สามใจหนึ่งฝัน

8.2

เขียนโดย api3api

วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เวลา 23.52 น.

  27 ตอน
  2 วิจารณ์
  23.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 09.10 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ป่าลับลา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
     เขตอนุรักษ์อุทธยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่อาณาเขตกินไปหลายจังหวัดและนครราชสีมาก็เป็นส่วนหนึ่งในนั้น เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่นี่ถูกฝึกมาอย่างหนัก และสืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ลูกไม้ย่อมเกิดเป็นลูกไม้ แสวงก็เช่นกัน พ่อของแสวงเป็นอดีตรองหัวหน้าอุทธยานแห่งนี้มาก่อน เขาจึงใฝ่ฝันที่จะได้เป็นอย่างพ่อสักวัน
          หน่วยเรนเจอร์ 51 เป็นชื่อหน่วยเก่าของหน่วยของพ่อของแสวงแม้ตอนนี้ลุงไสวแกจะปลดประจำการไปแล้ว หน่วยนี้ก็ยังคงอยู่ หัวหน้าคนปัจจุบันคือลูกศิษย์ของลุงไสว จ่าโบ้ แสวงนับถือเขาเป็นครูบาอาจารย์และจ่าโบ้ก็เอ็นดูแสวงเหมือนน้องชายแท้ๆ เขาสอนวิชามากมายให้แสวง
แต่วิชาที่เปรียบเสมือนพรสวรรค์ของแสวงที่หน่วยเรนเจอร์ต้องการจริงๆคือการเดินป่า
เพียงแค่กางแผนที่แสวงจะจำพิกัดและพาเดินสู่จุดหมายได้อย่างแม่นยำเขาจึงเปรียบเสมือนคลื่นลูกใหม่ของที่นี่ 
    และวันนี้ก็เช่นกันที่การลาดตะเวนได้พาแสวงไปด้วย
 
              "เฮ้ยแหวง เอ็งเคยยิงคนใหมวะ" ลุงมิ่งหน่วยลาดตะเวนถามแสวงในขณะพักกินข้าวกันกลางป่าลึก
              "ยังครับลุง "
 
              "บ๊ะ แล้วแบบนี้ปะทะกับพวกลักลอบเอ็งจะไม่เยี่ยวแตกรึไงวะเหมือนไอ้เจด็จตอนมันมาใหม่ๆ อย่างคุย เอาจริง ตุ๊ย ไม่อยากเหลา"ลุงมิ่งบุ๊ยปากไปทางเจด็จที่กำลังกินข้าวอยู่
              "โธ่ลุงก็คนมันไม่เคยนี่หว่า"
 ฮะ ฮะ ทุกคนหัวเราะ รวมทั้งจ่าโบ้ด้วย แกโยนกระติกน้ำให้แสวงเขารับมันอย่างมันยำแล้วเอามาแตะหมวกที่อยู่บนหัวทำท่าเคารพ
              "เฮ้ย พวกเอ็งรู้ใหมคนที่เดินป่าได้เก่งที่สุดเคยได้ลาดตะเวนเข้าไปในเขตป่าลับลาแล้วกลับออกมาได้ "  ลุงมิ่งพูดไปพลางทำมือชี้ไปทางที่ป่าลับลาอยู่
       ป่าลับลาคือป่าแห่งความลับที่ไม่ว่าใครได้หลุดหรือหลงเข้าไปจะไม่เคยมีใครได้กลับมาเขาว่ากันว่ามีผีเฝ้าอยู่ และเป็นที่อยู่ของเสือโคร่งยักษ์พญาตาเดียวอยู่ เมื่อทุกคนได้ยินก็เงียบไม่มีใครแสดงความเห็น
               "บ้าน่าลุง เลอะเทอะแล้วไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน ใช่ใหมจ่าโบ้" เจด็จไม่เชื่อจึงหันไปถามหัวหน้าที่นั่งคิดอยู่
               จ่าโบ้ลุกขึ้นเอามีดออกมาบากไม้ทำสัญลักษณ์
 
             "มีสิ อดีตหัวหน้าหน่วยเรนเจอร์51ของเรานี่ไงล่ะ  พ่อของสาวที่อาศัยที่บ้านไอ้แหวงไงล่ะ "  จ่าโบ้เก็บมีดเข้าซอง แสวงไม่เคยได้ยินมาก่อน ตอนนั้นเขาเด็กเกินที่จะสนใจเรื่องพวกนี้
             "ช่ายๆ ลุงร่วมศึกกับเขาทีไร ภูมิใจทุกครั้ง เสียดายที่เขามาตายตอนศึก20ทมิฬ"
ลุงมิ่งส่ายหน้าแสวงกำลังจะยกมือถามจ่าโบ้ก็ให้สัญญานเงียบกับทุกคน ทุกคนจับปืนโดยสัญชาตญาณ   
              ลึกลงไปอีกเกือบสามร้อยเมตร จ่าโบ้กับพวกก็ได้พบกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้สี่คน ลุงมิ่งเลแสดงตัวด้วยเสียง
              "เฮ้ย หยุดเดี๋ยวนี้ นี่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ พวกกูล้อมไว้หมดแล้ว"
ปัง  ลุงมิ่งได้ลูกกระสุนแทนคำตอบ คมกระสุนฉีกเนื้อไม้เหนือหัวลุงมิ่งไปไม่ถึงหนึงบรรทัด
              "นรกเอ้ย ปลดอาวุธเดี๋ยวนี้ไม่งั้นพวกกูเอาตาย" เจด็จคำรามแต่จ่าโบ้ยิงโดนขาพวกลักลอบล้มไปคนนึง
 
              จากนั้นเสียงปืนของทั้งสองฝั่งก็คำรามแข่งกัน จ่าโบ้ก็สอยพวกลักลอบไปอีกหนึ่งคน
แสวงที่อยู่ข้างๆจ่าโบ้ถูกจ่าโบ้เอามือกดหัวหลบ แสวงจับปืนมั่น เหงื่อแตกซิก
             ปัง ลุงมิ่ง คำรามลูกซองยาวประจำกาย ผู้ลักลอบอีกคนก็ปลิวไปชนต้นไม้สิ้นฤทธิ์
 อีกคนเห็นท่าไม่ดีทิ้งปืนวิ่งหนีสุดชีวิต เจด็จรีบวิ่งไปพร้อมกับจ่าโบ้ 
           ลุงมิ่งจับแขนแสวงยืนขึ้นแล้วไปหาคนที่จ่าโบ้ยิงขาคนแรกแต่ก็ต้องตกใจ พวกมันยิงตัดตอนคนนี้ไปแล้ว แสวงหน้ามืดเพราะกลิ่นคาวเลือดเอามือปิดปากกันอ้วกออกมา
            ไม้สักทองถูกโค่นหลายต้นและยิ่งกว่านั้นมีร่องรอยและเศษซากสัตว์สงวนอีกหลายตัวถูกฆ่าเอาหัว ส่วนตัวนั้นถูกนำมาทำเป็นอาหาร ลุงมิ่งส่ายหัว "ไปดีเถิดพ่อ พวกข้าเอาชีวิตปกป้องเต็มที่แล้ว"
           ไม่นานเจด็จกับจ่าโบ้ก็เดินกลับมามือเปล่า
            
              "มันสิ้นคิดหนีเข้าป่าลับลาไปแล้ว พวกเราติดต่อทางศูนย์มาจัดการทางนี้แล้วก็กลับกันได้"
 
             ขากลับ แสวงถามเรื่องพ่อกับแม่ของจั๊กจั่น
 
             "ข้าจะบอกอะไรให้ ไอ้โฉมน้าของเอ็งที่อยู่กินกับพี่พยัคพ่อของนังจักจั่นนั่นน่ะ ไม่เคยได้แต่งงานกันหรอก จักจั่นมันไม่ใช่ลูกของไอ้โฉม" จ่าโบ้บอกแสวงท่าทางเหมือนเขายังไม่รู้
             "ผมไม่ได้ถามเรื่องนั้นสักหน่อยเลยจ่า"
 
             "เอาน่า จักจั่นสวยออกขนาดนั้น อีกอย่างพวกเราจะพลาดวันพรุ่งก็ไม่รู้ ขนาดพ่อเอ็งสมัยหนุ่มๆยังบ่นเลยว่ากลัวไม่ได้เมียก่อนตาย จะทำอะไรก็รีบทำเถอะ ท่าทางมันก็ชอบเอ็งนี่"
             จ่าโบ้พูดออกมาทำให้แสวงนิ่งคิด  จ่าโบ้หัวเราะชอบใจ ตบหลังแสวงดังพลัก
      
             "ไอ้นี่มันใสซื่อจริงๆว่ะ" จ่าโบ้หัวเราะลั่นกลุ่ม ลุงมิ่ง เจด็จก็หัวเราะร่าเช่นกัน
 
               ลึกเข้าไปในป่าลับล่าที่มีสภาพเป็นป่าดงดิบ โจรคนนั้นได้วิ่งหน้าตื่น จนมาถึงศาลเพียงตาใจกลางป่า 
                "ช่วยลูกออกจากป่าทีเถอะ ข้าจะกลับตัวเป็นคนดี"
โฮก  เสียงเสือคำราม ทำให้เขาขนลุกซู่ พนมมือท่วมหัว  รอบข้างมีเสือโคร่งมากมายย่างสามขุมเข้ามาหาโจรคนนั้นทีละก้าว     จนเสียงโหยหวนดังขึ้นให้นกได้แตกตื่น
 
 
................................................................................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา