Yesterday อาถรรพ์ วันวาน

10.0

เขียนโดย digitoon

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2558 เวลา 21.30 น.

  21 ตอน
  3 วิจารณ์
  33.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 16 เมษายน พ.ศ. 2558 10.17 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

18) บทที่สิบแปด คนที่สมควรตาย ...คนสุดท้าย

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่สิบแปด
คนที่สมควรตาย ...คนสุดท้าย
                “ สุดท้ายก็เป็นแบบนี้นี่เอง  แบบนี้ใช่ไหมเจน? ”  เสียงแมกซ์ดังมาจากทางด้านหลัง  ทำเอาร่างของหญิงสาวกระตุกครั้งหนึ่งด้วยความตกใจก่อนจะหันมาถาม
                “ นายรู้ได้ไง ?”
                “ ทุกครั้งที่จะมีคนตาย  ฉันจะเห็นนิมิต  ทุกอย่างในฝันความแค้นที่มีใครทำอะไรไว้กับไมค์กี้บ้าง ”  แมกซ์ตอบพลางกำมือแน่นด้วยความข่มใจในความแค้น  แค้นแทนคนที่เขารักทุกอย่าง
                “ ฉันขอโทษแมกซ์ฉันขอโทษ  ฉันผิดไปแล้ว  ฉันไม่ได้ตั้งใจ  ตอนนั้นฉันยังเด็กไม่รู้ว่าไมค์กี้ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ!!! ”  เจนทิ้งตัวลงไปคุกเข่า  กอดขาของแมกซ์ไว้อย่างแน่น  สะอื้นออกมาไม่เป็นคำพูด
                “ มึงขอโทษผิดคนแล้ว!!! ”  เสียงหนึ่งก้องเข้ามาในหูของทั้งสองคน  พลันหันไปทางที่ต้นเสียงก็พบว่าอีกฝั่งหนึ่งของตึกมีร่างของเด็กหนุ่ม  ตัวเปียกไปด้วยน้ำมองมาด้วยสายตาอาฆาตแมกซ์ได้สติรีบวิ่งไปปิดประตูระเบียงและปิดผ้าม่านตามทันที  ก่อนจะวิ่งไปเปิดไฟให้สว่างไว้  เชนและตี๋ที่กำลังนอนอยู่สะดุ้งตกใจตื่นขึ้นมาในการกระทำของเพื่อน
                “ แมกซ์เมื่อกี้ฉันเห็นเจน... !!”  ตี๋มองไปทางผู้เป็นเพื่อนก็เห็นว่าแมกซ์พยักหน้าเบาๆ  ไมค์กี้คงอยากบอกคนที่ไม่รู้ทุกคนให้รู้ว่าแท้จริงนั้นเขาตายอย่างไร
                “ ไมค์กี้อยู่ข้างนอก   เขาคงมาทวงความแค้น ”  แมกซ์พูดด้วยสีหน้าที่กังวล  แต่พอสิ้นเสียงของแมกซ์  ก็มีเสียงหนึ่งดังเข้ามาทันที  มันเหมือนมีใครกำลังเอาเล็บขูดไปที่กระจกของระเบียงห้อง   เสียงมันช่างกังวานชัดจนแสบแก้วหู
                “ เราต้องรับไปที่โรงเรียนเก่าเดี๋ยวนี้เลย!!! ”  แมกซ์ดึงสติเชนกลับมา  ตอนนี้ทั้งสี่คนเก็บข้าวของส่วนตัวของตนเองแล้ววิ่งออกไปจากห้องโดยพร้อมเพรียงกัน
                  มันจะจบแล้ว  มันจะจบวันนี้แล้ว  รอก่อนนะไมค์กี้  รอก่อน!!!
               
                เชนเหยียบคันเร่งจนมิด  รถที่บรรทุกสี่ชีวิตพุ่งพยานออกไปด้วยความรวดเร็ว  ตอนนี้ขอแค่ให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด  เร็วที่สุดเท่านั้นถึงจะยื้อชีวิตของหญิงสาวไว้ได้  รถที่แล่นออกไปด้วยความเร็วในความมืดมิด เห็นร่างใครสักคนกำลังโบกมือเพื่อให้รถหยุด  แมกซ์เห็นเพียงแค่ร่างก็รู้เพียงทันทีว่าคนคนนั้นคือไมค์กี้
                “ เชนอย่าจอดรถนะ!!! ”  แมกซ์ตะโกนขึ้นมาอย่างตกใจ  ด้วยความตื่นตะลึงของเพื่อนๆ  ที่เห็นแบบเดียวกัน
                แต่ยิ่งผ่านไปที่โค้งไหนโค้งไหน  ก็เห็นแต่ร่างของไมค์กี้โบกมือขอความช่วยเหลือให้รถจอด  ยิ่งใกล้ถึงโรงเรียนมากขึ้นเท่าไรร่างของไมค์ก็ก็จะอืด บวม  จนกลายเป็นเน่าเฟะอย่างน่าสะอิดสะเอียน  กลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้งไปทั่วรถอย่างชวนอาเจียน  ตอนนี้ทุกคนเพียงแค่นั่งเงียบๆ  ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น  นั่งเพียงรอเวลาให้ถึงที่หมายอย่างเร็วที่สุด  อีกแค่โค้งเดียวก็จะถึงแล้ว
                เหมือนนรกพร้อมที่จะต้อนรับทุกคนเมื่อจู่ๆ  ตรงหน้าถนนก็มีชายคนหนึ่งวิ่งเข้ามาเพื่อจะให้รถชนโดยตรง  วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วจนแทบไม่ใช่คนแน่ๆ ที่จะวิ่งได้เร็วขนาดนี้  ร่างนั้นวิ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ  จนแจ้งชัดว่าเป็นร่างของใคร  ร่างเน่าเฟะกระโจนเข้ามาที่กระจกรถด้านหน้า
                “ กูจะเอามึงไป  คนที่ทำให้กูตาย  มึงต้องตาย!!!  ”  ไมค์กี้ตวาดลั่น  เชนที่ตกใจสูญเสียการควบคุมรถ  หักพวงมาลัยจนรถพุ่งไปชนกับเสาไฟฟ้าทันที
                “ ออกจากรถเร็ว  รีบออกมา!!! ”  เชนรีบตะโกนบอกทุกคนที่กำลังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา   ทุกคนรีบออกจากรถทันทีก่อนที่รถจะระเบิด  แต่เหมือนกับไมค์กี้ต้องการเจน  ขาของเจนนั้นติดกับซากรถจนไม่สามารถออกมาได้
                “ ช่วยด้วย  ช่วยฉันด้วย ”   เจนร้องขอความช่วยเหลือ  มือตะเกียดตะกายเพื่อที่จะให้หลุดออกมาแต่มันเหมือนจะไม่เป็นผล
                “ เจน ”  ตี๋จะวิ่งเข้าไปช่วย  แต่แมกซ์และเชนเห็นว่าสายเกินไปแล้ว  อีกไม่กี่วินาทีรถคงระเบิดเป็นจุล
                “ ตี๋ช่วยด้วย  ตี๋ ”  เจนเรียกอย่างสุดเสียง  มองกลับเข้าไปที่ปลายเท้าของตนเองก็พบว่าเท้าของเธอนั้นไม่ได้ติดกับซากรถ  แต่มือของไมค์กี้ต่างหากที่กำลังดึงเท้าเข้าไว้อยู่
                “ เป็นไง...ตอนที่กูขอความช่วยเหลือมึงช่วยกูไหม? ”  เสียงของไมค์กี้ช่างเยือกเย็นจนสุดขั้วหัวใจ  ก่อนที่จะระเบิดเสียงหัวเราะอย่างน่าสยดสยอง
                ‘กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด’
                ‘บึ้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม’
                ‘เจนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน’
                เสียงกรี๊ดของเจน   และเสียงระเบิดของรถดังขึ้นมาพร้อมกันก่อนที่จะมีเสียงเรียกของผู้ที่ตกใจกับการที่เห็นผู้เป็นเพื่อนตายไปต่อหน้าต่อตา           
 
                ในเวลาตีหนึ่งของโรงเรียน  ตอนนี้ช่างเงียบสงัด โรงเรียนนั้นดูเก่าและวังเวงมากนในตอนกลางคืน  เขาไม่รู้ว่าถ้าหากเป็นตอนกลางวันนั้นจะเป็นเช่นไร  ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้วไมค์กี้ฆ่าทุกคนที่ฆ่าเขาให้ตายไปแล้ว  แต่ถึงแม้จะมีคนตายเป็นรายต่อไปตี๋ก็พร้อมที่จะเป็นคนต่อไป
                ทั้งสามคนเดินตรงไปที่ศาลากลางน้ำอย่างไร้เรี่ยวชีวิต  ในมือมีถุงดอกไม้  ธุปและเทียน  เพื่อที่จะเอาไปขอขมากับคนที่ตายไปแล้ว  เชน  แมกซ์และตี๋นั่งลงตรงศาลากลางน้ำ  พวกเขาเพิ่งรู้ว่าไมค์กี้ตายเพราะอะไร  และหากจะแค้นใจก็คงไม่แปลก
                ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมกรรมใดที่ทำแก่ผู้ใด ในชาติใดๆ ก็ตาม ขอให้เจ้ากรรมและนายเวรจงอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมต่อไปเลยแม้แต่กรรมที่ใครๆ ได้ทำกับข้าพเจ้าก็ตามข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น และขอยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทานเพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ขอให้ข้าพเจ้าและครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงศาคณาญาติและผู้มีอุปการคุณของข้าพเจ้า จงมีความสุข ความเจริญปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญ.
                เหมือนกับคนที่ตายจะรับรู้เสียงลมหวีดหวิวไปมาปะทะที่หน้าของทั้งสามคน  ท้องฟ้าสว่างวาบอย่างน่ากลัวราวกับว่าท้องฟ้าจะโมโหโกธราไม่ให้อภัยในสิ่งที่มีคนเคยทำ  ร่างของไมค์กี้ปรากฏขึ้นมาจากน้ำต่อหน้าของทั้งสามคน  หัวที่ค่อยๆโผล่พ้นขึ้นมาพ้นขอบน้ำ  ร่างที่ขึ้นมาบวมอืดราวจะระเบิด  หนอนไชยั้วเยี้ยไปที่ตามตัวของผีร้าย
                “ ยังมีอีกคน  อีกคนที่มันต้องชดใช้ ”  ปากที่ขยับราวกับว่ามันจะแยกหลุดออกจากกัน  แต่ก็ยังมีส่วนที่ยึดติดกันอยู่
                “ ไมค์กี้  เรายอมนายแล้วทุกอย่าง  ถ้าการแก้แค้นของนายจะชดใช้ให้นายเป็นสุข  ไปสู่ภพภูมิที่ดี  ก็ฆ่าเราเถอะ  เราคือคนสุดท้ายที่ทำร้ายนาย ”  ตี๋หลับตา  พร้อมแล้วถ้าหากเขาจะได้ชดใช้
                “ ไมค์กี้อย่าทำแบบนี้เลยนะ  ทั้งสี่ชีวิตที่สูญเสียไปมันก็เป็นบาปติดตัวนายไปมากพออยู่แล้ว  อย่าสร้างกรรมเลย ”  แมกซ์ลุกขึ้นมาจะเดินไปที่ร่างของไมค์กี้ ร่างของไมค์กี้ค่อยๆ  กลับกลายเป็นไมค์กี้คนเดิม  ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น  ราวกับว่าเขายังมีชีวิตอยู่  ไมค์กี้ยิ้มนิดๆ  ให้กับคนรักก่อนจะพูดด้วยเสียงใสกังวาลไม่มีความขุ่นเคือง
                “ ขอบใจนะแมกซ์ที่แมกซ์คอยเป็นกำลังใจให้เราโดยตลอด    ตี๋แม้นายจะทำให้เราเจ็บแค้นมากแค่ไหนแต่การที่นายทำบุญด้วยจิตอันบริสุทธิ์ครั้งแล้วครั้งเล่าตอนที่เราตายใหม่  ทำให้เราโกรธนายไม่ลงแล้ว ”
                “ แต่มึง มึงต่างหากที่เป็นคนที่ฆ่ากู...มึงฆ่ากู!! ”
                 ไมค์กี้กลายเป็นศพที่บวมอืดอย่างน่าสะอิดสะเอียนอย่างรวดเร็ว  ชี้ไปที่ระหว่างคนที่เขารักและคนที่รักเขา   แมกซ์และตี๋หันไปข้างหลังพร้อมกันก็เห็นเชนกระชากมีดเล่มเล็กออกมาจากข้างหลัง  เชนกระชากแมกซ์เข้าไปในอ้อมแขน  ล็อคคอไว้พร้อมกับเอามีดจี้ไปที่คอ
                “ มึงเข้ามาสิไมค์กี้  มึงอยากได้เพื่อนใช่ไหม?  กูจะสงเคราะห์ให้ ”
                “ นี่มันเกิดอะไรขึ้น  เกิดอะไรขึ้นเชน? ”  ตี๋ถอยห่างออกมาจากตัวเชน  เพราะกลัวว่าเชนจะวู่วามแล้วทำร้ายอันตรายให้กับตัวประกัน
                “ มึงลองดูสิ  มึงทำอะไรคนที่กูรักแม้แต่นิดเดียว  มึงได้ตามกูไปอยู่กับพวกเพื่อนเลวๆ ของมึงแน่ ”  ไมค์กี้ตะคอกเสียงดัง  ลมฟ้าแรงราวกับว่าพิโรธตามอารมณ์ของไมค์กี้
                “ เชน  ใจเย็นๆ  มันเกิดอะไรขึ้น ”  แมกซ์พูดอย่างใจเย็น
                “ ฉันรักไมค์กี้มาตลอด  ตลอดเวลา  แต่พวกมึง  พวกมึงเป็นคนทำให้คนที่กูรักตาย  ”
               
...................................................................................................................................
 
                ห้องพักอาจารย์อยู่ด้านในสุดของตึกติดกับห้องน้ำทั้งสองต้องเดินไปเอาสมุดของเพื่อนๆซึ่งห้องพักอาจารย์ก็ติดกับบันไดทำให้เวลาจะเดินขึ้นลงบันใดต้องเดินเบาๆเพราะอาจารย์มักจะดุเสมอ
                จู่ๆ ก็มีร่างหนึ่งชนเข้ากับแมกซ์ที่กำลังเดินหอบสมุดเอามาเผื่อเพื่อนๆทุกคนในห้องจนร่างใหญ่ล้มลงกองไปกับพื้นพร้อมกับอีกคนที่กำลังอยู่บนตัวแมกซ์แล้วรีบลุกขึ้นมาทันที
                “ ขอโทษนะ เป็นไรไหม ” เด็กหน้าหวานที่ชนกับแมกซ์พูดขึ้นก่อนจะช่วยเก็บสมุดที่หล่นลงที่พื้น
                “ ไม่เป็นไร ๆ ”  แมกพูดในขณะที่ตั้งตนเองให้ยืนอยู่ได้โดยมีคนที่ทำให้เขาล้มช่วยประคองก่อนที่เชนจะพูดขึ้นมา
                “ ไม่คุ้นหน้าเลยนิ เด็กใหม่หรอ จะไปไหนละ ”
                “ เรามาหาอาจารย์อิงอรน่ะ ”  เด็กใหม่ยิ้มให้ ก่อนจะถามขึ้นอีกว่า “ รู้ไหมห้องพักอาจารย์อยู่ไหน ” 
                “ เนี่ยติดกับบันไดอยู่ทางนี้ ”  แมกซ์ครางเบาๆก่อนลูบที่หลังหัวแล้วชี้ไปที่ห้องพักครู             
                เด็กใหม่ยิ้มเล็กๆ เป็นการขอบคุณ ก่อนที่จะเดินไปทางที่แมกซ์ชี้และแมกซ์กับเชนเองก็เดินกลับไปยังที่ห้องของตนเอง
 
                ความรู้สึกแปลกๆ  กับยิ้มหวานของเด็กใหม่ทำเอาเชนหวั่นไหวจนแทบจะอยากเดินไปบอกรักเสียให้รู้แล้วรู้รอด  มีเพียงไมค์กี้เท่านั้น  ที่ดีกับเขาและเห็นว่าเป็นเพื่อนอยู่เสมอ   
...................................................................................................................................
                หลังเลิกเรียนไมค์กี้ลุกลี้ลุกลนคนหาอะไรบางอย่างในกระเป๋า  โดยที่คนอื่นออกจากห้องเรียนไปแล้วไมค์กี้ยังคงสาละวนอยู่กับการค้นหาของบางอย่าง บางอย่างที่เป็นความลับ
                “ หาสิ่งนี้อยู่หรอไมค์ ” เชนพูดพร้อมกับยื่นสมุดบางอย่างให้ไมค์กี้  เจ้าตัวทำตาโตก่อนที่จะหันไปมองหน้าผู้เก็บสมุดได้ก่อนที่จะหยิบสมุดมาจากมือของเพื่อน
                “ เจอมันที่ไหน ” ไมค์กี้ถาม
                “ นายลืมไว้ตอนที่บอกว่าจะไปซื้อของ ” เชนตอบ
                “ แล้ว... ” ไมค์กี้กำลังจะถามต่อแต่เหมือนกับเชนจะรู้ว่าเจ้าของสมุดจะพูดอะไรจึงชิงถามขึ้นมา “ นายชอบแมกซ์หรอ ”
                คำถามของเชนทำเอาไมค์กี้อึกอัก ไม่รู้จะตอบอย่างไร ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรหรือแม้กระทั่งข้ออ้างที่จะบอกกับเพื่อน เพราะความลับทุกสิ่งทุกอย่างมันอยู่ในสมุดหมดแล้ว
                “ เราไม่ว่าหรอกนะว่านายจะเป็นอะไร หรือจะชอบใคร สมัยนี้มันก็มีเสรีภาพมากมาย แต่นายอย่าลืมสิว่าแมกซ์เป็นเพื่อนนะ ”  เชนอธิบายแล้วจับบ่าเพื่อนอย่างเห็นใจ
                “ เราก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะ ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร เราไม่รู้ว่าถ้าแมกซ์รู้ความจริงแมกซ์จะรังเกียจเราไหม แล้วถ้ามีคนอื่นรู้ความจริงจะเอาไปบอกแมกซ์หรือเปล่า ” ไมค์กี้ตอบเสียงสั่น
                “ หยุดเถอะนะไมค์กี้ ถ้าคนอื่นรู้ เรากลัวว่าแมกซ์กับนายจะมองหน้ากันไม่ติดเปล่าๆ ” เชนตบบ่าเพื่อนเบาๆ อย่างเป็นห่วง ก่อนที่จะเดินออกไปจากห้องทิ้งให้ไมค์กี้อยู่คนเดียว
                ไมค์กี้ห้ามน้ำตาของตัวเองไม่อยู่อีกครั้ง เขาไม่รู้จะทำอย่างไร เขารู้ว่ามันผิดแต่จริงอย่างที่เชนว่าถ้าเขายังทำแบบนี้อยู่ ยังไม่ห้ามใจตัวเองเขาอาจจะต้องมองหน้ากับแมกซ์ไม่ติด ในเมื่อคิดเช่นนั้นแล้วไมค์กี้จึงมีทางเดียวที่จะห้ามหัวใจตนเองคือการเลือกที่จะเดินออกมาจากชีวิตของแมกซ์
                เชนที่มองไมค์กี้อยู่ห่างๆ  อย่างเจ็บปวด  ทำไมนะ คนที่ดีกับไมค์กี้ทุกอย่างกลับไม่ได้เป็นคนที่ถูกมองเลย  ไม่มองมาแม้แต่น้อย  โดนมองข้ามเสมอ  ‘ในเมื่อไมค์กี้ไม่มองเราก็อย่าหวังเลยว่าไมค์กี้จะสมหวังกับใคร’
...................................................................................................................................
                เช้าวันรุ่งขึ้นเกิดเป็นข่าวที่แทบจะดังที่สุดในโรงเรียน  เมื่อหนุ่มนักกีฬาที่แทบจะฮ็อทมากที่สุดคนหนึ่งอย่างตี๋  กลับกลายเป็นแฟนของไมค์กี้ที่เคยเป็นข่าวกับแมกซ์  ตี๋เดินถือกระเป๋าให้ไมค์กี้อย่างหน้าตาเฉยไม่ว่าทุกคนจะมองเขาว่าอย่างไร  มีแต่ไมค์กี้เท่านั้นที่เดินก้มหน้าหลุบๆ ราวกับจะแทรกแผ่นดินหนี
                เชนแอบมองคนทั้งคู่ที่เดินเข้ามาในโรงเรียนแบบเปิดตัวว่าเป็นแฟนด้วยแววตาที่เจ็บปวด  อีกแล้วหรอทั้งๆ ที่คนอย่างอ็มทำร้ายไมค์กี้มาโดยตลอด  แต่กลับได้หัวใจของไมค์กี้มาครอง  ได้เป็นแฟนกับไมค์กี้  ‘รอสักหน่อยเถอะไมค์กี้  ฉันจะทำให้นายเป็นของฉันให้ได้’
...................................................................................................................................
                “ ฉันจะลาออก ”  เสียงของไมค์กี้แผ่วเบาจะแทบจะไม่ได้ยิน  เจนเอียงหูฟังอย่างสงสัยแต่ก็พอจับใจความได้  “ อะไรนะ ” 
                “ ฉันจะลาออก  ทีนี้พวกนายพอใจหรือยัง ”  ไมค์กี้ตวาดเสียงดังลั่นทั้งน้ำตา
                “ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ให้มันจริงอย่างที่แกพูด  ถ้าหากพรุ่งนี้ฉันยังเห็นแก ทีวีที่โรงอาหารคงมีหนังสดของแกแน่ ”   เจนหัวเราะอย่างผู้มีชัยก่อนที่จะพยักหน้าให้เพื่อนเพื่อไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้  แต่เดี๋ยวก่อน  ถ้าหากมันไม่ออกไปละ
                “ งั้นฉันขอมัดจำไว้ก่อนแล้วกันนะ ”  เจนหันหลังมาพูดเสียงช่างดูเหมือนกับว่าอยากทำอะไรสักอย่าง  เอ็มและบาสยิ้มนิดๆ  แล้วเดินไปอุ้มที่ตัวของร่างบางของไมค์กี้อย่างง่ายดาย  คนหนึ่งจับที่แขนและอีกคนจับที่เท้า
                “ ทำอะไรน่ะ ”  ไมค์กี้ถามเสียงดัง  สบัดตัวไปมาเพื่อให้หลุดออกจากพันธนาการแต่ก็ไม่เป็นผล
                “ เจนเขาอยากให้แกอารมณ์แกเย็นน่ะ  ลงน้ำสักหน่อยไหม ”  มิร่าพูดพร้อมกับหัวเราะเสียงดังลั่น  “ เอ้าพวกนาย  ไม่ได้ยินหรอไมค์กี้อยากเล่นน้ำแล้ว  ”
                ไมค์กี้ร้องลั่น  สะบัดตัวไปมาแต่ก็ไม่เป็นผล  เอ็มและบาสพร้อมใจกันโยนไมค์กี้ลงไปในน้ำทันที  พร้อมกับเสียงหัวเราะของทั้งสี่คนที่ดังขึ้นมาอย่างสะใจ
                “ ช่วยด้วย  ฉันว่ายน้ำไม่เป็น ”  ไมค์กี้สำลักน้ำ  ตะเกียดตะกายว่ายเพื่อที่จะเข้าไปเกาะที่ไหนสักที่  แต่ก็ไม่เป็นผล
                “ เลิกตอแหลได้แล้ว  ”  เจนไม่เชื่อพร้อมกับเดินสะบัดก้นออกไป  ไม่สนใจคนที่กำลังตะเกียดตะกายว่ายน้ำอยู่ตอนนี้   สายตาของคนในน้ำอาฆาตมองตามแผ่นหลังทุกคนครั้งสุดท้ายที่ร่างของไมค์กี้จะจมหายไป
                เมื่อทั้งสี่คนเดินไปจนลับสายตา  เชนที่แอบมองอยู่ห่างๆ ก็รีบกระโดดลงน้ำไปทันที  ไม่ว่าน้ำนั้นจะเป็นสีเขียวจนไม่รู้ว่าข้างล่างเป็นอะไร  แต่เขาก็เต็มใจที่จะกระโดดเข้าไปช่วยคนที่เขารัก....คนที่เขากำลังจะบอกว่ารัก
                เชนดึงตัวไมค์กี้ขึ้นมาจากน้ำด้วยความไม่ง่ายนัก  แม้ว่าไมค์กี้จะเป็นคนร่างเล็กแต่มันก็ไม่ง่ายเลยที่จะช่วยอีกคนนึงให้ขึ้นมาให้เร็วที่สุดโดยไม่รู้ว่าเขาจะทนได้นานแค่ไหน  เชนผายปอดให้กับไมค์กี้อย่างที่ได้ร่ำเรียนมา  ดีที่เขาเป็นคนเรียนสูงและสมองดีจึงทำให้เขาสามารถช่วยคนที่เขารักได้
                “ ชะ..เชน ”  ไมค์กี้สำลักน้ำ  ภาพตรงหน้าที่ลืมตาเห็นเป็นภาพแรกทั้งๆ  ที่เขาคิดว่าเขาจะตายไปแล้ว  แต่คือคนที่ช่วยชีวิตเขาคือ..เชน  ไมค์กี้โผเข้าไปกอดคนตรงหน้าทันทีไม่สามารถห้ามน้ำตาได้อีกต่อไป  “ เชน  ขอบคุณนะ  ขอบคุณมากที่เชนช่วยเรา  ขอบคุณที่เชนไม่เคยทิ้งเรา ” 
                “ ไม่เป็นไรไมค์กี้  เราเต็มใจ ”  เชนกระซิบที่ข้างหู  แล้วกอดตอบอย่างแนบแน่นเกินคำว่าเพื่อน จมูกค่อยๆ  ซุกไซร้ไปตามคอกคออย่างหื่นกระหาย
                “ ทำอะไรน่ะ? ”  ไมค์กี้ผลักร่างตรงหน้าร่างแรง  แต่มือของเชนฉุดแขนไว้ทันจึงไม่สามารถทำให้ไมค์กี้ต้องออกห่างจากเชนได้
                “ ไมค์กี้เรารักนายนะ  เรารักนายนะไมค์กี้  เรารักนายมาโดยตลอด ”  เชนระดมจูบไปที่ตามใบหน้าของคนที่เพิ่งตกใจจากการจมน้ำและต้องมาตกใจกับการที่จะโดนข่มขืนครั้งที่สอง
                “ เชน  มองหน้าเรานะ  เราเป็นเพื่อนกัน!!! ”  ไมค์กี้พูดอย่างอ่อนโยน  พลางมองไปที่รอบๆ  ตัว  เริ่มจะมืดแล้วเขาไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้เลยนอกจากเขาต้องช่วยตัวเขาเอง
                “ เป็นของเรานะไมค์กี่  เป็นของเรานะ  นะไมค์!!! ”    เชนดึงตัวไมค์กี้เข้ามากอดอย่างหื่นกระหาย  เขาได้ไมค์กี้เข้ามาในอ้อมกอดแล้ว  ไมค์กี้อยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว  เขาจะไม่ยอมให้ไมค์กี้ต้องตกไปเป็นของใครอีก
               

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา