่ชาญฉลาด ทั้งที่พีชมาทีหลังแต่กลับแย่งทุกสิ่งทุกอย่างจากผมไป เพื่อน คนรัก และความโดดเด่นที่กว่าผมจะได้ต้องสร้างมาเป็นเดือน เพราะมีคนอย่างพีชผมจึงต้องถีบตัวเองไปให้สูงกว่า ยอมเอาตัวเข้าแลกเพื่อกอบโกยเงินมาให้ได้เยอะ ๆ

 

‘เราชอบพีช จิมช่วยเราหน่อยสิ’

 

เกลียด!  ผมเกลียดมันตั้งแต่ตอนนั้น พีชแย่งคนที่ผมรักไปหมด ไม่ว่าจะเป็นคนไหนก็เข้าหาแต่มัน ฮึก ทำไมกัน….

 

ทำไมไม่เป็นผมบ้าง

 

……………………………………………………………

 

ต้นน้ำ

 

ตื่นขึ้นมาสิพีช ตื่นขึ้นมาสักที

 

ผมกุมมือนิ่มพลิกหลังมือขึ้นจูบปลอบโยน ใบหน้าออกหวานนอนสงบนิ่งหลังจากหมอย้ายมาห้องพิเศษ อาการพีชน่าเป็นห่วง เนื่องจากหัวกระทบกับปูนเข้าอย่างจังทำให้เส้นประสาทตามีปัญหา อาจจะตาบอดไปชั่วคราว ไม่รู้ว่ากี่เดือน กี่ปี หรือไม่กี่วัน ผมก็ยังเป็นห่วงพีชอยู่ดี

 

“แค่ก ๆ ๆ นะ…น้ำ…หิวน้ำ”

 

“พีช! เป็นยังไงบ้าง” ผมตรงปรี่เข้าไปยืนชิดขอบเตียงมือหยิบน้ำส่งให้ พีชปัดป่ายมือไปทั่ว ผมใจหายวูบจับมือบางให้ถือแก้วน้ำก่อนจะช่วยประคองให้ขอบแก้วจ่อปาก

 

“ทะ…ทำไม…มันมืด ต้นน้ำอยู่ไหน”

 

“พีชใจเย็น ๆ นะ น้ำอยู่นี่” ผมรวบมือพีชมาแนบแก้มตัวเอง พีชมือปะวางนาบบนแก้มสากไล้นิ้วไปมา

 

“แล้วทำไมพีชมองไม่เห็น! ฮึก ทำไม…ครับ น้ำ…อย่างเงียบได้ไหม!!”

 

ประตูถูกเปิดเข้ามา น่านน้ำและน่านฟ้ามองคนทั้งสองที่กุมมือกันแน่น น่านฟ้ายกมือปิดปากสะอื้นน้ำตาคลอ น่านน้ำเบี่ยงหน้าหนีไม่อยากรู้สึกสงสารเพื่อนไปมากกว่านี้

 

“จริงเหรอคะพี่น่าน…คุณพีช…”

 

“อืม แต่มันก็แค่ชั่วคราวเท่านั้นแหละ” น่านฟ้าปล่อยโฮซุกหน้าลงกับอกแกร่งของพี่ชาย

 

ผมฝืนกลืนก้อนแข็งคอลง ลุกขึ้นโผกอดร่างพีชแน่นลูบผมสลวยที่นอนสะอื้นไม่หยุด ผ้าสีขาวที่พันตาโดนดึงออกจนเกือบหลุด พีชกำลังไม่มีสติ ผมหยุดการกระทำทุกอย่างโดยการแนบริมฝีปากลงไปกดแช่เอาไว้

 

“ขอโทษครับ น้ำขอโทษ ไม่เป็นอะไรนะคนดี…อย่าร้อง” ผมกระซิบข้างหูให้อีกคนใจชื้นขึ้นว่าผมจะไม่ทิ้งเขาไปไหน

 

ผมปิดประตูลงเดินออกมาคุยกับหมอและย้อนกลับเข้าไปดูพีชที่หลับสนิทจากความอ่อนล้าของร่างกาย น่านน้ำตบบ่าผมเดินนำออกไปคุยที่ระเบียงห้อง น่านฟ้าอาสาลงไปซื้อของกินปล่อยให้พวกผมคุยกันตามลำพัง

 

 “เรื่องจิมเป็นยังไงบ้าง”

 

“….ไม่รอด ยิงตัวตายว่ะ กูเข้าไป…ไม่ทัน มันโดนขมขื่นก่อนจะยิงตัวตาย” ผมพยักหน้ารับ รู้สึกสงสารและโกรธในเวลาเดียวกัน ถ้าคนเรารู้จักพอเรื่องน่าเศร้าก็คงจะไม่เกิด มีรูปร่างที่ดีครบถ้วน มีเพื่อนที่รักจริง แค่นี้มันยังไม่พอสินะ ผมอโหสิกรรมให้ทุกอย่าง ไปดีนะจิม

 

“จบแล้วสินะ หวังว่าเรื่องร้าย ๆ มันจะจบแค่นี้”

 

“อืม อย่ามีอะไรอีกเลย แค่นี้กูก็หดหู่อยากจะบ้าตายวันละหลาย ๆ รอบ” น่านน้ำมันเท้าแขนกับระเบียงมองทอดสายตายาว ผมมองเสี้ยวหน้าของมันก่อนจะถามคำถามคาใจ

 

“น่าน…เรื่องพีช มึงคงไม่คิดอะไรเกินเพื่อนใช่ไหม?”

 

“คิด แต่มันก็เป็นอดีตไปแล้วว่ะ อย่างว่า…เรียนมาด้วยกัน พีชเป็นคนใจดี กูไม่ได้ชอบผู้ชายนะ แต่พีชมันเป็นความรู้สึกที่…อยู่ด้วยแล้วสบายใจ” น่านน้ำแสยะยิ้มเอาไหล่มาชนไหล่ผม

 

“ใจร้ายมาก ๆ ระวังกินแห้ว พีชไม่เคยคบใครเลย บอกมีคนที่แอบรักอยู่ที่ไทย ไงวะ ซึ้งเลยดิ”

 

“หึ เป็นอดีตไปแล้วก็ดี เพราะตั้งแต่วันนี้พีชเป็นของกู” ผมเหยียดยิ้มเดินกลับเข้ามาในห้อง น่านฟ้าวางอาหารลงบนโต๊ะเรียกผมกับน่านน้ำให้นั่งลง

 

ผมว่าสภาพจิตใจน่านฟ้าตอนนี้คงดีขึ้นมาก กำลังใจจากเพื่อนและครอบครัวมันก็เพียงพอที่จะทำให้เธอคิดได้และลืมไอ้ผู้ชายเฮงซวยนั้นได้ในไม่ช้า เสียดายเวลา เสียดายน้ำตา พ่อแม่เลี้ยงมากว่าจะโตได้เสียแรงไปเท่าไหร่ ผมพูดเพียงไม่กี่คำน่านฟ้าก็เข้าใจและยอมรับความจริงได้

 

เธอยังมีคนที่รักอยู่ เอาเวลาที่ไร้ค่ามาใช้ชีวิตให้คุ้มค่าจะดีกว่า

 

………………………………………………….

 

ต้นข้าว

 

ผมกับไอ้หล่อกำลังเดินทางกลับ ระหว่างทางเฮียเพลงก็โทรเข้าเครื่องของผมถามหาไอ้หล่อที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์ มันเอาเครื่องของมันเปิดดูพบหน้าจอมืดสนิท ผมถือโทรศัพท์ให้มันคุยกับเฮียขณะที่สองมือมันจับพวงมาลัยเพื่อขับรถ

 

 “ว่าไงนะ!!” เพทายเหยียบเบรกเลี้ยวเข้าข้างทาง มันหยิบโทรศัพท์ไปถือเองใบหน้าเคร่งเครียด

 

“อะไรวะ?” ผมเห็นมันนิ่งไปแตะบ่ามันสะกิดเรียก

 

“ไม่…เฮียพีช…”เพทายพึมพำหลับตาควบคุมสติหักพวงมาลัยเลี้ยวรถไปอีกเส้นทาง ผมหยิบโทรศัพท์เก็บใส่กระเป๋ามองมันสีหน้าเครียดไม่ต่างกัน

 

ผมเดินตามร่างใหญ่เข้ามาในโรงพยาบาล มันถามหาชื่อใครสักคนเดินดุ่มคว้ามือผมจับแน่นลากไปด้วยกัน เราเข้ามาในห้องพักพิเศษ ผมเบิกตากว้างรีบสะบัดมือออกจากเพทายเมื่อเจอพี่ต้นน้ำที่นี่

 

“ทำไมเฮียพีชเป็นแบบนี้วะ!!!” เพทายอาระวาดมองคนทั้งสามในห้องต้องการคำตอบ

 

“พี่ต้นน้ำ” ผมเอ่ยเรียกพี่ชายเสียงสั่น กลัวความผิดมันจะย้อนกลับคืนมาลงโทษผม

 

“หยุดโวยวายเดี๋ยวนี้” เสียงเข้มของผู้มาใหม่ดังขึ้น ป๋าและเฮียเพลงเดินเข้ามาสองคน ผมยกมือไหว้เดินไปยืนข้างพี่ต้นน้ำที่จ้องตากับเฮียเพลง

 

 “ป๋า! เฮียเป็นอะไร? ใครทำเฮีย?”

 

“ขอคุยด้วยหน่อยสิต้นน้ำ” นายใหญ่ของบ้านไม่สนใจจะตอบคำถามลูกชายเอ่ยเรียกอีกคนให้เดินตามไปคุยที่อื่น เพลงเข้ามาดูพี่ชายที่นอนหลับคราบน้ำตาติดข้างแก้ม

 

“อดทนไว้นะพี่ชาย” เสียงแผ่วของน้องชายกระซิบข้างหู เพลงหอมแก้มนิ่มมือโอบกอด

 

ผมกุมมือไอ้หล่อบีบเบา ๆ ให้มันใจเย็น เพทายก้มมองหน้าคนรักถอนหายใจยาวเม้มปากน้อยสวมกอดร่างเล็กกว่า ตัวมันสั่นเทิ้มจังหวะการเต้นของหัวใจเนิบช้า

 

แกร๊ก

 

ต้นน้ำเดินเข้ามามองภาพต้นข้าวกับเพทายกอดกันแล้วไม่อยากขัด จนเจ้าตัวเหลือบมาเห็นรีบผละออกจากกัน น่านน้ำและน่านฟ้าขอตัวกลับก่อนเพราะเห็นว่านี่เป็นเรื่องภายในครอบครัว

 

“ป๋ากลับก่อนนะ เพลงจะกลับกับป๋าไหม?”

 

“ครับ”

 

ทั้งห้องจึงมีแค่ผม ไอ้หล่อ พี่ต้นน้ำ และเฮียพีชที่นอนหลับสนิท สองมือประสานกันแน่น ผมจะไม่ปล่อยมือมันไปไหน และมันจะไม่ปล่อยมือผมเช่นกัน เรารักกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราจะไม่ทิ้งกัน

 

 “เห้อ~ รักกันเหลือเกินนะ อืม เอาเถอะ พี่ยอมแพ้แล้ว…เข้ามานี่ทั้งคู่เลย”

 

ห้ะ ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับไอ้หล่อสีหน้าแปลกใจ

 

  “พี่ต้นน้ำยอมให้เราคบกันแล้ว?” ผมถามเพื่อความแน่ใจ

 

“อืม พี่ขอโทษนะเพทายสำหรับเรื่องพีช พี่จะเล่าทุกอย่างให้ฟัง…อยู่ที่ว่านายจะเชื่อแค่ไหน” ผมยังอึ้งไม่หายเมื่อพี่ต้นน้ำแทนตัวเองว่าพี่กับไอ้หล่อ เพทายอ้าปากเหวอกระพริบตาถี่

 

ผมกับไอ้หล่อนั่งฟังพี่ต้นน้ำเล่าตั้งแต่สมัยผมยังเด็ก โห เรื่องมันนานเป็นสิบปีเลยครับ ผมไม่คิดว่าเฮียพีชจะอดทนไม่กลับมาไทยได้นานขนาดนี้ พี่ต้นน้ำเองก็ไม่เห็นมีท่าทีจะชอบเฮียพีชเลยวะ ไอ้หล่อมันกระตุกมือผมเบา ๆ

 

“อะไรของมึง”

 

“กูฝันไปป่ะวะ” มันเอามือผมไปตบหน้าตัวเอง ผมฟาดซ้ำให้ตื่นจนมันร้องเสียงหลง

 

“ชิบ! เจ็บนะเมีย”

 

“มึงจะได้ตื่นไง” ผมหยิกแก้มมันยืด ได้ยินเสียงพี่ต้นน้ำหัวเราะจึงหันมามอง

 

“หัวเราะอะไรวะ…เอ่อ…” เพทายลืมตัวเผลอพูดออกไปเหลือบมาเห็นหน้าคนรักที่ทำตาดุใส่

 

“พี่กู เดี๋ยวมึงจะโดน”

 

“แล้วเรื่องเฮียพีชพี่จะทำยังไงต่ออ่า” ผมถามต่อ

 

“อืม ก็ไม่ทำไง ตอนแรกพี่ตั้งใจจะเอาคืนพีชเล็ก ๆ น้อย ๆ อยากดัดนิสัยความคิดมากขี้โวยวายของพีชด้วย แต่ตอนนี้พอแล้วแหละ แค่นี้พีชก็ทำเพื่อพี่มามากพอแล้ว”

 

“ดูแลเฮียดี ๆ ด้วย ถ้าคุณทำเฮียพีชร้องไห้ ผมจะเอาเฮียคืน” เพทายขู่

 

“หึ งั้นพี่จะเอาต้นข้าวคืน” ผมขำเหล่มองหน้าไอ้หล่อ

 

 “เรื่องดิ! ไม่ให้! เมียอย่าทิ้งเค้านะ เมียต้องรักเค้านะ”

 

 “มึงอย่ามาบ้า ข้าวกลับก่อนแล้วกันครับ พรุ่งนี้จะมาหาแต่เช้า” พี่ต้นน้ำยิ้มลุกขึ้นลูบหัวผมก่อนจะดึงเข้าไปกอด ไอ้หล่อมันยืนกอดอกหน้าบึ้ง

 

เพล้ง!

 

เราสามคนหันไปมองต้นเสียงเห็นเศษแก้วตกแตกอยู่ข้างเตียง มือของเฮียพีชปัดป่ายควานหาใครสักคน  เรียกชื่อต้นน้ำร้องสะอื้น เจ้าของชื่อรีบวิ่งมากุมมือนั้นเอาไว้

 

“น้ำอยู่นี่ ชู่ว์~ ไม่ร้องนะครับ”

 

“อย่าหายไปไหนได้ไหม!”

 

“ครับ ๆ ก็ไม่ได้หายนี่ไง ไม่เอา ไม่ร้อง นิ่งซะ ๆ”

 

“กูสงสารเฮียว่ะ” ผมเข้าใจความรู้สึกไอ้หล่อมันนะ มาเห็นพี่ชายตัวเองต้องตาบอดมันยากที่จะรับได้ ถึงจะชั่วคราวก็เถอะ แต่ในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดีอยู่ นั่นคือได้เห็นพี่ต้นน้ำกลับมาเป็นคนเดิมเสียที กี่ปีแล้วนะที่ผมไม่ได้เห็นพี่ชายตัวเองยิ้มแลหัวเราะ

 

“พี่ชายกูไม่ปล่อยให้เฮียพีชเป็นอะไรไปง่าย ๆหรอก”

 

“อืม กูเชื่อ”

 

เราเดินเข้าไปยืนอีกฝั่งของเตียง ไอ้หล่อก้มหน้าลงหอมแก้มเฮียพีชเหมือนที่เฮียเพลงทำ พี่ต้นน้ำหมุนตัวเดินไปนั่งที่โซฟา ผมเดินตามไปนั่งข้าง

 

“เหนื่อยมากไหมครับ” ผมแบมือออกจับมือพี่ชายมาทาบกุมเอาไว้ สายตาพี่ต้นน้ำมองคนบนเตียงระบายยิ้มออกมา

 

“ไม่หรอก พี่เต็มใจที่จะทำ พี่สมควรทำมันตั้งนานแล้วด้วยซ้ำ”

 

“พี่ต้น…ทำไมพี่ถึงยอมให้ข้าวคบกับมันง่าย ๆ ล่ะ”

 

“…เวลามันก็หมุนไปเรื่อย ๆ นะต้นข้าว ถ้าวันนี้ไม่เกิดเรื่องพี่ก็คงตั้งแง่ไม่เลิก พี่ห่วงว่าเพทายจะทำน้องพี่ร้องไห้ ห่วงว่าในอนาคตน้องพี่จะเสียใจเพราะมัน เห้อ~ แต่อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด พี่อยากให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามพรหมลิขิต ใช้เวลาทุกวินาทีให้คุ้มที่สุด เพราะพี่ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกไหม”

 

“ขอบคุณนะครับ ข้าวรักพี่ต้นนะ”

 

สองพี่น้องนั่งคุยกันเรื่อยเปื่อย เพทายยิ้มมุมปากก้มหน้าลงกระซิบกับพี่ชาย “เอาให้เต็มที่เลยนะเฮีย”  พีชร้องหึในลำคอบีบมือน้องชายว่าไม่ต้องห่วง

 

“น้ำ!” พีชเรียกต้นน้ำ ร่างใหญ่ลุกพรวดมาหาพีชทันที

 

“ครับ”

 

“พีชอยากเข้าห้องน้ำ”

 

“งั้นค่อย ๆ ลุกนะ น้ำจะพาไป” ต้นน้ำประคองพีชลุกขึ้นนั่งสองมืออุ้มร่างที่ใหญ่พอกันตัวลอยหายเข้าไปในห้องน้ำ

 

ผมจะไม่คิดอะไรเลยนะถ้าไม่เห็นหน้าไอ้หล่อมันยิ้มร้ายแปลก ๆ สายตามันมองไปทางห้องน้ำเหมือนมีแผนในใจ มือบางตบไหล่คนรักเสียงดัง เพทายสะดุ้ง

 

“ยิ้มอะไร?” ผมหรี่ตาจับผิด

 

“ก็ไม่มี ไป กลับกันเหอะเมีย ฮ้าว ~ ง้วงง่วง วันนี้จะได้นอนกอดเมียสักที อื้อ คิดถึงก้นนิ่ม ๆ” มือมันบีบก้นผมโน้มหน้าลงมาจูบไม่บอกไม่กล่าว

 

“ไอ้หล่อ! มึงเห็นไหมว่ามันโรงพยาบาล”

 

“ไม่มีใครเห็นหรอก เราอยู่ในห้องนะ กลับเว้ยกลับ อยากฟัดเมียใจจะขาดแล้ว”

 

“อื้อออ จุ๊บ~ มึงเอาอีกแล้วนะ!!” ผมหมดคำจะด่ามันจริง ๆ กว่าเราจะได้ออกจากห้องปากผมก็เปื่อยสมใจมันล่ะ

 

………………………………………………………………………

 

เพทายกอดคอคนรักไปที่รถ มือลูบไล้สะโพกของต้นข้าวหันมามองซอกคอขาวที่ไม่ได้กัดมานาน เลียริมฝีปากที่แห้งผากลอบกลืนน้ำลายมองเนื้อขาว ๆ ตามร่างกาย

 

ผมก้าวขึ้นรถได้ก็ต้องตกใจเมื่อร่างหนาโน้มมากระชากตัวเข้าไปจูบพลางสอดลิ้นเข้ามาดูดลิ้นเล็กเอาไว้เกี่ยวกระหวัดดันตัวผมให้แนบลงกับเบาะ มือล้วงเข้ามาคลำใต้กางเกงจับส่วนอ่อนไหวของผมรูดรั้งเบา ๆ

 

“มึงอย่ามาหื่นนะหล่อ ไอ้เหี้ย! จุ๊บ ไอ้…จุ๊บ ๆ ๆ”

 

“เพทาย!”

 

“ต้นข้าว!”

 

“ไอ้เหี้ย! กูไม่ให้มึงเอา” ผมยกมือดันอกมันไม่ให้ชิดไปมากกว่านี้

 

“แต่กูจะเอา อย่าดื้อครับเมีย มึงหนีกูไปไหนไม่รอดหรอก หึ” เพทายกลับมานั่งที่เดิมมือจับพวงมาลัยสตาร์ทรถออก

 

“จะเอากู ก็ต้องยอมให้กูไปค่าย” เอาซี้ ผมได้โอกาสต่อรองมันแม่ง ไหน ๆ คืนนี้ผมก็ไม่น่ารอดอยู่แล้ว

 

“ไม่! เอามึงไปยืนให้ไอ้พวกผู้ชายมันมองไงวะ”

 

“กูก็ผู้ชาย”

 

“มันไม่เหมือนกัน เลิกพูดเรื่องนี้ โอเคนะ”

 

“มึงอ่า…” ผมแกล้งงอนเม้มปากนอนเอียงหน้าออกข้าง

 

“ถ้างอนกูคูณสอง ไม่ต้องหลับต้องนอนกันเลย”

 

“ไม่!” ผมเถียงกลับ

 

“คูณสาม” มันยังหน้าด้านพูดออกมาเรื่อย ๆ

 

“ม…”

 

“กูพูดจริง มึงก็รู้ว่ากูไม่ได้ปล่อยมานานแค่ไหนแล้วนะเมีย” ผมเจอคำขู่ไอ้หล่อเข้าไปถึงกับเงียบ ยังไงซะผมก็ต้องได้ไปค่าย จะไป และต้องได้ไปเว้ย!!

 

ผมจะลองขอมันอีกรอบที่เตียง! คอยดูสิว่าผมต้องทำได้

 

 

 

 TBC.

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
6.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5.4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา