พ่อบ้านปีศาจ ภาคชิเอลเป็นปีศาจ บท2 YAOI 18+

8.9

เขียนโดย sebbynoi

วันที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.33 น.

  40 บทที่ 2 พ่อบ้านผู้นั้น กับเรื่องในอดีด
  11 วิจารณ์
  100.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2557 10.58 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

27) ตอนที่ 27

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
"เรื่องก็มีอยู่ว่า เมื่อตอน500ปีก่อน ผมแอบหนีท่านพ่อท่านแม่มาเที่ยวในเมืองมนุษย์ขอรับ ตอนนั้นน่าจะอายุราวๆ 11ขวบได้ "เซบาสเตียนเริ่มเล่าเรื่องของตนให้ชิเอลฟัง"อืม แล้วนายเดินทางมายังไงแล้วมากับใครเหรอ เซบาสเตียน"ชิเอลหันมาถามตอนนี้เขากำลังนอนคว่ำเอาหน้าแนบกับหมอนอยู่พรางมองดูหน้าเซบาสเตียนแล้วตั้งใจฟังเรื่องที่เซบาสเตียนจะเล่าอย่างใจจดใจจ่อ"ผมเดินทางมากับพวกปีศาจผู้ใหญ่ที่คิดจะมาบุกเบิกตั้งถิ่นฐานกันที่โลกมนุษย์ขอรับเราเดินทางมาจากโลกปีศาจด้วยประตูมิติที่เรียกว่าประตูพิพากษา ประตูที่นายน้อยเห็นนั้นแหละ คือวิธีเดินทางมาที่โลกมนุษย์แห่งนี้"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆ"อืม ฉันจำได้แล้วซุ้มประตูสีแดงเลือดนั่นสินะ เป็นประตูที่นายมาน่ะใช่มัยเซบาสเตียน"ชิเอลถามพรางนึกถึงประตูสีแดงนั้นที่เซบาสเตียนเคยสละเลือดสิบลิตรให้เพื่อแลกกับการผ่านประตูไปอย่างปลอดภัย"ใช่แล้วขอรับ"เซบาสเตียนตอบยิ้ม"อืมแล้วจากนั้นยังไง นายเดินทางมายังไง"ชิเอลถามเร่งให้เซบาสเตียนเล่าต่อ"อืมงั้นผมขอเล่าตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านมาเลยนะขอรับ"เซบาสเตียนบอก ชิเอลพยักหน้า"เรื่องก็มีอยู่ว่า ในตอนนั้นในขณะที่ผมกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่สวนหลังบ้านแล้วจู่ๆผมก็เกิดไปได้ยินพวกปีศาจผู้ใหญ่คุยกัน พวกนั้นบอกว่าไปเจอดินแดนที่น่าสนใจเข้าที่ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่มีชื่อว่าโลก เป็นดินแดนของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ซึ่งสำหรับปีศาจอย่างพวกเรามนุษย์คืออาหาร ผมได้รับการปลูกฝังเรื่องการกินวิญญาณมนุษย์มาตั้งแต่เด็ก ท่านพ่อท่านแม่บอกว่าหากได้กินวิญญาณมนุษย์จะทำให้มีชีวิตยืนยาวหลายร้อยหลายพันปี ในตอนเล็กก็มีคนเอาดวงวิญญาณมาป้อนให้ถึงปาก แต่เมื่อโตขึ้นจะต้องไปแสวงหาเอาเอง ปีศาจมีหลายเผ่าพันธ์บ้างกินเลือด บ้างกินเนื้อ และกินวิญญาณในโลกปีศาจมีระดับชนชั้นเหมือนกัน มีการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราช ราชาเป็นประมุกมีอำนาจสูงสุด สั่งเป็นสั่งตาย แม้จะเป็นปีศาจมีชีวิตเป็นอมตะหากหมดอายุขัยก็จะตายได้เหมือนกับมนุษย์นั่นแหละเพียงแต่มีอายุยืนยาวมากกว่าหลายร้อยหลายพันเท่าก็แค่นั้นเอง กาลเวลาในโลกปีศาจแตกต่างจากโลกมนุษย์ที่บ้านของผมในโลกปีศาจนับถ้านับเป็นปีล่ะก็ 1ปีในโลกปีศาจเท่ากับ 50 ปีในโลกมนุษย์"เซบาสเตียนบอกยิ้มๆ"แล้วตอนนี้นายอายุเท่าไหร่ในโลกปีศาจเซบาสเตียน"ชิเอลถามยิ้มๆ"เอ่อไม่รู้สิครับ ผมไม่ได้กลับบ้านมาหลายร้อยปีแล้ว ลืมไปแล้วว่าตัวเองอายุปีศาจเท่าไหร่ นายน้อยลองคำนวนดูเองแล้วกัน เมื่อ500ปีก่อนผมอายุ11 มาถึงตอนนี้คิดว่าเท่าไหร่ล่ะ"เซบาสเตียนถามยิ้มๆ"เอ่อ...เท่าไหร่หว่า อืม"ชิเอลหลับตาคิดตามที่เซบาสเตียนบอกเมื่อครู่ ว่า 1 ปีในโลกปีศาจเท่ากับ 50 ปีโลกมนุษย์ 500 ปีก่อน เซบาสเตียนอายุ 11 "เอ่อ..."ชิเอลขมวดคิ้วพรางคิดคำนวนดู เซบาสเตียนมองดูหน้านายน้อยของเขาแล้วอมยิ้ม เขาอยากจะทดสอบสติปัญญาของนายน้อยสักหน่อย "ว่าไงขอรับ คำนวนได้หรือเปล่า "เซบาสเตียนถามยิ้มๆ ชิเอลขมวดคิ้วจ้องหน้าเซบาสเตียนเขม็ง"จะไปรู้ได้ไงล่ะ ฉันไม่เก่งคำนวนสักหน่อย "ชิเอลพูดอย่างไม่สบอารมณ์เขาหลับตาคิดแล้วคิดอีกก็ยังไม่เก็ท "เอ่อ ใบ้ให้หน่อยสิ ฉันคิดไม่ออกอ่ะ"ชิเอลพูดอย่างเนือยๆ เอามือกุมหัว"ก็ได้ขอรับผมอายุน้อยกว่าเจ๊ฮอบบี้ทั้งตอนก่อนตายและหลังจากตายไปแล้ว"เซบาสเตียนยอมใบ้ให้นิดนึง"แล้วคุณเฟรสเชอร์อายุเท่าไหร่ตอนก่อนที่จะตายน่ะ"ชิเอลถามอย่างสนใจ"ประมาณ ยี่สิบเจ็ดขอรับ"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ"โหนี่นายอายุยังไม่ถึงเลขสามอีกเหรอ ฉันคิดว่านายจะอายุเยอะกว่านี้ซะอีก"ชิเอลมองหน้าเซบาสเตียนอย่างแปลกใจ นี่เขายังหนุ่มขนาดนั้นเชียว อ่อนกว่ายี่สิบเจ็ดอีกเหรอ ไม่น่าเชื่อเลย ตอนแรกเขาคิดว่าเซบาสเตียนแก่คราวพ่อซะอีก "หึหึหึ ตอนแรกนายน้อยคิดว่าผมอายุเท่าไหร่ล่ะครับ"เซบาสเตียนถามยิ้มๆ"คิดว่าน่าจะขึ้นเลขสามน่ะสิ คิดว่าแก่พอๆกับพ่อของฉัน"ชิเอลบอกพรางขมวดคิ้วจ้องมองใบหน้าใสๆของเซบาสเตียน ดูๆดีๆก็ยังดูหนุ่มอยู่นี่นา อาจเพราะสวมใส่ชุดพ่อบ้านก็ได้เลยแลดูมีอายุ"หึหึหึ ผมดูแก่ขนาดนั้นเชียวเหรอ จะว่าไปแล้วผมไม่ได้ใส่เสื้อผ้าปกติธรรมดามานานแล้วนี่นา ใส่แต่ชุดพ่อบ้าน"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางเอามือลูบผมตนเองไปพราง"แล้วตกลงนายอายุเท่าไหร่ล่ะ"ชิเอลย้อนกลับมาถามเรื่องอายุใหม่อีกรอบ"ไม่บอกขอรับ ลองคำนวนดูเอาเองสิ ถ้านายน้อยทายถูกผมจะทำตามใจคุณหนึ่งอย่าง"เซบาสเตียนพูดยิ้มๆพรางเอานิ้วมาแตะปากทำท่าจุ๊ปาก หยอกล้อนายน้อยเล่น"ชิ ไม่เห็นจะอยากรู้เลย เล่าต่อสิ หลังจากที่นายได้ยินพวกปีศาจโตๆนั้นคุยกันแล้วไงต่อล่ะ"ชิเอลรีบตัดบท แถไปเรื่องอื่นทันที"หลังจากที่พวกนั้นคุยกันเรื่องโลกมนุษย์ผมก็เกิดสนใจขึ้นมา รีบปิดหนังสือแล้วไปแอบฟัง พอได้ฟังลายละเอียดของดินแดนแห่งนี้รวมถึงแผนการของพวกนั้นว่าจะเดินทางกันวันไหน เมื่อไหร่ และด้วยวิธีไหน ผมก็เลยตัดสินใจว่าจะขอติดตามพวกนั้นไปด้วย ตอนแรกผมไปหาพวกนั้นคุยเพื่อขอตามไปด้วย แต่พวกนั้นปฏิเสธ บอกว่า ผมยังเด็กอยู่การไปใช้ชีวิตที่นั้นจะทำให้ลำบาก พวกนั้นไม่ยอมให้ผมไป แถมพอผมดึงดันจะไปให้ได้ ก็รีบแจ้นไปฟ้องท่านพ่อของผมทันที พวกนั้นรู้จักครอบครัวของผมดี พอท่านพ่อรู้ว่าผมจะไปก็สั่งห้ามไม่ให้ไปเด็ดขาดเลยด้วย ท่านพ่อดุและเข้มงวดมาก หากผมขัดคำสั่งจะโดนลงโทษทันทีเลย ผมก็เลยไม่กล้าขัดคำสั่งขอพวกนั้นติดตามไปอย่างโจ่งแจ้งอีก หากไปเซ้าซี้มากผมคงถูกท่านพ่อลงโทษแน่ แต่เด็กอย่างผมไม่คิดจะตัดใจง่ายๆหรอก เลยวางแผนแอบหนีออกจากบ้านติดตามพวกนั้นไปโดยไม่ให้รู้ตัว ซึ่งตอนแรกทำทีว่าเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายอยู่แต่ในบ้านนั่งเล่นของเล่นไปบ้างนั่งอ่านหนังสือของผมไป ทำตัวสงบเสงี่ยมไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับพวกนั้น แต่พอตกกลางคืนผมก็แอบหนีออกมาแล้วไปซ่อนตัวในกองสัมภาระที่พวกนั้นเตรียมเอาไว้สำหรับการเดินทางไปบุกเบิกดินแดนมนุษย์" เซบาสเตียนเล่ายาวพรางระลึกถึงความหลังของตนเอง ชิเอลหัวเราะพรางมองตาดูเซบาสเตียนอย่างขบขัน" แล้วนายหนีออกมาจากในห้องของนายได้ยังไงโดยที่ไม่มีใครรู้น่ะ"ชิเอลพูดยิ้มๆ"ผมแกล้งทำทีว่าจะเข้านอน ท่านแม่เลยไปส่งเข้านอนแล้วก็ให้ปีศาจพี่เลี้ยงมาเฝ้า ผมจัดการซัดพี่เลี้ยงจนสลบไปด้วยของแข็งๆแล้วเอาเชือกมามัดตัวแล้วเอาผ้ามาอุดปากเจ้านั้นเอาไว้ จากนั้นก็เอาผ้าปูที่นอนหลายๆผืนมาผูกเป็นปมแน่นๆต่อกันให้ยาวๆแล้วทิ้งลงไปที่หน้าต่างห้องที่ผมนอนอยู่คือชั้นสามจับยึดผ้าปูเอาไว้แล้วก็ค่อยๆไต่ลงมาช้าๆ"เซบาสเตียนเล่าพรางนึกภาพตอนนั้นไปพราง แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเห็นสัญญาณมือของชิเอลที่ยกขึ้นสื่อว่าให้หยุดก่อนเขามีเรื่องข้องใจจะถาม"เดี่ยวหยุดก่อนเซบาสเตียน ฉันอยากจะถามหน่อยว่า ทำไมไม่ใช้ปีกของนายบินลงมาล่ะ หรือกระโดดลงมาเลยก็ได้ นายเป็นปีศาจอีกาไม่ใช่เหรอ อายุ11 น่าจะบินได้แล้วนี่นา หรือยังบินไม่ได้กันล่ะ" ชิเอลให้ข้อสังเกต"บินได้แล้วขอรับ ท่านพ่อสอนให้กระผมหัดบินตั้งแต่ ผมอยู่ในวัยหัดเดินแล้วล่ะ จริงๆจะใช้ปีกบินก็ได้แต่มันจะต้องใช้พลังปีศาจ ท่านพ่อเก่งมากเรื่องจับประแสพลังปีศาจรอบๆบริเวณบ้าน ท่านจะรู้ทันทีหากผมใช้ปีกบิน เลยต้องไม่ใช่พลังต้องปีนลงมาเองขอรับ หากตกลงไปคงเจ็บน่าดูล่ะ เพราะพื้นข้างล่างหินล้วนๆเลย ผมจะต้องตั้งใจมากเป็นพิเศษหากพลาดล่ะก็ไม่มีโอกาสอีกเป็นครั้งที่สองแล้วที่จะหนี "เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ"หึหึ นายนี่ตอนเด็กๆก็ซนไม่เบาเหมือนกันนะ แล้วไงต่อ "ชิเอลถามอย่างสนใจ ตอนนี้เขายังคงนอนตะแคงคว่ำอยุ่บนเตียง หันหน้ามามองหน้าพ่อบ้านหนุ่มรอคอยให้เล่าเรื่องในอดีดให้ฟังต่อ"พอหนีออกมาได้แล้วก็ต้องคอยหลบยามน่ะสิ ตอนนั้นทั้งกลัวทั้งตื่นเต้น ยามเดินกันให้ว่อนเลย ผมต้องระวังอย่างมากเลยล่ะ ถ้าหากเผลอไปสะดุดหรือชนอะไรเข้าจนเกิดเสียงละก็จบเห่เลยล่ะครับ" เซบาสเตียนพูดยิ้มๆ"อืมแล้วนายทำไงกับยามพวกนั้นล่ะ แล้วยามเป็นสมุนของพ่อนายเหรอ เท่าที่ฟังดูนายท่าทางรวยไม่น้อยเลย เป็นคุณหนูเหรอเซบาสเตียน"ชิเอลถามยิ้มๆ"หึหึหึ คงใช่มั้งขอรับ คงจะรวยละมั้ง ผมไม่ใส่ใจเรื่องฐานะทางครอบครัวอยู่แล้วล่ะ เล่าต่อนะขอรับ "เซบาสเตียนถาม ชิเอลพยักหน้า"ยามพวกนั้นมันไม่มีพลังในการจับกระแสพลังปีศาจของผมได้หรอก แม้จะใกล้แค่ไหนก็ตาม ผมแอบหลบตามพุ่มไม้ค่อยๆเลียบทางไปจนกว่าจะไปถึงประตู พวกนั้นมันชอบอู้แอบหลับประจำ ผมรอจนกว่าพวกนั้นจะหลับแล้วก็หาก้อนหินหนักๆซักก้อนสองก้อนมาถือไว้ เผื่อพวกนั้นตื่นมาเห็นผมเข้าล่ะก็ผมจะทำให้มันสลบไปเลย " เซบาสเตียนพูดพรางบีบนวดมือตัวเองไปมา เพราะเขามานั่งเล่าเรื่องให้ชิเอลฟังเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วเริ่มเมื่อยตัว"แหมนายนี่โหดแต่เด็กเลยนะ"ชิเอลแซว"ไม่หรอกครับ เอาเข้าจริงๆพวกยามพวกนั้นมันหลับเป็นตายเลยผมแอบออกไปได้ง่ายดายมาก แต่ว่าเกือบจะไปถึงประตูแล้วมันจะมาตกม้าตายเอาตอนเปิดประตูน่ะสิขอรับ เกือบถูกจับได้แล้วดีที่มีก้อนหินช่วยไว้ ตอนที่ผมกำลังจะเปิดประตูแอบออกไปจากบ้านประตูมันดันเกิดเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด จนยามตนหนึ่งที่พึ่งจะหลับไปยังไม่หลับลึก เขาเกิดรู้สึกตัวขึ้นมา พอตื่นมาก็เห็นผมเข้าพอดีผมไม่ลังเลเลยฟาดก้อนหินใส่หัวเขาจนยามตนนั้นสลบไปเลย ตอนนั้นผมกลัว และกังวลมากเลยล่ะครับกลัวจะปลุกยามตนอื่นตื่นมาเสียก่อน เพราะเสียงล้มทั้งยืนของเจ้าปีศาจร่างบึกบืนนั้นดังมากเลย ผมไม่อยู่ดูหรอกว่าพวกนั้นจะตื่นหรือเปล่าหรอก ขืนชักช้าคงโดนจับตัวได้แน่นอน ลำพังตัวผมในเวลานั้นสู้พวกนั้นไม่ไหวแน่เพราะยังเด็กอยู่หากพวกยามนั้นลุมละก็โดนจับแน่ขอรับ "เซบาสเตียนพูดพรางเอามือลูบผมรู้สึกเขินหน่อยๆที่ต้องเล่าวีระกรรมสมัยเด็กของตนให้นายน้อยฟัง"อืมๆ เล่าต่อกำลังสนุกเลย นายนี่ร้ายน่าดู"ชิเอลหัวเราะพรางมองหน้าเซบาสเตียนอย่าขบขัน"พอหนีออกมาจากบ้านได้แล้ว ผมก็ไปบ้านของพวกปีศาจผู้ใหญ่ตนหนึ่งที่ใกล้บ้านผมที่สุดที่วางแผนจะเดินทางไปโลกมนุษย์ในวันรุ่งขึ้น โดยปีนขึ้นไปบนกำแพงแล้วก็กระโดดลงมาหลบซ่อนตามพุ่มไม้ ตอนที่หนีห้ามใช้พลังปีศาจเด็ดขาดเพราะท่านพ่อจะรู้ แล้วจะตามมาจับตัวกลับไปทันที พอเข้ามาในบ้านพวกนั้นได้แล้ว ผมก็แอบอยู่ในกองสัมภาระตั้งแต่ตอนดึกจนถึงรุ่งเช้าเลย ในนั้นทั้งร้อนอบอ้าวและอืดอัด แต่ในเมื่ออยากจะไปก็เลยต้องกัดฟันทนหลบซ่อนตัวต่อไป ขืนออกมาต้องโดนจับได้แน่ เพราะป่านนี้ยามคงตื่นแล้วเอาเรื่องที่เจอผมที่หน้าประตูทางออกมารายงานท่านพ่อแล้วล่ะ และคงจะตามหาตัวผมกันจ้าละหวั่นเลย ผมแอบเห็นยามและลูกสมุนของท่านพ่อเดินออกตามหาตัวผมทั่วเมืองเลย ถ้าถูกพบเจอเข้าล่ะก็โดนจับตัวไปหาท่านพ่อแน่ๆ เลยต้องซ่อนให้มิดชิดร้อนหรืออืดอัดยังไงก็ต้องทนอ่ะนะ แล้วผมก็หลับไปในนั้นจนถึงเช้าเลย พอรู้ตัวอีกทีก็พบว่าตรงที่ผมกำลังนอนหลับซ่อนตัวอยู่กำลังเคลื่อนที่ ผมแอบโผล่หัวออกมาดูก็พบว่าพวกนั้นกำลังออกเดินทาง ตอนนั้นผมตื่นเต้นน่าดู เป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาจากบ้าน และก็เดินทางตามลำพังโดยไม่มีพ่อแม่มาคอยเฝ้าดูแล แต่ผมก็อดรู้สึกผิดไม่ได้อ่ะนะ ที่หนีออกมาแบบนั้นไม่ได้บอกเกล่าอะไรเลย ท่านพ่อท่านแม่คงโกรธผมน่าดูล่ะ หากเจอตัวผมเข้าละก็ผมคงโดนลงโทษหนักเลย"เซบาสเตียนบอกอายๆ ชิเอลอมยิ้ม"แล้วพ่อแม่นายหานายเจอมัย ตอนหลังน่ะ ฉันได้ยินมาจากคุณเฟรชเชอร์ว่านายโดนปีศาจจับตัวไปแล้วหายไปเลยหลายร้อยปี"ชิเอลให้ข้อสังเกต"อ้อผมถูกสมุนของท่านพ่อมาเจอตัวโดยบังเอิญตอนไปเดินเที่ยวในตลาดหลังจากที่พ่อของเจ๊ฮอบบี้ตายไปไม่กี่เดือน ผมในตอนนั้นสู้สมุนของท่านพ่อไม่ได้ เขาเป็นปีศาจระดับเอสคราสเหมือนกันเก่งมาก ผมถูกจับตัวอุ้มพากลับบ้านไปอย่างง่ายดายพอกลับไปถึงบ้านก็โดนท่านพ่อลงโทษซะอ่วมอรทัยเลย แล้วถูกกักตัวไว้ตลอดหลายปี อยู่ที่บ้านจนโตเป็นหนุ่มนั้นแหละท่านพ่อกับท่านแม่เลยยอมปล่อยให้ทำอะไรได้อย่างอิสระ" เซบาสเตียนเล่าพรางทำหน้าแดงๆด้วยความเขิน"แล้วนายโดนพ่อนายลงโทษยังไงเหรอ เซบาสเตียน"ชิเอลถามเขาอยากรู้ว่าเซบาสเตียนในวัยเด็กถูกลงโทษยังไง"นายน้อยคิดว่าเด็กๆจะโดนอะไรล่ะครับ ผมก็โดนไม้เรียวฟาดก้นเอาน่ะสิ ไม่ใช่ไม้ธรรมดาด้วยนะ เป็นไม้อาบเวทมนต์ที่ท่านพ่อทำขึ้นมาไว้ลงโทษผมโดยเฉพาะเลยล่ะ เพราะปีศาจส่วนมากหากเกิดบาดแผลจะสมานตัวได้เร็ว แต่หากถูกไม้นั้นจะไม่ทำให้บาดแผลสมานตัวได้จนกว่าเวทมนต์นั้นจะหมดฤทธิ์ซึ่งท่านพ่อกำหนดไว้ เจ็ดวัน กว่าแผลของผมจะหายก็ตั้งอาทิตย์กว่าๆแน่ะ โดนตีไปครั้งเดียวเจ็บไปตลอดทั้งอาทิตย์เลย ผมโดนฟาดไปหลายสิบทีจนเลือดอาบสลบคาไม้เลย ท่านพ่อโหดมาก นายน้อยน่าโดนแบบนั้นมั่งนะจะได้เลิกดื้อ เลิกเอาแต่ใจซักที หึหึหึ"เซบาสเตียนเล่าไปเล่ามาวกเข้าหาตัวชิเอลเอาเสียดื้อๆ"พอเลยฉันไม่ยอมให้นายทำแบบนั้นกับฉันเด็ดขาด แต่ว่าพ่อนายนี่โหดน่าดู "ชิเอลคิดแล้วยังรู้สึกหวาดเสียวแทนเลย"แล้วจากนั้นผมก็ถูกกักตัวให้อยู่แต่ในบ้าน ท่านแม่มาคอยทายาให้ตลอดแต่ว่าทายังไงก็ไม่หาย เพราะอำนาจของเวทมนต์ของท่านพ่อยังอยู่ ผมนอนซมตลอดทั้งอาทิตย์อยู่แต่บนเตียงลุกไปไหนไม่ได้เลย หลักจากเวทมนต์เสื่อมไปผมก็หายเป็นปลิบทิ้งไม่เหลือร่องรอยของบาดแผลเลยแม้แต่น้อย ท่านแม่ไล่พี่เลี้ยงที่ทำงานบกพร่องปล่อยให้ผมหนีออกจากบ้านไปได้ออกทันที เมื่อผมลับมา แล้วตัวท่านแม่เองก็มาเฝ้าดูผมแทน ผมเลยกระดิกตัวหนีไปไหนไม่ได้อีก ขนาดโตแล้วท่านแม่ยังมานอนด้วยเลยน่าอายชะมัด ที่ไม่ยอมปล่อยให้ผมอยู่ลำพังเพราะกลัวผมจะหนีไปโลกมนุษย์อีก ด้วยความที่ท่านรักผมและเป็นห่วงผมมากผมเลยโดนเฝ้าตลอดเวลาเลย แค่ไปห้องน้ำยังตามมาเลยคิดดูแล้วกันนายน้อย ผมแทบจะไม่มีอิสระเลยตอนนั้นน่ะ เคยรู้สึกเหมือนว่าตัวเองโดนกักขังในกรง บ้านของผมคือกรงไร้อิสระภาพแต่ถึงอย่างนั้นผมก็มีความสุขนะที่ได้อยู่กับครอบครัวที่รักและห่วงใยผม ถึงท่านพ่อจะดุก็เถอะแต่ท่านก็รักผมมากเลยล่ะ ไม่ใช่ว่าจะเข้มงวดจนเกินไป ท่านเองก็ตามใจผมบ้างเป็นครั้งคราว อยากได้อะไรก็ให้หมด แต่อย่างนึงที่ไม่ให้คือไปเที่ยวโลกมนุษย์ ผมถูกสั่งห้ามเด็ดขาดเลยและโดนขู่ว่าถ้าแอบไปอีกจะถูกล่ามโซ่ที่ข้อเท้าตอนกลางคืนเวลานอนบนเตียง ผมเลยไม่กล้าดื้อกลัวโดนล่ามโซ่ผูกกับเตียงเวลาเข้านอน พอไม่ได้ไปมันทำให้ผมอดคิดถึงเมืองมนุษย์ไม่ได้ผมยังอยู่ที่นั้นได้ไม่ถึงปีเลยน่าเสียดายที่จะไม่ได้ไปอีกนานเลย แต่ผมก็ไม่คิดโกรธท่านพ่อท่านแม่หรอก เพราะผมรู้ว่าพวกท่านรักและห่วงใยผมมากที่ไม่ให้ไปเพราะกลัวผมจะมีอันตราย กลัวจะลำบาก ท่านพ่อกับท่านแม่เป็นคนบอกเหตุผลกับผมด้วยตัวท่านเองผมก็เลยต้องยอมอยู่แต่ในโลกปีศาจไปอีกหลายปีเลย ท่านพ่อบอกว่าไว้ผมโตแล้วค่อยไปก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้นท่านจะไม่ห้ามผมอีกให้อิสระผมเต็มที่ อยากจะไปไหนหรือทำอะไรที่ไหนก็ตามสบาย พอผมได้ฟังแบบนั้นเลยทำให้คลายความเครียดไปบ้างและก็ยอมอยู่ที่บ้านไปจนกว่าเวลานั้นจะมาถึงจึงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและสนุกสนาน และรอคอยเวลาที่จะได้กลับไปโลกมนุษย์ ซึ่งไม่รู้ว่าจะนานแค่ไหนกว่าจะได้กลับไป แล้ว.." เซบาสเตียนพูดยังไม่จบก็ต้องหยุดเมื่อเห็นสีหน้าของชิเอล"อ้าว นายน้อยเป็นอะไรไปครับ ร้องไห้ทำไม"เซบาสเตียนถามอย่างห่วงใยพรางก้มลงไปมองหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาใสๆของนายน้อยแล้วเอามือลูบหัวเบาๆ ชิเอลรีบเอามือปาดเช็ดน้ำตาออก พรางปัดมือพ่อบ้านหนุ่มออกด้วย เขาเกิดคิดถึงพ่อแม่ของเขาขึ้นมาเมื่อได้ฟังเรื่องของเซบาสเตียนหากพ่อแม่ยังอยู่ก็คงจะรักและห่วงใยเขามากเหมือนๆกับพ่อแม่ของเซบาสเตียนแน่เลย"เปล่าหรอกฝุ่นมันเข้าตาน่ะ นายเล่าต่อสิ หลังจากที่หนีออกมาแล้วยังไงต่อ"ชิเอลพูดเสียงอู้อี้แล้วพยายามยิ้มให้เซบาสเตียนเพื่อกลบเกลื่อนความโศกเศร้าอาลัยของตนเอาไว้"ขอรับงั้นเล่าต่อนะ หลังจากที่ผมแอบอยู่ในกองสัมภาระของพวกปีศาจที่จะเดินทางมายังโลกมนุษย์ ผมก็แอบเปิดผ้าที่คลุมกองสัมภาระพวกนั้นออกมาแล้วมองดูรอบๆตัวว่าตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว ปีศาจพวกนั้นยังไม่รู้ตัวว่าเอาผมเดินทางมาด้วย ผมรีบหลบทันทีเมื่อพวกนั้นเดินทางมาจนถึงประตูมิติ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่ามันคือประตูพิพากษา ผมกลับมาถามท่านพ่อตอนหลังน่ะเลยรู้ว่าถูกเรียกว่าประตูพิพากษา"เซบาสเตียนบอกพรางมองดูหน้าของชิเอล ชิเอลพยักหน้าให้เขาเองก็จำได้ว่ามันคือซุ้มประตูสีแดง แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องเอามาตั้งไว้อีกในเมื่ออพยพปีศาจมาอยู่ที่นี่นานแล้วนี่นา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.1 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา