สยบรักเมียบำเรอ

7.2

เขียนโดย Phaky

วันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2561 เวลา 15.23 น.

  41 ตอน
  3 วิจารณ์
  36.12K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 10 มกราคม พ.ศ. 2561 13.12 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) นักย่องเบา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
  ประกาศๆ!
นี่คือโฉมหน้าจอมโจรนักย่องเบาตัวร้าย พบเจอตัวเป็นๆที่ไหน สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่ คุณอัลเฟรด เป็นการด่วน!

 
เสียงอึกกระทึกครึกโครมของผับใต้ดินอันเป็นสถานที่รีแล็กซ์ประจำยามว่างเว้นจากการทำงานและยังเป็นแหล่งรวมอาหารกายประเภทเนื้อนมไข่ชั้นดีที่ทำให้อาชาวินเกิดความคึกคักทุกครั้งที่ได้มา แต่ในคืนนี้กลับไม่สามารถทำให้ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นได้เหมือนครั้งก่อนๆทั้งที่บรรยากาศก็ยังเหมือนเคยมีทั้งลูกไฟแสงสีสาดส่อง ดนตรีสดจังหวะมันๆ ที่สำคัญคือสาวสวยนุ่งน้อยห่มน้อยที่วาดลวดลายเซ็กซี่อวดสายตาอยู่บนฟลอร์
แต่ทำไมอาชาวินกลับรู้สึกเบื่อหน่าย หงุดหงิดงุ่นง่านเหมือนมีเรื่องติดอยู่ในใจจนไม่คิดจะสนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น นี่เป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็คร้านที่จะนับที่มือหนารินน้ำสีอำพันจากขวดแก้วทรงแปลกตาใส่แก้วใส แล้วสาดของเหลวกลิ่นรุนแรงรสชาติข่มปร่าเข้าสู่ร่างกายรวดเดียวหมดแก้ว ทำเหมือนว่านั่นคือน้ำเปล่าไร้ดีกรีทั้งที่มันทำให้ใครหลายคนเมาหัวทิ่มกันมามากมาย
“สุดหล่อขา ออกไปสนุกด้วยกันที่ฟลอร์ไหมคะ”
เสียงหวานๆที่ดังมาจากทางด้านหลังดึงสติของคนขี้หงุดหงิดให้หลุดออกจากภวังค์สับสนวุ่นวาย ดวงตาคู่คมเหลือบสายมองไหล่ด้านซ้ายเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรลูบเลื้อยอยู่แถวๆนั้น ปลายเล็บยาวเฟื้อยสีแดงสดเลาะเรื่อยเข้ามาใกล้ปกคอเสื้อทีละนิดๆ ส่วนมือข้างขวาของสตรีที่อาชาวินไม่รู้จักกำลังวางอยู่บริเวณต้นขาอ่อนของชายหนุ่มพลางลูบไล้เบาๆอย่างจงใจสื่อความหมาย
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ”
แม้ไม่ได้ผลักไสแต่อาชาวินก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบรับเช่นกัน ชายหนุ่มนั่งดื่มเหล้าของตัวเองไปเรื่อยๆปล่อยให้แม่ดอกไม้ราตรีกลิ่นกายฟุ้งน้ำหอมสนุกกับการลวนลามเนื้อตัวของเขาต่อไป คิดว่าอีกสักครู่เมื่อหญิงสาวเห็นว่าเขาไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วยก็คงรามือไปเอง
“นั่งดื่มอยู่คนเดียวจะไปสนุกได้ยังไงล่ะคะ ไหนๆก็มาแล้ว ออกไปยืดเส้นยืดสายหน่อยไม่ดีกว่าเหรอ สนุกนะ”
“ไม่มีอารมณ์”
ไม่ใช่แค่คำตอบ แต่น้ำเสียงกับใบหน้าเซ็งๆเหมือนคนเบื่อโลกของอาชาวิน ไหนจะพฤติกรรมกระดกเหล้าพรวดๆลงคอก็เป็นหลักฐานชั้นดีว่าชายหนุ่มกำลังตกอยู่ในห้วงอารมณ์นั้นจริงๆ ซึ่งหากเป็นคนที่คุ้นเคยใกล้ชิดก็จะรู้ดีว่าไม่ควรเข้าไปตอแยกับชายหนุ่มในเวลานี้เลยหากไม่อยากชะตาขาด
“ถ้าไม่อยากออกไปเต้น งั้นเราไปหาที่เงียบๆคุยกัน…สองคน ดีไหมคะ”
สตรีสาวในชุดรัดรูปสีเพลิงแต่งหน้าเข้มจัดตามประสาสาวนักท่องราตรียังคงไม่ลดละที่จะสานสัมพันธ์ ในตอนนี้หญิงสาวเคลื่อนย้ายเรือนร่างโสภาขึ้นมานั่งแนบชิดร่างสูงบนโซฟาตัวเดียวกับหนุ่มหล่อที่หมายตา พลางขยับร่างให้สองขาเรียวคร่อมทับท่อนขาแข็งแกร่งของอาชาวินเอาไว้ อีกทั้งสองแขนเปล่าเปลือยยังโอบกอดรอบลำคอของหนุ่มหล่อทำให้หน้าอกอวบล้นคอเสื้ออยู่ในระดับสายตาคมพอดิบพอดี เมื่อเห็นว่าหนุ่มหล่อที่หมายตาไม่ได้ว่าอะไรจึงก้มลงจนหน้าอกภูเขาไฟอยู่ห่างกับใบหน้าของอาชาวินไม่กี่เซนติเมตรพลางกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูด้วยน้ำเสียงยั่วยวนชวนฝัน
“ไม่ดี! ไม่ต้องการ! ไปให้พ้น! ไม่ต้องมายุ่ง!”
สายตาคู่คมที่ตอนนี้ดุกร้าวคล้ายปีศาจร้ายของอาชาวินตวัดสายขึ้นมองผู้หญิงขี้อ่อยอย่างรำคาญจัดไม่ปิดบัง อุตส่าห์ว่าจะนั่งเฉยๆไม่สนใจให้เจ้าหล่อนรามือไปเองแท้ๆ แต่ดูท่าว่าผู้หญิงคนนี้จะหน้าหนาและมีความพยายามมากกว่าที่คิดหลายเท่าตัว เพราะขนาดว่าเขานั่งเฉยถามคำตอบคำนั่งซดแต่เหล้าแสดงออกให้รู้ไปเลยว่าไม่สนใจ เจ้าหล่อนยังไม่ยอมผละออกจากตัวเขาเสียที จนอาชาวินชักทนไม่ไหวเมื่อเจ้าหล่อนที่ยังไม่รู้ว่าชะตากำลังจะขาดอันเป็นผลกรรมจากความร่านร้อนเกินพอดีกำลังยุ่มย่ามอยู่ตรงหน้าขาของเขา ปลายเล็บสีแดงสดกำลังจะรูดซิปกางเกงของเขาออกจากที่ของมัน มือหนาจึงปล่อยมือจากแก้วเหล้าแล้วปัดมือซุกซนของคนพูดไม่รู้เรื่องออกจากซิปกางเกงอย่างแรง
“ตะ..แต่ว่า…”
คนขี้อ่อยทำหน้าตกใจเหลอหลาเมื่อถูกหนุ่มหล่อที่หมายตาปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้ากันเลย นอกจากจะถูกปัดมือทิ้ง พ่อคนอารมณ์บูดยังจับร่างของเธอออกจากตัวเขาไปโยนไว้ตรงโซฟาด้านข้างอย่างแรงคล้ายรังเกียจ พร้อมส่งสายตาพิฆาตมาให้จนเธอไม่กล้ากรีดร้องโวยวายที่ถูกหักหน้าท่ามกลางสายตาของชะนีนางอื่นที่กำลังมองเธอด้วยสายตาสมเพชเย้ยหยันมากกว่าจะคิดสงสาร
 “คำพูดผมเข้าใจยากตรงไหน? บอกว่าไม่ตั้งกี่รอบทำไมไม่ฟังบ้างฮะ เหม็นน้ำหอมจนจะอ๊วกอยู่แล้วเนี่ย! ถ้าร่านมากนักขาดผู้ชายไม่ได้มุ่งมั่นว่ายังไงคืนนี้ต้องลากผู้ชายกลับไปนอนกกให้ได้ก็นู้น…กลางเวที! ขึ้นไปประกาศออกไมค์เลยว่าคืนนี้ต้องการผู้ชายมาดับความร่านร้อนในตัว ขี้คร้านจะกรูกันมาเป็นอีแร้งแย้งกันทึ้งซากเน่าๆจนเลือกไม่ไหว จะเอากี่คนก็เลือกตามระดับความร่านเลย สอง สาม สี่ ห้า หรือมากกว่านั้นก็ได้ เอาแบบนั้นไหม? จะได้ขอเวลาจากนักดนตรีสักสองสามนาทีมาจัดการให้ เอาไหม!”
“มะ..มะ..ไม่ค่ะ ไม่เอาค่ะ ขอโทษที่รบกวนค่ะ”
สาวสวยใจกล้าส่ายหน้าหวือละล่ำละลักปฏิเสธเสียงสั่นนัยน์ตาแดงก่ำแล้วรีบลุกขึ้นยืนจัดชายกระโปรงที่ร่นขึ้นจากการฉีกขาคร่อมร่างสูงเมื่อครู่ให้เข้าที่เข้าทาง จากนั้นจึงรีบเดินกลับไปคว้ากระเป๋าคลัชท์ที่ฝากไว้กับเพื่อนๆกลุ่มเดียวกันแล้วเดินจ้ำอ้าวออกไปจากผับทันทีเพราะไม่กล้าสู้หน้าคนอื่นๆในผับที่เห็นเหตุการณ์ได้อีก ในขณะที่คนอื่นๆได้แต่มองตามคนหน้าแตกยับออกไปด้วยสีหน้ายิ้มเย้ย แต่กลับไม่มีใครสักคนจะกล้าหันมามองบุคคลที่ทำให้สตรีสาวขี้อ่อยนางนั้นอับอาย เพราะอาชาวินเล่นแผ่รังสีอำมหิตออกมาทางสีหน้าและรอบกายขนาดนั้น หากมีใครกล้าเข้ามาวุ่นวายกับชายหนุ่มที่กำลังหัวเสียอย่างรุนแรงคนนี้ คนๆนั้นคงไม่แคล้วจะโดนจัดหนักไม่น้อยกว่าที่ผู้หญิงชุดสีเพลิงเมื่อครู่ได้รับแน่นอน
“ฮึ่ย! เป็นไงเป็นกันวะ!”
อาชาวินคว้าขวดเหล้าที่ยังเหลืออยู่หนึ่งในสี่ส่วนขึ้นมากรอกเข้าปากโดยไม่เสียเวลารินใส่แก้ว แล้วยกมือขึ้นเช็ดริมฝีปากลวกๆเมื่อไม่มีของเหลวสีอำพันดีกรีแรงหลงเหลือติดขวด ดวงตาแข็งกร้าวแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ผสมผสานอารมณ์ขุ่นเคืองจนก่อให้เกิดไฟโทสะรุนแรงที่อาชาวินควบคุมไม่อยู่ เมื่อตัดสินใจแน่วแน่ ร่างสูงจึงควักธนบัตรสีเทาหลายใบมาวางไว้บนโต๊ะ จากนั้นจึงก้าวยาวๆออกมาจากผับที่อยู่ใต้ดินของโรงแรมหรูหราอีกแห่งที่เขาหุ้นส่วนกับเพื่อนมุ่งตรงไปยังจากัวร์เปิดประทุนสีดำคันงาม ก่อนขับทะยานออกมามุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ตอนนี้กลายเป็นเขตหวงห้ามไม่ให้เขาย่างกรายเข้าใกล้ชั่วคราว
“เธอทำให้ฉันเป็นแบบนี้ เธอต้องรับผิดชอบ ช่ออัญชัน!”
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
ณ เพลานี้คือเวลาเที่ยงคืนกว่าๆ บรรยากาศโดยรอบถูกความมืดเข้าปกคลุมจนมืดมิด แต่ในขณะที่คนอื่นๆกำลังนอนหลับสบายอยู่บนที่นอนของตัวเองอย่างเป็นสุข กลับมีใครคนหนึ่งกำลังเดินดุ่มๆอาศัยแสงสว่างน้อยนิดจากโคมไฟทรงกลมตรงประตูรั้วเหล็กดัดสวยงามที่อยู่ห่างจากตัวบ้านประมาณสองร้อยเมตรเข้ามาด้วยใจแน่วแน่ และเพราะไม่ต้องการให้คนในบ้านได้ยินเสียงเครื่องยนต์และรับรู้การมาของเขา อาชาวินจึงเลือกที่จะจอดรถคันหรูไว้ตรงรั้วหน้าบ้านอย่างไม่เกรงกลัวว่ามันจะหาย
‘ทำไมวันนั้นกูไม่สั่งให้ช่างทำระเบียงด้วยวะ!’
ร่างสูงยืนเท้าเอวแหงนคอมองหน้าต่างห้องนอนชั้นสองของตัวบ้านฝ่าความมืดในเวลาดึกสะงัดอย่างใช้ความคิดจนคิ้วเข้มๆขมวดมุ่น เพราะตรงผนังบ้านสร้างด้วยไม้ผสมคอนกรีตสไตล์คันทรีของเขาเป็นแบบเรียบๆไม่มีระเบียงยื่นออกมา ไม่มีขอบไม่มีมุมอะไรสักอย่างให้ยึดเกาะเพื่อโหนตัวขึ้นไป ที่สำคัญคือมันสูงมากด้วย แล้วเขาจะทำอย่างไรล่ะถึงจะขึ้นไปที่ชั้นสองได้โดยไม่ต้องผ่านบันไดกลางบ้าน
“เอาวะ! ปีนก็ปีน” ถ้าพลาดตกลงมาแข้งขาหักจะคุ้มกันหรือเปล่า!
สุดท้ายเมื่อไตร่ตรองแล้วและสรุปแน่ชัดว่าไม่มีวิธีอื่น บันไดไม้ไผ่สูงกว่าสิบขั้นที่คนงานในไร่ทำขึ้นมาเองเพื่อเอาไว้ปีนเก็บลูกมะพร้าวจึงถูกอาชาวินแบกมาพาดไว้ตรงหน้าต่างของห้องนอนห้องหนึ่งที่อยู่ชั้นสองของบ้าน สองมือใหญ่ถกแขนเสื้อขึ้นไปกองลวกๆเหนือข้อศอก จากนั้นจึงจับขอบบันไดไว้มั่นแล้วลองขึ้นไปยืนบนขั้นบันไดขั้นแรก ออกแรงเหยียบซ้ำหนักๆลองเขย่าตัวอีกสองสามทีทดสอบความทนทาน เมื่อพอจะมั่นใจได้ว่ามันจะรับน้ำหนักเขาได้และไม่ทำให้เขาตกลงมาได้รับอันตราย ร่างสูงคลุ้งกลิ่นแอลกอฮอล์จึงค่อยๆก้าวขาปีนขึ้นไปทีละขั้นๆจนกระทั่งถึงขอบหน้าต่างแบบกระจกบานเลื่อน
‘ขอหน้าต่างจงอย่าล็อก’
อาชาวินภาวนาในใจเมื่อขึ้นมายืนที่ขั้นบันไดขั้นที่สิบเอ็ดด้วยอาการเหนื่อยหอบเล็กน้อย ปีนขึ้นมาสำเร็จแล้วแต่หากหน้าต่างถูกคนในห้องนอนลงสลักล็อกเอาไว้ทุกอย่างที่ลงแรงไปตั้งแต่ไปลากบันไดจนกระทั่งปีนขึ้นมาคงจบเห่ ริมฝีปากได้รูปเป่าลมออกมาอย่างโล่งอกเมื่อมือข้างขวาลองเลื่อนบานหน้าต่างออกจากกันเบาๆแล้วพบว่ามัน…เปิดได้
‘ตั้งใจไม่ล็อกหน้าต่างเพราะรอคนปีนเข้าหาหรือเปล่าวะเนี่ย’
สองมือหนาจับขอบหน้าต่างไว้แน่นก่อนตวัดท่อนขาแข็งแรงก้าวเข้าไปด้านในผ่านผ้าม่านสีเข้มที่คนข้างในรูดปิดเอาไว้ ริมฝีปากได้รูปกดยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ดวงตาคู่คมทอประกายแวววาวในความมืดเมื่อมองเห็นเลือนรางว่าร่างเล็กบางยังนอนอยู่บนเตียง เพราะไม่แน่ใจว่าบิดาจะพาเจ้าหล่อนไปอยู่ที่เกาะจันทร์ฉายก่อนกำหนดหรือเปล่า
แม้จะค่อนข้างพอใจที่หน้าต่างไม่ได้ถูกล็อกไว้จนทำให้เขาสามารถปีนเข้ามาได้โดยง่าย แต่อาชาวินก็ยังอุตส่าห์ตั้งแง่คิดในแง่ร้ายว่าสาเหตุที่เป็นอย่างนั้นอาจเป็นแผนของช่ออัญชันที่ตั้งใจไม่ลงสลักล็อกหน้าต่างเพราะรอให้เขาปีนเข้าหา ทั้งที่ในความเป็นจริงเป็นเพราะหญิงสาวไม่คาดคิดว่าจะมีใครกล้าปีนเข้ามาในยามวิกาลเช่นนี้ต่างหาก โดยเฉพาะอาชาวิน เพราะชายหนุ่มเป็นคนบอกเองว่าจะไม่กลับบ้าน ช่ออัญชันจึงมิทันได้ระวังตัว
‘ฮึ! หลับสบายเชียวนะ!’
**********************************************
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา