รักฉันนั้น...เพื่อเธอ

-

เขียนโดย Topazio

วันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556 เวลา 15.10 น.

  10 ตอน
  0 วิจารณ์
  12.57K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2556 20.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) กว่าจะรู้ใจตัวเอง 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
             
 
            สายวันเสาร์เพื่อนๆ ตกลงมาเจอกันที่บ้านแพรวา คุณคเชนทร์ไปราชการ ที่บ้านเลยเหลือแค่ป้าสำอาง ชัฏมาพร้อมกับเคน ส่วนเมฆรับเนตรดาวซ้อนมอเตอร์ไซด์มาด้วย เด็กๆ เข้าไปทักทายป้าสำอางในครัวแล้วยกของว่างออกมานั่งทานระหว่างรอแอน แก้ม เก้าและว่าน  เนตรดาวนั่งคุยกับเมฆดูท่าทางเนตรดาวดูมีความสุขแต่เมฆมีท่าทีไม่ค่อยสบายใจ เคนกับชัฏเดินเข้าไปในสวนหลังบ้านช่วยกันรดน้ำต้นไม้ แพรวาเดินลงบันไดมาเห็นเมฆนั่งคุยอยู่กับเนตรดาวสีหน้าสลดลงทันที เมฆเหลือบมองแพรวาแต่ไม่ได้พูดอะไร แพรวายิ้มให้เนตรดาวเอ่ยทักพยายามหลบสายตาเมฆที่มองมา
 
            “เนตรมาถึงนานหรือยัง?”
                         “เพิ่งมาได้แป๊บนึง แพรเสร็จแล้วเหรอ กำลังรอพวกเก้าอยู่” เนตรดาวบอก 
                         “เหรอ งั้นเดี๋ยวแพรเข้าไปดูป้าสำอางก่อนนะ ชัฏกับเคนล่ะเนตร แพรได้ยินเสียงรถ”
                         “เดินไปหลังบ้านแน่ะ”
                         “อึมม” แพรวาพยักหน้า เดินเข้าไปในครัวดูป้าสำอาง   เสร็จแล้วเดินไปหาชัฏกับเคนที่เล่นกันอยู่ในสวน
                         “เชี่ยนี่ กูเปียกแล้วนะ นี่แน่ะ นี่แน่ะ”
 
            “ไอ้เคน..จะอาบให้กูเลยมั๊ย!! จะได้ไม่ต้องเข้าเมืองเล่นมันตรงนี้แหละ”
 
            “เลิกก็ได้…แล้วจะไปกันยังงัยวะ มอ’ไซด์ซ้อนสองเรามีเก้าคน..รู้งี้กูขับมอ’ไซด์กูมาด้วยก็ดี..ลืมไปว่าไอ้เมฆพาเนตรมาด้วย”  เคนบอก
                         “แพรไปกับชัฏกับเคนนะ”   แพรวาเดินออกมาได้ยินพอดีร้องบอกสองคนมองหน้ากัน
                         “ซ้อนสามก็ได้ พ่อแพรใหญ่ ใครจะกล้าหือ โอเค” เคนหันมาบีบไหล่แพรวา ชัฏยิ้มๆ
                         มอเตอร์ไซด์สี่คันจอดเรียงกันอยู่ มีเก้ากับแก้ม ว่านกับแอน เมฆกับเนตร ชัฏ เคน และแพรวา ทุกคนสวมหมวกกันน็อคเรียบร้อยมีคันของชัฏที่ตอนนี้ทุกคนกำลังรออยู่เพราะชัฏจอดรถถอดหมวกกันน็อคออกแล้วหันมาสวมให้แพรวา มีเคนแกล้งแหย่แพรวาอยู่ข้างหลัง เมฆมองอย่างหยุดหงิดเพราะเห็นแพรวาดูท่าทางมีความสุขแล้วรู้สึกไม่ค่อยชอบใจ
 
            “แพร..ต้องขอบคุณเคนเลยนะ เพราะมีเคนคอยระวังหลังให้เนี่ย"
                         "เฮ้ย! ไอ้ชัฏสาวๆ พวกนั้นทำงัยดีวะ” เคนถาม
                         “เกาะกลุ่มกันไว้ไม่น่ามีอะไร” ชัฏบอก
                         “พร้อมยัง!” เก้าอยู่ข้างหน้าตะโกนถาม
                         “พร้อมแล้ว!!” ทุกคนบอกพร้อมกันมีเมฆคนเดียวที่ขับรถเงียบๆ แต่สาวที่ซ้อนอยู่ข้างหลังกอดเอวซบหลังท่าทางดูมีความสุข แพรวาแอบมองเมฆหลายครั้ง เมฆชลอรถเหลือบมองแพรวาสองคนสบตากัน เมฆเร่งเครื่องแล้วพยายามขับคู่มากับชัฏ ชัฏชำเลืองมองนึกอยากแกล้งเมฆ เคนเห็นแพรวาแอบมองเมฆบ่อยๆ ยกมือเขกกระโหลกแพรวาไปที
                         “โอ๊ย!..เคนอ่ะ!”
                         “ถ้าแอบมองไอ้เมฆอีก จะให้ไปซ้อนท้ายมันแทน”   เคนบอกเสียงเรียบๆ  ชัฏอมยิ้มปล่อยมือจากแฮนด์ดึงมือแพรวามากอดเอวตัวเอง อมยิ้มขำเมื่อรู้สึกได้ว่าแพรวาขืนตัวไว้ก่อนจะยอมมากอดเอวค่อยๆ ซบหน้าลงมาบนหลังชัฏหันหน้ามาอีกด้านหนึ่งแล้วไม่หันไปมองเมฆอีกเลย        
                                            มอเตอร์ไซด์สี่คันมาจอดรวมกันในบริเวณลานจอดรถแล้วพากันเดินไปดูขบวนแห่นางสงกรานต์ที่กำลังผ่านมา สาวๆ มองดูด้วยความตื่นเต้น ชัฏกับเคนยืนอยู่ด้านหลังแพรวาทำท่าเหมือนบอดี้การ์ดประจำตัว สาวน้อยหันมาคุยกับสองหนุ่มอย่างตื่นเต้น      
                                        “แพร..นางนพมาศสวยจังเลยนะ…ขนาดปีแรกทางอำเภอยังจัดได้ดีขนาดนี้เลย”  แอนยืนอยู่หน้าว่านหันมาหาแพรวา
                          “ใช่ ขบวนแห่ก็สวย คนมาเที่ยวก็เยอะ…ดีจังเลย” แพรวาบอก
                          “ขบวนแห่เสร็จก็จะเล่นสาดน้ำกันแล้ว แล้วเราจะเอาน้ำที่ไหนเล่นละเก้า” แก้มหันมาหาแฟนหนุ่ม
                          “เก้าไม่ได้อยากไปสาดกับสาวที่ไหนซะหน่อย พามาขี่รถเล่นเฉยๆ มีแต่แป้งมาปะแก้มสาวที่นั่งซ้อนท้าย”  เก้าบอกหันไปตบมือกับเคนที่ยกชูมาชอบใจใหญ่ แก้มหันไปค้อนอย่างน่ารัก  เก้ายกมือโยกหัวสาวน้อยด้วยความเอ็นดู
                         “คิดเหมือนกูเลยว่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ !!”  เคนหัวเราะ
                          “แอนก็เตรียมแป้งตรางูมาเป็นกระป๋องเลย คิดเหมือนกันเลยหละเคน  แอนก็กระจะมาปะแป้งหนุ่มๆ ตรงนี้เหมือนกัน ฮ่า ฮ่า ฮ่า”   แอนบอกหัวเราะสะใจที่เห็นเคนเหวอว่านอมยิ้มมองเพื่อนสาวที่ตัวเองแอบมองมานาน
 
                 “ตรางูเลยเหรอแอน..แป้งธรรมดาก็ได้มั๊ง”   เคนบอก ระหว่างที่เพื่อนๆ กำลังหยอกล้อกันนั้น  เมฆเหลือบมองแพรวาตลอดเวลาด้านหน้ามีแฟนสาวเนตรดาวพยายามชวนคุย หันมายิ้มให้ท่าทางน่ารัก ไม่นานขบวนแห่นางสงกรานต์ก็ผ่านเลยไป นักท่องเที่ยวเริ่มเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน  ชัฏจับมือแพรวาไว้แน่นพาเดินหลบออกไปที่อื่นเพราะนักท่องเที่ยวเริ่มเยอะขึ้น พยักหน้าให้คนอื่นๆ เดินตาม  เนตรเกาะแขนเมฆแจเมฆเหลือบมองแฟนสาว แต่ไม่ได้แสดงท่าทีอะไร เงยหน้าขึ้นมามองแพรวา เห็นชัฏจับมือแพรวาไว้แน่น สองหนุ่มสาวคุยกันเหมือนไม่เห็นเขาอยู่ในสายตารู้สึกหงุดหงิดกับภาพตรงหน้าไม่รู้ว่าทำไม
 
              ทุกคนไปรวมกันอยู่ที่หลังวัด หนุ่มๆ กำลังคุยกันมองสาวๆ เล่นปะแป้ง เนตรดาววิ่งไปเล่นกับเพื่อนๆ ด้วย แพรวากำลังจะตามไป  เมฆรีบคว้ามือแพรวาไว้ทันทีตอนที่ไม่มีใครเห็น
                           “ปล่อยนะ!” 
                           “แพร..โกรธอะไรเมฆ!” เมฆถามเสียงเรียบ แต่น้ำเสียงฟังดูคุกคาม  เคนกับชัฏหันมาเห็นรีบเดินมาหาแพรวา  ชัฏจับมือเมฆให้ปล่อยแขนแพรวาสีหน้าเรียบสนิทผิดกับเมฆที่หน้าแดงก่ำ เคนเดินไปกระซิบข้างๆ หูเมฆ   
 
              “จะเอาคนไหนก็เลือกเอาซักคน..ทำตัวเหมือนหมาหวงก้างเลยนะมึง...สาดดดดดดด”   เคนบอกดึงมือแพรวาเดินออกมา ชัฏเดินตามหลังหันมามองเมฆที่ยืนนิ่งก้มมองพื้นมือกำแน่นด้วยความโกรธ ก่อนจะเหยียดยิ้มเหมือนสมน้ำหน้า             
              “เมฆ!” เมฆหันไปตามเสียงเรียกของเนตรดาวก่อนจะหลับตาเพราะเนตรดาวเอาแป้งมาปะหน้าเมฆหัวเราะคิกๆ   เมฆสะบัดแขนเนตรดาวออกอย่างลืมตัวจนเนตรดาวหน้าซีดเพราะตกใจไม่รู้ว่าเมฆเป็นอะไร เมฆเพิ่งรู้สึกตัว
                           “เอ่อ..เมฆขอโทษนะเนตร”   เมฆบอกอย่างรู้สึกผิดเห็นเนตรดาวน้ำตาคลอ เมฆหลบสายตาที่มองมาอย่างตัดพ้อเสมองไปทางอื่น แต่ต้องขมวดคิ้วเพราะเห็นชัฏกำลังไล่ปะแป้งแพรวาที่วิ่งหนีอยู่รอบตัวเคนหัวเราะอย่างสนุกสนานก่อนแพรวาจะเซไปชนผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่กำลังเล่นสาดน้ำกันอยู่
                             “อ้าว!! น้องสาว ว๊าว!! สวยซะด้วย ชนพี่แล้วไม่เห็นขอโทษล่ะคะ” ชายร่างใหญ่พูดขึ้นทำเสียงเลียนแบบผู้หญิงท่าทางกวนประสาท  เพื่อนผู้ชายท่าทางนักเลงโตอีกห้าคนหันมามองแพรวาหัวเราะพร้อมกันแพรวาตกใจหน้าซีด
                           “ขอโทษค่ะ”
                           “ว๊าว!! สวยแถมเสียงเพราะอีกด้วยว่ะไอ้เผือก มากับใครคะคนสวย”
                           “มากับกู! มึงมีปัญหาอะไร!!” เมฆเดินเข้ามาโผล่อยู่ข้างหน้าแพรวา แพรวายืนมองเมฆอย่างไม่ถึง เมฆคงอยากมีเรื่องเต็มทน ชัฏกับเคนยืนมองถึงกับส่ายหัว
                           “ไอ้เชี่ยนั่น..ท่าทางอยากโดนตีน! ปล่อยให้แม่งโดนกระทืบดีมั๊ง!!” เคนบอกอย่างอารมณ์เสียพอดีว่าน เก้า แอน แก้มและเนตรเดินมาสมทบ
                           “เกิดอะไรขึ้นเหรอเคน” แอนถาม
                           “แอนไปพาแพรมาซิ ยืนเซ่ออยู่นั่นน่ะ!” เคนบอก แอนกับแก้มรีบเดินไปดึงแพรวาออกมา คนกลุ่มนั้นเปลี่ยนเป้าหมายจากแพรวามาเป็นเมฆที่ตอนนี้ท่าทางกวนทีนสุดๆ ทันที
 
              “มึงว่ามันเอาอยู่หรือเปล่าวะ หกต่อหนึ่ง”  ว่านหันมาถามเคนกับชัฏที่ยืนมองอยู่ชัฏยิ้มขำ
                           “ท่าทางมันกำลังคลั่งโดนตีนสองสามทีคงสติกลับคืนมา รอดูก่อนละกัน” ชัฏบอก เนตรดาวยืนอยู่กับแอนมองชัฏอย่างไม่เข้าใจที่พวกผู้ชายพูดกัน แพรวายืนมองเมฆท่าทางตกใจกอดแขนชัฏแน่นอย่างลืมตัว  ชัฏก้มหน้ามามองรู้สึกว่าแพรวามือเย็นเฉียบ
 
              “เป็นอะไรแพร ห่วงไอ้เมฆรึงัยหึ หึ” ชัฏถามหัวเราะขำ คนถูกถามเหมือนจะยังไม่รู้ตัว
                           “ซ่าน่าดูนะน้อง..อยากโดนตีนก็ไม่บอก ท่าทางเหมือนยังไม่อดนม...ถ้าจะลุมเดี๋ยวจะหาว่าพี่เถื่อน...แค่อยากสั่งสอนให้รู้สำนึกว่าพูดกับผู้ใหญ่ต้องมีสัมมาคารวะ!!”
                           “หึ” เมฆแสยะยิ้มท่าทางกวนทีนไม่แพ้กันจนชายฉกรรจ์อีกห้าคนที่ยืนมองเริ่มรู้สึกหมั่นไส้
                           “มันคิดว่ามันแน่ว่ะ…แต่เท่าที่กูดูวันนี้มึงได้ไปหยอดน้ำข้าวต้มแน่ไอ้น้องชาย”
                           “กูไม่ได้มีพี่ชาย…อย่ามัวพร่ามอยู่เลยพวกมึงเข้ามาพร้อมกันเลยดีกว่า” เมฆบอกอย่างอวดดี
                           “ไอ้เชี่ยนี่มันคงไม่ได้อยากแค่หยอดน้ำข้าวต้มแล้วหละว่ะกูว่ามันคงอยากลงไปนอนในโลง”  ผู้ชายอีกคนที่ดูท่าทางเป็นหัวโจกเดินเข้ามาหาเมฆท่าทางไม่พอใจ ไม่นานก็ได้ยินเสียงตุ๊บตับ ก่อนเกิดตะลุมบอนกันขึ้น  ไม่อยากจะเชื่อก็ต้องเชื่อที่เมฆตอนนี้ปากแตกเลือดออกแต่อีกฝ่ายล้มกองไม่เป็นท่า ชัฏกับเคนหัวเราะหึ หึ  แต่ชัฏตาไวกว่าเคนเห็นผู้ชายที่อยู่หลังเมฆกำลังล้วงเอามีดออกมาจะเข้าไปแทงเมฆที่กำลังก้มหน้าเอาแขนเช็ดปาก ชัฏเขวี้ยงสนับมือไปที่แขนชายคนนั้นจนมีดกระเด็นออกกดมือตัวเอง
                           “อ๊ากกก…” ชายคนนั้นสะบัดมือร้องเสียงดังลั่น ทำให้เมฆหันไปมองตามเสียงเห็นมีดหล่นอยู่แสงแวววับเมื่อกระทบกับแสงของดวงอาทิตย์ เมฆเดินตรงเข้าไปเตะปลายคางชายคนนั้นจนแน่นิ่งไปก่อนจะเดินกลับมาหาคนอื่นๆ ที่ยืนมองอยู่ เมฆหันไปมองแพรวาที่ท่าทางตกใจแสยะยิ้มท่าทางน่าตบเดินออกไปจากตรงนั้น คนอื่นๆ มองพวกที่ล้มกองไม่เป็นท่า  ผู้คนเริ่มทยอยเข้ามามุงดู ชัฏหันไปเห็นตำรวจวิ่งมาไม่ไกลมากนักคงมีคนไปบอกก่อนจะพากันเดินหายไปจากบริเวณนั้น
 
                     “ไอ้ชัฏ มึงไปฝึกขว้างสนับมือมาจากไหนวะ”  เคนอดสงสัยไม่ได้
                          “ต้นไม้หลังบ้านกูงัย ป้ากูด่าแหลก กิ่งไม้หักไปหลายต้นเพราะกูกำลังมัน...จำมาจากในหนังญี่ปุ่นที่มันใช้ดาวกระจาย!” ชัฏบอกหัวเราะขำ ดึงมือแพรวาที่เดินหน้าจ๋อยตามมา เคนหันไปตบหัวแพรวาทีนึงจนสาวน้อยหน้าแทบคะมำหันมาค้อน 
                          “เป็นงัยเห็นเลือดบ้ามันหรือเปล่า…จะเปลี่ยนใจมาชอบไอ้ชัฏก็ได้นะแพร  ได้ไอ้เมฆเป็นแฟนอาจจะต้องทำใจเกิดมันละเมอคิดว่าแพรเป็นกระสอบทรายแย่แน่ๆ” เคนพูดแหย่ แพรวาเหลือบมองเมฆที่เดินมองข้างหน้าอย่างนึกกลัว ชัฏเดินอมยิ้ม เนตรดาวได้ยินเคนพูดแซวแพรวาออกจะอึ้งๆ มองตามหลังเมฆที่เดินไปไม่สนใจตัวเองก็เริ่มรู้สึกอะไรบางอย่าง คนอื่นๆ  หันมายิ้มๆ ให้แพรวาพูดจาหยอกเย้าจนสาวน้อยสีหน้าดีขึ้นหัวเราะสดใส           
                                         เช้าวันจันทร์ทุกคนมาเรียนกันแต่เช้านั่งเล่าวีรกรรมของเมฆที่ไปก่อไว้ที่สงกรานต์ในอำเภอ เจ้าตัวนั่งเงียบเหมือนกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ชัฏกับเคนมองหน้ากันเพราะดูออกว่าเมฆรู้สึกยังงัยกับแพรวา แต่เหมือนเจ้าตัวจะยังไม่รู้ใจตัวเอง
 
             ช่วงพักเที่ยงขณะที่ แอน แก้ม   และแพรวาเดินถือถาดอาหารไปหาที่นั่งในโรงอาหาร 
                          “แพร..แพร นั่งตรงนี้ก็ได้นะมีที่ว่าง” นาวินกำลังนั่งทานข้าวกับเพื่อนๆ อยู่เห็นแพรวามองหาที่นั่งก็รีบลุกขึ้นแล้วเรียก   แพรวาหันมามองหน้าแอนกับแก้มที่ส่งยิ้มมาให้ก่อนจะพยักหน้า หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ไปนั่งรวมกับนาวินและเพื่อนๆ   บังเอิญเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ เมฆ ชัฎ ว่าน เคนและเก้าเดินเข้ามาในโรงอาหารพอดี เมฆสบตาแพรวาที่นั่งอยู่กับผู้ชายเป็นฝูงรู้สึกไม่ชอบใจไอ้หน้าตี๋ที่กำลังชวนคุย แพรวารีบหลบสายตาคมคู่นั้นก้มหน้าทานอาหานในจานทันทีแต่ต้องเงยหน้ามาอีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงชัฏเอ่ยแซว
                          “แพร...ระวังข้าวติดคอนะ” ชัฎยิ้มและขยิบตาให้แพรวาอย่างขี้เล่น 
                          “แก้ม เดี๋ยวเก้ามานั่งด้วยจองที่ไว้ด้วยนะ”  เก้าร้องบอกแก้มก่อนจะเดินนำคนอื่นไปซื้อข้าว นาวินกับเพื่อนๆ เงยหน้าขึ้นมามองกลุ่มของเมฆ เมฆมองหน้านาวินนิ่งก่อนจะเดินตามคนอื่นๆ ไป นาวินมองตามด้วยความสงสัยกับท่าทางแปลกๆ ของเมฆก่อนจะหันมาชวนแพรวาคุยต่อ เพื่อนๆ   นาวินเองก็ชวนแอนและแก้มคุยอย่างสนุกสนาน ก่อนที่เสียงคุยกันจะเงียบลงเพราะกลุ่มของเมฆเดินกลับมานั่งอีกฝั่งของโต๊ะอาหาร
 
             "อ่ะผลไม้” เก้าส่งจานผลไม้มาให้แก้มกับคนอื่นๆ ชัฎวางถาดเครื่องดื่มส่งให้สาวๆ มองหน้าแพรวาที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวไม่ยอมมองหน้าใคร ก่อนยิ้มยกมุมปากนั่งทานอาหารในจานและจ้องมองนาวินกับเพื่อนที่พยายามชวนแพรวคุย เมฆชำเลืองมองแพรวาขณะกำลังตักข้าวเข้าปาก
                          “แก้มกินอะไร กินด้วยซิ” แก้มเลื่อนจานข้าวส่งให้เก้า ก่อนที่ตัวเองจะหันไปตักข้าวของเก้ามาลองชิมแล้วร้องเผ็ด โชคดีที่ชัฎซื้อน้ำมาด้วย เก้ารีบเปิดขวดน้ำเทใส่แก้วส่งให้แก้ม  แก้มปากแดงแจ๊ดบ่นพรำพรำ 
                          “เก้ากินอะไรก็ไม่รู้ เผ็ดขนาดนี้ กระเพาะพังพอดี” เก้ายิ้มแหยๆ ทานข้าวแล้วก็นั่งคุยกับแก้มเงียบๆ เพราะรู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มมาคุ
                          “แอน เสร็จแล้วรีบไปห้องสมุดกันน่ะ แพรด้วย วันนี้ชัฎจะติวเลข” ว่านบอกแอนกับแพรพยักหน้า ทุกคนนั่งทานอาหารกันได้ประมาณครึ่งจาน เมฆนั่งจ้องหน้าแพรวา เมฆดูก็รู้ว่าแพรวาพยายามเลี่ยงที่จะไม่มองหน้าเมฆนั่งทำตัวลีบขนาดนั้น ชัฎนั่งมองนาวินที่พยายามชวนแพรวาคุย เห็นแพรวาพยักหน้ารับยิ้มให้แบบฝืนๆ
                           “แพร วันเสาร์มีหนังใหม่เข้าคือ..วินอยากชวนแพรกับเพื่อนๆ ไปดูหนังด้วยกัน สนใจหรือเปล่า” นาวินเอ่ยชวนแพรวาหลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว
                           “แพร..คือแพร...”     
 
               เพล้ง!!!   เสียงช้อนกระทบจานข้าวดังพอให้ทุกคนในโต๊ะและบริเวณข้างเคียงหันมามองพร้อมกัน แพรวาสะดุ้งจับช้อนแน่น เมฆลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปจากโรงอาหาร คนอื่นๆ รีบลุกตามไป
 
 
              "แอน กินเสร็จแล้วตามไปที่ห้องสมุดนะ" เสียงว่านตะโกนบอก หลังจากกลุ่มของเมฆเดินไปหมดแล้ว แพรวาเงยหน้าขึ้นมาบอกนาวิน 
                           “เอ่อนาวิน..แพรขอบใจนะที่ชวนแพรกับเพื่อนๆ ไปดูหนังแล้วก็ขอบใจสำหรับตุ๊กตาเมื่อเช้าด้วย แพรพอจะเดาได้ว่านาวินรู้สึกยังงัย แต่แพรคงรับไว้ไม่ได้ ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่มีให้ พอดีแพรมีคนที่ชอบอยู่แล้วน่ะ”  แพรวาบอก นาวินยิ้มให้แพรวาอย่างยอมรับความจริง ชวนกันลุกออกจากโรงอาหารหลังจากทานอาหารกันเสร็จแล้ว ก่อนแยกจากกัน  
                           “เสียใจจัง...ไม่เป็นไร วินต้องขอบใจแพรนะที่บอกกันตรงๆ แต่เราเป็นเป็นเพื่อนกันได้ใช่มั๊ย?”  นาวินพูดด้วยน้ำเสียงแฝงไปด้วยความเศร้าแต่ยังยิ้มให้แพรวาเหมือนเคย 
                           “ได้ซิ แพรยินดีนะ”  แพรวาพูดตอบยิ้มให้นาวินอย่างจริงๆใจ เพื่อนๆ นาวินเดินมายิ้มให้แพรวาก่อนจะตบบ่านาวิน ที่ยืนมองแพรวากับเพื่อนๆ เดินจากไป
                      “กูบอกแล้ว ว่าแพรวามีแฟนแล้วมึงก็ไม่เชื่อ” 
                            “มึงว่าใครวะ กูเห็นแพรวาไปไหนมาไหนกับไอ้เมฆคนเดียว แล้วไอ้เมฆมันเป็นแฟนเนตรดาวไม่ใช่เหรอวะ?”
                           “กูก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ กูเห็นไอ้ชัฎมันจ้องมึงเขม็งเลย มึงดูพวกกลุ่มเพื่อนๆ มันซิ ขนาดกูเป็นผู้ชายกูยังว่าพวกมันเท่เลยว่ะ..มึงสังเกตเวลาพวกนั้นเข้ามาในโรงอาการหรือเปล่าสาวๆ นี้มองตาเป็นมัน แล้วอีกอย่างนะมึงว่าสาวๆ ห้องนั้นจะเหลือมาถึงพวกเราเหรอ โดยเฉพาะสาวสาวในกลุ่มนั้นน่ะ...กูว่ามีเจ้าของแล้วทั้งนั้นแต่ละคนน่ารักแล้วก็ดูนิสัยดีนะ มึงว่ามั๊ย..กูชอบน้องแก้มว่ะ แต่สงสัยแฟนไอ้เก้า..ชัวร์.. พวกนั้นมันพวกลูกเศรษฐี แพรวาน่ะพ่อเป็นนายพลเชียวนะมึง ไอ้ชัฎพ่อมันก็เป็นเจ้าพ่ออสังหาฯ ส่วนไอ้เมฆที่กูรู้ๆ พ่อมันเป็นเจ้าของสัมปานปางไม้ของจังหวัดเรา เค้าว่าแม่มันเป็นคุณหญิงอะไรสักอย่างเนี่ย กูได้ยินสาวๆ ในห้องมันคุยกัน”  เสียงเพชรร่ายยาวในขณะที่เพื่อนอีกคนในกลุ่มคอยสนับสนุนคำพูดของเพชร
                                         “กูเพิ่งได้ยินไอ้ห้องสามมันคุยกันตอนเข้าแถวเมื่อเช้านี้  ไอ้พวกนี้มันพากันไปเที่ยวสงกรานต์ที่อำเภอแล้วไอ้เมฆไปมีเรื่องกับพวกที่มาเที่ยวเห็นว่ามันคนเดียวล้มพวกนั้นลงไปกองหกต่อหนึ่งเลยนะ” ศักดิ์บอก
                           “อ้าว! แล้วพวกเพื่อนมันไม่มีใครช่วยเหรอว่ะ” เพชรหันมาถาม
                                                       “คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไอ้ห้องสามมันบอกว่าเห็นพวกนั้นยืนมองกันเฉยๆไม่รู้ทำไม แต่ตอนที่ไอ้พวกนั้นลงไปนอนกองกับพื้น มีคนนึงมันอยู่ข้างหลังไอ้เมฆมันลุกขึ้นแล้วชักมีดออกมากำลังจะตรงไปแทงไอ้เมฆ แต่ไอ้ชัฏมันเห็นเขวี้ยงสนับมือออกมาเหมือนในหนังเลยโดนเต็มๆ ไอ้เมฆหันมาเห็นเตะไอ้นั่นสลบเหมือด แล้วพวกมันก็พากันออกไปทิ้งไอ้พวกนั้นไว้อย่างนั้น กูว่าพวกนี้แม่งโหดว่ะ” ศักดิ์ทำหน้าสยอง             
              “กูคิดว่าไม่ไอ้เมฆก็คงเป็นไอ้ชัฏที่แพรวาชอบ แต่ไม่รู้ว่าใคร เสียดายที่แพรไม่ชอบกู แค่เริ่มต้นก็ผิดหวังซะแล้ว” นาวินพูดเสียงเศร้าๆ เพชรกอดคอเพื่อนอย่างเข้าใจ
                           “ทำใจเหอะว่ะ ของแบบนี้มันแล้วแต่วาสนา” เพชรพูดเหมือนคนที่เข้าใจชีวิตดี แอนกับแพรวาเดินกลับไปที่ห้องฝากบอกให้แก้มบอกคนอื่นๆ ด้วยเพราะว่าแพรวารู้สึกปวดหัวเพราะตากแดดตอนไปเล่นสงกรานต์ แพรวากินยาแก้ปวดหัวแล้วก็นอนฟุบอยู่ที่โต๊ะ แอนกลับไปนอนโต๊ะเหมือนกันแต่ไม่ได้ปวดหัว เพื่อนบางคนก็นั่งจับกลุ่มคุยกันอยู่ในห้อง          
                                         “มึงคุยให้มันรู้เรื่องไปเลย...ทำแบบนี้มันก็ไม่ดีกับใครทั้งนั้น มึงคงไม่ใช่แค่ชอบหรอกใช่มั๊ย” ชัฏพูดเมฆในห้องสมุด
                           “ขอบใจชัฎ...กูรักแพร” เมฆบอกน้ำเสียงจริงจังจนชัฏถึงกับอึ้งไป แม้ในใจลึกๆ เขาเองจะชอบแพรวาแต่ก็เข้าใจเมฆกับแพรวาที่ผูกพันกันมาก่อนจึงยอมหลีกทางให้ 
 
              “กูเข้าใจ มึงก็รู้ว่ากูคิดยังงัยกับแพร แต่เพราะมึงเป็นเพื่อนแล้วก็ผูกพันกับแพรมาก่อน กูถึงยอมหลีกทางให้  แต่ถ้ามึงทำกับแพรแบบเมื่อวันก่อนอีก ขอบอกว่ากูไม่อยู่เฉยแน่”  ชัฏพูดน้ำเสียงราบเรียบตบบ่าเมฆที่มองหน้าตัวเองรู้สึกผิด หันไปมองเห็นแก้มเดินมาคนเดียวก็ขมวดคิ้ว
                           “แพรกับแอนล่ะ แก้ม?” ชัฏหันไปถาม
                           “แพรปวดหัว แอนเลยพากลับห้อง” แก้มบอกเดินเข้าไปหาเก้าในห้องสมุด 
                                        “กูไปดูแพรก่อนมึงตัวติวคนอื่นไปก่อนเลยละกัน..ขอบใจนะชัฏ” เมฆบอก
                           “ปวดหัวคงไม่ได้ปวดขานะ เมื่อเช้ากูกับไอ้เคนไปรับไม่ได้ถามว่าขาหายหรือยัง”
                           “ขาแพรเป็นอะไร?”
                           “ถามพ่อมึงดูดิ..เชี่ยเอ้ย!”  ชัฏอารมณ์เสียเดินเข้าไปด้านในที่มีเพื่อนรออยู่   เมฆมองตามอย่างไม่เข้าใจ
                           “ถามแค่นี้มันจะโมโหอะไร?” เมฆบ่นพรึมพรำ
  
                      เมฆกลับมาถึงที่ห้องเห็นแพรวานอนหลับอยู่ก็ไม่ได้เข้าไปถามแต่เดินกลับไปนั่งที่โต๊ะเห็นเนตรดาวนั่งรออยู่ เนตรดาวส่งยิ้มมาให้อย่างน่ารัก  เมฆเดินมาหาชวนเนตรดาวออกไปคุยกันข้างนอก
 
              “มีอะไรเหรอเมฆ..ทำหน้าเหมือนอกหัก คิก..คิก” เสียงหวานใสเอ่ยหยอกเย้า
 
              “เนตร...เมฆพยายามที่จะรักษาความสัมพันธ์ของเราเอาไว้แล้ว แต่เมฆขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ เรื่องบางเรื่องมันฝืนใจกันไม่ได้ ..เมฆขอโทษที่ทำให้เนตรเสียใจ” เมฆก้มหน้าสารภาพกับเนตรดาวด้วยความรู้สึกผิด
 
              “ล้อเล่นน่าเมฆ..เนตร..” เสียงหวานใสตอนแรกติดจะสั่นเพราะรู้สึกได้ว่าคำพูดที่เพิ่งบอกไม่ได้ล้อเล่นสักนิด ก่อนที่จะรีบปรับน้ำเสียงแต่ถึงอย่างนั้นคนฟังก็รบรู้ได้ว่า..สาวน้อยตรงหน้าเสียใจแค่ไหน “..เมฆจะบอกว่า ที่ผ่านมาเมฆไม่ได้ชอบเนตร.. ใช่หรือเปล่า?” เนตรดาวพูดเสียงเบาหวิวกลั้นสะอื้น
 
              “เมฆขอโทษ..”
 
              “ไม่..ไม่เป็นไร..ไม่ต้องขอโทษหรอก เนตรเข้าใจ  จริงๆ ก็พอรู้มาบ้างแต่เป็นเพราะเนตรเองที่ไม่กล้ายอมรับความจริง..ใครๆ ก็ดูออกทั้งนั้น” เนตรดาวบอกน้ำเสียงสั่นเครือพยายามจะไม่ร้องไห้
 
              “เมฆขอโทษจริงๆ”
 
              “เมฆไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ถ้าเมฆต้องฝืนใจทำอะไร สุดท้ายมันก็ไปไม่รอดอยู่ดี เดี๋ยวตอนบ่ายเนตรกลับนั่งที่เดิม..เมฆจะได้ปรับความเข้าใจกับแพร..แพรน่ารัก เมฆสนิทกับแพรมานานขนาดนี้ก็ไม่แปลกหรอกนะ.” เนตรดาวบอก
              “ขอบใจนะเนตร” เมฆบอกมองเนตรดาวที่หันหลังเดินจากไปทั้งรู้สึกผิดและโล่งใจไปพร้อมกัน เนตรดาวหันกลับมาหาเมฆ
 
              “เนตรชอบเมฆจริงๆ..สัญญาได้ไหมว่าถ้าวันไหนเมฆไม่มีใคร เมฆจะนึกถึงเนตรเป็นคนแรก...เรายังเป็นเพื่อนกันเสมอนะเมฆ” สาวน้อยบอกยิ้มให้เมฆอย่างจริงใจ
 
              “ขอบใจมากนะเนตร..ที่เนตรไม่โกรธ..เมฆจะเป็นเพื่อน..เป็นพี่ชายเป็นอะไรก็ได้ที่เนตรต้องการ..เนตรเป็นคนดีเมฆเชื่อว่าสักวัน..เนตรจะเจอคนที่เนตรรักจริงๆ”  เมฆบอกอย่างจริงใจ สาวน้อยรู้สึกเสียใจก็จริงแต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา เมฆไม่เคยถือโอกาสล่วงเกินเธอเลย ถึงแม้หลายครั้งที่อยู่ด้วยกันสองคนเมฆเป็นสุภาพบุรุษเสมอในสายตาเนตรดาว ทำให้นึกโกรธเมฆไม่ลงยิ้มให้เมฆอย่างจริงใจก่อนจะหันหลังเดินกลับห้อง..ถ้าเรารักใครเราก็น่าจะดีใจที่เห็นคนที่เรารักมีความสุขไม่ใช่เหรอ..เนตรดาวคิด  เมฆรู้ว่าเนตรดาวเป็นคนน่ารัก ถ้าจะให้พูดตรงๆ เนตรดาวน่ารักกว่าแพรวาด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเรื่องนิสัยเนตรดาวเป็นคนเรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่จู้จี้ ขี้บ่นหรือชอบน้อยใจเรื่องไม่เป็นเรื่อง ผิดกับแพรวาที่ชอบงอนอยู่เรื่อยบทดื้อขึ้นมาเล่นเอาเขาปวดหัวเลยทีเดียว แต่ทำไมเขาไม่เคยโกรธแพรวาได้นานสักครั้ง มีคราวนี้แหละนานหน่อยจะอาทิตย์นึงแล้ว ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไรตั้งแต่กลับมาจากเข้าค่ายก็พยายามเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับเขาตลอด
 
              “แพร..แพร ตื่นเหอะจะบ่ายโมงแล้ว” เนตรดาวเดินมาสะกิดแพรวา  แพรวาเงยหน้าขึ้นมาจากโต๊ะท่าทางเบลอ ๆ หันไปมองรอบห้อง
 
              “คือ..พอดีว่าเนตรนั่งใกล้ๆ เมฆแล้วเลือดกำเดาจะไหล เลยอยากกลับมานั่งที่เดิม แบบว่าเป็นโรคแพ้ความหล่อน่ะ” เนตรดาวบอกยิ้มให้อย่างน่ารัก แพรวาทำหน้างงหันไปมองโต๊ะที่ตัวเองนั่ง เห็นเมฆมองมาพอดีด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่พูดอะไร แพรวาค่อยๆ ลุกขึ้นเพราะเนตรดาวถือกระเป๋ากลับมาจะนั่งที่เดิมแล้ว แพรวาถือกระเป๋ากับหนังสือเดินไปหาชัฏ ค่อยๆ วางของที่โต๊ะชัฏก้มหน้าบอก
 
              “แพรจะนั่งกับเคน..” ชัฏเลิกคิ้วขึ้นมองแพรวา ก่อนจะหันไปมองเมฆที่ยังคงนั่งนิ่งไม่พูดอะไร เคนพยักหน้าให้ชัฏไปนั่งกับเมฆ ชัฏหยิบหนังสือลุกขึ้นยืนก้มหน้าลงมากระซิบบอกแพรวา
 
              “ยอมให้นั่งวันนี้วันเดียวนะ” ชัฏบอกขยิบตาให้แพรวาเดินไปนั่งกับเมฆไม่พูดอะไรอีกจนอาจารย์สอนจบคาบแรกเดินออกไปจากห้องแล้ว ชัฏหันมาพูดกับเมฆที่ยังนั่งนิ่งเป็นหุ่นยนต์
 
              “ไอ้เมฆ ถ้าการที่มึงจะไปสารภาพรักกับเค้าแล้วมันเสียเกียรติมึงมากขนาดนี้นี่นะ เทวดาก็คงช่วยมึงไม่ได้แล้วหล่ะ! !” ชัฏบอกอย่างรำคาญ  เมฆหันมามองหน้าชัฏเหลือบมองแพรวาเห็นนั่งก้มหน้านิ่งฟังเคนพูดอะไรซักอย่าง ก่อนจะค่อยๆ เงยน้าขึ้นมามองเคนแล้วก็ก้มหน้านิ่งอีกไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาสอนชั่วโมงถัดไป
 
               หลังเลิกเรียนเมฆบอกกับชัฏว่าวันนี้จะไปส่งแพรวาที่บ้านเอง ชัฏพนักหน้าหันไปมองแพรวาเห็นกำลังเก็บของด้วยหันไปฟังเคนพูดด้วย ชัฏจึงลุกขึ้นเดินไปหาแพรวา
 
              “ดูท่าวันนี้จะมีคนไปส่งบ้านแล้ว ชัฏกับเคนไปซ้อมดนตรีก่อนนะ” ชัฏบอก เคนเดินมาตบหัวแพรวาทีนึงก่อนจะเดินออกจากห้องไป
 
              “แพรรออยู่ที่ห้องก่อนนะ...เมฆจะไปเอารถมารับ” พูดจบเมฆก็เดินออกไปไม่ได้รอคำตอบ  แอนกับแก้มโบกมือให้แพรวาเดินตามหนุ่มๆ ออกไป แพรวายังงอนเมฆไม่หายเก็บของเสร็จก็เดินออกจากห้องตามหลังเพื่อนคนอื่นไป  แพรวาเดินมาถึงข้างสหกรณ์ก็นั่งลงเพราะรู้สึกเวียนหัว บังเอิญเห็นนาวินและเพื่อนๆ กำลังเดินกลับบ้าน นาวินหันมาหาแพรวาเอ่ยทักด้วยความดีใจ
 
              “อ้าว! แพรยังไม่กลับเหรอ?”
 
              “อึม..กำลังจะกลับน่ะ”
 
              “เป็นอะไรรึเปล่า หน้าซีดๆ”
 
              “ไม่เป็นไร วินไปเถอะ อีกแป๊บแพรก็จะกลับเหมือนกัน”
 
              “อยู่รอได้นะ ไม่ได้รีบ” นาวินบอก  แพรวากำลังจะตอบบังเอิญเหลือบไปเห็นเมฆเดินมาพอดี หน้าตาแดงก่ำเหงื่อโซกเพราะวิ่งหาแพรวาไม่เจอ เมฆโมโหเดินเข้ามากระชากแขนแพรวาจนตัวปลิว
 
               “โอ๊ย!...เจ็บนะเมฆ”
 
               “เมฆ ไม่เห็นต้องทำแบบนี้เลย” นาวินเห็นเมฆกระชากแพรวาจนตัวปลิวก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
 
               “กูถามความเห็นมึงหรือยัง!”
 
               “พูดแบบนี้ มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ..เมฆ” เพชรเอ่ยขึ้นเพราะทนไม่ไหว
 
               “พูดแบบนี้แล้วมึงจะทำไม...ถ้าพวกมึงมีปัญหาอยากเคลียร์ก็เข้ามา!” เมฆปล่อยแขนแพรวาเดินเข้าไปหานาวิน เพชร และศักดิ์ เหมือนอันธพาลในหนัง
 
               “แบบนี้ก็คงไม่ต้องเกรงใจกันอีกแล้วหล่ะ!” เพชรบอก ทำท่าอยากมีเรื่องกับเมฆเหมือนกัน เมฆแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นเหมือนไม่เคยเห็นเพชรหรือคนอื่นๆ อยู่ในสายตาประมาณว่า...หกต่อหนึ่งกูยังลุยมาแล้วเลย....
 
               “พวกมึงเข้ามาเลย พร้อมๆ กันนั่นแหละ!!”  เมฆท่าทางยโสอวดดี ตอนนี้เขาอารมณ์เสียสุดๆ ตั้งใจจะอัดนาวินกับพวกให้น่วมเลย ตั้งแต่สองวันก่อนแล้วที่เขาไม่พอใจ แถมกลางวันวันนี้ยังทำสะเออะจะมาชวนไปดูหนังอีก เมฆเองตอนนี้ก็คงเห็นช้างตัวเท่าหนูไปแล้วมั๊ง!!
 
                “เมฆมันจะเกินไปแล้วนะ บ้าไปแล้วหรืองัย!!!”  แพรวาเห็นเหตุการณ์ชักจะไปกันใหญ่พยายามดึงแขนเมฆเอาไว้ไม่อยากให้มีเรื่องกัน
 
                “หุบปากไปเลย!!” เมฆหันมาตวาดแพรวา สะบัดมือแพรวาพยายามดึงออกอย่างแรงด้วยความโมโหจนแพรวาเสียหลักเซไปหัวกระแทกขอบหน้าต่างทรุดลงไปกองกับพื้น
 
                “แพร!!”  ชัฏกับเคนย้อนกลับมาเอาโทรศัพท์ที่ลืมไว้ในลิ้นชัก สองคนเข้ามาเห็นเหตุการณ์ตอนที่เมฆสะบัดแขนแพรวาไปกระแทกขอบหน้าต่างพอดี นาวิน เพชรและศักดิ์ตกใจเพราะอยู่ด้านหน้า แต่เมฆไม่เห็นเพราะอยู่คนละฝั่งกัน เมฆหันกลับมาเพราะได้ยินเสียงชัฏกับเคน แต่ที่ตกใจมากกว่านั้นตอนเห็นเคนพยุงแพรวาขึ้นมาแล้วพาเดินออกไปจากตรงนั้นไม่หันหลังกลับมามองใคร ชัฏสีหน้าเรียบสนิทเดินเข้าไปหาเมฆ ปล่อยหมัดเข้าไปเต็มๆ ที่หน้าเมฆสองหมัดซ้อนชนิดที่เมฆไม่ทันได้กระพริบตาก็ลงไปกองกับพื้นนั่งนับดาว นาวิน เพชรและศักดิ์ตกใจเพราะคิดไม่ถึงรวมทั้งตัวเมฆเองด้วย เมฆกำลังใช้มือยันพื้นลุกขึ้น แต่ชัฏใช้เท้าเหยียบขยี้จนเมฆคิดว่ามือตัวเองอาจจะหักไปแล้ว
 
               “โอ๊ย!”  เมฆเงยหน้ามองชัฏที่มองมา แววตาชัฏแสดงถึงความผิดหวังอย่างชัดเจน ไม่มีคำพูดอะไรหลุดออกมาแม้แต่คำเดียวก่อนจะเดินหันหลังจากไป เมฆเพิ่งจะรู้ตัวค่อยๆ ลุกขึ้นยืนนาวินกับเพื่อนๆ เดินเข้ามาช่วยประคอง เมฆหันไปมอง
 
              “เราขอโทษ!” เมฆหันไปบอกนาวินรีบเดินก้มหน้าเอาแขนเช็ดเลือดที่ไหลออกจากปากและจมูกตามชัฏไป  นาวิน เพชรและศักดิ์มองตามเมฆที่วิ่งเยาะๆ ไปดักหน้าชัฏ แต่เห็นชัฏสะบัดแขนออกทำท่าจะปล่อยหมัดอีกที แต่เมฆจับไว้แล้วพูดอะไรไม่มีใครรู้ เดินล้อมหน้าล้อมหลังชัฏ
 
              “ไอ้เมฆคงหายซ่าไปอีกนาน...ไม่รู้แพรเป็นยังงัยมั่ง น่าสงสารว่ะ”
 
              “ดูท่าคนที่ดับไอ้เมฆได้คงมีไอ้ชัฏคนเดียวนี่แหละว่ะ สองหมัดนั่นคงทำให้หายคลั่งได้” เพชรบอก
 
              “ปกติกูไม่เคยเห็นไอ้ชัฏมันจะเป็นแบบนี้นี่หว่า..คงโมโหน่าดูแหละเพราะมาเจอเข้าอย่างจัง หัวแตกหรือเปล่าไม่รู้  กูเห็นไอ้เคนกับไอ้ชัฏมันดูเป็นห่วงแพรวาจะตาย ยิ่งพักหลังไปรับไปส่งแพรวาทุกวันสงสัยแพรวาจะทะเลาะกับไอ้เมฆมั๊ง เพราะปกติกูเห็นไอ้เมฆมันเป็นคนไปรับไปส่งแพรวาที่บ้าน…แต่กูก็ไม่เข้าใจอยู่ดี แค่เราคุยกับแพรวามันจะโกรธอะไรนักหนา ตอนกลางวันก็ทีนึงละ” ศักดิ์บอก
 
              “มึงไม่มีตาหรืองัย ดูไม่ออกเหรอว่ามันลมพัดหึงน่ะ” เพชรบอก
 
              “แต่ไอ้เมฆมันเป็นแฟนกับเนตรดาวมาตั้งเกือบสองปีนะ” ศักดิ์พูด
 
              “แล้วงัย..ถึงมันจะเป็นแฟนเนตรแต่กูเห็นมันขลุกอยู่กับแพรวาตลอดสามปี ตัวติดกันเป็นปลาท่องโก๋ ตอนเนตรคุยกับผู้ชายคนอื่นกูไม่เห็นไอ้เมฆมันจะออกอาการแบบนี้เลย” เพชรบอก นาวินฟังสองคนคุยกันไม่ได้พูดอะไร นึกเป็นห่วงแพรวาไม่รู้ว่าเจ็บมากน้อยแค่ไหน
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา