[YAOI] CLOSE FRIENDS เพื่อนรัก รักเพื่อน

9.3

วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.12 น.

  5 chapter
  2 วิจารณ์
  8,325 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 22.14 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) CHAPTER 3 : อารมณ์ที่แปรปรวน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
 
 
 
CLOSE FRIENDS เพื่อนรัก รักเพื่อน
[เป็นหมีสีตัวสีเหลือง]
 
 
CHAPTER 3 : อารมณ์ที่แปรปรวน
 
 
           อากาศยามเช้าของเมืองกรุงที่เต็มไปด้วยหมอกควัน ผู้คนมากมายเริ่มต้นเข้าสู่วัฏจักรของการดำรงชีวิตแบบเดิมเช่นทุกวัน ผมเองก็เช่นกันกว่าจะฝ่ารถติดมาได้เล่นเอานานพอสมควรดีที่ขับรถมาเองเลยไม่ต้องเจอทนสูดหมอกควันให้ปอดแย่เอา
 
           แม้วันนี้จะมีเรียนแค่วิชาย่อยแต่ผมก็ไม่อยากจะขาดเรียนสักเท่าไหร่
 
            สภาพผมคงดูแย่พอสมควรเนื่องจากไม่ได้นอนเต็มอิ่มเพราะมัวแต่คิดเรื่องชินซ้ำๆวนไปวนมา
 
            อาจจะมองดูงี่เง่า แต่ถ้าใครไม่เจอกับตัวคงไม่รู้สึก
 
            โป้ก!
 
           “โอ๊ย!”
 
            เสียงฝ่ามือกระทบโดนหัวของผมดังขึ้นทำให้ความคิดที่วิ่งอยู่ในหัวแตกกระเจิงไม่ใช่ฝีมือใครที่ไหน
 
            “ไอ้ชิน ตบหัวกูทำหอยไร”
 
            “ก็กูเรียกมึงตั้งนาน มึงก็ไม่ตอบ”
 
            ร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยของไอ้ชินปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับส่งยิ้มยียวนมาให้
 
            “คิดอะไรวะ แล้วทำไมสภาพมึงถึงเป็นแบบนี้วะอย่างกับศพ”
 
             ชินไม่พูดเปล่า จับหน้าของผมหันไปมา
 
              “ยุ่งน่า หน้ารำคาญ”
 
               ผมว่าให้ชิน ก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นคนที่เดินตามชินมา ความเจ็บก็แล่นสู่หัวใจ ตัวผมชาวาบไปชั่วคราว
 
              ร่างเล็กของน้องแป้งเดินตามไอ้ชินมาและหยุดยืนอยู่ข้างๆมัน สิ่งที่ผมเห็นคือคนทั้งคู่ดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยก
 
              “สวัสดีค่ะพี่ริว”
 
                แป้งเอ่ยทักทายผม ใบหน้าหวานของเธอส่งยิ้มมาให้เหมือนกับจะผูกมิตร
 
                “หวัดดีครับ”
 
                ผมฝืนยิ้มตอบกลับไป อยากจะหายตัวไปจากตรงนี้จังเลยถ้าย้อนเวลาได้ผมอยากตัดสินใจไม่มาเรียนซะก็ดี
 
               “กินไรมายังวะ”ชินถามขึ้น
 
               “ยังอ่ะ...ไม่หิว”ใครจะกินลง เจอขนาดนี้
 
               “หิวเหอะ กูกับน้องแป้งจะไปกินพอดีไปด้วยกันดิ”
 
              “กูปวดหัววะ...ขอตัวก่อนนะ”ผมพูดตัดบทและส่งยิ้มให้น้องแป้งทีหนึ่งและเดินดุ่มๆออกมาไม่สนใจเสียงของชินที่ตะโกนไล่หลังมา
 
                ขอโทษนะชิน...ถ้าฝืนยืนอยู่ตรงนั้นกูอาจจะร้องไห้ออกมาจริงๆ
 
                ผมเดินทอดน่องมาไกลพอสมควรรู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่สนามกีฬาซะแล้ว
 
               เช้านี้มีนักศึกษาบางกลุ่มมาเล่นกีฬาด้วยแฮะ
 
              ผมขึ้นมานั่งที่เดิมที่ประจำที่เคยมานั่งดูไอ้ชินเตะบอลบ่อยๆ
 
              ต่อไป...ผมจะมานั่งดูใคร
 
              ต่อไป...ผมจะเดินกับใครกินข้าวกับใคร
 
             ต่อไป...ผมคงต้องอยู่คนเดียว
 
             คิดอีกแล้ว...เมื่อไหร่จะเข็ดนะริวนายรู้ไหมว่านายเหมือนคนเป็นบ้าขึ้นไปทุกที เพ้อทำไมเพ้อให้ได้อะไรขึ้นมา ทำตัวอย่างกับเด็กสาวมอปลาย ผมยิ่งคิดก็ยิ่งมีคำถามผุดขึ้นในหัว
 
               ถ้าไม่มีชินผม...จะเจ็บกว่านี้ไหม
 
               ผมไม่รู้จะทำยังไง จะจัดการกับสิ่งที่อยู่ในใจนี้ได้ยังไงเมื่อคิดอย่างนี้ก็เหนื่อยใจเปล่าๆ จะโทษใครก็คงต้องโทษตัวเองที่เผลอไปมีใจให้เพื่อนสนิทอย่างชิน...
 
               “สวัสดี”J
 
                เสียงหนึ่งดังขึ้นเหนือศีรษะทำให้ผมที่กำลังนั่งเหม่อไม่สนใจอะไรต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง ผู้ชายตัวสูงตาสีฟ้า มองแล้วคิดถึงแมวที่บ้านเลยแหะ
 
               แต่นี้ไม่ใช่เวลามาคิดถึงแมว...ใครละเนี้ย
 
              “เราเคยรู้จักกันด้วยหรอ”
 
              นั้นสิผมคิดว่าไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อนแน่ๆ ยิ่งตัวสูงๆลูกครึ่งๆแบบนี้ไม่เคยเห็นเลยแหะ
 
              “สมองปลาทองจังเลยนะ..ริว”
 
               ห๊ะ!...มันรู้จักชื่อผมด้วย
 
               “มาวิน”
 
                ไอ้ตาฟ้าคงเห็นว่าผมทำหน้าเอ๋อรับประทานเลยยอมบอกชื่อตัวเอง มาวินงั้นหรอ...คุ้นๆแหะ ตาสีฟ้า มาวิน มาวิน...วิน
 
                  วิน!
 
                 “ไอ้หมูวิน”O_O
 
                 ตาผมคงเบิกกว้างเท่าไข่นกกระจอกเทศแล้วมั้งหลังจากนึกได้ว่าคนตรงหน้านี้คือใคร
 
                  จะใครอีกล่ะ คุณจำไอ้เด็กอ้วนตอนสมัยประถมที่ชอบแกล้งผมได้ไหม
 
                  นั้นแหละ ผมตกใจสุดขีดเพราะสภาพที่เปลี่ยนไปมากของมัน
 
                  “ไง..กว่าจะจำได้นะมึง”
                
 
               ไอ้วินยิ้มตาปิดก่อนจะนั่งลงข้างๆผมอย่างถือวิสาสะ
 
               ช่างเถอะ ไม่สำคัญเท่ามันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงสิ
 
               “มึงมาอยู่ที่นี้ได้ยังไง..แล้วมึงจำกูได้ยังไง”
 
               ผมรัวคำถามใส่มันเป็นชุด อยากรู้จริงๆหลังจากจบมอต้นไอ้วินก็ย้ายไปเรียนต่างประเทศจากนั้นผมก็ไม่ได้ข่าวคราวของมันอีกเลย
 
              “กูเพิ่งย้ายมาเรียนต่อที่นี้ แวบแรกที่เห็นกูก็จำมึงได้แล้วล่ะ”
 
               ฉลาดจังนะมึง แต่ก็นะหน้าผมไม่ค่อยเปลี่ยนไปสักเท่าไหร่ คนมันหน้าเด็กนี่ครับช่วยไม่ได้
 
               “มึงเปลี่ยนไปมากนะ”
 
               ใช่มันเปลี่ยนไปมากจริงๆ จากเมื่อก่อนภาพลักษณ์ของไอ้วินที่ผมจำได้คือ ไอ้เด็กอ้วนตัวโตที่ชอบแกล้งผม ตอนนี้มันเปลี่ยนไปทั้งสูงทั้งขาวยิ่งหน้าลูกครึ่งตาสีฟ้าผิวเนียนๆที่คาดว่าจะได้มาจากแม่มันนั้นอีก(แม่มันเป็นคนไทยครับ)บอกเลยว่าหล่อลาก
 
              “หล่อละสิ จ้องขนาดนี้ตกหลุมรักกูหรอ”
 
               เอิ่ม =_= หลงตัวเองชิบถึงมึงจะหล่อจริงๆก็เหอะ
 
              “ไอ้สัส...กูยังจำได้นะว่าเมื่อก่อนมึงทำอะไรกับกูไว้บ้าง”
 
               ใช่ผมยังไม่ลืมนะ ทำกับผมไว้แสบแถมยังหนีไปดื้อๆอีก...แต่อาจจะต้องขอบใจมันก็ได้ที่ทำให้ชินเข้ามาสนิทกับผมมากขึ้นแบบนี้
 
               แล้วผมจะคิดถึงไอ้ชินมันทำไมเนี่ย
 
               “นั้นมันตอนเด็กแล้วปะวะ...กูลืมไปหมดแล้มึงก็ควรลืมได้แล้ว”
 
              ไอ้วินมันส่งยิ้มมาหน้าหล่อๆของมันมาให้ผม ทำเอาสาวๆที่เดินผ่านหันมามองเป็นตาเดียว...จะฮ็อตไปไหนครับพี่
 
                “แหม่ไอ้ห่า...มึงเป็นคนแกล้งกูสิถึงลืม แต่กูโดนแกล้งสาระพัด”
 
               “มึงรู้ป่ะ...เด็กผู้ชายเวลาชอบใครมักจะแกล้งคนนั้น”
 
               เงิบเมื่อฟังจบประโยค ไอ้นี้เล่นเห็นกูสนิทกับมึงรึไง
 
               “ตลกละมึง”
 
               “เออน่า...ไปกินข้าวไหมเดี๋ยวกูเลี้ยงถือซะว่าไถ่โทษ”
 
               คิดว่าแค่นี้จะทำให้กูใจอ่อนหรอ หึ...ของฟรีใครจะไม่คว้าเอาไงล่ะครับปฏิเสธก็โง่ละ ฮ่าๆๆ
 
               “ได้”
 
               “เร็วจังนะมึง”
 
              ไอ้วินว่าให้พร้อมกับมือหนาของมันยกมาขยี้ผมของผมจนเสียทรง
 
               “ไอ้เชี้ยอย่าเล่นหัวดิวะ”
 
                เพราะคนที่ชอบขยี้ผมของผมมีแค่...ชิน
 
                “ทำไมกลัวไม่หล่อรึไง...แต่หน้าแบบมึงถึงจะเช็ตทรงเท่ๆก็สวยอยู่ดีวะฮ่าๆ”
 
                “หุบปากไปเลยมึง ตกลงจะเลี้ยงไหมข้าวอ่ะ ไม่เลี้ยงกูจะไปแล้ว”
 
                “เฮ้ยๆ เลี้ยงดิพูดแค่นี้ถึงกับงอน”
 
                 วินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะส่งมือมาให้ผมข้างหนึ่ง
 
                 “ป่ะ ไปกันเถอะ”
 
                ผมลุกขึ้นโดยไม่ยอมจับมือมัน ก่อนจะเดินนำหน้ามัน วินยิ้มขำๆกับพฤติกรรมของผมมันรีบเดินก้าวขายาวๆของมันมาเดินข้างๆผม ถึงจะคิดว่ามันสูงแต่ไม่คิดว่าพอลองมายืนข้างกันแบบนี้แล้วมันจะสูงแบบนี้
 
                ให้ตาย...เหมือนเสาไฟฟ้ากับหลักกิโล
 
               “ไม่คิดเลยว่าจะเจอมึงเร็วแบบนี้”
 
               อยู่ๆวินก็พูดขึ้นมา อย่างกับว่ามันตั้งใจจะมาหาผมงั้นแหละ
 
               “ทำไม อยากเจอกูมากรึไง”
 
               “งั้นมั้ง..แล้วนี้มึงยังคบอยู่กับไอ้ชินอยู่ป่ะ”
 
                “ก็ยังเหมือนเดิม..”
 
               กูยังเป็นเพื่อนมันเหมือนเดิม
 
                “หรอ แล้วมันไปไหนแล้วล่ะ”
 
                “ไปกินข้าวกบแฟนมันมั้ง”
 
                ใช่ป่านนี้คงกินข้าวจู๋จี๋กันอย่างมีความสุขแล้วล่ะ แค่คิดก็น้อยใจขึ้นมา
 
 
โรงอาหาร
 
 
                “กูนึกว่ามึงจะพาไปกินร้านหรูๆซะอีกไหงมานั่งโซ้ยก๋วยเตี๊ยวในโรงอาหารได้วะ”
 
                 ผมบ่นทันทีหลังจากไอ้วินลากมาที่โรงอาหาร ตอนนี้คนพลุกพล่านเต็มไปด้วยนักศึกษา อุตส่าห์ไม่มากินข้าวกับไอ้ชินที่นี้แต่ไอ้เบือกวินดันพามาอีกถ้าเจอชินขึ้นมาผมจะตอบมันว่ายังไงละเนี่ย
 
                 “แค่นี้ก่อนครับคุณริว ไว้โอกาสหน้าก่อนละกันพอดีกระผมมีเรียนต่อจากนี้ครับ”
 
                   วินพูดท่าทางกระแดะจนผมนึกหมั่นไส้อยากจะเขกกระบาลมันให้สักที แต่ติดที่ว่ากลัวมันเขกกลับมันไม่คุ้มเลย
 
                  “จำคำพูดของมึงไว้ละกัน”
 
                  ผมคาดโทษมันไว้ คราวหน้าพ่อจะเล่นให้กระเป๋าฉีกเลยคอยดู
 
                  “ไอ้ริว”
 
                อยู่ๆผมก็สะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงของไอ้ชินดังมาจากข้างหลัง ผมค่อยๆหันไปมองช้าๆปรากฏว่าไอ้ชินจริงๆมันยืนอยู่ข้างหลังผมคนเดียว...แล้วน้องแป้งไปไหนวะ
 
                “ว่าไงชิน..กินข้าวเสร็จแล้วหรอ”
 
               ผมถามและส่งยิ้มเห่ยๆให้มัน ไอ้ชินเก็กหน้าดุๆกลับให้ จะเก็กไปไหนครับ?ก่อนที่สายตาของมันจะไปหยุดมองคนตัวสูงข้างๆผม
 
               “แดกเชี้ยไรล่ะ...อยู่ๆน้องแป้งก็มีธุระด่วนแล้วนี้ใคร”
 
               อ๋อ ถึงว่าทำไมอยู่คนเดียวที่แท้แฟนไม่อยู่
 
               “เพื่อนใหม่กู”
 
               ผมไม่ได้บอกความจริงว่านี่คือ ไอ้วิน
 
               “มึงไปมีเพื่อนใหม่ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
 
              ไอ้ชินถามตรงๆสายตายังคงจ้องกันวินแทบไม่กระพริบตา ส่วนวินก็ดันจ้องกลับอย่างท้าทาย ผมจะคิดไปเองรึเปล่าว่าเมื่อกี้เหมือนมีประกายไฟขึ้นระหว่างสองคนนี้
 
             “เมื่อกี้นี้เอง...แล้วมึงจะกินไหมข้าวอ่ะ กูจะได้นั่งรอ”
 
              “ไม่กิน ไปเรียนได้แล้วมึง”
 
             ไอ้ชินบอกพร้อมกับคว้าแขนของผมแล้วดึงให้ลุกทันที ไอ้นี้เป็นอะไรของมันวะ
 
             “เฮ้ยเดียวดิ กูยังไม่ได้เก็บชามข้าว”
 
             “เก็บดิวะ รีบๆเดี๋ยวก็สายหรอก”
 
             “เออ แปบดิวะ”ผมบอกก่อนจะหยิบชามก๋วยเตี๋ยวขึ้นมา จะรีบอะไรนักหนาเหลือเวลาตั้งสิบนาที
 
               “กูไปก่อนนะ อย่าลืมที่มึงพูดละ”
 
                ผมเตือนไอ้วินที่นั่งไม่ได้พูดอะไร กันมันลืมครับผมเปล่าขี้งกนะกินฟรีใครก็ชอบหรือไม่จริง
 
                “ไปเหอะ”
 
                ชินมันเร่งผมยิกๆ จะรีบอะไรของมันวะ
 
              “เดี๋ยวดิ ริวกูยังไม่มีเบอร์มึงแล้วจะโทรนัดมึงได้ไง”
 
             วินร้องทักก่อนที่ผมจะทันเดินไป จริงด้วยแหะผมยังไม่ได้ให้เบอร์มันไปเลย ว่าแล้วผมก็รับโทรศัพท์จากวินขึ้นมากดเบอร์ที่คุ้นเคยให้มัน
 
             “กูไปละนะ ไว้เจอกัน”
 
              ผมรีบเดินตามไอ้ชินที่เดินลิ่วๆออกไปไม่รอ อะไรของมันวะผีเข้ารึไง
 
             “รอกูด้วยดิ มึงจะรีบไปตายที่ไหนวะ”
 
             กว่าจะวิ่งมาทันก็เหนื่อยพอสมควรนะ ขาผมยิ่งสั้นๆอยู่แม่งไม่เห็นใจกันบ้างเลย
 
             “...”
 
            ไอ้ชินไม่ตอบ แต่ก็ลดฝีก้าวลงนิดหนึ่งให้ผมเดินตามทัน
 
            “เป็นไรของมึงวะ”
 
            ผมทำหน้างง คือวันนี้จะต้องทำหน้างงกี่รอบครับพี่น้องมีแต่เรื่องชวนให้สงสัย ไอ้ชินทำหน้าเรียบไร้อารมณ์เดินไปไม่พูดไม่จาจนมาถึงห้องเรียน เอาเข้าไป
 
            “ชิน”
 
            ผมเรียกมันอีกครั้งแต่คำตอบที่ได้ก็คือความเงียบเหมือนเดิม
 
             “...”
 
             “มึงจะไม่พูดใช่ไหม”
 
             ผมเริ่มหงุดหงิดแล้วนะ เป็นอะไรของมันไม่ชอบเลยที่มันเป็นแบบนี้ ถ้างอนปกติมันจะกอดอกแล้วเชิดหน้าแต่นี้เล่นเงียบเป็นผีตายซากแบบนี้ผมไปไม่เป็นนะ
 
             “กู...ไม่ถูกชะตากับไอ้ฝรั่งขี้นกนั้น”
 
              สุดท้ายมันก็ยอมเปิดปาก หืม ไม่ชอบไอ้วินเองเรอะถึงเป็นแบบนี้
 
              นี้สินะ ที่ว่าคู่กัดกันของแท้ขนาดยังไม่รู้ความจริงนะว่าฝรั่งขี้นกที่มันว่าคือไอ้วินคู่แค้นคนเดียวในชีวิตของมัน ก็ชินมันเป็นคนค่อนข้างเฟรนลี่ผมไม่เห็นมันจะทะเลาะหรือไม่ถูกใจใคร ถึงจะดูว่าไม่ชอบมันก็แค่ไม่คุยกับคนๆแค่นั้น แต่นี้แสดงอาการชัดเจนเลย
 
           “ทำไมวะ...มาร์เขาไม่ได้ทำออะไรให้มึงเลยนะ”
 
          ผมเอ่ยแทนชื่อไอ้วินว่ามาร์เพราะไม่อยากเรียกชื่อเต็มเดียวมันจะจำได้พอดี
 
           “ไม่รู้วะ..เหมือนมันมีลางสังหรณ์ ไม่ชอบก็คือไม่ชอบมึงเข้าใจป่ะ”
 
           ลางสังหรณ์ของมึงแม่นมากครับ -__-
 
            “เอาเถอะน่า ยังไงมึงก็ไม่ต้อไปคุยกับมันสิ”
 
            “มึงด้วย เลิกติดต่อกับไอ้ฝรั่งขี้นกนั้นเลย...มีกูเป็นเพื่อนคนเดียวก็พอแล้ว”
 
           คำพูดที่แสนเอาแต่ใจของชิน...เห็นแก่ตัวจังนะมึง
 
            แบบนี้ไงกูถึงตัดมึงออกใจไม่ได้สักที
 
            และนี้คงจะเป็นอีกเหตุผลที่ผมมีเพื่อนแค่คนเดียวมาตลอด...
 
            ....และคิดว่าผมควรทำยังไงดีช่วยบอกที
 
 
           “กูคิดว่าคงทำแบบที่มึงพูดไม่ได้วะ”
 
 
อ่านแล้วคอมเม้นท์หน่อยน้า 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา