แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ

8.7

เขียนโดย ลันตนา

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.

  33 บท
  10 วิจารณ์
  30.50K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) เมื่อฉันเจอเธอ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
บทที่ 10เมื่อฉันเจอเธอ
 
♬♪…♫♬...
                เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของไอรินทร์ดังขึ้นในขณะที่เจ้าของกำลังสาละวนกับการทำความสะอาดห้องพักที่รกรุงรังเนื่องจากในช่วงปลายเทอมเธอไม่มีเวลาทำความสะอาดเลย จะจ้างคนทำค่าจ้างแพงมาก
“ค่ะแม่” มือซ้ายของไอรินทร์ถือโทรศัพท์ส่วนมีขวาก็กำลังเช็ดโต๊ะ
[จะกลับบ้านเมื่อไหร่ลูก] เสียงของคุณวรรณวิภาโทรศัพท์ทางไกลมาหาลูกสาว         
“อีกสักสองสามอาทิตย์ค่ะ”
[ให้แม่ไปรับไหม]
“ไม่ต้องค่ะแม่กับพ่อแล้วก็พี่อาร์มมาวันที่รินทร์รับปริญญาแล้ว มาอีกก็เหนื่อยแย่เลย”
[ตามใจลูกจ๊ะ ถ้ามาถึงกรุงเทพฯเมื่อไหร่ก็โทรบอกแม่ด้วย]
“แค่นี้นะคะ คิดถึงแม่ค่ะ”
[แม่ก็คิดถึงลูกเหมือนกัน]
          เมื่อการทำความสะอาดเสร็จสิ้นไอรินทร์ก็มาประจำที่หน้าคอมพิวเตอร์แล้วเข้าสู่เว็บไซต์ที่มีชื่อว่า  Facebook แล้วไม่นานช่องแชทก็เริ่มทำงานเนื่องจากมีคนทักมา
[The Man_Next Door: say: ดีครับ =D]
‘Rin rin: say: ดีจ๊ะ ^^’
[The Man_Next Door: say: ไม่ได้คุยกันตั้งนานทำอะไรอยู่]
‘Rin rin: say: เตรียมตัวสอบแล้วก็เพิ่งรับปริญญาอาทิตย์ที่แล้ว’
[The Man_Next Door: say: ดีใจด้วยนะที่เรียนจบแล้ว]
‘Rin rin: say: ขอบใจจ๊ะ อีกสามอาทิตย์รินทร์จะกลับเมืองไทยแล้ว เจอกันที่กรุงเทพได้ไหม’
[The Man_Next Door: say: ....] เงียบสามนาที
‘Rin rin: say: ได้ไหม?’
[The Man_Next Door: say: อืม ได้สิป้องไปรับรินทร์ที่สนามบินนะ]
 ‘Rin rin: say: จริงๆนะ’
[The Man_Next Door: say: Sure!J]
‘Rin rin: say: ดีใจจัง รินทร์มีของฝากให้ป้องด้วยนะ’
[The Man_Next Door: say: เราแค่ได้คุยกันหน้าก็ยังไม่เคยเห็นซื้อของให้แล้วเหรอ]
‘Rin rin: say: อยากได้ไหมละ ไม่เอาก็ไม่เป็นไร เอาไปให้เด็กข้างบ้านก็ได้’
[The Man_Next Door: say: เอาสิ เอาสิ แล้วเจอกันที่กรุงเทพฯนะ]
 
                เครื่องบินลำใหญ่บรรทุกผู้โดยสารเต็มลำจากท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์ประเทศอังกฤษนำผู้โดยสารมายังจุดหมายปลายทางคือท่าอกาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิประเทศไทย
“ฉันอยากนั่งเครื่องบินตรงไปให้ถึงบ้านเร็วๆจังเลย” ญาณิศาโอดครวนเหมือนจะขาดใจอยากกลับให้ถึงบ้านที่แสนคิดถึงเร็วๆ
“ฉันก็อยากเหมือนกัน แต่จะทำยังไงได้เครื่องบินมันดีเลย์ไปตั้งชั่วโมงครึ่ง มาถึงกรุงเทพฯก็เย็นมากแล้ว”
“แล้วนี้แกจะรีบไปไหนเนี่ย” ไอรินทร์รีบเดินมากจนญาณิศาอดที่จะถามไม่ได้
“ไปร้านกาแฟ” ไอรินทร์พูดพร้อมกับสาวเท้าอย่างเร่งรีบราวกับกลัวว่าร้านกาแฟจะหาย ถ้ามีปีกเธอคงจะบินไปแล้ว
“ไปทำไม” ญาณิศาถามไปด้วยเดินสาวเท้าตามเพื่อนไปด้วย
“ปกป้องเขามารอฉันที่นั่น”
“แกแน่ใจเหรอ” ญาณิศาถามเพื่อนสาวอย่างไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นัก เธอเองก็พอรู้จักปกป้องบ้างเพราะไอรินทร์เคยเล่าให้ฟัง
“แน่ใจสิ นั่นไง” เมื่อมาถึงร้านกาแฟในสนามบินที่เป็นที่นัดหมายไอรินทร์ก็เห็นผู้ชายที่เคยคุยกันในเช็ทมานานนั่นคือปกป้อง กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะติดกับกระจกใสของร้าน ไอรินทร์รู้ได้เพราะปกป้องได้ส่งรูปให้เธอดูแล้ว
“สวัสดีป้อง มารอนานไหม” ไอรินทร์ดีใจที่สุดที่ได้เจอเพื่อนที่คุยกันในเช็ทมานานสี่ปี
“ไม่นานหรอก” หนุ่มหน้าขาวตี๋ที่มีชื่อว่าปกป้องตอบ
“นี่ญาณิศาเพื่อนของรินทร์” ไอรินนทร์แนะนำญาณิศาให้ปกป้องรู้จัก ญาณิศาก็เอ่ยทักอย่างเป็นมิตร
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ...รินทร์ฉันขอออกไปข้างนอกนะได้กลิ่นกาแฟแล้วฉันมึนหัวมากเลย” ญาณิศาเองก็อยากนั่งอยู่เป็นเพื่อนไอรินทร์แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะกลิ่นกาแฟที่เธอเกลียดมันรบกวนระบบประสาทเธอเหลือเกิน เธอจึงตัดสินใจออกมาข้างนอกแล้วคอยสังเกตการณ์ผ่านกระจกใสอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ
“มีของมาฝากป้องด้วยนะ” ว่าแล้วไอรินทร์ก็หยิบถุงพลาสติกขึ้นมาแล้วยื่นให้ชายหนุ่มหน้าตี๋ตรงหน้า ปกป้องเองก็ไม่รอช้าหยิบสิ่งของที่อยู่ในถุงออกมาทันที
“สวยจังเลย”  ปกป้องชื่นชมของฝากที่ได้รับ ของฝากที่ไอรินทร์ให้ปกป้องคือหมวกแก็ปแนวฮิปฮอปลายธงอังกฤษ
“ชอบไหม” หญิงสาวถามเพื่อนหนุ่มที่เพิ่งเจอกันอย่างปลื้มใจ
“ชอบมากเลย... ป้องก็มีของฝากให้รินทร์เหมือนกันนะ” ไอรินทร์ตื่นเต้นกับของฝากของชายหนุ่มเหลือเกิน จะเป็นอะไรน๊า เธอคิดในใจไปต่างๆนาๆ แล้วชายหนึ่งเอาของฝากของตัวเองส่งให้หญิงสาว
“ดอกไม้สวยจัง” ไอรินทร์ยิ้มชื่นบานเมื่อได้รับดอกไม้สดหลากสี
‘ผู้ชายคนนี้โรแมนติกจังเลยเนอะ’ ไอรินทร์คิดในใจ แล้วทั้งสองก็นั่งคุยอยู่ด้วยกันสักพัก ปกป้องก็ขอตัวกลับ
“ป้องกลับก่อนะ พอดีว่ามีธุระต้องไปทำอีก”
“อยากคุยต่อจังเลย” ไอรินทร์เอ่ยอย่างเสียดายนิดๆ
“เอาไว้คุยกันในเฟสฯนะ”
“อืม ป้องไปธุระที่ไหนให้อาของรินทร์ไปส่งก็ได้” ไอรินทร์พูดกับเพื่อนออนไลน์ที่เพิ่งเจอตัวจริงหมาดๆอย่างใจกว้าง
“มะ...ไม่ต้อง!” ปกป้องพูดเสียงดังขึ้นเล็กน้อยท่าทางเหมือนมีพิรุธทำให้เธอรู้สึกสงสัย
“ทำไมต้องพูดเสียงดังด้วย” ไอรินทร์ตกใจที่ชายหนุ่มพูดเสียงดังใส่ ก็แค่ชวนไม่เห็นต้องเสียงดังเลย
“ขอโทษนะ คือ...ป้องเกรงใจ” ปกป้องเอ่ยอย่างสำนึกผิด
“ก็ได้ๆ แล้วค่อยคุยกันในเฟสฯนะ” ปกป้องยิ้มรับคำของไอรินทร์
                แล้วทั้งสองก็แยกย้ายกัน ไอนริทร์และญาณิศาเดินไปขึ้นรถของคุณอาที่มารอรับ ส่วนปกป้องก็ไปทำธุระของตัวเอง...
 
“คุณไอรินทร์คะฉันรู้นะว่าคุณดีใจแต่หยุดยิ้มบ้างก็ได้เดี๋ยวคนอื่นก็คิดว่าแกบ้า” ญาณิศาพูดอย่างเอือมระอาเหลือเกินกับอาการยิ้มไม่หุบของเพื่อนสาว
ไม่ให้หยุดยิ้มก็คงไม่ได้เพราะไอรินทร์ยิ้มหน้าบานเหมือนจานยูบีซีไม่หยุดเมื่อได้พูดคุยและเจอตัวเป็นๆของปกป้องเพื่อนออนไลน์ที่คุยกันมานานเมื่อวานนี้ที่สนามบินที่กรุงเทพฯ จนตอนนี้มาถึงนครศรีธรรมราชแล้วก็ยังไม่หยุดยิ้ม
“ก็ฉันมีความสุขจะให้หยุดยิ้มได้ไงละ” ไอรินทร์พูดทั้งๆที่ใบหน้ายังยิ้มอยู่
“เออแก.. ปีเตอร์หายไปไหนแล้วละ หลังจากที่พวกเรารับปริญญาเสร็จก็ไม่ได้เจอเขาเลย” ญาณิศาถามถึงเพื่อนหนุ่มลูกครึ่งที่สนิทที่สุดในยามอยู่ที่อังกฤษ
“เขาไปเยี่ยมคุณยายที่ฝรั่งเศส”
“แหม... ตั้งแต่เป็นแฟนกันรู้เกี่ยวกับเขาดีไปหมดซะทุกเรื่องเลยนะ” ญาณิศาอดแซวเพื่อนไม่ได้
“ฉันยังไม่ได้เป็นแฟนกับเขา ไม่พูดกับแกแล้วกลับบ้านดีกว่า”
“เอาเถอะๆ ฉันรู้ว่าแกเขิน” ญาณิศาก็ยังไม่เลิกแซว
                แล้วทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับบ้านที่จากมานานสี่ปี...
                เมื่อลงมาจากรถของที่บ้านที่ไปรับที่สนามบิน สองเท้าน้อยค่อยๆเดินเข้าไปในบ้านที่ตนจากไปนานนับสี่ปีเต็ม ระหว่างทางเข้าไปในบ้านมีคนรับใช้ในบ้านมาคอยต้อนรับทุกคนต่างก็ดีใจกับการกลับมาของไอรินทร์ และทุกคนก็ต่างกันชื่นชมยินดีกับการเรียนจบของเธอ
“คิดถึงจริงๆ มาให้แม่กอดหน่อย” เมื่อไอรินทร์เดินเข้าไปถึงห้องรับแขกก็พบกับวรรณวิภา วิชัย และพีรพัฒน์ กำลังยืนรอรับ วรรณอ้าแขนกว้างเพื่อรอจะกอดลูกสาว
“รินทร์ก็คิดถึงแม่เหมือนกันค่ะ” ไอรินทร์ก็เข้าไปกอดแม่อย่างแนบแน่น น้ำตาเริ่มคลอเบ้าตาเล็กน้อยเพราะความดีใจที่ได้กลับบ้านที่ตนรัก
“ไม่คิดถึงพ่อหน่อยเหรอ” วิชัยเห็นแม่ลูกกอดกันก็อยากกอดบ้าง
“คิดถึงสิคะ” พอกอดแม่เสร็จก็เปลี่ยนไปกอดพ่อต่อ ไม่ได้เดี๋ยวจะน้อยใจ
“แล้วพี่ละ” พีรพัฒน์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆก็ถามขึ้นบ้าง น้องบ้าคิดถึงแต่พ่อกับแม่ไม่คิดถึงพี่บ้าง
“คิดถึงสิ” ไอรินทร์ถอนกอดออกจากพ่อแล้วหันหน้าไปตอบคำถามพี่ชายแต่ไม่ได้เข้าไปกอด
“เดินทางมาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักผ่อนข้างบนเถอะลูก” คุณวรรณวิภาบอกลูกสาวแล้วพาเธอขึ้นไปบนห้อง
                 นานเท่าไหร่แล้วที่ไม่ได้นอนห้องนอนสุดแสนรัก ไอรินทร์เดินไปรอบๆห้องนอนที่ตนนอนมาตั้งแต่เด็กจนโต เตียง หมอน ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง ทุกอย่างยังคงเหมือนอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลง วันเวลาผ่านไปสี่ปีแต่ความรู้สึกของเธอก็ยังคงเหมือนเดิมและไม่เปลี่ยนเช่นกัน คือไม่สามารถลืมก้องภพได้ คอยบอกตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่สามรถทำได้ตามที่ต้องการ เพราะใจมันไม่ยอมฟังคอยแต่จะเรียกหาเขาอยู่ร่ำไป... การไปอังกฤษก็ไม่ได้ช่วยให้เธอลืมก้องภพเลยกลับทำให้เธอรู้คิดถึงเขามากขึ้น จนมันทวีคูณจนบางครั้งไม่อาจห้ามได้เลยต้องปล่อยความรู้สึกนั้นออกมาเป็นน้ำตา
 
17-03-59

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา