ตื๊กรักพี่สาว

-

เขียนโดย Annakan

วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 เวลา 14.52 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  4,376 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2560 14.59 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ตอน 4-5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ตอนที่ 4
          สัปดาห์หน้านายก็ต้องไปเกณฑ์ทหารแล้วและในที่สุดนายก็รู้ใจตัวเองสักทีเขามั่นใจแล้วว่าเขารักน้ำ สิ่งที่ยืนยันชัดเจนคือยิ่งใกล้เวลาจับใบดำใบแดงเท่าไหร่หัวใจของเขามันก็เจียนจะขาดรอนๆ เขานึกไม่ออกเลยว่าการไม่ได้เจอน้ำทุกวันมันจะเป็นยังไงเขาต้องคิดถึงน้ำจนขาดใจแน่ๆ
             “เป็นไรอ่ะ” น้ำถามนายที่นั่งจ้องหน้าเธอมาสักพักแล้วเหมือนเขามีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูดสักที จริงๆ นายมีอาการประหลาดแบบนี้มาได้สามสี่วันแล้ว
             “เย็นนี้ไปเดินเล่นริมบึงกันไหม” นายตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะบอกความในใจกับน้ำ เขาไม่อยากไปทั้งที่ยังมีเรื่องค้างคาใจอยู่
             “ไปสิ” น้ำตอบตกลงแล้วยกจานไปที่อ่าง น่าเสียดายมากที่วันนัดสัมภาษณ์งานตรงกับวันที่นายไปเกณฑ์ทหารพอดี
 
             “อีกสองปีแน่ะกว่าจะได้กลับมา” ทั้งคู่นั่งอยู่ที่ริมบึงมองสายน้ำที่ไหลเอื่อยๆ ตามแรงลม เธอกับเขามักจะมานั่งเล่นที่นี่บ่อยๆ และทุกครั้งที่มามักจะมีเรื่องสำคัญเสมอครั้งนี้นายคงจะบอกเรื่องที่เกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารเธอรู้สึกว่ามีบางอย่างที่นายยังบอกไม่หมด
             “ทำไมดูมั่นใจจังว่าจะติดทหารแล้วก็พูดเว่อร์ไปฝึกแค่สองเดือนหลังจากนั้นก็ลากลับบ้านได้ไม่ใช่หรอ”
             “นั่นสินะแล้วน้ำจะมากับนายเหมือนเดิมไหม”
             “มาสิ ทำไมถามอะไรแปลกๆ”
             “มีอะไรอยากพูดอีกรึเปล่า” น้ำหันไปถามและสบตาเขา
             “น้ำคิดว่านายเป็นคนดีไหม”
             “คิดสิ นายเป็นคนดีแล้วก็ใจดีมาก”
             “ถ้านายเป็นคนดีจริงๆ น้ำให้โอกาสนายดูแลน้ำได้ไหม”
             “นายก็ดูแลน้ำมาตลอดอยู่แล้วนี่นา”
             “ไม่ใช่แบบที่ผ่านมา นายอยากดูแลน้ำในฐานะคนรัก”
             “เอ่อ…” นั่นคือคำเดียวที่น้ำนึกออก เธอไม่รู้จะตอบว่ายังไงจริงๆ
             “นายไม่อยากไปทั้งที่ยังมีเรื่องนี้ค้างอยู่ในใจ นายรู้ว่าน้ำไม่ได้รักนายหรอกแต่นายอยากขอโอกาสได้ไหมให้นายได้ดูแลน้ำได้พิสูจน์ตัวเองว่านายทำให้น้ำมีความสุขได้”
             “และช่วงที่เราห่างกันมันจะยืนยันได้ว่านายรักและมั่นคงกับน้ำจริงๆ นายสัญญาว่าจะไม่มีใคร”
             “นี่เรียกบอกรักป่ะ”
             “เอ่อ ก็คงใช่มั้ง นายคิดเรื่องนี้มาเป็นเดือนๆ แล้ว แต่ไม่รู้จะพูดยังไงถึงนายจะเป็นคนดีแบบที่น้ำคิดแต่ก็ยังด้อยกว่าผู้ชายคนอื่นๆ อีกเยอะ นายถึงต้องอ้อนวอนขอโอกาสให้นายได้พิสูจน์ตัวเอง”
             “นายไม่ได้ด้อยกว่าใครและนายก็ไม่ต้องขอโอกาสหรอก นายดูแลน้ำมาตลอดและก็ห่วงใยแม่นวลของน้ำด้วยแค่ช่วงที่ห่างกันอย่าไปมีใครก็พอ”
             “นี่เรียกตกลงใช่ป่ะ” นายถามและพยายามคิดทบทวนคำพูดของน้ำ
             “แล้วแต่จะเข้าใจ” น้ำตอบแล้วบิดกระโปรงเล่นเพราะไม่รู้จะเอามือไปไว้ที่ไหน
             “ตกลงนะน้ำเราลองคบกันนะให้นายดูแลน้ำนะ”
             “อืม”
             “ขอจับมือหน่อยได้ไหม”
             “โห ลามปามป่ะ”
             “รู้จักกันมาตั้งนาน นายเคยลามปามน้ำหรอ” นายถามด้วยความน้อยใจ
             “โห บอบบางขี้น้อยใจจังพ่อคุณ” น้ำฉวยมือของนายมาจับไว้ มันเป็นความรู้สึกที่น้ำเน่ามากเธอไม่มีวันพูดให้ใครฟังเด็ดขาดตอนที่สองมือประสานกันเธอสัมผัสได้ถึงความรักและความผูกพันของคนสองคนที่มีให้กัน นึกย้อนไปที่เธอไม่เคยตกลงคบกับใครจริงจังก็เพราะนายนั่นแหละ
             ในใจลึกๆ เธอรู้ดีว่าไม่มีใครมาแทนที่นายได้แต่เธอไม่เคยพูดเพราะว่าอายที่ตัวเองแก่กว่านายตั้งสี่ปีและเธอก็ไม่มั่นใจด้วยว่านายจะคิดกับเธอเกินเลยกว่าพี่สาว
             เธอยังจำได้ดีถึงวันแรกที่นายเดินเข้ามาคุยด้วยและยื่นถ้วยแกงให้และตั้งแต่วันนั้นเด็กชายตัวน้อยก็ข้ามฝั่งมาคุยกับเธอทุกวัน เธอค่อยๆ ปรับตัวได้ทีละนิดเพราะตอนที่ต้องย้ายโรงเรียนเธอจิตตกจนเรียกว่าแทบจะป่วยเป็นโรคประสาทเลยก็ว่าได้เพราะไม่ว่าใครจะมาพูดอะไรด้วยเธอจะกลัวไปก่อนแล้วว่าคนพวกนั้นจะนินทาว่าร้ายเธอแต่นายก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้นถึงนายจะเป็นผู้ชายแต่นายก็สุภาพและอ่อนโยน
             “ขอบใจนะ” นายกำลังมองมือที่ประสานกันไว้แล้วยิ้มออกมาทั้งน้ำตาเพราะวันที่รอคอยมาเนิ่นนานในที่สุดมันก็เป็นจริงสักที
             “ไม่อายใช่ไหมที่น้ำแก่กว่า”
             “เราเลิกมองเรื่องอายุได้ไหมน้ำให้เป็นแค่น้ำกับนายไม่ต้องมีใครแก่กว่าอ่อนกว่าไม่ต้องมีใครเป็นผู้นำใครเป็นผู้ตาม”
             “ให้เป็นแค่เราสองคนที่อยู่เคียงข้างกันก็พอ”
             “อืม” พอยิ่งเขินน้ำก็ยิ่งบีบมือของนายให้แน่นขึ้น ไม่น่าเชื่อว่านายจะพูดจาหวานๆ แบบนี้เป็นกับเขาด้วย
             “นายมีความสุขที่สุดในโลกเลย”
             “แล้วจะบอกแม่ยังไงดี” น้ำถามขึ้นมาด้วยความกังวล
             “ป้านวลคงไม่ว่าอะไรหรอกมั้ง” นายเองก็ชักจะหวั่นๆ ใจ จริงอยู่ที่ป้านวลเอ็นดูเขาแต่มาตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าป้านวลจะเปลี่ยนไปจะรู้สึกยังไงป้าจะพอใจไหมที่ลูกสาวเพียงคนเดียวมีแฟนแบบนี้
             “ป่ะ กลับบ้านกัน”
             “เพิ่งมาถึงเองนะ”
             “ไปบอกป้านวล” นายบอกด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่น
             “บะ บอกอะไร”
             “ก็บอกว่าเราสองคนคบกันไง”
             “เฮ้ย ไม่ต้องก็ได้มั้ง”
             “ไหนว่าไม่อายที่คบกับนายไง”
             “ก็ไม่ได้อายแต่กลัวแม่ไม่รู้แม่จะว่าไง”
             “กลัวยิ่งต้องไปพูด ทำหลบๆ ซ่อนๆ คนที่โดนด่าคือนายไม่ใช่น้ำ” นายลากให้น้ำเดินตามมาจนได้มันเป็นการไปหาป้านวลที่น่าหวาดหวั่นที่สุดเป็นครั้งแรกในชีวิตเลย
             “ไปหาแม่น้ำก่อนแล้วค่อยไปหาแม่นาย”
             “ป้านวลครับ” นายเรียกมารดาของแฟนที่นั่งดูทีวีอยู่
             “อ้าว ไหนว่าไปริมบึงทำไมกลับเร็วกันจัง”
             “คือ ผม ผมขอรบกวนเวลาป้านวลสักครู่ได้ไหมครับ”
             “ได้สิลูก เข้ามาๆ ไปเอาน้ำท่ามาให้นายเขาสิลูก” น้ำเดินเลี่ยงออกไปช้าๆ เพราะเธอแทบจะก้าวขาไม่ออกเมื่อกลับมานายก็ส่งสายตาบอกให้เธอไปนั่งข้างๆ
             “ผมกับน้ำตกลงคบกันครับผมขอโอกาสดูแลน้ำได้ไหมครับป้านวล”
             “แล้วเจ้าตัวเขาตอบว่ายังไงล่ะ” นวลถามเด็กหนุ่มแล้วอมยิ้ม
             “เขาตกลงครับ”
             “ก็ถ้าเขาตกลงแม่ก็ตกลง ลูกแม่รักใครแม่ก็รักด้วย”
             “ขอบคุณครับป้านวล”
             “ทีนี้ก็เรียกแม่ได้แล้วนะลุ้นมาตั้งนานว่าเมื่อไหร่จะเลิกปากหนักกันสักที” นวลเย้าเด็กทั้งสองคน เธอรู้ว่าลูกสาวก็มีใจให้นายแต่ก็อายเกินกว่าจะพูดไปส่วนนายก็คงเกรงใจเพราะน้ำอายุมากกว่าและแม่ลูกสาวตัวดีของเธอก็เอาแต่พูดเรื่องอายุเรื่องพี่สาวแทบจะทุกวัน
             “ผมไปหาแม่ก่อนนะครับแล้วจะพาน้ำมาส่ง”
             “จ้ะ ไปกันดีๆ นะ ไกลมากเลย” นวลยังไม่วายจะแหย่ให้เด็กๆ เขินหนักกว่าเดิม
             “แม่ครับนายมีอะไรจะบอก” เด็กหนุ่มร่างโตเรียกหาแม่ตั้งแต่ยังเดินไม่ถึงประตูบ้าน
             “เอะอะโวยวายทำไมกันเล่า” น้อยหันมาเอ็ดลูกชาย
             “ตั้งแต่นี้ไปผมจะเป็นคนดูแลน้ำครับแม่ นายไปบอกป้านวลแล้วป้านวลไม่ว่าอะไร”
             “ดีเลยหนูน้ำทีนี้ถ้ามันดื้อก็หวดมันให้แม่ทีแม่แก่แล้วไม่มีแรง” น้อยหันไปบอกเด็กสาว
             “ถ้าตายด้วยมือของน้ำผมก็ยินดีครับแม่”
             “โหย เลี่ยนทำไมต้องเลี่ยนขนาดนี้” น้ำทำหน้าเบ้เพื่อกลบเกลื่อนความเขิน
             “เลี่ยนเพราะรักไง”  
             “พอเลย ทะลึ่งใหญ่แล้วเจ้านาย ไปส่งหนูน้ำแล้วมาช่วยแม่เก็บร้าน” น้อยปรามเจ้าลูกชายให้เลิกเกเรเพราะหนูน้ำเขินจนหน้าแดงบิดเสื้อตัวเองจนจะขาดอยู่แล้ว นายเดินไปส่งน้ำที่หน้าบ้านแล้วกลับมาช่วยแม่เก็บร้านเด็กหนุ่มทำงานไปผิวปากไปอย่างสบายอารมณ์พอทุกอย่างเรียบร้อยเขาก็อาบน้ำแล้วโทรไปหาคนรัก
 
             นาย: ทำไรอยู่
             น้ำ: นอนเล่น
             นาย: ทำไมไม่นอนจริงๆ ล่ะ
             น้ำ: กวนแหละ
             นาย: พรุ่งนี้นัดเพื่อนไว้กี่โมง
             น้ำ: แปดโมง
             นาย: งั้นหกโมงครึ่งนายโทรมาปลุกนะ
             น้ำ: อืม
             นาย: น้ำ
             น้ำ: มีไร
             นาย: คิดถึงจัง
             น้ำ: เว่อร์ เพิ่งแยกกันไม่ถึงชั่วโมง
             นาย: ก็คิดถึง น้ำไม่คิดถึงนายหรอ
             น้ำ: หึ
             นาย: น้ำใจร้าย
             น้ำ: โอ๊ย งอแงเป็นเด็กอะไรเนี่ย
             นาย: ก็งอแงกับน้ำคนเดียว
             น้ำ: ไม่ต้องขนาดนี้ก็ได้ไหม
             นาย: คิดถึงไหม คิดถึงรึเปล่า บอกคิดถึงหน่อย
             น้ำ:  คิดถึงหน่อย
             นาย: น้ำใจร้าย ฮือๆ
             น้ำ: ที่ผ่านมานี่แอ๊บแมนใช่ป่ะ
             นาย: ไม่ได้แอ๊บนี่ก็แค่อีกมุมนึงที่อยากให้คนรักเห็น
             น้ำ: เก็บซะมิดเลยนะ
             นาย: แล้วตกลงว่าคิดถึงไหม
             น้ำ: ตกลงจะให้คิดถึงไหมหรือให้คิดถึงหน่อย
             นาย: ก็ได้ ไม่คิดถึงก็ไม่คิดถึง ฝันดีนะ
             น้ำ: โอ๋ๆ คิดถึงจ้าคิดถึงนายนะ
             นาย: น่ารักที่สุดเลย รีบนอนนะพรุ่งนี้นายโทรไปปลุก
             น้ำ: โอเค
             นาย: น้ำ
             น้ำ: ว่า
             นาย: นายรักน้ำนะ น้ำไม่ต้องบอกก็ได้รอให้น้ำมั่นใจก่อนแต่นายมั่นใจแล้ว
             น้ำ: น้ำก็รักนาย
             เมื่อพูดจบน้ำก็ตัดสายทิ้งทันทีทั้งสองคนได้แต่นอนยิ้มกับเพดานแต่บนนั้นกลับไม่ใช่เพดานมันคือหน้าของคนอีกคนที่นอนอยู่ในบ้านฝั่งตรงข้าม
 
ตอนที่ 5
          พลทหารเข้ากรมไปได้หนึ่งเดือนแล้วชีวิตของทหารใหม่เหนื่อยสมกับที่เขาร่ำลือกันจริงๆ ทุกวันนายต้องตื่นตอนตีสี่เพื่อมาออกกำลังกายและฝึกวิชาชายชาติทหารระหว่างวันมันเหนื่อยแต่มันก็ไม่ทรมานเท่าตอนกลางคืนเพราะตอนนั้นคือเวลาที่เขาจะคิดถึงน้ำและแม่ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยห่างแม่มาก่อนและสิบกว่าปีหลังเขาก็เจอน้ำทุกวันมันเป็นความปวดร้าวที่บรรยายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ ว่าเขาคิดถึงและอยากเจอน้ำกับแม่มากขนาดไหน การที่ทำได้แต่เฝ้าคิดถึงเพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้เจอไม่ได้คุยไม่ได้อยู่ใกล้ๆ มันกำลังจะทำให้เขาตายทั้งเป็น
             “คิดถึงเมียหรอมึง” ไอ้สันบัดดี้ที่จะเกาะติดกับเขาตลอดสองปีถามขึ้นมาเบาๆ เพราะถ้าพี่หมู่ได้ยินเสียงคนคุยกันได้ลุกไปวิดพื้นกันทั้งโรงนอนแน่ๆ
             “กูบอกว่าแฟนไม่ใช่เมีย” นายกระซิบกลับไป
             “เออ อดทนหน่อยอีกไม่ถึงเดือนญาติก็มาเยี่ยมได้แล้ว”
             “นอนเหอะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรง” นับว่าเป็นโชคดีของคมสันที่ไม่มีคนรักให้ต้องคิด
             “เออ” นายบอกแต่อีกพักใหญ่ๆ เขาถึงจะข่มตาหลับได้ในที่สุด ในหัวของเขามีแต่ภาพใบหน้าของน้ำ หูก็ได้ยินเสียงแว่วๆ ของน้ำ มือที่วางพักอยู่บนหน้าท้องก็หวนไปถึงสัมผัสมือเล็กๆ นิ่มๆ ของน้ำที่เขาได้จับแค่ครั้งเดียวเท่านั้นตอนที่อยู่ริมบึง เมื่อไหร่จะถึงเดือนหน้ากว่าจะถึงตอนนั้นเขาจะตายด้วยความคิดถึงก่อนไหม
             “ฝันดีนะนาย” น้ำยืนอยู่ที่ระเบียงเธอมองไปที่ห้องของนายแล้วกระซิบเบาๆ ไปกับสายลม เธอไม่รู้เลยว่านายเป็นยังไงบ้างเขาจะเหนื่อยไหมจะลำบากแค่ไหนจะตื่นจะนอนกี่โมง วันๆ จะทำอะไรบ้างและที่สำคัญเธอไม่รู้ว่านายจะคิดถึงเธอบ้างไหม ทุกคืนเธอนอนร้องไห้เพราะคิดถึงเขาเธอไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองรักและติดนายมากขนาดไหนจนวันที่เขาไปนั่นแหละ
             ชีวิตที่ไม่มีนายอยู่ข้างๆ มันเคว้งคว้างจนเธอหวั่นใจ เธอรู้แล้วว่าเธอแก่แค่อายุเท่านั้นจริงๆ นายต่างหากที่เป็นผู้นำและดูแลเธอมาตลอดและวันนี้วันที่เขาไม่อยู่มันทำให้เธอกลัวเหลือเกิน เธอกลัวเขาไม่กลับมาเธอกลัวเขามีคนอื่นและที่สุดของความกลัวก็คือเธอกลัวเขาตาย
             “คิดถึงน้ำบ้างไหม” น้ำกลับมานอนบนเตียงแล้วกระซิบถามสายลมอีกครั้ง ป่านนี้นายคงจะนอนแล้วเพราะเธอไปหาอ่านข้อมูลจากที่ต่างๆ เขาว่ากันว่าทหารเกณฑ์จะต้องนอนสองทุ่มและตื่นตีสี่ เธอได้แต่นับวันรอให้ครบสองเดือนเร็วๆ จะได้ไปหานายซื้อขนมซื้อของใช้ไปฝากเขาแต่อีกใจนึงเธอก็แอบคิดว่าเขาคงไม่อยากเจอเธออีกแล้วก็ได้เพราะสองเดือนที่อยู่ไกลกันนายอาจจะคิดได้ในที่สุดว่าไม่มีเธอเขาก็มีชีวิตได้แถมไม่เหนื่อยต้องมาคอยดูแลเอาใจเธอให้ยุ่งยากด้วย
             ผ่านมาสองเดือนสามวันแล้วที่นายไปเป็นทหารและเธอก็เริ่มทำงานพร้อมๆ กับตอนที่นายเข้ากรม เมื่อครบกำหนดสองเดือนน้ำก็พกมือถือติดตัวไว้ตลอดเวลาเธอปิดเสียงและตั้งสั่นไว้ระดับสูงสุดเพื่อรอรับสายจากเขา ผ่านมาสามวันแล้วก็ยังไม่เห็นมีใครโทรมาหรือนายจะไม่รักเธอแล้วจริงๆ
             “ใจเย็นๆ เดี๋ยวเขาก็โทรมาของแฟนพี่รออยู่เกือบสิบวัน” พี่นกปลอบใจเธอ ทุกคนรู้ว่าแฟนของเธอไปเป็นทหารและต่างก็เห็นใจเธอ
             “ค่ะพี่” น้ำพยายามตั้งใจทำงานเธอต้องแยกเรื่องส่วนตัวออกมาก่อน
             “เป็นอะไรน้ำ” พี่นกถามเมื่อเห็นเธอสะดุ้งเฮือกขึ้นมา
             “นายค่ะ นายโทรมาหนูตั้งสั่นไว้เลยตกใจ” น้ำหยิบมือถือขึ้นมาดูเธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเธอคิดว่าเธอฝันไป
             “ไปสิไปคุยกันในห้องประชุมก็ได้ไม่มีคนอยู่”
             “ค่ะพี่”
 
             นาย: น้ำ
             น้ำ: ฮือๆๆๆ (เธอดีใจมากที่การรอคอยมันสิ้นสุดลงสักที นายไม่ลืมเธอนายโทรมาหาเธอจริงๆ ด้วย)
             นาย: เป็นอะไรน้ำ
             น้ำ: น้ำ น้ำคิดว่านายจะไม่โทรมาจะ จะ ไม่คิดถึง
             นาย: คิดถึงสิ คิดถึงที่สุดเลย นายคิดถึงน้ำทุกคืนเลยนะแต่ตอนกลางวันมันไม่มีเวลาว่างให้คิดเท่าไหร่โดนพี่หมู่ฝึกหนักทุกวันแต่หลังจากนี้ก็จะเบาลงแล้ว
             น้ำ: ฮือๆๆๆ
             นาย: ไม่ร้องนะ
             น้ำ: น้ำกลัวนายจะลืมน้ำ กลัว ฮือๆๆ
             นาย: ไม่ลืม รักขนาดนี้ใครจะลืมได้ลงไม่ร้องแล้วนะเงียบก่อน เช็ดน้ำตาก่อน
             น้ำ: เหนื่อยไหม (น้ำสงบสติอารมณ์ได้ในที่สุด)
             นาย: ได้ยินเสียงน้ำก็หายเหนื่อยแล้ว นายรักน้ำนะรักที่สุดเลย
             น้ำ: รักเหมือนกัน
             นาย: สัปดาห์หน้าเขาให้ญาติมาเยี่ยมได้ถ้าน้ำว่างก็มานะแต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร
             น้ำ: อยากให้น้ำไปรึเปล่า
             นาย: อยากสิทำไมจะไม่อยากแต่มันไกล นายเป็นห่วงที่น้ำต้องเดินทางคนเดียว
             น้ำ: ก็ให้ป้าน้อยไปด้วยสิ
             นาย: นายโทรหาแม่แล้วบอกว่าไม่ต้องมานั่งรถนั่งรานานๆ มันไม่ดี รอให้นายได้วันหยุดนายจะลงไปหาแม่เอง
             น้ำ: แต่น้ำ น้ำคิดถึง
             นาย: นายก็คิดถึงน้ำคิดถึงมาก นายอยากให้น้ำมาหานะอยากให้มาที่สุดเลยแต่นายก็ไม่อยากเห็นแก่ตัวเพราะน้ำเป็นคนลำบากไม่ใช่นาย
             น้ำ: น้ำจะไปหาน้ำคิดถึง น้ำทนไม่ไหวแล้ว
             นาย: นายจะรอนะ รักน้ำนะนายต้องวางแล้ว
             น้ำ: น้ำก็รักนายแล้วเจอกันอาทิตย์หน้า
             พอวางสายน้ำก็ร้องไห้อีกโฮใหญ่แต่คราวนี้คือน้ำตาของความโล่งใจและความดีใจ นายคิดถึงเธอนายยังรักเธอเหมือนเดิมนายยังไม่เปลี่ยนไป
 
             ทางกรมเปิดให้เยี่ยมญาติวันอาทิตย์ตอนสายๆ น้ำออกเดินทางวันเสาร์แล้วหาโรงแรมใกล้ๆ นอนหนึ่งคืน เธอซื้อขนมและผลไม้มาฝากนายเยอะมากคืนนั้นเธอหลับไม่ค่อยสนิทนักเพราะต้องนอนแปลกที่แต่เมื่อคิดว่าพอรุ่งเช้าจะได้เจอหน้านายเธอก็ข่มตาหลับได้ในที่สุด
             น้ำมาถึงกรมก่อนเวลานัดหนึ่งชั่วโมงเพราะเธอไม่อยากพลาดการเข้าเยี่ยมนั่งรออยู่ด้านนอกสักพักก็ได้เข้าไปข้างในเธอมองหานายอยู่พักใหญ่ๆ ก็เจอและมันทำให้เธอแทบจะล้มกองไปกับพื้นมือไม้ที่ถือข้าวของอ่อนแรงขึ้นมาทันที
             “ดารินผมรอแฟนอยู่คุณอย่ามายุ่งกับผมได้ไหม” ดารินคือลูกของนายทหารใหญ่ เธออายุเพิ่งจะเต็มสิบเจ็ดแต่ส่วนสัดนำเข้ามหาลัยไปเรียบร้อยแม่สาวหน้านวลชอบมายุ่งเอาขนมเอาน้ำมาให้แทบจะทุกวันทั้งที่เขาบอกชัดเจนว่ามีคนรักอยู่แล้ว
             “เขาไม่มาแล้วแหละ พี่นายกินสิคะขนมเจ้านี้ส่งมาจากกรุงเทพเลยนะคะพ่อให้คนส่งขึ้นเครื่องมาให้” ดารินหมายตาพี่พลทหารสุดหล่อคนนี้ไว้ตั้งแต่วันแรกที่เห็นหน้า เธอไม่สนหรอกว่าเขาจะมีแฟนแล้วในเมื่อตัวเขาอยู่ตรงนี้ยังไงเธอก็มีสิทธิ์มากกว่ารักกันแค่ไหนยังไงก็ต้องแพ้ให้ดาริน…ไม่เชื่อก็คอยดู
             “มันยังไม่ถึงเวลานัด เลิกทำแบบนี้ได้ไหมคนอื่นเขามองมันน่าเกลียด” นายพยายามปัดป้องและหันหน้าหนีแต่ดารินก็ไม่ละความพยายาม เขาก็ไม่กล้าจะใช้ถ้อยคำรุนแรงเพราะกลัวชะตาตัวเองจะขาดถ้าไปขัดใจลูกหัวหน้าเข้า
             น้ำมองหาคนรักแค่ไม่นานเธอก็เห็นว่าเขานั่งอยู่กับผู้หญิงคนนึงและเธอคนนั้นกำลังป้อนขนมให้นายด้วย ขนาดเห็นไกลๆ ยังรู้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นสวยมาก
             “น้ำ น้ำ” นายรีบวิ่งไปหาน้ำทันที น้ำเพิ่งเดินพ้นประตูเข้ามาแล้วเธอก็ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้นแต่พอเขาเรียกน้ำก็วางข้าวของทุกอย่างแล้วเดินออกไปเลย
             “น้ำ ฟังนายก่อน” นายวิ่งมาทันและฉุดมือของน้ำไว้
             “เนี่ยหรอที่คิดถึงน้ำทุกวันเนี่ยหรอที่รักน้ำที่สุดมาอยู่แค่สองเดือนก็มีคนอื่นไปถึงไหนกันแล้วล่ะ” น้ำพูดด้วยเสียงต่ำๆ เธอไม่อยากเอะอะโวยวายให้ตัวเองเป็นขี้ปากใคร
             “ไม่ใช่นะน้ำ เขาเป็นลูกหัวหน้า นายไม่ได้คิดอะไรกับเขา”
             “แล้วไอ้ที่นั่งป้อนนั่งชิดจนแทบจะขี่กันนั่นมันอะไร ขอโอกาสเพื่อมาทำให้น้ำเสียใจแบบนี้หรอ”
             “นายทำอะไรไม่ได้จริงๆ น้ำ นายขอโทษแต่นายรักน้ำ นายรักน้ำคนเดียว”
             “ขอบคุณนะซื้อของมาให้นายเยอะแยะเลย” นายพยายามชวนเปลี่ยนเรื่อง
             “มันจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย” น้ำเสียใจมากที่ต้องมาเจอภาพบาดตาแบบนี้ นายต้องอยู่ที่นี่อีกเกือบสองปีมันเป็นไปไม่ได้เลยที่สองคนนี้จะไม่สานสัมพันธ์กัน
             “น้ำไม่มาก็ไม่เป็นไร นายจะไปหาน้ำเองตอนที่ได้วันหยุดไปนั่งก่อนนะนายมีเรื่องจะเล่าให้น้ำฟังเยอะแยะเลย” นายดึงมือให้น้ำเดินกลับเข้ามาแต่น้ำก็ไม่ยอม เธอยืนจ้องหน้าเขาเงียบๆ พร้อมน้ำตาหยดเล็กๆ ที่เริ่มไหลออกมา เขาไม่เคยเห็นน้ำเสียใจและโกรธแค้นแบบนี้มาก่อนเลย
             “นายขอโทษ มันไม่มีอะไรจริงๆ น้ำ ยกโทษให้นายเถอะนะ”
             “เชิญไปป้อนกันให้พอใจเถอะ น้ำอดหลับอดนอนวิ่งไปซื้อขนมจากทุกร้านที่นายชอบหอบมันมาคนเดียวทั้งหนักทั้งเหนื่อยแถมต้องมานอนที่แปลกๆ ทั้งที่นายก็รู้ว่าน้ำกลัวผีขนาดไหนแต่น้ำก็ยอมแล้วนี่คือสิ่งที่น้ำได้รับต้องมาเห็นแฟนตัวเองแทบจะนั่งเกยกับผู้หญิงอีกคน” เมื่อพูดจบน้ำก็สะบัดมือแล้ววิ่งออกไปทันที
             “น้ำ น้ำ” นายตะโกนเรียกและพยายามวิ่งตามแต่น้ำก็ไม่มองกลับมาและเขาก็ตามเธอไปไม่ได้แล้วเพราะถ้าวิ่งออกไปมันจะแปลว่าเขาออกนอกพื้นที่กลายเป็นหนีราชการทันที
             เวลาที่เหลือทั้งหมดสำหรับการเยี่ยมญาตินายกระหน่ำโทรหาน้ำแต่เธอก็ไม่รับสายคืนนั้นเขาแทบจะขาดใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นต้องรออีกเดือนนึงเลยเขาถึงจะได้วันลา
             น้ำกลับบ้านด้วยหัวใจแหลกสลายผู้ชายก็เหมือนกันทั้งโลกโกหก โลเล ไว้ใจไม่ได้อยู่ใกล้ใครก็รักคนนั้นเธอเองก็คงไม่ได้มีความหมายอะไรที่มาบอกรักมันก็แค่ความใกล้ชิดก็เท่านั้นเอง พอห่างกันไปใกล้คนอื่นก็รักคนใหม่ ง่ายๆ แบบนั้น
             “โดนเด็กหลอกเป็นยังไงล่ะน้ำเอ๊ย” เด็กก็คือเด็กวันยังค่ำแยกแยะอะไรไม่ได้มีปากก็พูดพล่อยๆ ไปเรื่อย
             “รักน้ำนะ คิดถึงน้ำนะ” ยิ่งคิดถึงถ้อยคำที่เคยได้ฟังก็ยิ่งแค้น ไอ้เด็กเวรไอ้เด็กปากเปราะเสียแรงที่ไว้ใจเสียแรงที่ฉันรักแกจริงๆ
 
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา