Waiting for love รอเธอรัก...ควักหัวใจยัยเพื่อนซี้

-

เขียนโดย ภีรภร

วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 00.44 น.

  15 ตอน
  0 วิจารณ์
  15.57K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558 17.18 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

13) ทะลึงเบเบ๊

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
       
 
บทที่ 13 ทะลึงเบเบ๊
                หลังจากเลิกเรียน เราทั้งห้าพร้อมหน้าพร้อมตาเดินออกจากโรงเรียน ตลอดทางเดิน เสียงซุบซิบนินทาเรื่องฉันก็ลอยเข้าหูมาไม่ขาดสาย นินทาได้ก็นินทาไป ตราบใดที่ยังไม่มาระรานฉันจะไม่โต้ตอบ
 พอถึงหน้าโรงเรียนเราก็หยุดใต้ร่มไม้  แล้วแยกย้ายกันเดินซื้อของกินตามทางเดินข้างที่พ่อค้าแม่ค้าต่างจับจองพื้นที่ขายของหลังเลิกเรียน. ฉันหยุดที่ร้านขายน้ำ สั่งน้ำแดงหนึ่งแก้ว. ขณะที่เดินกแล้วมา เด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามากระชากแขนข้างที่ถือน้ำแดงอย่างแรง น้ำแดงในสาดกระเซ็นเปียกแขนแชะเสื้อผ้าฉัน สีแดงฉ่านเต็มเนื้ินักเรียนสีขาว
"อุ๊ย ขอโทษๆนะคะ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ค่ะ. หนูคิดว่าเป็นเพื่อน". เด็กคนนั้นรีบหยิบน้ำแข็งที่ตกบนพื้นขึ้นมาถูตามเสื้อฉันพยายามขอโทษพลางลูบน้ำแข็งลงบนเสื้อไปมาเหมืิอนหวังจะช่วยล้างสีแดงแต่กลับช่วยให้เสื้อฉันเปียกมากกว่าเดิม
"น้องคะ พี่ไม่เป็นไร เสื้อพี่เปียกหมดแล้ว"
"ขอโทษค่ะ พี่เจ้าฟ้า"
"รู้จักพี่ด้วย?"
"พี่ออกจะดัง หนูต้องรู้จักอยู่แล้ว"
"ดังในทางเสียหาย พี่ก็ไม่อยากดังหรอกนะ"
"หนูเข้าใจพี่  บางทีการที่เราอยู่เฉยๆ คนอื่นก็หมั่นไส้เพราะเขาอิจฉา. พี่อย่าคิดมาก พี่ไม่เป็นก็อย่าสนใจเสียงนกเสียงกาเลย หนูคนหนึ่งล่ะที่ไม่อิจฉา". เด็กคนนี้ช่างเข้าใจพูด ไม่ตัดสินคนเพียงภายนอกถ้าคนอื่นในโรงเรียนคิดแบบนี้ก็ดี ฉันเอ่ยขอบคุณเด็กหญิงตรงหน้าเบาๆก่อนที่จะถูกมือหนาคว้าเข้าที่ต้นแขนอีกข้างดึงออกห่างเด็กหญิง
"เจ้าฟ้า ทำไมแกเหมือนหมาตกถังน้ำแดงแบบนี้".มันน่าตีปากมะขามจริงๆ รู้ว่าเป็นห่วงแต่ยังไม่วายกัดจิก "ใครทำแกวะ หรือว่าแกอยากอาบน้ำแดง แล้วนี้เจ็บตรงไหนมั้ย" มันจับฉันหมุนซ้ายหมุนขวาหาร่องรอยบาดเจ็บ มันจะเจ็บได้ยังไง ฉันโดนน้ำแดงเว้ย พอจับฉันหมุนจนเสร็จมันก็เพ่งสายตามองเสื้อฉัน"นี่เลือดหรือน้ำแดงวะ" 
"น้ำแดงค่ะ" 
มะขามหันขวับไปตามเสียงบอกกล่าวทันที 
"นี่เธอ! ทำอะไรเจ้าฟ้า"
 เด็กหญิงสะดุ้งตกใจเสียงมะขาม รีบถอยกรูดออกห่างทันที
"หนูกระชากแขนพี่เค้าค่ะ แต่หนูไม่ได้ตั้งใจนะ"
"อุบัติเหตุน่ะ" ฉันรีบชิงตัดบทก่อนที่มะขามจะเข้าใจผิด และก่อนที่น้องจะกลัวไปมากกว่านี้
"แล้วไป คราวหลังก็ระวังหน่อย" 
"ค่ะ" น้องยกมือไหว้ขอโทษเราสองคน ก่อนจะยืนเอียงคอมองฉันกับมะขามเหมือนคิดอะไรอยู่แล้วยิ้มออกมาอย่างมีเลสนัย"พี่สองคนดูเหมาะกันดีนะ พี่มะขามดูเป็นห่วงพี่เจ้าฟ้ามากเลย ถ้าไม่รู้ว่าพี่สองคนเป็นเพื่อนสนิทกัน คงคิดว่าเป็นแฟนกันแล้ว"
"พี่ไม่ได้เป็นเพื่อน"
ฉันกับน้องมองหน้ามะขามทันที ฉันมองเพราะกลัวเหลือเกิน่ว่ามันจะมาไม้ไหนอีก จะรับมือยังไง ส่วนน้องคงเขาใจว่ามะขามเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ซึ่งก็เข้าใจถูกแล้ว ><
"หมายความว่ายังไงคะ!" เมื่อตั้งสติได้ น้องก็ถามออกมาอย่างสุดเสียงด้วยสีหน้าตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้ยิน 
"ตามนั้น"
"><."
"0_0"
โอ้ววว มันเล่นบอกคนอื่นแบบ0นี้ไม่อายบ้างหรือไง หลังจากฟังคำตอบของมะขามน้องก็เจอเซอร์ไพร์อีกรอบ อ้าปากค้างไปสามวิก่อนจะสรุปเองโดยเร็ว
"พี่มะขามชอบพี่ชอบเจ้าฟ้า แล้วพี่เจ้าฟ้าชอบพี่มะขามมั้ย"
0_0 ถามอะไรเนี่ย แหนะ ยังจะหันมาคาดคั้นทรงสายตาอีก ฮึ่ย! อย่าคาดคั้นช้านนน
"ฮ่าๆ ถามมากเกินไปแล้วน้อง เก็บปากน้องไว้ถามครั้งหน้าดีกว่า ตอนนี้เจ้าฟ้าอายจนแข่งขาอ่อนแล้วมั้ง"
"โห พี่ปากร้ายอ่ะ."
"คนปากร้ายมักใจดี"
"พี่ดูเป็นห่วงพี่เจ้าฟ้ามากเลย"
"แน่นอน"
"ขอเป็นแฟนสิ" 
"ขออยู่แล้ว"
สองคนนี้คุยอะไรกัน ไม่เห็นหัวฉันรึไง แล้วแต่คำที่พูดมันช่างสร้างอาการหนาวๆ ร้อนๆ บนหน้า เหลือเกิน ขอเป็นแฟนงั้นหรอ โอ๊ย~ใจเต้นเป็นจังหวะสามซ่าแล้ว
"เร็วๆนะพี่ หนูเชียร์"
"ไปได้แล้ว ไป"
"ค่า สวัสดีค่ะ" และแล้วน้องก็เดินลิ่วๆไปขึ้นรถรับส่ง ทิ้งบรรยายหนาวๆร้อนๆ ไว้ ให้ฉันเผชิญอยู่กับคนตรงหน้าที่ทำเอาใจเต้นแรง
"กลับบ้านกัน" เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับมือหนาคว้าเข้าที่ต้น่แขนรั้งให้ฉันออกเดิน 
 
 
___________________________________________
 
 
 ฉันออกเดินตามการฉุดรั้งอย่างไร้แรงต้านทานมาตลอดทางจนใกล้ถึงบ้าน ตลอดระยะทางกลับบ้านมะขามมองมาเป็นระยะและทุกครั้งจะรีบซ่อนรอยยิ้มที่ผุดขึ้นเสมอ เราสองคนไม่ปริปากคุยกันเลยตั้งแต่เดินจากหน้าโรงเรียน. ด้วยสภาพจิตใจที่กำลังปั่นปวน ฉันคงไม่แข็งแกร่งพอจะรับมือกับคำพูดมันได้ แต่ก่อนที่จะถึงบ้านมะขามก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะพลางส่งสายตากรุ้มกริ่ม"อีกหน่อยเป็นแฟนเจอรุกหนักกว่านี้นะ" ฉันรีบงุดหน้าหลบสายตาที่มองมาอย่างรวดเร็ว
 "หึ~ เขินฉันหรอ"
ไม่เขินก็บ้าแล้ว><
"ชินได้เแล้วมั้ง ^^".
ไม่ ไม่มีทางชินง่ายๆ 
"บอกแล้วไง ต่อไปเป็นแฟน จะเขินกว่านี้"
อ่า~  รุกเกินไปแล้ว ><  เป็นแฟนงั้นหรอ ทำไมหน้ายิ่งร้อนผ่าวขึ้น
"เวลาแกเขิน"
"..."
จะชมแล้วด่าตามหลังหรือไง
"น่ารักดี"
><  อ่าา~ เลือดฉูบฉีดวิ่งเข้าหัวใจ ใจเต้นตึกตัก มันจะรุกหนักเกินไปแล้วนะ ฉันไม่ไหวแล้ว ย้าก!!!
"ไอ้มะขาม!!!" 
ฉันออกแรงทั้งทุบทั้งตีหลังมันอย่างไม่ยั้งมือ เจ้าตัวก็รีบเอามือปัดป้องเป็นพลันวัล
ตุบตับๆ !!! 
"เฮ้ย เจ็บนะเว้ย" 
พลั้ว!!! 
 เตะเข้าข้างพับทีนึง มันเกือบหน้าคะมำลงพื้นแต่ยังยั้งตัวไว้ได้ทัน ฉันออกแรงทุบลงไปตรงไหล่อีกสองสามที
"พลังช้างพลังควายเข้าสิงแกรึไง"
"อ๊าก~ แกทำฉันสติหลุด!!!" ฟาดกระเป๋าใส่หลังไม่ยั้งมือ. ฉันเกลียดมัน ทำสติสะตังฉันหาย ความเป็นตัวเองหายไป
 ป้าบ!!!
"แต่งงานกันไป แกจะไม่ซ้อมฉันทุกวันหรอวะ"
แต่งงาน!!! งั้นหรอ !!! มันยังไม่หยุดหยอดอีก โอ๊ยยย~~~ ฉันฟาดกระเป๋าลงไปอีกไม่ยั้ง ก่อนจะเตะเข้าที่สะโพกมัน แล้วรีบวิ่งเข้าบ้าน
"โหดแบบนี้ เจอจูบที แกไปไม่รอดแน่!!!" เสียงตะโกนตังไล่หลังมาทำเอาฉันสติหลุดอีกครั้ง จูบ!!! 
"ไอ้ลามก!!!". 
"ลามกตรงไหนครับ.คนรักกัน เขาทำกัน" 
คนรักกัน! ทำกัน! อ๊าก!!! จะเว้นวรรคทำไม! ไม่ฟังๆ ปิดหูๆ เดินเข้าบ้านสิเจ้าฟ้า จะยืนเป็นหินอยู่ทำไม!!! ได้แต่ก่นด่าทอตัวเองในใจ ฉันพ่ายแพ้แก่ตัวเองอย่างหมดสภาพ มะขามจู่โจมราวกับยิ่งปืนกลใส่ไม่ยั้ง ใส่เต็มทุกแม็ก
 ______________________________________________________________________________
หลังจากที่รวบรวมสติประกอบร่างเดิมได้แล้ว เก้าอี้นอนตรง่ระเบียบห้องนอนก็ถูกฉันจับจองเป็นที่พักผ่อนสมองเป็นที่พักผ่อนสมองหลังจากวันนี้ทั้งวันต้องเผชิญมรสุมเสียงซุบซิบนินทาอย่างหนาหู ใครๆก็บอกต้องปลงให้ตกกับสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งฉันก็เห็นด้วย แต่การจะไม่สนใจเลยก็เป็นไปได้ยาก ด้วยพื้นฐานนิสัยแล้วถึงแม้จะทำอะไรไม่ละเอียดอ่อนเหมือนผู้หญิงแต่ความรู้สึกฉันค่อนข้างละเอียดอ่อนจนกลายเป็นอ่อนไหวง่ายๆกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง 
   หลายครั้งที่พยายามทำตัวให้เข้มแข็ง ฝ่าฟันอุปสรรคด้วยตนเอง แต่ถึงอย่างนั้นระหว่างทางฉันก็ยังต้องการใครสักคนคอยเคียงข้าง คอยฉุดรั้งยามล้ม คอยเตือนยามหลงผิด เหตุการณ์วันนี้ทำเอาฉันทำตัวไม่ถูกแม้สี่หนุ่มจะคอยให้กำลังใจ บอกให้ทำตัวเหมือนเดิม ถึงกระนั้นมันกลับยากมากที่จะทำตัวให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลับต้องคิดหนักเพิ่มอีกเรื่อง เรื่องมะขามฉันก็ยังรับมือไม่ไหว แล้วไหนจะเรื่องณดลกับบทสัมภาษณ์ที่ชวนให้เข้าใจผิดหรือเข้าใจถูกกันแน่ ถ้าหากณดลชอบฉันอย่างที่ใครๆพากันเข้าใจ แล้วมะขามยังรุกหนัก หากเป็นเรื่องอื่นฉันคงปรึกษามะขามได้แต่เรื่องนี้จะไปขอความช่วยเหลือจากใครได้ ฉันจะทำยังไงดี ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว ฉันไม่อยากอยู่ท่ามกลางผู้ชายสองคน (ปกติก็อยู่ท่ามกลางสี่คนนะ)
"เจ้าฟ้า" เสียงนี้มัน ฉันเบนสายตาไปยังต้นเสียง ร่างสูงโปร่งกำลังกอดอกพิงสะโพกไว้กับพนักพิงเก้าอี้หน้าระเบียง เหอะ! คงคิดว่าเท่ล่ะสิ แต่มันก็เป็นแบบนั้น โคตรเท่ เฮ้ย!  ฉันชมมะขามอีกแล้ว ตบปากด่วน!
"มีอะไร" ถามออกไปอย่างห้วนๆ
"แกคิดมากอยู่หรอ"
"เออสิ. จะไม่คิดได้ยังไง เจอคนเกลียด หมั้นไส้เกือบทั้งโรงเรียนแล้วมั้ง"
"บอกแล้วไง ยังมีฉันอยู่  เรื่องนี้มันเล็กน้อยออก แค่คนเกลียดยังดีกว่าไม่มีคนสนใจนะ ถ้ามีเกิดอะไรขึ้นกับแกฉันไม่ปล่อยพวกนั้นไว้แน่่"  มะขามบอกด้วยน้ำเสียงที่มุ่งมัั่น. แฝงไว้ด้วยความเป็นห่วง. การยืนยันว่าจะอยู่ข้างๆ มันทำให้ฉันอุ่นใจขึ้นมา แล้วอย่างเรื่องณดลมันจะช่วยฉันได้ไหมทั้งที่ณดลอาจจะชอบฉัน และที่แย่ไปกว่านั้นอาจจะจีบ แช้วอย่างนี้มันจะทำไง
"แต่บางเรื่องแกจะช่วยฉันได้จริงๆ น่ะเหรอ" 
"เรื่องไหนล่ะ ส่วนตัวจนถึงขั้นช่วยอาบน้ำมั้ย" มันพูดออกมาอย่างยิ้มๆ อ่ะ นี่มันจะลามกขึ้นทุกวันแล้วนะ ตั้งแตบอกชอบฉัน "เฮ้ย! นี่อย่านะ...แกคิดไปถึงไหนเนี่ย หน้าตาแกนี่หื่น ขนลุกว่ะ" ยังจะทำท่าท่างประกอบด้วยกาลูบแขนแรงๆ
"ไอ้มะขาม! แกพูดอะไรของแกหา!  ฉันไม่ได้หื่นซะหน่อย" ฉันรีบแก้ข้อกล่าวหาด้วยตวาดกลับไปจนมันสะดุ้งโหยง ฉันไม่ได้คิดอะไรเลยนะ ก็แค่หน้าอกแน่นๆ เท่านั้นเอง เอ๊? ทำไมเดี่ยวนี้ฉันคิดเรื่องทะลึ่งบ่อยจัง
"ฮ่าๆ แก้ตัวไปก็เท่านั้น...ที่ว่าจะช่วยมันก็มีขอบข่ายอยู่หรอก อย่างเรื่องจะอาบน้ำให้น่ะ ใครมันจะหื่นกามขนาดนั้นวะ เว้นแต่..." มะขามหยุดพูดก่อนมองฉันด้วยสายตากรุ้มกริ่ม"แกยอม...ยอมเป็นมากกว่าแฟน" 
"O_O"
เฮือก!!!
"เรียกว่าภรรยาหรือเปล่าน้า~~~"
"ไอ้ชั่ว ไอ้ลามก วิปริตผิดเพศ หยาบคาย หน้าหนา ไอ้บ้าาาา!!!!"
"ฮ่าๆ ฉันล้อเล่น ด่าซะฉันหมดความเป็นคนเลยนะ ฮ่าๆ" ยังมีหน้ามาหัวเราจะเป็นจะตาย. คงสนุกมากสินะ เออมันขำแต่ฉันไม่ขำ!  อายและเขินมากกกกกก //_//
"มันใช่เวลามาเล่นมั้ย!" 
"โอเค เลิกแกล้งแล้ว เขินจนหน้าแดงแบบนี้คงหายเครียดแล้วใช้มั้ย" ฉันจะเครียดอีกเพราะแกนี่ล่ะ "เจ้าฟ้า ความคิดคนเรา จะไปบังคับให้คิดอย่างที่เราต้องการไม่ได้หรอก แม้แต่ตัวเราเองยังบังคับตัวเองไม่ได้เลย. เรื่องบางเรื่องต้องปล่อยมันไปบ้าง แต่ก็ไม่ใ่ช่ให้เราไม่ใส่ใจเลย เลือกใส่ใจสิ่งที่เราไม่ดีแล้วปรับปรุงดีกว่า รับไว้ทุกอย่างก็ไม่ไหวนะ แกเป็นคนนะไม่ใช่หุ่นยนต์" แม้แต่จะควบคุมจังหวะหัวใจเวลาอยู่ใกล้แกฉันยังทำไม่ได้เลย แล้วจะไปหวังให้คนอื่นคิดกับฉันในทางที่ดีได้ยังไงจริงไหม ฉันถอนหายใจอย่างปลงตกในชีวิต
"ขอบคุณนะ"
"ช่วยทำตัวให้เป็นเจ้าฟ้าคนเดิมแทนคำขอบคุณ   ดีกว่า"
  ฉันคนเดิมน่ะหรอ นั่นสิทำไมช่วงนี้ถึงคิดมากและห่วงใย สนใจความรู้สึกคนรอบข้างมากมายขนาดนี้นะ จากเดิมฉันไม่ค่อยแคร์สายตาชาวบ้านเท่าไหร่ ตั้งแต่ที่ฉันเริ่มรู้สึกแปลกๆ ใจเต้้นตึกตักๆ ขินเมื่ออยู่ใกล้มะขามก็เริ่มอ่อนไหวกับคำพูดคนมากขึ้น นี่วิญญาณหญิงไทยใจหวั่นไหว อ่อนแอ บอบบางคงไม่เข้าสิงฉันแล้วนะ! เจ้าฟ้าคนเดิมจงกลับมานะบัดนี้ เพี้ยง!!!
"เจ้าฟ้าคนเดิมจะกลับมา! เย้!!!" ฉันกำมือสองข้างไว้แน่นก่อนชูขึ้นฟ้าพร้อมกันย่างกับชุปเปอร์แมนออกบินเพื่อเรียกสติสตังกลับคืน
"แต่ความรู้สึกที่มีให้ฉัน ไม่ต้องเหมือนเดิมก็ได้^^". ฉันตวัดสายตามองมะขามอย่างคาดโทษ เหอะ!  มันนี่ล่่ะตัวดีทำฉันอ่อนไหว
"หุบปากแกไป!"
"..."
"..."
มันเงียบปากไปจริงๆ ทำให้เราสองคนตกอยู่ในความเงียบท่ามกลางกลิ่นหอมมะลิที่โชยมาตามลม. ฉันสูดกลิ่นหอมเข้าปอด หลับตาพริ้ม มโนว่าเป็นนางเอกเอ็มวี
"..."
"..."
เสียงลมพัดผ่านหน้า วูบหนึ่งปลุกฉันตื่นจากฝัน มะขามจ้องมองมาที่ฉันอย่างไม่ละสายตา. ใบหน้าหล่อคมเข้มปรากฏรอยยิ้มชวนให้หวั่นไหวก่อนเสมองไปอีกทางพลางยกมือเกาท้อยทอย
"..."
"..."
อ่า~ 
"ถามไรหน่อยสิ"
"ว่ามาเลย"
"แกกับ...ไอ้ดล..."
"ณดล...ทำไม?"
"แก...รู้สึกอะไรกับมันหรือเปล่า" 
"จะบ้าหรอ!"
"ตอบคำถามมา ไม่ใช่ให้ด่า". มันบอกเสียงเข้มพร้อมทั้งมองกดดันทางสายตา "ตอบ!" 
"ทำไมต้องขึ้นเสียงด้วย! ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับณดล เขาเป็นเพื่อน แกพอใจยัง!"
"เออ! แน่ใจนะว่าไม่รู้สึก"
"เออ!" ตะคอกกลับอย่างหงุดหงิด
"แกก็ไม้ต้องคิดมากหรอก หากไอ้ดลมันจะจีบแก" ว่าแล้วก็ส่งยิ้มละมุนอย่างผู้ชายอบอุ่น 
"เขาชอบฉันจริงหรอ? " ด้วยความไม่แน่ใจและอาจคิดไปเอง เลยตัดสินใจถามมะขามเพื่อความแน่ใจ
"แกนี่โง่เหมือนเดิม. ไม่เคยพัฒนาสมอง" เสียงที่แฝงความเบื่อหน่ายพร้อมทั้งส่ายหน้าไปมาอย่างระอาให้ความโง่เขลาของฉัน ก่อนจะตวัดเสียงบอกความจริง" มันชอบแกดูไม่ออกรึไง! มันชอบหาเรื่องทำงาน่ใกล้ๆ แก ทั้งทีไม่ใช่หน้าที่ของมันด้วยซ้ำ่ หัดสังเกตบ้าง!" 
"จะด่าทำไมเนี่ย! ฉันไมได้โง่ขนาดดูไม่ออกหรอกน่า ที่ถามก็เพราะอยากแน่ใจ" 
"แถ!!! อย่างแกน่ะ ถ้าดูออกคงรู้ตั้งนานแล้วว่าฉันชอบ". //_// "ทำหน้างงแบบนี้ ใช่ แบบนี้แหละ" หา? อยู่มันก็ชี้หน้า ในช่วงที่ฉันงงและเอ๋อ "จะทันคน"
"-_-" 
"เอาเถอะ ถ้าไม่จำเป็นก็อยู่ห่างๆ มันไว้ เดี่ยวเป็นข่าวอีก" 
"อะ...อื้ม" 
ไอ้บ้ามะขาม!  อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ. อย่างกับวัยทอง ฉันได้แต่สถบด่ามันในใจก่อนเดินเข้าห้อง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา