เล่ห์กลรักเงาอสูร

-

เขียนโดย RATH

วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2554 เวลา 00.57 น.

  30 chapter
  12 วิจารณ์
  41.59K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) บทที่ 2 ข่าวหน้าหนึ่ง_1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก


 
 -ต่อจากบทก่อนหน้า-
 
บทที่  2 ข่าวหน้าหนึ่ง_1
 
            การสัมภาษณ์เบรกแรกเปิดฉากขึ้นที่โต๊ะและเก้าอี้แก้วคริสตัลเนื้อบางใสที่สามารถจะจับจ้องมองเห็นชุดราตรีสีชมพูอันหรูหราของโรสิลีได้เป็นอย่างดี หรือตั้งแต่หน้าอก เอว สะโพก ตลอดจนเรียวขาคู่งาม ด้วยสัดส่วนตัวเลขหกหลักน่าจะอยู่ที่  สามสิบสอง ยี่สิบสาม สามสิบหก ดังนั้นโรสิลีจึงถือเป็นโอกาสอันเหมาะสมที่จะได้นั่งไขว้ห้าง เพื่อโชว์เรียวขาอ่อนสีขาวนวลและรองเท้าแบรนด์เนม สีชมพูคู่สวยที่เพิ่งจะสั่งตรงมาจากนักออกแบบร้องเท้าแบรนด์ดังของฝรั่งเศส โรสิลีนั่งไขว้ห้างโชว์เรียวขาอ่อนอย่างไม่คิดจะอับอายสายตาของใครๆ แม้แต่กับสายตาของพิธีหนุ่มรูปหล่อ ตลอดจนทุกๆ คนห้องส่งอย่างเช่น ตากล้อง พนักงานจัดแสง จัดเสียง และพนักงานเดินสายไฟ ตลอดจนคนทำความสะอาด ความกล้าได้กล้าเสียของโรสิลี มันส่งผลต่อเรตติ้งของรายการเป็นอย่างดี วันนี้หลังจากจบรายการพนักงานทำความสะอาดคงต้องช่วยกันเช็ดถูน้ำลายที่หกรดเรี้ยราดบนพื้นอันแฉะๆ กันจนเหนื่อยหอบกันเลยทีเดียวถึงจะสามารถพากันกลับบ้านไปนอนหลับพักผ่อนได้
ธเนศ เกียรติภูมินตร์ กำลังจับจ้องมองคู่หมั้นสาวสวยด้วยแววตาอันชื่นชมในความสวยงามของหญิงสาวคนรัก แต่หากโรสิลีคู่หมั้นของเขาจะช่วยเย็บรอยผ่าขาดของชุดราตรีสีชมพูนั้น ขึ้นไปอีกสักหนึ่งคืบก็คงจะดีมากกว่านี้ เขาไม่ต้องการจะให้ใครจับจ้องมองเห็นเรียวขาอ่อนของคู่หมั้นของเขาเลยแม้แต่คนเดียว เวลานี้เขาอยากจะขับรถออกไปแล้วหาชื้อด้ายกับเข็ม แล้วรีบนำเอาไปเย็บชุดราตรีให้กับคู่หมั้นของเขาเสียเหลือเกินจริงๆ
            “โอ้ พระเจ้าเหลือเพียงอีกแค่นิ้วเดียวก็จะเห็นกางเกงชั้นในสีชมพูของคู่หมั้นของเขาอยู่แล้ว” ธเนศคิดมันอยู่ภายในจิตใจอย่างกำลังคุกรุ่น แต่ธเนศหาที่จะรับรู้ความจริงไม่ ว่าในขณะนี้โรสิลีเธอไม่ได้สวมใส่ชุดชั้นในเอาไว้เลย หากธเนศสามารถที่จะรับรู้ความจริงในข้อนี้ได้ล่ะก็ ธเนศคงอาจจะแถบหัวใจหยุดเต้นและสลบไสล ไปตรงหน้าจอทีวีเลยทีเดียว แต่โชคดีที่ธเนศไม่ได้คิดสิ่งใดไปได้ไกล มากมายจนถึงขนาดนั้น
            แขกรับเชิญของวันนี้นอกจากจะมีโรสิลีดาราสาวสวยแล้วก็ยังมีเพื่อนร่วมอาชีพของโรสิลีอีกสามคน หนึ่งคนเป็นผู้หญิง หนึ่งคนเป็นผู้ชาย ส่วนอีกหนึ่งคนเป็นสาวประเภทสองที่สะสวยงดงามไม่แพ้โรสิลีมากมายนัก กลุ่มเพื่อนของโรสิลีต่างก็อยู่ในชุดสูท ชุดราตรีที่เรียบร้อยงดงามแต่แตกต่างกันที่เฉดสี อันได้แก่ สีขาว สีดำ สีเขียวทับทิม จนจับจ้องมองดูแล้วระรานตาเมื่อแสงไฟส่องจับจ้องไปยังแขกรับเชิญทั้งสี่คนอย่างพร้อมเพรียงกัน  เสียงโห่ร้องและเสียงตบมือเริ่มดังขึ้น และการสัมภาษณ์ก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้นในอีกไม่ช้า ธเนศสลัดความคิดที่จะขับรถไปซื้อเข็มกับด้ายออกไปจากภายในหัวสอง และเริ่มตั้งหน้าตั้งตารอรับฟัง การให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคู่หมั้นของเขา กับน้องชายของเขา และกับมินตรา เจ.คลาส พลเมืองดีที่บังเอิญไปปรากฏตัวอยู่ยังสถานที่เกิดเหตุและได้ช่วยชีวิตคู่หมั้นของเขา และน้องชายของเขาจนตัวเธอเองได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ในเวลานี้เขาจึงเป็นต้องมาค่อยนั่งเฝ้าไข้ให้กับเธอ เพื่อตอบแทนบุญคุณในน้ำจิตน้ำใจ และความกล้าหาญของเธอ
................................... 
            “กลับเข้าสู่รายการตีสิบเอ็ดช่วงบทสัมภาษณ์ดาราคนดังกันอีกครั้งแล้วนะครับท่านผู้ชม วันนี้ผมได้รับเกียรติจากคุณโรสิลี นางเอกสาวสวยของเราและกลุ่มเพื่อนพ้องนักแสดงของเธอมาร่วมสนทนากับผมด้วยในวันนี้ แนะนำตัวกันหน่อยได้ไหมครับ” พิธีการจับจ้องมองตรงไปยังกลุ่มเพื่อนพ้องนักแสดงของโรสิลีทั้งสามคน
            “เริ่มจากคุณก่อนเลยครับ คุณ...” พิธีกรชี้นิ้วไปยังนักแสดงหนุ่มรูปหล่อขวัญใจวัยรุ่นและเพิ่งได้แสดงเป็นพระเอกเรื่องแรกคู่กับโรสิลีในชื่อเรื่องว่า“พยัคฆ์สาวจับตายเจ้าชายกบ” 
            “ผมแทนไท ครับ”
            “กรี๊ด..กรี๊ดๆๆ” มันคือเสียงแหกปากตะโกนของวัยรุ่นวัยใสในห้องส่ง
            “รัก-แทน-ไท” “รัก-แทน-ไท“ “รัก-แทน-ไท” เสียงตะโกนของกลุ่มเชียร์รีดเดอร์อย่างกับในงานกีฬาสีของโรงเรียน กลุ่มวัยรุ่นต่างตะโกนกันซ้ำกันไป ซ้ำกันมาอย่างเสียงดังฟังชัดพอๆกับโขลงช้างป่าแตกหรือตกมันกันเลยทีเดียว
            “ห-ยุ-ด!! พอเถอะครับ ผมจะขอดำเนินรายการต่อ” ทุกคนเริ่มพากันเงียบเสียงลงแล้วกลับไปนั่งทีตามเดิม แม้จะอารมณ์ตกค้างอยู่บ้างแต่ก็ยินยอมทำตามแต่โดยดี
            “คนต่อไปเลยครับ คุณ...”
            “ฉันน้ำหวาน เป็นผู้จัดการส่วนตัวของโรส ค่ะ” ไม่มีเสียงกรี๊ดอย่างเช่น พระเอกหนุ่มรูปหล่อ จากกองเชียร์เลยแม้แต่คนเดียวอันเนื่องมาจากน้ำหวาน ไม่ได้เป็นดารานักอย่างเช่น แทนไท แต่เป็นเพียงแค่เพื่อนสนิทของโรสิลีเท่านั้น และเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้กับเพื่อนสนิทด้วย
            “ฉันแพนดา-ค่ะ เป็นช่างแต่ง-หน้า แล้ว-ก็เป็น-นักแสดงรับเชิญ-ด้วย” เธอจะมีจังหวะการพูดอย่างไม่สม่ำเสมอมากนัก สาเหตุเพราะเธอจะพยายามดัดเสียงให้น่าฟังอยู่เสมอ น้ำเสียงของเธอจึงไม่เป็นธรรมชาติเท่าที่ควร แต่น้ำเสียงของเธอก็เพราะอย่างเช่นเดียวกันกับน้ำเสียงของผู้หญิงโดยทั่วไป
            “ส่วนคุณโรสิลี เราก็คงไม่ต้องแนะนำตัวกันอีกแล้วนะครับ หากมัวแต่แนะนำตัวกันอยู่เช่นนี้ เวลาของรายการ ของผมคงหมดสิ้นกันพอดี” โรสิลีและเพื่อนฝูงยิ้มรับอย่างเห็นด้วย
            “ตามใจคุณวีรยุทธสิค่ะ โรสกับเพื่อนๆ ตามใจคุณวีรยุทธ ทุกอย่างอยู่แล้ว ว่าไงก็ว่าตามกัน จริงไมจ๊ะ แทนไท น้ำหวาน  แพนดา”
            “จริงๆๆๆ ตามใจคุณวีรยุทธ ทุกอย่างอยู่แล้ว ว่าไงก็ว่าตายกันล่ะฮ่ะ” ทุกคนตอบรับพร้อมเพรียงกัน ยกเว้นแต่แพนดาเท่านั้น ที่พูดประโยคหวานๆ ต่อไปพร้อมรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์และแววตาอันหยาดเยิ้มอย่างอยากที่จะกัดกินใบหน้าหล่อๆ ของพิธีกรหนุ่มให้หมดไปทั้งตัวและใบหน้ากลางรายการทอล์คโชว์แห่งนี้เลยทีเดียว
            “โอ้ มันคงกะคิดจะกินกูแน่ๆ เลย หนาวไปถึงกระเจี้ยวเลยกู” พิธีกรหนุ่มกำลังคิดมันอยู่ภายในจิตใจแต่ไม่กล้าจะพูดมันออกมาตรงๆ
            “ครับเราเริ่มเข้าเรื่องกันเลยเถอะครับ ปล่อยนานไปพวกเราอาจจะโดนปาขี้ เข้าใส่ก็ได้” พิธีกรหยอดมุกตลก แต่โรสิลีกับทำสีหน้ารับมุกตลกๆ ไม่ได้อย่างแรง  ยกเว้นแต่สาวสวยหยาดเยิ้มนามว่าแพนดาเท่านั้น กลับเห็นด้วยอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ เลย
            “จริงด้วยค่ะ คุณวีรยุทธ หากพวกเรามัวแต่พูดนั่น พูดนี่ อันไร้สาระไปเรื่อยๆ ไม่ใช่แค่จะโดนปาขี้อย่างเดียวเท่านั้นนะค่ะ พวกเราอาจจะถูกจับโยนลงไปอยู่ในโถส้วมที่มีก้อนขี้สีเหลืองๆ ก้อนเล็กๆ ก้อนใหญ่ๆ ลอยฟูฟ่องอยู่ด้วยก็ได้ จริงไหมค่ะ คุณวีรยุทธ ข๊า” โรสิลีเอามือปิดปากกลั้นไว้ก่อนจะอวกแตกออกมา อย่างกล้ำกลืนฟืนทนโดยไม่คิดอยากจะนึกจินตนาการตามไปด้วย หากมีมุกตลกแบบขี้ๆ แบบนี้ออกมาอีกเรื่อยๆ เธอคงจะอวกแตกตายออกกลางอากาศของรายการทอล์คโชว์บ้าๆ นี้อย่างแน่นอน
            “จริงไหมค่ะ คุณวีรยุทธ ข๊า” ยายแพนดา ยายตัวแสบรู้ทั้งรู้ว่าเธอไม่ชื่นชอบมุกสกปรกโสโครกแบบนี้ ยังจะพยายามพูดจาตอกย้ำมันอยู่นั้นล่ะ จบจากรายการนี้เมื่อไหร่เธอจะพามันไปโยนลงโถส้วมจริงๆ ซะเลย
            “จะ..จริงครับ คุณแพนดาแต่เราเลิกพูดเรื่องนี้กันเถอะครับ หากทางบ้านที่รับชมรายการของเราอยู่ เกิดกำลังทานข้าวกันอยู่ด้วย จะพากันอวกแตก อวกแตนกันไปเสียเปล่าๆ”
“อุ๊ย!!! คุณวีรยุทธพูดถูก แพนดาเห็นด้วย อย่างนั้นเพื่อว่าพวกเราเกิดลืมตัวกันขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ แพนดาว่าให้พวกช่างเทคนิคช่วยกันดูดเสียงของพวกเราออกไปดีไหมล่ะค่ะ คุณวีรยุทธ ข๊า”
“ครับ ผมก็ว่าดีเหมือนกันครับ ดูดเสียงก็ดูดเสียง” ท่าทางวันนี้รายการของเขาคงจะต้องเป็นรายการภาษาใบ้ไปแล้วอย่างแน่ๆ เลย แต่ละคนพฤติกรรมแอบหลุดโลกกันทั้งนั้นเลย สมควรแล้วที่ถูกกลุ่มพวกนักเลงพากันลากไปปลุกปล้ำข่มขืนกลางใจเมือง กันแทบจะหมดครบทุกคนแบบนั้น พิธีกรหนุ่มคิดมันอยู่ในใจอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะพูดมันออกมาอย่างเช่นเคย แล้ววันนี้เขาจะได้สัมภาษณ์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันหรือเปล่า แม้แต่ธเนศที่กำลังนั่งรอรับชมรับฟังอยู่ด้วยก็สามารถที่จะรับรู้ได้ว่า รายการบ้าบอนี้มันเป็นรายการบ้าอะไรกัน เขาตั้งหน้าตั้งตารอชมรับฟังมาเกือบจะครึ่งชั่วโมงอยู่แล้ว มันกับยังไม่ได้สัมภาษณ์อะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย แม้แต่อย่างเดียว เสียเวลาการพักผ่อนนอนหลับของเขาเสียจริงๆ แต่เมื่อตั้งหน้าตั้งตารอรับชมรับฟังมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว เขาก็จะรอรับชมรับฟังมันต่อไปอีกสักนิดสักหน่อยแล้วกัน
 
......................................... 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา