ราชินี แพนทัสเนีย

7.7

เขียนโดย LittleBlue

วันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 01.44 น.

  9 ตอน
  0 วิจารณ์
  9,312 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 14.30 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ชายแปลกหน้า

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ดวงตาซึ่งมีขนตางอนยาวขยับเบาๆและค่อยๆเปิดออกเผยให้เห็นนัยตาสีทองอาร่าม ‘เพดานหิน?’ เจ้าของดวงตาทองคำนึกฉงนในใจ เสียงแตกหักเบาๆของไม้และกลิ่นเผาไม่ที่มาพร้อมกับไออุ่น ทำให้หญิงสาวรู้ว่ามีกองไฟอยู่ข้างๆ ‘แปลว่ามีคนอื่นอยู่’ หญิงสาวดวงตาสีทองคิดในใจ เงาตะคุ่มๆใกล้ๆที่มีความเคลื่อนไหวเรียกความสนใจของเธอ หญิงสาวเอียงหน้าไปดูทำให้เห็นชายหนุ่มผมยาวดำทะมึน ใบหน้าคมค้ายติดเย็นชา ‘ใคร?’ เป็นสิ่งแรกที่เธอคิด ก่อนจะกลายเป็น ‘แล้วเรามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?’ จากนั้นคำถามมากมายก็ผุดขึ้นมาในสมองเธอจนทำให้อาการปวดศีรษะที่ทุเลาลงเกิดปวดขึ้นมาอีก เธอสงเสียงครางออกอย่างช่วยไม่ได้ แม้มันจะเบามากแตาดูเหมือนชายหนุ่มจะได้ยินเพราะเขาหันมามองเธอ สายตาของทั้งสองสบเข้าหากัน ดวงตาของชายหนุ่มนั้นดำมืดไม่ต่างกับสีผมของเขา หญิงสาวรู้สึกได้ถึงความพิศวงจากดวงตาคนเข้มคู่นั้น มันทำให้คำถามในใจเธอหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง เมื่อชายหนุ่มเลี่ยงสายตาไปทางอื่นและตั้งหน้าตั้งตาลงมือจัดการกับหม้อต้มอาหารต่อไปราวกับเมื่อกี้เขาไม่เห็นว่าเธอตื่นแล้วหญิงสาวถึงได้สติ เธอไม่รอช้าเอ่ยถามอย่างกระตือลือล้นแต่เสียงที่ออกมากลับแผ่วเบาแหบแห้ง “เกิดอะไรขึ้นคะ คือว่าฉันมาอยู่ที่นี่ได้ไง แล้วคุณคือ?” แทนที่ชายตรงหน้าจะให้คำตอบเขากลับลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาใกล้ พร้อมกับเอื้อมมีอหมายจะดึงผ้าห่มออก หญิงสาวตกใจขึ้นมาพร้อมกับจับผ้าห่มแน่นไม่ยอมปล่อย

“คุณจะทำอะไรนะ?!” หญิงสาวขึ้นเสียงสูง ชายหนุ่มตรงหน้าเธอขมวดคิ้ว “อะไรของเจ้า ข้าก็จะดูอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าไง” หญิงสาวกระพิบตาปริบๆกับคำตอบแล้วจึงดึงผ้าห่มออก ทำให้รู้ว่าข้อเท้าเธอบวมจนน่าใจหาย “ขอโทษคะที่โวยวายไป แต่คุณช่วยตอบคำถามของฉันได้ไหมคะ” ชายหนุ่มถอนหายใจและทำหน้าเหนื่อยหน่าย หญิงสาวที่เห็นสีหน้าแบบนั้นได้แต่แอบด่าอยู่ในใจเพราะยังต้องการให้เขาตอบคำถามเธอ ‘คนอะไรใจแคบ แค่ตอบคำถามทำหน้าเหมือนให้วิ่งขึ้นเขาเอเวอเรสต์’
“เจ้านอนไม่ได้สติอยู่ตรงกองหิมะไม่ไกลจากนี่” ชายหนุ่มพูดไปพร้อมกับพันข้อเท้าเธอ หญิงสาวกัดฟันเบาๆด้วยความเจ็บ ‘นอกจากใจแคบแล้วยังมือหนักอีกด้วย’

“แล้วที่นี่ อยู่ไกลจากตัวเมืองมากาดานมากไหมคะ (หนึ่งในชื่อเมืองของประเทศรัสเซีย)” หญิงสาวถามอีก “ไม่” เป็นคำตอบสั้นได้ใจความจากชายหนุ่ม หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยไม่พอใจกับคำตอบแต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร ชายหนุ่มก็เอ่ยตัดหน้า “เสร็จแล้ว ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว” พูดจบคนตัวโตกว่าก็ทำท่าจะจากไปทันที โดยการเก็บของและสัมภาระทั้งหมดของเขา หญิงสาวเบิกตาตกใจ “เอ๊ะ เดี๋ยวก่อนคุณจะไปแล้วทิ่งฉันไว้แบบนี้หรอ คุณช่วยฉันก็ต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุดสิ!” เอาจริงๆเธอก็ไม่อยากรบกวนคนที่พึ่งรู้จักหรอกแต่สถานการณ์ตอนนี้ทำให้เธอไม่มีทางเลือก เธอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จริง คนตัวสูงที่เตรียมตัวจะไปชะงักเท้าของตัวเอง เขาหันไปมองคนที่เรียกร้องความรับผิดชอบจากตัวเขา ‘กล้ามาก’ คือสิ่งที่ชายหนุ่มคิดพร้อมคิ้วที่ขมวดเข้าหากัน ทำให้รู้ว่าชายหนุ่มไม่ได้อารมดีสักเท่าไหร่ แต่คิ้วของเขาก็ค่อยๆคลายออก “แล้วถ้าข้าช่วยเจ้า ข้าจะได้อะไร” ได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวก็หันเหสายตาไปมาอย่างครุ่นคิดก่อนตอบ “แล้วคุณต้องการอะไรละ เงิน? ไหม ตอนนี้ฉันไม่มีแต่ถ้าคุณฉันกลับไปฉันก็มีให้”

“ไม่” ชายหนุ่มตอบทันควัน ทำให้หญิงสาวหนักใจ จริงๆแล้วในใจของเธอก็คิดอยู่หรอกว่าชายผมดำเบื้องหน้าไม่น่าจะสนใจเงินแต่เธอไม่รู้จริงๆว่าจะให้อะไรเขาดี “งั้นคุณต้องการอะไรหละ ถ้าไม่เกินความสามารถของฉัน ฉันก็จะให้” หญิงสาวพูดเสียงหนักแน่น

ชายหนุ่มพยักหน้าราวกับรอให้หญิงสาวพูดแบบนั้นก่อนจะตอบ “ข้าต้องการให้เจ้ามาเป็นราชินีของข้า” หญิงสาวทำสีหน้าไม่เข้าใจกับสิ่งที่ได้ยิน “คุณล้อฉันเล่นรึเปล่า ราชินีของคุณ?” ชายหนุ่มใช้สายตาคมจ้องเธออย่างจริงจังราวกับจะบอกเธอว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น

“ถ้าไม่ตกลง ข้าก็จะไปแล้ว รีบๆตอบอย่าทำให้เสียเวลา” ได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวจึงพยักหน้า “ได้” ‘เดี๋ยวเราค่อยคุยกับเขาทีหลังก็แล้วกัน แล้วตกลงใหม่’ หญิงสาวนึกในใจ ชายหนุ่มตรงเข้ามาหาเธอก่อนจะยกตัวเธอขึ้นอย่างง่ายดาย จากนั้นพวกเขาก็ออกจากที่นั่น เมื่อเห็นข้างนอก หญิงสาวจึงได้รู้ว่าเธออยู่ในถ้ำ ข้างนอกนั้นเต็มไปด้วยหิมะ ลมแรงและหนาวเย็นจนหญิงสาวได้แต่ขยับเข้าใกล้อกแกร่ง เขาพาเธอไปหาม้าตัวหนึ่งก่อนจะขึ้นขี่ไปพร้อมมีเธอในอ้อมกอด ‘เอ๊ะสมัยนี้เขายังขี่ม้าอยู่อีกหรอ?’ หญิงสาวนึกสงสัยก่อนจะยึดเกาะคนตัวโตกว่าด้วยความกลัวตกจากม้า ‘แต่บางทีอาจเป็นเพราะที่นี่มันบ้านนอกมั้ง’ หญิงสาวหาเหตุผลมาตอบข้อสงสัยของตัวเอง ม้าวิ่งมาได้พักใหญ่แล้วมาหยุดที่หน้าสิ่งก่อสร้างที่เหมือนปราสาทที่ทำจากหิน หญิงสาวเบิกตาตกใจ ‘นี่มันอะไรกัน บ้านใคนเขาสร้างเป็นปราสาทแบบนี้ แล้วยังทำด้วยหินหมดเลยนี่มันอะไรกันเนี่ย’ คำถามผุดขึ้นมาในหัว เธอเริ่มจะทำความเข้าใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า เมื่อชายหนุ่มอุ้มเธอลงจากม้าหญิงสาวก็เรียกสติตัวเองกลับมา “คุณที่นี่มันที่ไหนกันแน่?” หญิงสาวถามคนตัวโตที่กำลังอุ้มเธออยู่ “ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรแพนทัสเนีย และนี่คือบ้านของข้า” ชายหนุ่มตอยหน้านิ่ง หญิงสาวขมวดคิ้ว ‘แพนทัสเนีย? ไม่เคยได้ยินมาก่อน ไม่สิ มันไม่มีที่ไหนในรัสเซัยที่มีชื่อๆนี้อยู่”

“อย่ามาล้อฉันเล่นนะ” หญิงสาวเริ่มโวยวาย ชายหนุ่มจ้องมายังคนในอ้อมแขนนิ่งๆ “ไม่ได้ล้อเล่น” เขาตอบอย่างเย็นชา หญิงสาวเงียบปากเธอรู้สึกได้ว่าเขาพูดจริงแต่มันไม่มีเหตุผล หรือว่าเธอจะอยู่ประเทศอื่น ไม่สิทวีปอื่น ไม่เป็นไปไม่ได้เพราะล่าสุดเธออยู่ในรัสเซีย หญิวสาวครุ่นคิดอย่างหนัก แต่ทุกอย่างมันชั่งไร้เหตุผล

ชายหนุ่มผมเข้มมองเจ้าของใบหน้าอ่อนหวามงดงามที่มาพร้อมกับดวงตาสีทองอย่างสงสัยว่าทำไมหญิงสาวที่พูดไม่หยุดถึงเมื่อกี้อยู่ๆก็เงียบไป เขาตัดสินใจถามเมื่อมาถึงห้องแล้ววางเธอลงบนเตียง "เจ้าสงสัยอะไร?" หญิงสาวสะดุ้งตกใจ นั่นทำให้เขาขมวดคิ้ว ‘หญิงสาวคนนี้ตกใจอะไร’ แต่สีหน้าของเขาก็กลับมานิ่งเหมือนเดิมเมื่อสายตาคู่งามหันมามองเขา

“ฉันไม่เคยได้ยินชื่อแพททัสเนียมาก่อน มันอยู่ที่ไหนของโลกงั้นหรอ?” หญิงสาวรู้สึกแปลกใจที่ชายหนุ่มถามเธอแบบนั้น แต่เธอก็ยินดีที่เขาถามเพราะเธอต้องการคำตอบมากมาย

“ตรงกลาง” หญิงสาวเริ่มทำหน้ากินไม่ลงคลายไม่ออก ‘มันจะเป็นไปได้ยังไง’

“เจ้านะไม่รู้จักหรอก” ชายหนุ่มพูดขึ้น

“ทำไม” หญิงสาวถามทันที

“เพราะ เจ้าไม่ใช่คนที่นี่ เจ้ามาจากที่อื่น” ชายหนุ่มตอบเธอเสียงเนิบนาบ หญิงสาวขมวดคิ้วเป็นปม “คุณหมายความว่ายังไง ฉันไม่เข้าใจ” ชายหนุ่มถอนหายใจราวกับจะบอกเธอว่ายังไม่เข้าใจอีกหรอ “ก็หมายความว่าที่นี่ไม่ใช่โลกของเจ้า ไม่มีเมืองที่เจ้ารู้จัก หรือประเทศที่เจ้ารู้จัก แม้กระทั่งคนที่เจ้ารูจักก็ไม่อยู่ที่นี่” หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อได้ยินแบบนั้น ‘มันจะเป็นไปได้ยังไง นี่มันเรื่องจริงนะไม่ใช่หนังหรือนิยาย หรือว่าเราฝันอยู่’

“แ..ละ..แล้วฉันมาได้ยังไง” นำ้เสียงของเธอสั่นเบาๆ

ชายหนุ่มส่ายหน้า “ไม่รู้ อาจหลงมาเพราะเข้าไปในรูหนอน แต่ที่แน่ๆคือเจ้าไม่ใช่คนที่นี่” หญิงสาวเงียบลงเพื่อซึมซับคำพูดของผู้ชายตรงหน้าก่อนจะนึกขึ้นได้ “แล้วคุณรู้ได้ไงหละ ว่าฉันไม่ใช่?”

“เสื้อผ้า วิธีพูด และคำถามของเจ้า” ชายหนุ่มตอบหน้าตาย ‘แล้วก็ข้ายังสัมผัสได้อีกด้วย’ เหตุผลสุดท้ายและเป็นเหตุผลที่สำคัญทราสุดชายหนุ่มไม่ได้พูดมันออกไป

หญิงสาวพยักหน้ากับคำตอบ เธอเริ่มสามารถทำใจกับเหตุการณ์ได้ คนรอบข้างเธอมักพูดเสมอว่าเธอเป็นคนที่ปรัยตัวเร็วและมีสติ “แล้วฉันจะกลับไปที่ๆจากมาได้ไหม?” ชายหนุ่มหรี่ตามองเธอ ก่อนจะพูดโดยไม่ตอบคำถามเธอ “เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ เพราะเจ้าสัญญาแล้วว่าจะเป็นราชินี เพราะฉะนั้นเจ้ากลับไม่ได้” หญิงสาวเบิกตาโต ‘จริงซิเราต้องทำความเข้าใจกับเขาเรื่องนั้น’ “คือว่าเรื่องนั้นเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ไหม”

“ไม่ได้” เป็นคำตอบที่ทำรายทุกโอกาศจากการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งนั้น “แต่...” หญิงสาวไม่ยอมแพ้ แต่ชายหนุ่มก็ขัดขึ้นพร้อมกับดวงตาแข็งกร้าว “วิธีกลับนะถึงจะมี ข้าก็ไม่รู้ อีกอย่างเเจ้าคงไม่คิดจะผิดสัญญาใช่ไหม เพราะถ้าเจ้าผิดสัญญาข้าคงต้องฆ่าเจ้า” หญิงสาวเบิกตากล้างตกใจ “ฆ่าเลยรึ?” ชายหนุ่มไม่ตอบเธอ เขาเดินออกจากห้องปล่อยให้เธออยู่ในอาการตกใจ

หญิงสาวนั่งอยู่บนเตียงอย่างเหม่อลอย ‘ถ้าไม่อยู่ก็ตาย ถ้าจะกลับก็ไม่รู้จะกลับยังไง ถ้าหนีจากที่นี่ก็ไม่รู้ว่าข้างนอกเป็นยังไง ทางไหนก็แย่ไปหมด ทางที่ดีที่สุดดูจะเป็นการทำตามสัญญา ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจก็เฮอะ’ เมื่อจัดแจงความคิดแล้วตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็รู้สึกถึงอาการง่วงที่กำลังคืบคลาบเข้ามา ก่อนที่สติเธอจะไปอยู่กับความฝันเธอก็นึกขึ้นได้ ‘ยังไม่รู้เลยว่าชายคนนั้นชื่ออะไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยถามละกัน’

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา