The seasons change ฤดูที่แตกต่าง

-

เขียนโดย Madammeaw

วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.47 น.

  8 ตอน
  0 วิจารณ์
  9,546 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 มีนาคม พ.ศ. 2559 22.17 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

5) ฤดูที่แตกต่าง 5

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ฤดูที่แตกต่าง………….เวลากับความสัมพันธ์
  07:00
ผมเดินออกมารับลมหนาวที่กำลังพัดผ่านมาในช่วงนี้ของปีถุงมือรองเท้าบูทและผ้าพันคอเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งคงไม่มีใครสามารถทนสภาพอากาศเช่นนี้ได้แน่นอน  แต่ตรงกันข้ามผมกลับชอบอากาศแบบนี้ที่สุดมันเย็นๆเข้าไปสุดขั่วหัวใจแต่ถึงกะนั้นหิมะก็ไม่มีท่าทีว่าจะตกเลยสักนิดเฮ้อมาอยู่ก็หลาเดือนหิมะไม่เคยตกให้เห็นเลยขอหละนะหิมะตกลงมาให้ผมชื่นใจสักครั้ง ผมเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านที่มีพื้นที่แทบจะสร้างเป็นสนามบอลได้เลยทีเดียวบ่งบอกถึงฐานะของอาเท็นที่ร่ำรวยมหาศาลจริงๆ ผมเดินไปได้สักพักตาผมก็เหลือไปเห็นเหมือนจะมีอะไรบางอ่างอยู่กลางทุ่งหญ้าผมวิ่งเข้าไปดูทันทีแล้วก็ต้องชะงักกับสิ่งที่ได้เห็น คน คน
นี่มันคนนี้ผู้หญิงซะด้วยทะทำไมมานอนอยู่ที่นี่ได้นะเนี่ยผมก้มลงเพื่อที่จะขยับร่างของเธอฮะเฮ้เดี่ยวก่อนนะนี้เธอยังไม่ตายนิผมเข้าไปช้อนตัวเธอขึ้นแล้วรีบอุ้มเธอเข้าไปในบ้านทันที
 “มีอะไรกันเนี่ยเด็กคนนี้เป็นใครกัน”อาเท็นถามผมเมื่อเห็นผมกำลังอุ้มเด็กสาวคนนี้อยู่
“ผมเจอเธอหมดสติอยู่ที่สนามหญ้าหลังบ้านหน่ะครับเลยพาเข้ามาก่อนไม่รู้เป็นลูกหลานใคร”
“งั้นเดี่ยวอาไปหายาดมก่อนแล้วกันเผื่อจะดีขึ้นจะได้ไม่ต้องไปโรงพยาบาล”
  เวลาผ่านไปสักพักเธอก็เริ่มมีสติทันทีที่เธอได้สติดูจะตื่นตระหนกตกใจอยู่บ้างแต่หลังจากการถามเรื่องราวทั้งหมดก็ได้รู้ว่าเธอถูกตามล่าโดยพวกวัยรุ่นขี้เมาที่ไปเจอเธอตอนรถเธอน้ำมันหมดพวกมันพยายามจะข่มขืนเธอแต่เธอก็หนีมาได้แล้วมาหมดสติอยู่ที่สนามหญ้า ผมเลยขออาสาจะพาเธอไปส่งแต่กลับกลายเป็นว่าเธอขอแค่น้ำมันเพื่อไปเติมรถของเธอเท่านั้น
   ผมก็ไม่ขัดสัทธาเธอแต่อย่างใดแต่ในใจก็ยังเป็นห่วงอยู่ดีแถมเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก
“ก่อนคุณจะไปผมถามอีกครั้งนะว่าแน่ใจนะว่าไม่ให้ผมไปส่ง”
“ค่ะแน่ใจค่ะขอบคุณๆมากนะค่ะที่ช่วยฉันไว้”
“ว่าแต่คุณชื่ออะไรหรอครับยังไม่ได้ถามชื่อคุณเลยก็จะไปซะแล้ว”
“อ่อฉันชื่อ เคทค่ะเป็นคนไทยที่มาเรียนท่นี่นะค่ะยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะคุณ……”
“อ่อเออผมชื่อ มารช์ครับ”
“ค่ะมารช์ถ้าโชคดีเราคงได้พอกันอีกนะค่ะ”
“ผมก็หวังเช่นนั้นเหมือนกันครับ”
“ไปแล้วนะค่ะบาย”
“ครับบายครับ”
แล้วเคทก็ขับรถออกไปผมก็ได้แต่ยืนมองท้ายรถของเธอจนลับสายตา
   อากาศอันหนาวเหน็บยังคงไม่เคลื่อนตัวไปไหน ในเช้าของวันเปิดภาคเรียนแบบนี้ผมเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยเหมือนกันที่จะได้ไปเรียนสักทีอยู่บ้านสุดแสนจะนาเบื่อไม่ค่อยได้ทำอะไรบรรยากาศในวันนี้เป็นอะไรที่คึกคักมากเด็กปี1แล้วพวกชั้นเลื่อนแบบผมต่างมานั่งพูดคุยกับเพื่อนๆหลังจากที่ปิดเทอมไปนาน ผมเดินไปตามทางที่มีตู้ล็อกเกอร์เรียงรายกันมากมายแต่ละตู้ก็จะมีเจ้าของของเค้าจับจองกันอยู่แต่ผมก็ไม่เข้าใจว่านี่ไม่ใช้มัธยมแล้วนะจะได้มีตู้ล็อคเกอร์แต่ก็ชั่งเหอะ ในเช้าของวันนี้ไม่มีวิชาเรียนผมเลยกะว่าจะไปหาอะไรอ่านที่หอสมุทรสักหน่อยแต่พอเดินผ่านห้องน้ำหญิงก็ดันมีเด็กผู้หญิงเดินออกมาจากห้องน้ำรางของเราทั้งสองคนปะทะกันเข้าอย่างจังทำเอาผมและเธอล้มก้นจ้ำเบ้ากันไป
“โฮ้ยๆๆๆอะไรเนี่ยเดินไม่มองทางเลย”เด็กสาวพูดขึ้น
“อ้าวเธอพูดแบบนี้ก็ไม่ถูกนะก็เห็นอยู่ว่าฉันเดินผ่านอะ”ผมเถียง
“อ้าวนายหาว่าฉันผิดอ่อ”
“ก็ใช่นะสิเธอไม่ผิดแล้วใครจะผิดหละก็เห็นๆกันอยู่”
“ไอ้บ้านี่ นายมันไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยนะ”
“แล้วเธออะสุภาพสตรีตายแหละดูแต่งตัวดิล่อใครหรอ”
“อร๊ายยยยยไอ้ตุ๊ดนายว่าฉันหรอ”
“อ้าวยัยเหม่งเธอว่าฉันตุ๊ดอ่อ”
“เออสิ ไอ้ตุ๊ด ไอ้ตุ๊ด ไอ้ตุ๊ด ไอ้…...”
เด็กคนนั้นไม่ทันจะพูดจบก็มีมีปริศนาตบเข้าที่หน้าของเธออย่างจังจนมีเลือดซิบๆที่มุมปากทำเอาผมอึ้งไปเลยเพราะเจ้าของ ของมือนั้นคือเคทคนที่ผมช่วยเธอไว้เมื่อวันก่อนนั้นเอง
   “พะพี่ตบฉันทำไมเนี่ย”เด็กสาวถาม
“ต่ำ ก้าวร้าว น่าจะกลับไปอยู่บ้านนอกหน่ะดีแล้วมาทำไมทำให้ฉันเสื่อมเสียแกรู้ไหมว่าคนๆนี้เป็นใครเค้าคือคนที่ช่วยชีวิตฉันไว้แต่แกกลับมายืนด่าว่าเค้าแกนี่มันกลับบ้านไปแกเจอดีแน่”
เคทพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัวจนผมขนลุกไปเลยก็ว่าได้
“เออคือเคทจริงแล้วก็ไม่มีอะไรมากนะไม่ต้องทำขนาดนั้นก็ได้”ผมพูดกับเคทแต่ดุเหมือนเธอจะไม่สนใจที่ผมพุดเลยแต่กลับบีบแขนน้องสาวเธอและจ้องตาเขม่ง
“ผมขอละนะ”ผมขอร้องใหแคทหยุดแล้วก็ได้ผลเคลายมือออกจากแขนของน้องสาวเธอ
“ฉันเห็นแกคุณนะค่ะ”เคทหันมายิ้มให้ผมแล้วเดินจากไป
“เออคือๆๆคุณเจ็บมากไหม”ผมหันไปถามเด็กคนนั้น
“นายคิดว่าไงล่ะ”
“คือผมผิดเองที่เดินไม่ดูทางขอโทษจริงๆนะ”
“ชั่งมันเธอฉันไปนะ”พูดเสร็จเธอก็เดินจากไปอีกคนผมที่งงอยู่ว่าเรื่องมะกี้มันคืออะไรทำไมต้องทำกันขนาดนั้นเลยหรอแต่ผมก็คงแต่ได้ยืนงงอยู่อย่างนั้น
 12:00
ผมเดินออกว่าหาอะไรที่ร้านนักศึกษาเปิดเองมีของกินหลากหลาย ทั้งของหวาน มันคาวมีครบหมดผมเดินไปซื้อเบอร์เกอร กับน้ำแล้วไปหาที่นั่งและตาผมก็ไปเห็นเด็กเมื่อเช้าที่มีเรื่องกับผมนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ผมเลยถือโอกาสเข้าไปขอโทษเลย
“เออคือผมนั่งด้วยนะ”
“ที่ว่างมีก็นั่งไปสิไม่ต้องมาขอ”
“อื้มขอบใจนะ เธอกินอะไรรึยังฉันเลี้ยงไหม”
“ฉันดูจนขนาดนั้นเลยหรอไง”
“เฮ้ยๆเปล่านะผมไม่ได้คิดแบบนั้นผมแค่อยากขอโทษเรื่องเมื่อเช้าที่ทำให้คุณต้องเป็นแบบนี้คุณเจ็บมากสินะ”
“นายลองมาโดนบ้างไหมละ”
“ถ้าผมโดนแทนได้ก็ดีนะสิ”
“นี่นายจะจีบฉันหรอ”
“ห๊ะ เออคือเปล่าสักหน่อย”แต่ในใจผมก็แอบคิดนิดๆนะ
“แล้วไป”
“ทำไมต้องแล้วไปด้วยอะผมงง”
“ก็นายบอกไม่ได้จีบฉันฉันจะได้เปิดโอกาสให้คนอื่นไง”
“เฮ้ยไม่ได้นะ”
“อ้าวทำไมอะไม่ได้อะไรละ”
“คือผมจีบกก็ได้ผมจะจีบคุณ”
“ก็แค่นั้นแหละเล่นตัวอยู่ได้”
“เออว่าแต่ผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลยอะ”
“ฉันชื่อ เกล เรียนปี 1”
การสนทนาของผมกับเกล กินเวลาเนิ่นนานเหมือนกันแต่ไม่รู้ทำไมเมื่อผมเห็นเธอครั้งแรกก็ยอมรับเลยว่าผมตกหลุมรักเธอเลยโดยไม่มีเหตุผลใดยิ่งคุยก็รู้ว่าเธอสนใจในดนตรีมากแล้วยังเป็นนักเปียโนของโรงเรียนไฮลสคูลที่เธอจบมาด้วย
“นายชอบเปียโนไหม”เกลถามผม
“ชอบดิมันเพราะแบบบอกไม่ถูกเลยหละ”
“แล้วถ้าให้นายแต่งเพลงให้ฉันเล่นหละนายทำได้ไหม”
“ห๊ะแต่งเrลงเลยหรอผมไม่เก่งขนาดนั้นหรอกแค่ชอบฟังเฉยๆ”
“นายก็ลองใช้หัวใจและจิตวิญญาณของนายสิ”
“ยังไงอะงง”
“เอาเถอะสักวันนายจะเข้าใจเองว่ามันคืออะไร”
(เคท)

(เกล)

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา