Knack imagine

9.3

เขียนโดย ลอร์

วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 17.46 น.

  3 บท
  3 วิจารณ์
  4,601 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 เมษายน พ.ศ. 2559 18.19 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ตอนที่ 3

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
เจคและลอชยังคงเดินเล่นกันอยู่ในห้างสรรพสินค้า  เจคสังเกตเห็นว่าลอชดูท่าทางแปลกๆไปอีกแล้ว 
 
ลอชกำลังคิดถึงเรื่องที่ลอยด์พูดกับเขาเมื่อซักครู่ที่บอกว่า
“ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มก็มาเจอกันที่ร้าน”
 
ลอชสงสัยว่ามันจะเป็นกับดักหรือป่าว  เพราะการที่คนนอกเห็นความลับของพวกที่ทำงานแบบนี้แล้วจะปล่อยไปเฉยๆนั้นมันเป็นไปไม่ได้  แต่ว่าถ้าพวกนั้นคิดว่าปล่อยไปไม่ได้จริงๆคงจะฆ่าเขาไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว  ลอชเดินคิดเรื่องนี้อยู่ตลอดทาง 
 
“ลอช  นายเป็นอะไรอีกแล้ววะ?” เจคเรียกลอชอยู่บ่อยครั้งแต่ดูเหมือนลอชจะไม่ได้ยินเลย
เจคตบไปที่บ่าของลอชหนึ่งทีเพื่อเรียกสติลอชกลับมา  ลอชตกใจสะดุ้งเล็กน้อยและถามเจคกลับไปว่า
“มีอะไรหรอ?”
[ก็เรียกตั้งนานแล้วก็เอาแต่เดินก้มหน้าคิดอะไรไม่รู้  สรุปนายมีปัญหาอะไรไหนบอกมาสิ?]
“ไม่มีอะไรหรอก….”
[จะไม่มีอะไรได้ไงวะ  ตอนแรกก็ดีๆอยู่เลยนี่เงียบอีกละ?]
 
ลอชรู้ดีว่าถ้าบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจคไปเจคจะต้องไม่อยู่เฉยๆแน่นอน  เขาจึงพยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนาและทำตัวอย่างเป็นปกติที่สุด  แต่ถึงยังงั้นเจคก็ดูออก
 
เจคคิดว่าลอชคงมีปัญหาใหญ่มากๆจนบอกใครไม่ได้เลยคิดว่าจะไปสืบหาด้วยตัวเองจะดีกว่า
ทั้งคู่เดินเล่นกันจนถึงเย็น  ทั้งสองจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน 
 
ลอชไม่รู้ว่าตัวเองคิดยังไงแต่ตัดสินใจเดินกลับหอพักทางตรอกที่เกิดเรื่องเมื่อคืนอีกครั้ง  บรรยากาศยังคงชวนขนลุกเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน  แต่ครั้งนี้ไม่มีใครตามเขามา  ลอชเดินจนถึงทางออกของตรอกแต่ก็ไม่พบกับใครซักคน  เขาจึงรีบเดินกลับขึ้นมาบนห้อง
 
ลอชเปิดประตูเข้ามาภายในห้องก็พบว่าข้าวของของเขาถูกรื้อออกมาทั้งหมด  มีใครบางคนเข้ามาในห้องของเขาเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง  ลอชพยายามตรวจดูว่ามีอะไรหายไปบ้างแต่ทุกอย่างอยู่ครบหมด  แม้แต่เงินสำรองที่เขาเก็บไว้ที่หัวเตียงก็ถูกรื้อออกมาแต่กลับไม่ได้ถูกขโมยไปเลยซักบาทเดียว
 
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก็นึกถึงเรื่องสร้อยคอของเขาขึ้นมาได้  ลอชสงสัยว่าคนที่เข้ามาในห้องของเขาจะต้องการสร้อยคอนั่นอย่างแน่นอน  ลอชนั่งลงที่ข้างเตียงและนึกถึงเรื่องสร้อยเส้นนั้น  เขาพยายามประติดประต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน  แต่จู่ๆไฟในห้องก็ดับลง  ทุกอย่างเงียบสงบ  ลอชพยายามค้นหาไฟฉายที่อยู่ในลิ้นชักข้างๆหัวเตียง 
 
แต่จู่ๆก็มีใครบางคนยืนอยู่ตรงระเบียงห้องของเขาเป็นผู้หญิงที่ใส่ผ้าคลุมสีแดง  และกำลังจ้องมาที่ลอช 
“เธอเป็นใคร…..ต้องการอะไร?”ลอชถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
[สร้อยนั่นอยู่ที่ไหน?]ผู้หญิงปริศนาถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น
“ผมทำหายไปแล้ว….”
[ถ้าโกหกไม่จบแค่เจ็บตัวนะ?]
 
ลอชรู้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้พูดเล่นอย่างแน่นอนเพราะจากเหตุการณ์เมื่อคืนที่การฆ่ากันเป็นเรื่องปกติของพวกนี้แล้ว  คงไม่มีอะไรที่คนพวกนี้จะไม่กล้าทำอีกแล้วล่ะ
 
หญิงปริศนาเดินตรงเข้ามาหาลอช  ลอชหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าช็อตไปที่ท้องของหญิงคนนั้น 
 
แต่ว่า
 
ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกอะไรกับเครื่องช็อตไฟฟ้าเลย  เธอหัวเราะออกมาเบาๆและกระซิบข้างหู ลอชว่า
“ของแค่นี้ทำอะไรชั้นไม่ได้หรอก…ลืมไปชั้นชื่อว่าวิกิ  ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
 
ลอชผลักวิกิออกและรีบวิ่งไปที่ประตู  ลอชวิ่งหนีลงมายังชั้นล่างของหอพักและวิ่งไปซ่อนตัวอยู่ที่หลังเสา 
 
ลอชมองไปรอบๆก็รู้สึกแปลกใจเพราะไม่มีแม้แต่เงาคนอยู่แถวนี้เลย  อย่างกับว่าตอนนี้มีแค่เขากับวิกิอยู่ที่นี่สองคนเท่านั้น
 
วิกิเดินลงมาตามทางบันไดและพูดกับลอชว่า
“ก็แค่ส่งสร้อยฝังเพชรนั่นมาก็จบแล้วแท้ๆ  จะเอาชีวิตมาทิ้งเพื่ออะไร?”
[ผมทำหายไปแล้วจริงๆ....ช่วยเชื่อผมทีเถอะ]  ลอชพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่น
 
จู่ๆวิกิก็โผล่มายืนอยู่ข้างๆเสาที่ลอชกำลังซ่อนตัวราวกับหายตัวมายังไงอย่างงั้น  ลอชพยายามจะวิ่งหนีแต่วิกิจับแขนของลอชไว้ได้  เธอดึงลอชเข้ามาและล็อกคอเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน 
 
วิกิเอามือซ้ายแตะไปที่หน้าผากของลอชและพูดว่า
“งั้นขอดูหน่อยนะ”
ลอชรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อตเบาๆที่หัวของเขา  ลอชรู้สึกเหมือนขาดสติไปช่วงหนึ่ง
“อย่างงี้นี่เองเจอยัยเฟรีนเล่นงานมาสินะ” วิกิพึมพำออกมา  และยังคงทำบางอย่างกับลอชอยู่
 
“โอเคเข้าใจละ  เพชรหายไปแล้วจริงๆสินะ…” วิกิพูดจบก็ผลักลอชออก  เธอยืนมองลอชอยู่ครู่หนึ่งก็หันหลังกลับไปและพูดออกมาว่า
“พลังของนายน่ะ…ถ้าหากได้รับการพัฒนาอย่างถูกต้องคงเป็นพลังที่น่ากลัวอย่างหนึ่งเลยละนะ”เธอพูดจบอยู่ดีๆก็หายไปจากตรงนั้นเฉยๆ
 
ลอชเริ่มได้สติขึ้นมาก็มึนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  ดูเหมือนลอชจะลืมเรื่องเมื่อซักครู่ไปเกือบทั้งหมดเลย
เขาจำได้แค่ว่าวิกิยืนอยู่ข้างหน้าต่าง  และเครื่องช็อตไฟฟ้าใช้ไม่ได้ผลกับเธอเท่านั้น
ลอชเดินกลับไปที่ห้องก็พบว่าข้าวของทุกอย่างถูกจัดเก็บเป็นระเบียบเหมือนเดิมทุกอย่าง
 
                                                     ----
 
ในค่ำคืนที่เงียบสงบ  มีรถขนของคันหนึ่งกำลังวิ่งอยู่บนถนนสายหลักที่ตรงเข้ามาสู่เมืองฟิวเจอร์เนียร์  รถคันนี้มีสีดำ  เป็นรถตู้ที่มีขนาดเหมือนกับรถตู้ทั่วๆไป  ภายในรถมีผู้ชายสามคนนั่งอยู่ภายใน  และที่เบาะหลังมีกระเป๋าบรรจุของอยู่สองใบ 
 
“ใกล้จะถึงรึยัง?”  ชายคนที่นั่งข้างคนขับถามขึ้นมา
[ใกล้แล้วละ]  คนขับตอบกลับไป
“ในกระเป๋านี่มันมีอะไรวะ…ดูผู้ว่าจ้างจะต้องการมันมากๆเลยนะ”
[สงสัยเรื่องของพวกนั้นเดี๋ยวก็โดนเก็บหรอก]
รถแล่นมากได้ซักพัก 
“ฉับ!”
จู่ๆก็รู้สึกเหมือนมีอะไรผ่านกึ่งกลางของรถไปเป็นเส้นตรง  ทุกคนในรถเงียบกริบ  ทุกคนต่างมองหน้ากันด้วยความตกใจ 
 
รถตู้คันนี้เริ่มแยกออกเป็นสองส่วน  ชายในรถทั้งหมดเริ่มโหวกเหวกโวยวาย  เบื้องหน้าของพวกเขาปรากฏเป็นหญิงสาวภายใต้ผ้าคลุมสีแดงที่กำลังยืนอยู่กลางถนน
 
รถทั้งสองส่วนแยกออกไปตกอยู่ที่ข้างทาง  กระเป๋าสัมภาระทั้งสองใบกระเด็นออกมาจากรถ 
 
ชายทั้งหมดที่อยู่ในรถรีบกระโดดหนีออกมาจากรถก่อนที่รถจะเกิดระเบิดขึ้น 
ตู้ม!  รถตู้เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
“ถ้าอยากรอดชีวิตก็ทิ้งกระเป๋านั่นไว้ซะ!”  วิกิตะโกนบอกกับชายทั้งสาม
ชายทั้งสามวิ่งหนีออกไปข้างทางอย่างไม่คิดชีวิต
 
วิกิเดินหยิบกระเป๋าทั้งสองใบขึ้นมาและเทสิ่งที่อยู่ข้างในออกมา
 
ภายในกระเป๋าทั้งสองใบมีเพชรพลอยจำนวนมากบรรจุอยู่ภายใน  วิกิยื่นมือทั้งสองข้างออกไปและใช้พลังพิเศษกับเพชรพวกนั้น  รอบๆเพชรพลอยเกิดเป็นคลื่นบางอย่างขึ้น  เพชรพลอยทั้งหมดถูกแรงดึงดูดกดทับจนแตกสลายหายไปหมด
 
“ไม่มีสินะ…..”วิกิพึมพำออกมาและเหลือบไปเห็นกล้องวงจรปิดที่เสาไฟฟ้าข้างทาง  เธอถอนหายใจหนึ่งครั้ง  และใช้พลังไฟฟ้าปิดการทำงานของกล้องวงจรปิด
 
[รถคันฝั่งนู้นก็ดูเหมือนจะไม่มีเหมือนกัน] ครูซปรากฏตัวขึ้นมาทางด้านหลังของวิกิ  ครูซใส่ชุดคลุมขนสัตว์ที่ดูคล้ายกับหมาป่า  มีผมสีดำ  ดูน่าเกรงขาม
[ดูเหมือน “แอนติคอร์”ของจริงตอนนี้ในเมืองจะมีอยู่แค่ชิ้นเดียวนั่นแหละ]
“อย่างงั้นสินะ…..”วิกิคิดอยู่ครู่หนึ่ง  เธอเงยหน้ามองไปที่ดวงจันทร์ด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์
[จะเอายังไงละเจ๊….]
“พรุ่งนี้ไปที่  D-café สงสัยต้องไปคุยกับยัยจานี่ซักหน่อยแล้วละ”
[จะแค่คุยแน่เหรออออ?]  ครูสหัวเราะออกมาเล็กน้อย
 
                                                   ------
 
อีกด้านหนึ่งของเมืองในตรอกๆหนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งที่ดูดีมีฐานะกำลังวิ่งหนีอะไรบ้างอย่างอยู่  ที่คอของเขามีสร้อยเพชรสวมอยู่ 
 
“อั้ก…”
ชายคนนั้นถูกถังขยะข้างทางพุ่งชนจนล้มลงไปกองกับพื้น  เลือดที่หัวไหลออกมาเล็กน้อย  เขาเอามือไปจับที่เลือดและกรีดร้องออกมา
 
“ขอสร้อยนั่นหน่อยได้รึป่าวละ” พวกเฟรีนเดินออกมาจากความมืดและพูดกับชายคนนั้น
[ได้ๆเอาไปเลย  ปล่อยชั้นไปเถอะนะ!]  ชายคนนั้นโยนสร้อยคอให้กับเฟรีนและอ้อนวอนขอชีวิตด้วยสีหน้าที่กลัวแบบสุดขีด  น้ำตาไหลพราก  และเหงื่อท่วมตัว
 
เฟรีนหยิบสร้อยคอขึ้นมาและเอาไปส่องกับดวงจันทร์แต่ไม่พบอะไร
“ชิ….ไม่ใช่งั้นหรอ” เฟรีนใช้พลังพิเศษทำลายสร้อยคอเส้นนั้นทิ้ง  และเดินหายไปในความมืด..
 
                                                  ---------
 
ในตอนเช้าลอชเปิดรายการข่าวช่วงเช้าดู  ข่าวกำลังรายงานถึงเรื่องรถขนของที่กำลังขนของไปส่งที่พิพิธภัณฑ์เกิดระเบิดขึ้นและของภายในรถถูกขโมยไป  และอีกหลายๆข่าวที่เกี่ยวกับอัญมณี  เขานั่งดูไปพลางคิดเรื่องล็อคเก็ตเส้นนั้นของเขาไป  เขาเริ่มจะประติดประต่อเรื่องราวได้บ้างแล้ว  เขาคิดว่ามีหลายฝ่ายต้องการอัญมณีแบบเดียวกับที่เขาเคยมีอยู่  เขาสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
 
ลอชวางแผนที่จะไปคาเฟ่ในวันนี้  เพื่อจะถามเรื่องราวทั้งหมดกับพวกจานี่  แต่เขาก็ยังคงหวั่นๆอยู่เหมือนกัน  เพราะเขายังคงติดภาพการฆ่ากันของผู้มีพลังพิเศษคืนนั้นอยู่
 
ลอชนั่งดูรายการอยู่นานพอสมควรก็ตัดสินใจไปที่คาเฟ่เพื่อถามเรื่องราวทั้งหมดกับพวกจานี่
 
เขาเดินมาถึงหน้าร้านแล้ว  ลูกค้าภายในร้านยังคงเยอะไม่แพ้วันอื่นๆ  ลอชยืนทำใจอยู่นานพอสมควรก็ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไปภายในร้าน 
 
จานี่รู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นหน้าลอชเพราะเขาไม่คิดว่าลอชจะกล้ากลับมาที่นี่อีก  จานี่เรียกให้ลอชไปคุยกันที่หลังร้าน 
 
ลอชนั่งลงที่โซฟา  ตอนนี้ข้างหน้าของเขาคือจานี่หัวหน้าองค์กรด้านมืดของเมือง  สมองของลอชในตอนนี้มันตื้อไปหมดคิดอะไรไม่ออก  ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ลอชเตรียมคำถามเพื่อจะรัวใส่พวก  CODE-D  ไว้พอเจอกัน  แต่พอมาถึงตอนนี้เขากลับพูดอะไรไม่ออกเลย 
 
จานี่ถอนหายใจหนึ่งครั้งและบอกว่า
“มาเข้าร่วมองค์กรกับพวกชั้นเถอะนะ!”  จานี่ยืนขึ้นและตีทุบโต๊ะเสียงดัง
ลอชรู้สึกอึ้งกับสิ่งที่จานี่พูดออกมา
 
แต่จู่ๆก็มีใครบางคนเปิดประตูเข้ามาทำให้ทุกคนที่อยู่ในห้องสะดุ้งกันเล็กน้อย
“ฮ้ายยยย♪   จานี่เพื่อนเลิฟไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”วิกิและครูซเปิดประตูเข้ามาอย่างกะทันหัน 
ทุกคนในห้องมองวิกิกันเป็นตาเดียว  วิกิรู้สึกหน้าแตกนิดหน่อยที่ทั้งห้องกำลังเงียบสงบกันหมด
 
ลอชหันไปเห็นวิกิก็ตกใจเป็นอย่างมาก  วิกิเห็นดังนั้นก็ตกใจไม่แพ้กัน
“เอ๋!!!!!!!”  วิกิและลอชร้องออกมาเสียงดังพร้อมๆกัน
 
 
วิกิและลอชปรับความเข้าใจกันเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น  ดูเหมือนว่าลอชจะเริ่มยอมรับพวก  CODE-D  ได้แล้ว  ในใจลอชคิดว่า  พวก  CODE-D  ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรแบบที่เราคิดนี่หว่า  พวกนี้ก็แค่เด็กมัธยมธรรมดาๆกลุ่มหนึ่งเท่านั้น 
 
พวกจานี่และพวกวิกิเป็นเพื่อนสนิทกันมานานแล้ว  พวกเขามักแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่เสมอ
 
ทุกๆคนปรับความเข้าใจกับลอชใหม่ทั้งหมด เกี่ยวกับเรื่องอันตรายที่ลอชจะต้องเจอหลังจากนี้ และอธิบายเกี่ยวกับเรื่องพลังพิเศษที่ลอชมี  ลอชเล่าเรื่องสมัยเด็กเกี่ยวกับเรื่องแปลกๆที่เขามักเจอก่อนมาที่เมืองนี้ให้พวกจานี่ฟัง  จานี่ได้ยินดังนั้นก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
 
จานี่บอกกับลอชว่า
“อัญมณีในล็อคเก็ตนั่นของนายมันคือ แอนติคอร์  เป็นอัญมณีชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติยับยั้งพลังของผู้มีพลังพิเศษทุกรูปแบบได้  นั่นเลยทำให้นายใช้พลังพิเศษไม่ได้ไงละ  ตอนนี้มีหลายฝ่ายกำลังต้องการอัญมณีนั่นมาวิเคราะห์ส่วนประกอบเพื่อทำบางอย่าง  ส่วนพวกเราต้องการมันมาวิเคราะห์เพื่อหาทางป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
 
ลอชเข้าใจทุกอย่างที่จานี่พูดกับเขา  ในใจของลอชเริ่มผ่อนคลาย  จากตอนแรกที่กดดันเป็นอย่างมาก
 
“สรุปแล้ว  นายจะมาอยู่กับพวกเราใช่มั้ย?”จานี่ถามกลับไปที่ลอชอีกครั้ง
ลอชคิดอยู่ครู่หนึ่ง  ถ้าที่จานี่พูดมาทั้งหมดเป็นความจริง  หมายความตอนนี้สิ่งที่เขาควรทำคือการเข้าร่วมกับพวก  CODE-D  น่าจะดีกับตัวของเขามากที่สุด  แต่เขาก็ยังกังวลเกี่ยวกับเรื่องงานที่พวกจานี่ทำเพราะมันไม่ใช่งานธรรมดา  มันเป็นงานด้านมืดที่ผิดกฎหมาย
 
จานี่บอกกับลอชว่า
“ถ้านายได้มาเห็นความจริงของโลกนี้ทุกอย่างเดี๋ยวนายก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง”
 
ลอชยังคงเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย  เพราะเขาไม่เคยต่อสู้หรือใช้ปืนมาก่อน  จานี่ได้ยินดังนั้นก็หัวเราะออกมา 
 
“นี่นายคิดว่าพวกเราฆ่าคนกันเป็นงานอดิเรกรึไง 55555+  พวกเราก็มีงานปกติที่ไม่ใช่งานแบบนั้นเหมือนกัน  ส่วนเรื่องการต่อสู้เดี๋ยวลอยด์จะเป็นคนสอนเอง”
 
ลอยด์กำลังทำกาแฟตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งอยู่หน้าร้านจึงไม่ได้เข้าร่วมวงสนทนาด้วย  เขาจามออกมาหนึ่งครั้งและคิดในใจว่า  “ใครมันนินทาตูวะ”
 
ลอชเริ่มรู้สึกอุ่นใจและตกลงกับข้อเสนอที่จานี่มอบให้
“เห้ยพวกแก  จะคุยกันไปทั้งวันเลยมั้ย….ลูกค้าเต็มร้านแล้วโว้ยย”ลอยด์ตะโกนมาจากหน้าร้าน  ทุกคนในห้องรีบลุกขึ้นและไปช่วยลอยด์ทำงานกันหมด  เหลือเพียงวิกิ  ครูซ  และลอชนั่งอยู่ในห้องเท่านั้น
 
วิกิมองไปที่ลอชและหัวเราะออกมาและพูดว่า
“นายเนี้ยโชคดีจริงๆนะ”
[ยังไงหรอ?]
“ก็ถ้าคืนนั้นพวกที่นายเจอไม่ใช่พวกจานี่  นายคงไม่ได้มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก”
ลอชก้มหน้าลง
“ยัยนั่นน่ะแข่งแกร่งอย่าไปดูถูกเชียวละ….เอาละทุกคนไปดื่มกาแฟกันดีกว่า♪……..”
 
                                                  ----------
 
เจคกำลังนั่งเล่นเน็ตอยู่ในห้องส่วนตัว  เขาเลื่อนหาข้อมูลไปเรื่อยๆก็ไปสะดุดกับเว็บไซต์เว็บหนึ่งเข้า  ในเว็บนั้นมีหัวข้อเขียวไว้ว่า  “ลับสุดยอด”  เขากดเข้าไปอ่านก็พบกับเรื่องแปลกๆที่น่าจะเกินความจริงอยู่หลายเรื่อง  ทั้งเรื่องตำนานแวมไพร์ผีดูดเลือด  เวทย์มนต์  พลังพิเศษ…และเขาก็ได้ไปสะดุดตากับชื่อ  ชื่อหนึ่งเข้า  “ATE”  เจคกลืนน้ำลายและกดเข้าไปดูในลิ้งค์นั้น
 
เว็บไซต์อธิบายว่า  “ATE  คือหน่วยลับพิเศษของรัฐบาล  พวกเขาทำงานเกี่ยวกับการสืบหาผู้ที่อยู่เหนือธรรมชาติ  พวกเขาจะจับตัวพวกนี้ไปทำการทดลองบางอย่าง  เพื่อค้นหาเหตุผลว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้  ปัจจุบันหน่วย  ATE  สามารถจับกุมผู้มีพลังพิเศษได้จำนวน  3  คน  และกำลังทำการทดลองบางอย่างที่ถูกปิดเป็นความลับ  ปล.ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมจะรีบอัพลงเว็บไซต์นี้ทันที”
 
เจครู้สึกงงกับเรื่องที่เขาอ่านอยู่  เขาหัวเราะออกมาและคิดในใจว่า 
 
“ไร้สาระน่า  ผู้มีพลังพิเศษ  หรอ?  ถ้ามีจริงๆคงรู้กันหมดทั้งโลกแล้วมั้ง….”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา