แค่อยากให้รู้ว่ารักเธอ

8.7

เขียนโดย ลันตนา

วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 เวลา 14.02 น.

  33 บท
  10 วิจารณ์
  30.03K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2562 21.37 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

15) ภาพติดตา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 15 ภาพติดตา

ใบหน้าคมสันยังวนเวียนอยู่บริเวณลาดไหล่และซอกคออุ่นหอมมือหนาลูบไล้ไปทั่วผิวเนียนอย่างห้ามไม่อยู่

ก๊อก ก๊อก ก๊อก “อาหารมาส่งครับ”

หนุ่มลูกครึ่งที่อยู่ในห้องได้ยินเสียงนั้นไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้พูดพูดจึงได้แต่จิ้ปากในลำคออย่างรำคาญ แล้วหันมาสนใจร่างละมุนต่อ

พลัก!!ครู่ต่อมาเสียงผลักประตูดังสนั่นเบี่ยงเบนความสนใจจากร่างละมุนไปหาผู้ที่เข้ามาแทน “นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ คุณถูกจับแล้วครับ” นายตำรวจหนึ่งในนั้นพูดเป็นภาษาอังกฤษ

เมื่อเห็นชายในเครื่องแบบจำวนวนสามนายพร้อมอาวุธสีดำประจำกายหนุ่มลูกครึ่งค่อยผละออกจากร่างที่ตัวเองเคยคร่อมอยู่อย่างเสียดาย ก่อนจะถามกลับไป “ไม่ทราบว่าผมถูกจับข้อหาอะไรครับ” ชายหนุ่มเปลือยครึ่งบนยักไหล่ถามอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“กระทำอนาจารไงละ” เสียงทุ้มของใครบางคนดังขึ้นมาก่อนเจ้าของเสียงจะเดินเข้ามาภายในห้อง

“ไม่มีหลักฐานก็อย่ามากล่าวหากันสิคุณแล้วอีกอย่างเธอก็เป็นคนรักของผมด้วย เราสองคนจะทำอะไรกันมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ” ดวงตาสีฟ้าตวัดหางตาไปทางชายหนุ่มผู้มาใหม่

ก้องภพชูโทรศัพท์มือถือที่บันทึกภาพของชายหนุ่มที่กำลังประคองหญิงสาวและภาพต่อมาคือเขากำลังอุ้มหญิงสาวขึ้นรถ

“ฮึ ภาพแค่นี้ก็กล่าวหาว่าผมกระทำอนาจารง่ายไปมั้ง” แม้จะรู้อยู่แก่ใจแต่จะมีหรือที่ปีเตอร์จะยอมรับและยังคงปฏิเสธในท่าทางสบายๆ

“สารภาพเถอะครับเพราะคนที่คุณว่าจ้างที่ร้านอาหารตอนนี้เขาสารภาพหมดแล้ว” นายตำรวจหนึ่งในสามเอ่ยขึ้น

‘ไอ้ขี้ขลาด’ ผู้ว่าจ้างด่าทอลูกจ้างในใจ ปัง! ปัง! ปัง! เสียงปืนจากผู้ต้องหายิงไปทางเจ้าหน้าที่และอาศัยจังหวะที่คนกำลังหลบกระสุนหลบหนีออกไป

“คุณตำรวจรีบตามไปเถอะครับทางนี้ผมจักการเอง” นายตำรวจพยักหน้ารับคำก่อนทั้งหมดจะออกไปตามหาผู้ต้องหา

“รินทร์ รินทร์ รินทร์ได้ยินพี่มั้ย ตื่นสิ” ก้องภพตรงดิ่งเข้าไปหาร่างที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงแล้วเขย่าร่างของเธอเพื่อให้เธอรู้สึกตัวแต่ก็ไร้ซึ่งปฏิกิริยาใดๆตอบกลับ “ไอ้บ้านั้นทำอะไรรินทร์วะ” ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสียพร้อมกับเรียกเธออีกหลายครั้ง

“พี่...ก้อง” เสียงแผ่วเหมือนกระซิบทำให้เจ้าของชื่อใจชื่นขึ้นบ้าง

 “ไม่เป็นไรนะ ปลอดภัยแล้ว” หยดน้ำอุ่นใสไหลลงทางหางตา น้ำเสียงคุ้นเคยปลอบโยนช่วยขับไล่ความกลัวออกไปอย่างหมดสิ้นส่งมอบความอบอุ่นเข้ามาแทนที่ ใบหน้าคมคายโน้มลงประทับริมฝีปากอย่างแผ่วเบาลงบนเรียวปากสีชมพูเกือบซีดเพื่อปลอบขวัญเธออีกครั้ง

ลมหายใจเข้าออกมีจังหวะเร็วขึ้นร่างกายชักกระตุกเป็นระยะส่งสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่าอาการของไอรินทร์แย่ลง ก้องภพละริมฝีปากออกมาก็พบว่าใบหน้าของเธอซีดลงอย่างหน้าตกใจ แขนเรียวงอเข้าหาตัวนิ้วเรียวเกร็งงอ ชายหนุ่มยกร่างบางขึ้นแนบอกเพื่อพาส่งให้ถึงโรงพยาบาล

 

เตียงพยาบาลเคลื่อนที่ตามแรงคนเข็นมุ่งตรงสู้ห้องฉุกเฉินอย่างเร่งด่วนเพราะคนไข้มีอาการแย่ลงเรื่อยๆ มือหนากุมบางเย็นเฉียบไว้ตลอดทางที่วิ่งตามเตียงจนกระทั้งถึงห้อง

“ญาติเข้าไม่ได้นะคะ” พยาบาลสาวพูดก่อนจะปิดประตู

ร่างสูงจึงได้แต่ยืนเกาะบานประตูที่ปิดไปพร้อมกับร่างของหญิงสาวที่ถูกเข็นเข้าไปในห้อง ขายาวเดินวกไปวนมาอยู่หน้าห้องเหมือนหนูติดจั่นรอแต่เวลาประตูแห้งความหวังเปิดออก

“รินทร์เป็นไงบ้าง” พีรพัฒน์เดินเข้ามาพร้อมคุณวิชัยและคุณวรรณวิภา ทั้งหมดทราบเรื่องได้เพราะก้องภพโทร.ไปบอกในสิ่งที่เกิดขึ้นกับไอรินทร์

“หมอยังไม่ออกมาเลย” ดวงตาคมยังคงจับจ้องอยู่ที่บานประตูอย่างไม่วางตา ในใจยังมีแต่ความเป็นห่วงสุดใจอยากรู้นักว่าหมอรักษาเธอไปถึงไหนแล้วทำไมยังไม่ออกมาสักที

คุณวรรณวิภายังคงร้องไห้ไม่หยุดตั้งแต่ทราบข่าวจนมาถึงโรงพยาบาลลูกสาวเพียงคนเดียวของครอบครัวที่เลี้ยงและทะนุถนอมมาแต่อ้อนแต่เอาะกลับต้องมาเจอเรื่องร้ายแรงเช่นนี้ “คุณคะลูกจะเป็นอะไรมั้ยคะ” น้ำเสียงสั่นเครือเอ่ยถามสามี

“ลูกอยู่ในมือหมอแล้ว ลูกต้องไม่เป็นอะไร” ใจชายที่เคยแข็งแกร่งเมื่อรู้ว่าแก้วตาดวงใจประสบพบภัยหัวใจดวงนี้ก็อ่อนยวบแต่ยังคงความแข็งแกร่งเอาไว้ภายนอกเพื่อให้ผู้เป็นภรรยามั่นใจ

พลั้ก ทันใดนั้นประตูแห่งความหวังที่ทุกคนต่างรอคอยก็เปิดออกพร้อมกับคุณหมอและเตียงพยาบาลเข็นคนไข้

“หมอครับรินทร์เป็นยังไงบ้างครับ” ก้องภพเป็นคนแรกที่เข้าไปถามความเป็นไปของผู้ป่วย

“เธอปลอดภัยแล้วครับ” คุณหมอตอบพร้อมรอยยิ้ม

“น้องผมโดนอะไรมาครับถึงได้อาการหนักขนาดนี้” พีรพัฒน์ถามคุณหมอ

“เธอได้รับสาร GHB*ครับ” ญาติคนไข้ต่างพร้อมใจกันย้นคิ้วกับคำตอบของคุณหมอ เมื่อเห็นเช่นนั้นคุณหมอจึงอธิบาย “GHBหรือชื่อที่เรียกง่ายๆ คือยาเสียสาวครับ ยาชนิดนี้มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน มึนงง เคลื่อนไหวลำบาก ถ้าหากได้รับสารชนิดนี้มาเกินไปจะทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ครับ อย่างเช่น อาการหายใจติดขัด ชักและหมดสติ” ญาติคนไข้ทุกคนถึงบางอ้อเมื่อได้ฟังคำอธิบาย

*GHB ย่อมาจาก Gamma-hydroxybutyrate จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518

“เลวจริงๆ หมอครับ...เอ่อ...มีร่องรอยถูกข่มขืนมั้ยครับ” แม้เป็นคำถามที่ไม่ค่อยอยากถามแต่ก็วางใจไม่ได้เพราะตอนที่เห็นสภาพของเธอคือเสื้อผ้าหลุดลุ่ยจนเกือบโป๊

“ไม่มีครับ” คุณหมอยิ้มพร้อมขอตัวกลับ

“บอกได้แล้วยังว่านายไปเจอรินทร์ได้ยังไง” เมื่อเข้ามาในห้องพักผู้ป่วยพีรพัฒน์จึงเริ่มเปิดประเด็นเพราะตอนคุยโทรศัพท์กับก้องภพไม่ได้เล่ารายละเอียดใดๆทั้งสิ้น

“ฉันไปกินข้าวที่ร้านั้นพอดีเลยบังเอิญเจอรินทร์กับไอ้ฝรั่งนั้น”

“ขอบใจนายมากนะ และนายก็ปล่อยมือน้องฉันสักทีเปื่อยหมดแล้ว” พี่ชายของคนป่วยพูดทีเล่นทีจริงเพราะผู้ช่วยชีวิตน้องสาวจับมือเธอตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในห้องพักผู้ป่วย

“เรื่องของฉัน คืนนี้ฉันจะเฝ้ารินทร์เอง” มือใหญ่ยังกอบกุมมือเล็กไม่วางสายตาทอดมองใบหน้าไร้สีเลือดอย่างห่วงใย

“ไม่ได้ เกิดนายคิดมิดีมิร้ายกับน้องฉันละ”

“ฉันไม่ทำหรอกนายกลับบ้านไปได้แล้ว”

                ผู้ชายคนนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กจนโตทำไมเขาจะไม่รู้นิสัยละว่าเป็นคนเช่นไร “ถ้านั้นฉันฝากน้องด้วยนะ”  ก้องภพลุกขึ้นไปส่งเพื่อน

                “คืนนี้พี่จะเฝ้ารินทร์เองนะ” ชายหนุ่มลูบหน้าผากเล็กก่อนจะค่อยๆก้มลงจูบเบาๆ

                “แค่กๆๆ น้ำ น้ำ” เสียงแหบพร่าของผู้ป่วยเรียกขอ ก้องภพค่อยประคองท้ายทอยของเธอให้ขึ้นมาดื่มน้ำ

                “ตื่นเร็วๆนะพี่อยากคุยกับรินทร์ใจจะขาดแล้ว” มือหนากอบกุมมือบางอีกครั้งพร้อมจุมพิตหลังมือเบาๆ

 

                คุณวรรณวิภาตื่นแต่เช้ากุลีกุจรออกมาหาลูกสาวที่โรงพยาบาลแต่เช้าหลังจากเมื่อคืนไม่ได้อยู่เฝ้าลูกสาวตามที่ใจต้องการเพราะโดนสามี ลูกชายและก้องภพคัดค้าน เมื่อเข้ามาถึงห้องพักผู้ป่วยก็พบกับร่างของชายหนุ่มผู้อาสาเฝ้าลูกสาวนอนฟุบอยู่ข้างเตียง

                “ก้อง ก้อง” เสียงเรียบของหญิงวัยกลางคนกับแรงเขย่าที่ไหล่เบาๆปลุกคนกำลังนอนให้ตื่นขึ้น

                “น้าภา มานานแล้วยังครับ” คนอาสายกมือไหว้ผู้ใหญ่

                “เพิ่งมาจ๊ะ วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ”

                “ไปครับผมหลับลืมไปเลย” หลับลืมคงเป็นเพราะมือนุ่มๆที่ได้กุมไว้ทั้งคืน งานก็สำคัญคนป่วยตรงนี้ก็เป็นห่วง

                “ไม่ต้องห่วงค่ะตรงนี้เดี๋ยวสากับคุณแม่ดูแลเอง” ญาณิศาตอบเพราะเห็นสายตาของชายหนุ่มที่ทอดมองผู้ป่วยอย่างห่วงใย เธอทราบข่าวนี้ได้ก็เพราะเมื่อเช้าเธอตั้งใจจะไปหาไอรินทร์ที่บ้านแล้วก็ได้รู้ว่าเพื่อนสาวเข้าโรงพยาบาลจึงขอติดสอยห้อยตามมาเยี่ยมด้วย

                “ครับ”  ชายหนุ่มยกมือไหว้ผู้ใหญ่อีกครั้งก่อนจะหันไปส่งยิ้มแทนคำขอบคุณให้สาวอาสาแล้วเดินออกไป

                เปลือกตาที่ปกคลุมดวงตาเคลื่อนไหวยุกยิก นิ้วมือทั้งสิบขยับไหวเบาๆ ดวงตาที่หลับพริ้มค่อยๆเปิดขึ้นเพื่อปรับแสง เมื่อลืมตามองข้างบนก็เห็นเพดานสีขาว ศีรษะเล็กหันไปก็พบกับผู้เป็นแม่ “แม่ค่ะ” เสียงแหบพร่าเรียกสาววัยกลางคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่โซฟาแต่ไร้ซึ้งปฏิกิริยาตอบกลับ “แม่” ผู้ป่วยเค้นเสียงออกมาอีกนิด

                “ตื่นแล้วเหรอลูก”

                “รินทร์มาอยู่ที่นี้ได้ยังไงคะ” ผู้ป่วยเอ่ยถามในสมองยังหลงเหลือความมึนงงอยู่

                “เมื่อคืนพี่ก้องช่วยลูกมาไงจำไม่ได้เหรอ” ผู้ป่วยส่ายศีรษะแต่น้ำเสียงเมื่อคืนที่ได้ยินลางๆคงจะเป็นเสียงเขาสินะ

                “เมื่อคืนแกโดนปีเตอร์มอมยาแล้วพาเข้าโรงแรม”

                ผู้ป่วยย่นคิ้วเพราะเท่าทีเธอจำได้แค่ดื่มน้ำสัปปะรดแล้วก็กลับบ้านแต่หลังจากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

                “ปลอดภัยแล้วนะลูกนะ”

                “พี่ก้องละคะอยู่ไหน”

                “ไปทำงานตั้งแต่เช้าแล้วแกขี้เซาตื่นซะบ่ายโมงก็เลยไม่ได้เจอกันไง”

                เวลาในยามเย็นซึ่งเป็นเวลาเลิกงานของใครหลายคนพีรพัฒน์จึงมาผลัดเวรดูแลไอรินทร์กับคุณวรรณวิภาเพื่อให้ท่านได้พักบ้าง

                “พูดปร๋อขนาดนี้หายแล้วสินะ”

                “หาว่ารินทร์พูดมากใครกันละชวนคุยไม่ได้นอนเลย”

                ก๊อก ก๊อก ก๊อก

            “รอตั้งนานมาสักทีนะครับผู้กอง” พีรพัฒน์ทักทายผู้มาใหม่

                “เป็นไงบ้างหายดีแล้วยัง” ก้องภพเอ่ยถามผู้ป่วยบนเตียงหน้าตาของเธอสดใสกว่าเมื่อเช้ามาก

            “นั่งอยู่อีกสองชีวิตไม่คิดจะทักกันบ้างเหรอครับผู้กอง” พีรพัฒน์เรียกร้องแหมมาถึงก็เข้าหาคนป่วยทันที ผู้กองเพียงแค่หันมายิ้มให้ญาณิศาและพีรพัฒน์เท่านั้นแล้วมาสนใจคนไข้ต่อ    

                “ขอบคุณนะคะถ้าเมื่อคืนไม่ได้พี่ รินทร์คงไม่รอด”

                “ด้วยความยินดีครับ พี่ว่าเรามากินผลไม้กันดีกว่านะ” ไม่อยากให้เธอต้องคิดมากเพราะเรื่องมันผ่านมาแล้ว

                “พี่ก้องคะสาก็อยากกินเหมือนกันนะ”

                “แต่ก่อนจะกินผลไม้กินข้าวก่อนดีกว่ามั้ย” พีรพัฒน์เห็นเจ้าหน้าที่ในชุดสีเหลืองเดินเข้ามาพร้อมรถเข็นอาหารเข้ามาในห้องพัก

                “เดี๋ยวสาป้อนให้รินทร์เอง” ญาณิศาลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมเดินไปที่โต๊ะสำหรับวางอาหารของผู้ป่วยเพื่อเตรียมจะลาไปหาผู้ป่วย

                “ไม่ต้องพี่ป้อนเอง” ก้องภพพูดสวนทันควันพร้อมกับคว้าโต๊ะสำหรับวางอาหารของผู้ป่วยมาไว้กับตัว

                “น้องฉัน ฉันป้อนให้เองดีกว่า” พี่ชายผู้ป่วยเอื้อมมือจะไปคว้าโต๊ะแต่นายทหารหนุ่มกันไว้ไม่ให้ใครทำหน้าที่ป้อนอาหารนอกจากตัวเขาเอง

                “รินทร์กินเองดีกว่าค่ะ”

                “ไม่ได้ เป็นคนไข้ก็นั่งเฉยๆเดี๋ยวพี่ป้อนให้เอง” ผู้กองปรามคนไข้พร้อมตักอาหารเตรียมจะป้อนเธอ

                ญาณิศาและพีรพัฒน์คอยนั่งสังเกตการณ์การป้อนอาหารของผู้กองก้องภพกับหญิงสาว “สาคิดเหมือนพี่มั้ย” พีรพัฒน์กระซิบกระซาบ ญาณิศาพยักหน้าในความหมายของประโยคนั้น

                สี่โมงเย็นในวันต่อมาก้องภพออกมาที่โรงพยาบาลทันทีเมื่อเลิกงานเพราะวันนี้คุณหมอเจ้าของไข้อนุญาตให้ผู้ป่วยกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว

                “คนไข้ห้องนี้ไปไหนครับ” เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็พบพยาบาลจำนวนสองคนช่วยกันพับผ้าปูเตียงและเก็บปลอกหมอน

                “คนไข้กลับไปพักที่บ้านแล้วค่ะ” พยาบาลสาวหนึ่งในสองตอบนายทหารหนุ่มแล้วกลับไปง่วนกับงานต่อ

                เมื่อทราบคำตอบนายทหารจึงตัดสินใจกลับบ้านทันทีเพราะดอกไม้สีสันสดใสในมือพร้อมจะให้เธอแล้ว ขายาวสาวเท้าออกจากประตูบ้านตัวเองทันทีเมื่อจอดรถเสร็จ

เดินไปได้เพียงแค่ประตูใหญ่หน้าบ้านขายาวก็ต้องชะงักลง ภาพหญิงสาวที่รู้จักดีกำลังจับมือกับชายหนุ่มคนหนึ่งที่เขาไม่ค่อยชอบหน้านัก ปากของชายหนุ่มกำลังพูดอะไรบางอย่างใบหน้าของหญิงสาวประดับไปด้วยรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความสุข ก่อนที่ร่างของชายหนุ่มคนนั้นจะค่อยๆคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ มือหนายกมือบางขึ้นมาพร้อมกับสวมแหวนลงบนนิ้วเรียวของเธอก่อนจะจุมพิตบนหลังมือเธออย่างนุ่มนวล

ดอกไม้ช่อสวยร่วงหล่นลงพื้นร่างทั้งร่างเหมือนโดนยาชาอย่างแรงฉีดเข้าเส้นเลือดใหญ่เมื่อรู้ว่าเธอกำลัง มีข่าวดี

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา